siamphoenix.com

คือนกปีกมันตกข้างขวาข้างเดียวครับ ทำไงดีมันเกิดจากอะไรแล้วมันจะเป็นปกติได้อีกมั้ยครับ

นกอารายยยยย........

ช่วยตอบครับ บลูโกลมาคอร์ครับ:-):-)

  อายุเท่าหรายยยย.......

 :-D

อายุ 60 วันครับ บลูโกล ไม่แน่ใจว่ามันร้อนหรือว่ามันเป็นอะไรนะครับ แต่ลองจับดูในปีกแล้วมันร้อนมากครับ

เป็นมานานแค่ไหนแล้นนนน....... :-D






ครับ  อาจจะมาจากอากาศที่ร้อนจัดมาก  นกจะยืนห้อยปีกลงมาที่ข้างลำตัว อาจจะเป็นข้างเดียวหรือสองข้างก็ได้ และส่วนใหญ่แล้วจะหลับตา หรือทำตาปรือๆ  

ตอนนี้กำลังมีอาการอาหารไม่ย่อยอย่างหนักครับ ป้อนไป 80 ซีซี ตอน 9 โมงเช้า 5 ทุ่มก็ยังไม่หมด ตอนนี้ล้างกระเพาะไปแล้ว+กับป้อนน้ำเกลือแร่ไป 20 ซีซี รอดูอาการต่อครับ ยาอื่นๆตอนนี้หมดครับ

อ้างถึงdevil_kay เป็นผู้เขียน:
ตอนนี้กำลังมีอาการอาหารไม่ย่อยอย่างหนักครับ ป้อนไป 80 ซีซี ตอน 9 โมงเช้า 5 ทุ่มก็ยังไม่หมด ตอนนี้ล้างกระเพาะไปแล้ว+กับป้อนน้ำเกลือแร่ไป 20 ซีซี รอดูอาการต่อครับ ยาอื่นๆตอนนี้หมดครับ

อ้าว......
นี่มันคนละตัวเดียวกันหรือป่าวหว่า......

 :-o  :-o  :-o

ตัวเดียวกันครับแต่มีหลายอาการมาขอความช่วยเหลือทีเดียวเลยอิอิ :-D

อาการเริ่มวันนี้เลยครับ จากเมื่อวานที่ปกติแต่นกก้อยังร่าเริงอยู่ครับ

เป็นตัวเดียวกันครับ


ผมลองจับใต้ปีกดูร้อนมากครับ

เฮ้ย...คุณน้องเก้ อย่าล้อเล่นนะครับ คนแก่แล้ว ตามไม่ทันอ่ะ

 :-D

เรื่องจริงเลยครับท่านทวด มี 2 อาหารหลักๆตอนนี้ แต่ที่หนักและน่ากลัวคือ อาหารไม่ย่อยนี่แหละครับ รบกวนด้วยครับ

ปีกข้างที่ตก(ขวา)อุณหภูมิตก ราวๆ 40 องศาได้ครับ

ด้านที่ไม่ตก(ซ้าย)อุณหภูมิตก ราวๆ37-38 ได้ครับ

ใต้ปีก ใต้จั๊กกะแร้ ของใครๆก็ต้องร้อนเป็นธรรมดา นะครับ
เคยเห็นไหมครับ เวลาวัดไข้เด็กๆ บางครั้งก็พยาบาลก็เอาแท่งปรอทยัดเข้าที่ใต้จั๊กกะแร้เลย



" ป้อนเก้าโมงเช้า ห้าทุ่มยังไม่หมด แล้วเพิ่งดูดออก"


ทำไมถึงปล่อยไว้นานขนาดนั้นละครับ
อายุขนาดนั้น ควรหมดใน 4 ช.ม.
5 ช.ม. ถ้ายังไม่หมด ดูดออกได้แล้ววววววว.........


ก่อนที่คิดว่า ควรทำอย่างไรต่อไป ก็ต้องหาดูว่า เพราะอะไรถึงเป็นแบบนั้น

ส่วนผสมของอาหาร: น้ำ เป็นเท่าไหร่ครับ

อาหาร 2 ช้อนโต๊ะพลูขึ้นมานิดหน่อยครับไม่พลูมากครับ ต่อน้ำ 80 ซีซี

นี่ถ้าหากปีกยังไม่ตก  สงสัยยังคงนิ่งนอนใจ ไม่มาโพสต์ถามแน่

ถามอีกหน่อยครับ  นกตัวนี้ ป้อนมานานเท่าไหร่แล้วครับ
และอย่าบอกนะครับว่า ใช้อาหารแบ่งขาย หรือ ไม่มียี่ห้อ

ดูดอาหารออกให้หมด
ใส่น้ำเกลือแร่ ที่ความเข้มข้น 1/2 ของปกติ(เช่น ปกติ 1ซองใช้น้ำ1แก้ว ก็เป็นน้ำ 2 แก้ว )

จากนั้นก็ เอานกวางไว้ในกรงเล็กๆ ปูกระดาษนสพ.หน้าขาวๆไว้รองขี้ด้วย รอดูสีของขี้ ทั้งเนื้อและน้ำ

ในระหว่างนั้นภาวนาไปด้วยนะครับ

ใช้อาหารเคทีครับแบบถุงใหญ่เลย

เกลือแร่พึ่งป้อนไปตะก้ออ่าครับ

ใช้กระดาษตัดฟ๋อยรองแล้วครับ

ขี้สีเขียวขี้ม้าครับออกมาเป็นเส้นเลยครับ

อ้างถึงDNA เป็นผู้เขียน:
อาหาร 2 ช้อนโต๊ะพลูขึ้นมานิดหน่อยครับไม่พลูมากครับ ต่อน้ำ 80 ซีซี

 ว่างๆ ลองเข้าไปอ่านกระทู้นี้นะครับ  

http://www.siamphoenix.com/2008/htdocs/modules/newbb/viewtopic.php?topic_id=128&start=30#threadbottom


พลูนิดหน่อย  กับ พลูน้อยๆ  กับ พลูแต่พองาม กับ พลูไม่มาก   มันอาจแตกต่างกันจนพอที่จะทำให้ไม่ย่อยได้นะครับ

สรุปแล้ว คือ มันข้นเกินไปปปปปป..........

หนึ่งต่อสาม  คือระดับที่ปลอดภัยครับสำหรับมาคอว์60วัน
เมื่อถึง80-90 วัน อาจจะค่อยๆลองขยับขึ้นไปเป็น หนึ่งต่อสองครึ่ง

อาหารใช้เป็นเคที่สูตรมาร์คอว์ครับ
เลี้ยงมาประมาณ 3 อาทิตย์ครับแต่น้อง
เค๊าให้อาหาร ประมาณ 45 ซีซีมาตลอด จนอาทิตย์ที่ผ่านมา
น้องไปเรียนซัมเมอร์เลยยัดไป 80 ซีซีย่อยหมดใช้เวลา
ประมาณ 6 ชั่วโมงครับ สีของขี้นกช่วง 2 อาทิตย์แรกที่เห็น
เป็นปรกติครับแต่อาทิตย์นี้สีน้ำตาลเข้มๆเดี๋ยวจะให้ถ่ายรูปมานะครับ
( ช่วงอาทิตย์ที่ 2 เคยมีปัญหาย่อยช้าครับแต่ก็ไม่มากขนาดนี้ครับ)

(http://i251.photobucket.com/albums/gg301/269773485/29032008593.jpg)

สีของขี้ครับ

มันจะแห้งคือกระดาษหนังสือพิมพ์มันซับน้ามไปครับ

 พรุ่งนี้ ไปหาซื้อยา Tystatin หรือ Mycostatin มาไว้ใช้ด้วย

และหาปรอทวัดอุณหภูมิห้อง แบบที่อยู่บนแป้นไม้มาสักอัน หาอันที่สั้นๆหน่อย  เอาสีน้ำมันแต้มแท่งแก้ว ตรงตำแหน่ง 100 และ 110 องศา F  

รอจนสีแห้งดีแล้ว แกะแท่งแก้วออกจากแป้นไม้  เอาจุ่มลงไปในอาหารที่ป้อนเพื่อวัดอุณหภูมิ  ป้อนเมื่ออยู่ในช่วง 100-110 F

อาหารที่ข้นไป จะย่อยยาก ใช้เวลานาน
อุณหภูมิที่ต่ำเกินไป จะทำให้ระบบการย่อยทำงานช้าลง
อุปกรณืที่ไม่สะอาด เชื้อโรคตามซอกเล็บ จะทำให้ลูกนกติดเชื้อ

อุปกรณืล้างสะอาดเลยครับ  โดยเฉพาะสายป้อนจะต้มทุกครั้งเลย

ใช้ปรอทวันเอาครับเอาจนได้อุณหภูมิ 37.7 - 38 ว่าจึงค่อยป้อน

เคยให้นิสแตตินมาประมาณ 1 อาทิตย์พึ่งหยุดยาไปได้ 2 วันครับ
ให้ 1 ซีซี ก่อนป้อนทุกมื้อครับ

อ้างถึงdevil_kay เป็นผู้เขียน:
อาหารใช้เป็นเคที่สูตรมาร์คอว์ครับ
เลี้ยงมาประมาณ 3 อาทิตย์ครับแต่น้อง
เค๊าให้อาหาร ประมาณ 45 ซีซีมาตลอด จนอาทิตย์ที่ผ่านมา
น้องไปเรียนซัมเมอร์เลยยัดไป 80 ซีซีย่อยหมดใช้เวลา
ประมาณ 6 ชั่วโมงครับ สีของขี้นกช่วง 2 อาทิตย์แรกที่เห็น
เป็นปรกติครับแต่อาทิตย์นี้สีน้ำตาลเข้มๆเดี๋ยวจะให้ถ่ายรูปมานะครับ
( ช่วงอาทิตย์ที่ 2 เคยมีปัญหาย่อยช้าครับแต่ก็ไม่มากขนาดนี้ครับ)

 คงมากไป ข้นไป และอาจเย็นไปด้วย

ถ้าไม่ว่าง ก็ป้อนชดเชยจำนวนมื้อที่หายไป หลังจากกลับมาแล้วก็ได้ โดยมื้อสุดท้ายอาจจะเป็นตอนตีสอง  แต่ไม่ควรเพิ่มความเข้มข้นมากขึ้นไปอีก

นกที่ปล่อยให้หิวมาก  หรือ ขาดช่วงการป้อนอาหารที่ต่อเนื่อง จะมีนิสัยที่เหมือนๆกัน คือ ขอกินมากแบบผิดปกติ กินจนป่องแล้ว ก็ยังตะเกียกตะกายขออีก  หากป้อนกันตามใจ เพราะเห็นว่า นกยังขออยู่ แสดงว่า ยังไม่อิ่ม หรือยังกินได้อีก  สุดท้าย ก็จะย่อยช้า ย่อยไม่หมดครับ

คุณน้องเก้  อย่าลืมรายงานเรื่องรสและกลิ่นของขี้นกด้วยครับ


 :-D

อ้างถึงdevil_kay เป็นผู้เขียน:
เคยให้นิสแตตินมาประมาณ 1 อาทิตย์พึ่งหยุดยาไปได้ 2 วันครับ
ให้ 1 ซีซี ก่อนป้อนทุกมื้อครับ

กรณีนี้ อาหารไม่ย่อย เนื่องจากมากไป ข้นไป และผลที่อาจติดตามมาคือ เชื้อรา ครับ

ดังนั้น การที่แม้จะเพิ่งหยุดยาไปได้แค่ 2 วัน จึงไม่เกี่ยวครับ

อ้างถึงC.tan เป็นผู้เขียน:

อ้างถึงdevil_kay เป็นผู้เขียน:
อาหารใช้เป็นเคที่สูตรมาร์คอว์ครับ
เลี้ยงมาประมาณ 3 อาทิตย์ครับแต่น้อง
เค๊าให้อาหาร ประมาณ 45 ซีซีมาตลอด จนอาทิตย์ที่ผ่านมา
น้องไปเรียนซัมเมอร์เลยยัดไป 80 ซีซีย่อยหมดใช้เวลา
ประมาณ 6 ชั่วโมงครับ สีของขี้นกช่วง 2 อาทิตย์แรกที่เห็น
เป็นปรกติครับแต่อาทิตย์นี้สีน้ำตาลเข้มๆเดี๋ยวจะให้ถ่ายรูปมานะครับ
( ช่วงอาทิตย์ที่ 2 เคยมีปัญหาย่อยช้าครับแต่ก็ไม่มากขนาดนี้ครับ)

 คงมากไป ข้นไป และอาจเย็นไปด้วย


คุณน้องเก้  อย่าลืมรายงานเรื่องรสและกลิ่นของขี้นกด้วยครับ


 :-D

อุ๋ย...ประเด็นนี้ต้องให้เจ้าของเป็นคนดมและชิมครับอิอิ
เดี๋ยววันพรุ่งนี้จะเข้าไปชัณสูตร เอ้ยไปดูแล้วนำมารายงานความคืบหน้าครับ นกตัวนี้เป็นอาจารย์ใหญ่ของน้องเค๊าตัวแรกครับ :-D

อัพเดทอาการครับ ตอนนี้ย่อยช้ามากๆ น้ำเกลือแร่ที่ป้อนไป 20 ซีซี 3 ชั่วโมงแล้วยังไม่ถึงครึ่งเลยครับ จะต้องทำอะไรต่อดีครับเนี่ย อยู่กันคนละทิศละทางเลยผมตันแย้ววท่านทวดช่วยด้วยคร้าบ...

เอาใจช่วยอยู่นะครับ

ขอให้หายไวไว

เอาใจช่วยอยู่นะน้อง

ได้นกมาก็ยากเย็น

เลี้ยงนกก็ยากเย็น

น้าเอาใจช่วยนะครับ

อุณหภูมิ ห้อง 40  องศา   น้าว่าร้อนไป

แต่ถ้าป่วยอยู่ก็ ok นะ

เอาใจช่วยละกัน  อยู่ไหนเหลือเกิน  งั้นจะตามไปดูให้ว่าเป็นยังไง

ขอให้หายไวๆๆ  ละกัน

ถึงเช้านี้ นกเป็นไงบ้างแล้วครับ

1. อาหารในกระเพาะดูดออกหมดหรือยัง
2. น้ำเกลือแร่ที่ให้  ดูดซึม  หรือยัง
3. อาหารนกตอนนี้เป็นไงบ้าง ผิวหนังมีสีอย่างไร  ( จากเคยชมพู จะกลายเป็นสีออกแดงจัด ๆ ) แสดงว่าขาดน้ำรุนแรง  น่าจะต้องให้เกลือแร่ เยอะ ๆ ครับ
4. ยังไม่ต้องให้อาหาร  ให้เกลือแร่ ยา  เพื่อดูการดูดซึมของร่างกายว่าหมดภายในกี่ ชม.

หากระบบการย่อยหยุดทำงาน ก็เป็นเรื่องใหญ่แล้วครับ
แนวทางแก้ไขก็คือ การให้น้ำเกลือทางเส้นเส้นเลือดดำ ให้ทางไขกระดูก  หรือใต้ผิวหนัง  ซึ่งคงจะเกินความสามารถของคนเลี้ยงนกทั่วๆไปนะครับ



สำหรับเรื่องอุณหภูมิที่ใช้อบนกที่ป่วย ไม่ควรเกิน 35 C ครับ
ในกรณ๊ที่อุณหภูมิของร่างกายนกขึ้นไปถึง 40 นั่นน่าจะเป็นอาการของการมีไข้ เนื่องจากการติดเชื้ออื่นๆร่วมด้วยหรือไม่  อาจเป็นไปได้ไหม  ?

มาต่อให้นะครับ น้ำเกลือแร่ 20 ซีซี ใช้เวลาในการย่อย 4.10 ชั่วโมงครับ ตอนนี้ให้ป้อนเกลือแร่ไปอย่างเดียวก่อน ตั้งแต่ตี 2 จนถึงตอนนี้ ป้อนน้ำเกลือไปได้อีก 2 ครั้งครับ( น้องยังไม่ได้ให้ยาอะไรนะครับเพราะยาหมดแล้วหาซื้อไม่ได้เดี๋ยวบ่ายๆคงได้ยานิสแตตินครับ)


อาการติดเชื้อผมไม่แน่ใจนะครับแต่การเลี้ยงของน้องค่อนข้างสะอาดสถานที่สะอาด มีการลวกอุปกรณ์ป้อนก่อนป้อนทุกครั้งครับ

หาซื้อน้ำเกลือที่ใช้ฉีดเข้าเส้นเลือดสำหรับคน มาใช้แทน ผงเกลือแร่ น่าจะดีกว่าครับ เพราะสามารถใช้ได้ โดยไม่จำกัดบริมาณหรือระยะเวลา

ถ้าได้ Enro มาด้วย ก็จะดีมากครับ

เรื่องความสะอาด จุดที่เก็บเชื้อโรคได้ดีมากคือ ซอกเล็บนะครับ หากไม่ไปติดอะไรมา  ล้างมือธรรมดาๆ ก็โอเคครับ

แต่ถ้าไปแคะไปล้วงอะไรมาก่อน  ล้างออกยากมากครับ

(บ่ายๆสายๆเย็นๆ ผมจะเข้ามาอีกที  มีอะไรหนักหนา ใช้ฮอตไลน์สายด่วนนะครับ )

ครับ ตอนนี้เตรียมยานิสแตติน น้ำเกลือ กับเอ็นโรได้แล้วเดี่ยวตอนบ่ายๆจะเอาเข้าไปให้น้องเค๊าครับ

มารอตามอาการครับ  

พ่อเลี้ยง ณ เชียงใหม่ อย่าให้เสียชื่อน๊ะขอรับกระผม  ได้ที่ปรึกษา คนละทิศเลยอิ อิ ( เชียงใหม่ กับ ภูเก็ต )

ถ้าพ่อเลี้ยง ณ เชียงใหม่ มีเครื่องบินเจ็ทส่วนตัว  สงสัย คงต้องบินไปหาท่านทวด ทพ. ชาย ตัน  ณ ภูเก็ต เสียแล้วสิ  

เฮออ  ....    

การให้เกลือแร่ทางเส้นเลือด  ไม่อยากจะนึก  ค่อนข้างลำบากน๊ะดูจากการให้น้ำเกลือของสุนัข  ใช้เข็มอ่อน เจาะ  แล้วมัดด้วยพลาสเตอร์เหนียว ๆ กันการดิ้นหลุด  แต่สำหรับนกค่อนข้างดูแล้วลำบากมาก ๆ ครับ  

ส่วนการให้เกลือแร่ทางผิวหนัง กล้ามเนื้อ  สามารถให้ได้  แต่อาจจะแทงผ่านแค่บริเวณผิวหนังเท่านั้น ( กรณีนี้เคยให้มาแล้ว ) แต่ให้แต่ละจุดได้ปริมาณค่อนข้างน้อย  เพราะส่วนของผิวหนังในแต่ละส่วนรับน้ำได้ค่อนข้างน้อย  เมื่อเปรียบเทียบกับสุนัข หรือแมว  

และระวังเรื่องร่างกายส่วนที่เป็นถุงลมด้วย  

ถ้าต้องให้จริง ๆ คงต้องขอแปลนร่างกายส่วนที่เป็นถุงลมด้วยน๊ะครับ  

จากที่เคยให้  ผมให้บริเวณขา สะโพก หัวปีก หัวไหล่  ด้านหน้าอก คอ และอื่น ๆไม่กล้าลอง  น่าจะมีส่วนของถุงลมครับ  

มื้อเช้าเก้าโมงนี้ให้น้ำเกลือไป 20 ซีซีครับย่อยหมด 2ชม. 40นาทีครับ

ยังคงต้องให้น้ำเกลือแร่ + ยา  ไปก่อนครับ  รักษาเรื่องการย่อยให้หมดภายในเวลาที่กำหนดครับ  ไม่ควรเติมอาหารครับ  

อย่าพยามยามฝืนครับ  เพราะถ้าฝืน  นกมันจะไม่ฟื้นกลับมาหลาย ๆครั้งน๊ะครับ

แล้วปีกที่ตกนี้จะเกี่ยวข้องกับอาการไม่สบายรึป่าวครับ

แล้วถ้าอาการหายดีแล้วปีกจะหายตกมั้ย??

ให้น้ำเกลือต่อไปอีก จนครบ 24 ช.ม. ครับ
หลังจากนั้น ดูว่า สภาพการทำงานของกระเพาะเป็นอย่างไร ถ้าย่อยหมดเร็ว ก็เริ่มให้อาหารได้


โดย เริ่มให้อาหาร 1:5 อีก 24 ช.ม. แล้วเปลี่ยนเป็น 1:4 อีก 24 ช.ม. แล้วค่อย 1:3  ต่อไปอีกประมาณหนึ่งเดือนโน่นละครับ

สำหรับยา Enro ให้ 15 มิลลิกรัม/น้ำหนักนก 1 กิโลกรัม ให้ 3 วัน ครับ

ถ้าความเข้มข้นของยาเป็นชนิด 10 %  (ชนิดน้ำใสๆ ในขวดสีชา) ปริมาณ 1 ซีซี = 100 มิลลิกรัม ( 0.15 ซีซี= 15 มิลลิกรัม )

ส่วนเรื่องปีกตก  ลองคลำๆดูที่หัวไหล่ ปีกส่วนกลาง ปีกส่วนปลาย  คลำเปรียบเทียบกันกับอีกข้าง ดูว่ามีการเคลื่อนไหวที่ผิดปกติหรือไม่ มีจังหวะที่ดังกรุ๊บๆหรือไม่  ถ้ามี ก็แสดงว่าหัก หรือ หลุด นะครับ

ถ้าเป็นอย่างนั้น ก็ต้องเข้าเผือก

แต่ทีสำคัญ ตอนนี้ดูเรื่องอาหารไม่ย่อยก่อนครับ

ลุงส่งกำลังใจให้ด้วยคนครับ

สำหรับวันพรุ่งนี้ ถ้าหากต้องไปเรียน ก่อนไป ป้อนซะหนึ่งครั้ง ในปริมาณที่ปกติ  และหลังจากกลับมาแล้ว ป้อนกันทุกๆ 3-4 ชั่วโมง ตลอดทั้งคืน ไปจนถึงเช้าของอีกวันหนึ่ง

เป็นการเปลื่ยนเป็นป้อนช่วงกลางคืน แทน ช่วงที่ต้องไปเรียนหนังสือนะครับ

ใช้เปนอาหารป้อนใช่มั้ยครับ แบบใสๆหน่อย แล้วป้อนในปริมาณที่พอดีไม่มากเกินใช่มั้ยครับ

อ้างถึงDNA เป็นผู้เขียน:
ใช้เปนอาหารป้อนใช่มั้ยครับ แบบใสๆหน่อย แล้วป้อนในปริมาณที่พอดีไม่มากเกินใช่มั้ยครับ

อ้างถึงโดย C.tan เมื่อ 2008/3/30 14:09:10


ให้น้ำเกลือต่อไปอีก จนครบ 24 ช.ม. ครับ
หลังจากนั้น ดูว่า สภาพการทำงานของกระเพาะเป็นอย่างไร ถ้าย่อยหมดเร็ว ก็เริ่มให้อาหารได้


โดย เริ่มให้อาหาร 1:5 อีก 24 ช.ม. แล้วเปลี่ยนเป็น 1:4 อีก 24 ช.ม. แล้วค่อย 1:3 ต่อไปอีกประมาณหนึ่งเดือนโน่นละครับ

สำหรับยา Enro ให้ 15 มิลลิกรัม/น้ำหนักนก 1 กิโลกรัม ให้ 3 วัน ครับ

ถ้าความเข้มข้นของยาเป็นชนิด 10 % (ชนิดน้ำใสๆ ในขวดสีชา) ปริมาณ 1 ซีซี = 100 มิลลิกรัม ( 0.15 ซีซี= 15 มิลลิกรัม )

รอจนถึงใกล้รุ่งพรุ่งนี้เช้า แล้วดูว่า น้ำเกลือ 20 ซีซี หมดภายในเวลาเท่าไหร่  ถ้าสัก 45นาที -1 ช.ม.   ก็เริ่มป้อนอาหาร 1:5

อ้างถึงDNA เป็นผู้เขียน:
ใช้เปนอาหารป้อนใช่มั้ยครับ แบบใสๆหน่อย แล้วป้อนในปริมาณที่พอดีไม่มากเกินใช่มั้ยครับ

แบบนี้ไม่พูด ไม่เอาครับ  ขอให้ระบุอัตราส่วนกันชัดๆเลย เพื่อความเข้าใจที่ตรงกัน เป็นมาตรฐานเดียวกัน   เช่น 1:5   ซึ่งหมายถึง ผง 1 ส่วน น้ำ 5 ส่วน โดยปริมาตร  

สู้ๆ ครับ โน๊ต ไม่ได้เข้าบอร์ด หลายวัน ไม่รู้อาหารเลย มัวแต่มาท่องเที่ยว กทม ทำตามที่พี่ๆ ทั้งหลายสอน แล้วก็ มีปัญหา โทรหา เก้ ครับโน๊ต

ส่วนเรื่องปีกที่ตก หากเป็นไหล่หลุด ก็คงต้องเข้าเผือกกันละครับ

ตามตัวอย่าง รูปลูกเกรย์ที่ปีกหักของผม


(คุณน้องเก้ช่วยส่ง address หลังไมค์ด้วยครับ พรุ่งนี้จะส่งวัสดุที่จะใช้พันเข้าเผือกให้ )

เจ้าโนต สู้ๆ

เจ้ ไอ้โน๊ตมันจะเอาอะไรมาสู้เนี่ยต้องเก้ดิ ได้นอน 2 ชั่วโมงอยู่เลย
เอานกมาเริ่มดูประมาณ5 ทุ่ม เริ่มป้อนตอนเที่ยงคืน นกใช้เวลาย่อย
น้ำเกลือ 20 ซีซีประมาณ 2.15 ชั่วโมง ครับ ตอนนี้ให้ยาินิสแตตินกับเอ็นโร

ท่านทวดครับอุปกรณ์อาหาร ยา ทุกอย่างหาได้ครบหมดแล้วครับ

เชิญร่วมรับฟังความเสียวกันนะครับ พี ่ป้า น้า อา ลุง ย่า ตา ทวด อิอิ
สภาพลูกนกขนเกือบคลุมแล้วแต่หางยาวประมาณ 6 นิ้ว ขนฟู ตาปรือและผอมมากกกก...
ไม่ค่อยร่าเริงเท่าที่ควร แต่ก็ดูยังไม่เลวร้ายจนเกินไป ยังพอมีแรงอยู่บ้าง
แหกปากเล็กๆพอเป็นกระสัยที่ทำให้เจ้าของหอ งงว่า ห้องนี้มันทำไรหว่า ปีกก็ตกไปข้างนึง
อีก 14 วันควจะรู้ว่าการพันผ้าของตัวกระผมจะเป็นอย่างไรอิอิ จากดูที่อาการ
คิดว่าเป็นมาหลายวันแล้วแต่เจ้าน้องคงไม่ทันรู้ตัวอะครับ ตอนนี้ก็กกไฟไว้กับป้อนยา
ป้อนน้ำกันไม่ต้องหลับต้องนอน ครับ

มีอีกประเด็นเพิ่มแล้วครับ อึนกมีสีเขียวทั้งน้ำเเละเนื้อ สงสัย+กลัวใจจังว่าจะเป็นคลามัยเดีย
ถ้าเป็นนกตัวอื่นก็คงจะไม่เสียวเท่ามาร์คอว์อะครับ เพราะเคยทราบมาว่ามาร์คอว์แพ้ทางกับยาด็อกซี่ไซคลีนที่ใช้รักษาโรคชนิดนี้อย่างแรง
พอจะมียาตัวอื่นที่จะช่วยเรื่องคลามัยเดีย นอกจากด็อกซี่อีกไม๊ครับ :cry:

real time เลยเว่ยเก้ ยังกับหนังเรื่อง ER เอาใจช่วยนะครับ

อยากรู้จังเลย  ปีกหักเนี่ย  เจ้าโน๊ต  เอาไปเลี้ยงอย่างไรให้ปีกหัก  ก็อยู่ในตะกร้าอย่างเดียวไม่ใช่เหรอ

ส่วนเรื่องขี้เขียว  เฮออ .... มันติดมาจากอะไรหว่า  ก็เป็นลูกนกไม่น่าจะเกิดอาการแบบนี้น๊ะ  ถ้าไม่ได้เอาไปไว้ให้โดนเชื้อโรคนอกบ้าน

มารายงานต่อด้วย เก้


ปีกหัก  บินไม่ได้  ไม่เป็นไร ( จะได้ไม่ต้องขลิบปีก )  เอาให้รอด ให้หาย  ละกัน สู้โว๊ย!!!!! เก้ ....

ปีกไม่น่าจะหักครับ คงจะหลุดหรือเคล็ดซักอย่างจากข้อมันเลยอะครับสาเหตุคือ
อยู่ในตะกร้าแล้วกระพือปีกป้าบๆๆฟาดเข้ากับขอบตะกร้าอย่างเมามันส์มันก็เลยหลุด
หรือเคล็ดประมาณนั้น นกที่ป่วยน่าจะเกิดจากที่คุณน้อง เอานกไปวางตากลมชมวิว
หน้าบ้านทุกๆวันเหมือนอีนาคพาลูกน้อยหอยสังข์ไปรออ้ายมากอย่างนั้นเลย ทั้งหน้าตา
และท่าทางขอบอกว่าเหมือนมาาากกกกก... อะเข้าเรื่องต่อ  แล้วไม่รู้ว่านกป่วยเป็นไงแล้วการยัดอาหารอัดอาหารช่วงก่อนอีก
แถมความสกปรกคงจะมาจาก โกลเด้น หื่นๆที่น้องจับเล่นแล้วไม่ล้างมือก่อนมาล้วง
ปากนกเล่นจะด่าตั้งเเต่เมื่อวานเเล้ว แต่เเม่น้องนั่งอยู่ด้วยเลยเกรงใจ อิอิ
ตอนนี้การย่อยเร็วขึ้นแล้วครับ แต่งต้องลุ้นต่อไปว่าจะเป็นยังไงกับ ไอ้เจ็บตับ
นามพระราชทานจากกระผม เพราะ กว่าจะได้มา กว่าจะได้เลี้ยง ตอนเลี้ยง
มีปัญหามาตลอดเลยทำให้เจ้าของและุบุคคลรอบข้างเจ็บตับกันเป็นแถวๆ
ชื่อนี้มีที่มานะครับอิอิ ส่วนเจ้าของเิดิมจะเรียกอะไรไม่สนเเล้วเว่ย
 นกตัวนี้ขอชื่อเจ็บตับ เท่านั้น อิอิ....

เลี้ยงให้อาการทรง ๆ อย่าทรุด ไปอีกละ  

อีก สัก 1 เดือน น่าจะดีขึ้น  รวมถึงคงต้องบอกน้องมันด้วยว่า  คงต้องใช้เวลาขุน อีก 6 เดือน - 1 ปี แหละ  

อย่าไปคิดว่านกผอม เป็นโรคละ  หุหุ  เพราะถ้านกไม่สบาย ทรุดเร็วมาก  จากเคยอ้วนพลี  ผอมโกรก ได้ในเวลาชั่วข้ามคืน  ......

อ้างถึงปู่โด้ เป็นผู้เขียน:
เลี้ยงให้อาการทรง ๆ อย่าทรุด ไปอีกละ  

อีก สัก 1 เดือน น่าจะดีขึ้น  รวมถึงคงต้องบอกน้องมันด้วยว่า  คงต้องใช้เวลาขุน อีก 6 เดือน - 1 ปี แหละ  

อย่าไปคิดว่านกผอม เป็นโรคละ  หุหุ  เพราะถ้านกไม่สบาย ทรุดเร็วมาก  จากเคยอ้วนพลี  ผอมโกรก ได้ในเวลาชั่วข้ามคืน  ......

ผอมโกรกมาเลยพี่โด้ แล้วเก้จะเลี้ยงให้ประมาณ 1 อาทิตย์ครับ หลังจากนั้นอัญเชิญ
ไปเจ็บตับกันต่อเอง ไม่งั๊นเก้ได้ถูกอัญเชิญไปเป็นหมีแพนด้าในสวนสัตว์เชียงใหม่แน่
อิอิ
 :-D  :-D  :-D



ตอนนี้รอคำตอบเรื่องคลามัยเดียอยู่นะครับท่านพี่ ท่านปู่ ท่านทวดและท่านเซียนอื่นๆครับ

ตอนนี้เป็นพี่เลี้ยง  อนาคต พ่อเลี้ยง ชัวร์ เจ้าเก้เรา  :-)

อ้างถึงลุงน้อย เป็นผู้เขียน:
ตอนนี้เป็นพี่เลี้ยง  อนาคต พ่อเลี้ยง ชัวร์ เจ้าเก้เรา  :-)

ไม่ถึงขนาดนั้นครับลุงน้อยและพี่โด้จากกระทู้บนๆอิอิ

เลี้ยงนกเหนื่อยยากแต่อย่าเครียด มาดูอะไรแก้เครียดกันดีกว่าครับ

[youtube=425,350]http://www.youtube.com/watch?v=uFQUQkeJjo4&eurl=http://video.tagged.com/?ect=c5wrblj&al=1&tId=140410&fid=822050006DCC1233&v=uFQUQkeJjo4[/youtube]

ถ่ายรูปอึ มันมาประกอบด้วยน้องเก้  จากรูปบนมีแล้ว  แล้วตอนนี้เป็นสีอะไรแล้ว น๊ะ  มีรูป รส กลิ่น ขนาดไหน อธิบายสรรพคุณไว้ด้วย  จากวันที่สีสรรตามอาหาร กลายเป็นสีเขียว กี่วัน  กี่มื้อ  อะไรพวกนี้  เดี๋ยวรอท่านทวด ให้ความรู้ต่อครับ  เพราะเรื่องโรคภัยไข้เจ็บ  ไม่ไหวจริง ๆ  ( เอาตัวไม่รอดขอรับกระผม )

ปล. แต่เอาให้ย่อยเร็ว ย่อยดี ขึ้นก่อนละกัน ค่อยเฉดหัวมันไป อิ อิ  หรือชื่อ เจ้าตับ ( วาย ) ดีหว่า  

 :-D  :lol:  :lol:  :-D  :-o  :-o

หวา... เอานกให้รอดก่อนนะครับ ปีกตกเป็นอาการรองแต่ก็รักษาไปพร้อมกันได้นะคุณเก้
( ผมกลัวจะหลงประเด็นเหมือนเจ้าปากเบี้ยวน่ะ)
 

อ้างถึงถ่ายรูปอึ มันมาประกอบด้วยน้องเก้ จากรูปบนมีแล้ว แล้วตอนนี้เป็นสีอะไรแล้ว น๊ะ มีรูป รส กลิ่น ขนาดไหน อธิบายสรรพคุณไว้ด้วย จากวันที่สีสรรตามอาหาร กลายเป็นสีเขียว กี่วัน กี่มื้อ อะไรพวกนี้ เดี๋ยวรอท่านทวด ให้ความรู้ต่อครับ เพราะเรื่องโรคภัยไข้เจ็บ ไม่ไหวจริง ๆ ( เอาตัวไม่รอดขอรับกระผม )

 :-o  อย่าลืมนะครับ พี่โด้ กะ ท่านทวดจะมีรายละเอียดเพิ่มเติมขึ้นอีกนะ  อิอิ...

ขอให้หายไวๆนะครับ

อ้างถึงdevil_kay เป็นผู้เขียน:
เจ้ ไอ้โน๊ตมันจะเอาอะไรมาสู้เนี่ยต้องเก้ดิ ได้นอน 2 ชั่วโมงอยู่เลย
เอานกมาเริ่มดูประมาณ5 ทุ่ม เริ่มป้อนตอนเที่ยงคืน นกใช้เวลาย่อย
น้ำเกลือ 20 ซีซีประมาณ 2.15 ชั่วโมง ครับ ตอนนี้ให้ยาินิสแตตินกับเอ็นโร

ท่านทวดครับอุปกรณ์อาหาร ยา ทุกอย่างหาได้ครบหมดแล้วครับ

 อ้าวเหรอ  งั้น ปีศาจเก้ สู้ๆ อิอิ

อ้างถึงจิ เป็นผู้เขียน:

อ้างถึงdevil_kay เป็นผู้เขียน:
เจ้ ไอ้โน๊ตมันจะเอาอะไรมาสู้เนี่ยต้องเก้ดิ ได้นอน 2 ชั่วโมงอยู่เลย
เอานกมาเริ่มดูประมาณ5 ทุ่ม เริ่มป้อนตอนเที่ยงคืน นกใช้เวลาย่อย
น้ำเกลือ 20 ซีซีประมาณ 2.15 ชั่วโมง ครับ ตอนนี้ให้ยาินิสแตตินกับเอ็นโร

ท่านทวดครับอุปกรณ์อาหาร ยา ทุกอย่างหาได้ครบหมดแล้วครับ

 อ้าวเหรอ  งั้น ปีศาจเก้ สู้ๆ อิอิ

ตกลงไอ้นกตัวนี้มันนกใครกันแน่เนี่ย
มาช่วยสาปแช่ง เอ้ย เอาใจช่วยอีกคนเน้อ ละอ่อนเหนือ

ถ้าให้ผมเลี้ยงคงจะไม่เกิน 2 วันอ่าครับ

ขอดูรูปขี้นกอีกทีครับ เอาทั้งน้ำทั้งเนื้อนะครับ

ถ้าเป็นคลามัยเดีย ก็ต้องด๊อกซี่ ไม่มีทางเลือกอื่นครับ

นกอยู่ที่พี่เก้อ่าครับ ถ้าใช้ด๊อกซี่แล้วอาการมันจะไม่ทรุดลงหรอครับ

เอาใจช่วยครับ

ตอนนี้ย่อยดีขึ้นมากแล้วครับให้เอนชัวร์ไปแล้วก็ย่อยเร็วเหมือนกันครับ
มีปัญหาเรื่องขี้เขียว เดี่ยวรูปพรุ่งนี้จะให้โน๊ตมาถ่ายรูปลง นะครับ พอดีลืมเอา
การ์ดลีดเดอร์มาจากลำปางเลยลงคอมมะได้ แต่เวลาในการย่อย เอนชัวร์ 30 ซีซี
ใช้เวลาย่อย 45 นาที ครับ


ขอบคุณทุกเสียงที่ด่าไอ้โน๊ตแทนเก้นะครับเพราะขอบอกว่าเหนื่อยมากกก
กับการเลี้ยงนกป่วย :-D

ยอมมมมมมม จำนนต่อความผิดแล้วคร้าบบบ :cry:

 ยอดเยี่ยมมากครับ คุณน้องเก้  :-D

เปลี่ยนชื่อหน่อยดีมั้ย ท่าทางชื่อเก่าไม่ดี

มีข้อมูลเพิ่มเติมที่ลืมรายงานครับ คือตอนที่ป้อนยาเอ็นโรไปแล้วใน
แต่ละมื้อการย่อยจะช้ากว่ามื้อที่ไม่ได้ป้อนมากเป็นเท่าตัวเลยครับ
เป็นไปได้ไม๊ที่นกตัวนี้ไม่ถูกกับยาเอ็นโรอะครับ

ลองชั่งน้ำหนักนก แล้วคำนวนหาปริมาณยาที่แน่นอนอีกครั้ง
ป้อนยาต่อไปจนได้ 5 วัน แล้วหยุดเลยครับ

เจ้าโน๊ตยังหาซื้อตาชั่งไม่ได้ครับเลยไม่ทราบ นน. นก เด๋ยวพรุ่งนี้ผมจะออก
ไปจัดการเอง แต่วันนี้มีสิ่งผิดปรกติที่เกิดขึ้นดังนี้คือ
1. ปีกที่พันผ้าไว้พอแกะออกมาข้อต่อ ตรงปลีกกลาง บวม ครับ
โยมีอาการบวมทั้งด้านนอกและด้านใน ดังรูป

2. ขี้นกไม่เขียวเเล้วแต่เปลี่ยนเป็นใสๆแทน แต่กากยังมีสีเขียวอยู่บ้างครับ

3.เอ็นชัวร์ที่เมื่อวานย่อยดี 45 นาที 30 ซีซีหมด แต่วันนี้กลับใช้เวลาบ่อย
ถึง 2 ชั่วโมงต่อครั้ง โดยวิธีการเลี้ยงและอื่นๆเหมือนเดิมทุกอย่างครับ

( ผมพันปีกแบบนี้ถือว่าถูกต้องรึยังครับต้องมีการแก้ไขตรงจุดไหนไม๊ครับ
ต้องแกะผ้าทุกวันรึปล่าว กังวลเรื่องอาการบวมตรงปีกครับ )

ลงรูป อึ มันครับ

(http://i251.photobucket.com/albums/gg301/269773485/02042008597.jpg)

นี่รูปข้อต่อปีกที่บวมครับ

(http://i251.photobucket.com/albums/gg301/269773485/02042008598.jpg)

การพันปีก ของพี่เก้ครับ

(http://i251.photobucket.com/albums/gg301/269773485/02042008599.jpg)

(http://i251.photobucket.com/albums/gg301/269773485/02042008600.jpg)

รูปกากขี้ของมันครับ รูปไม่ค่อยชัด

(http://i251.photobucket.com/albums/gg301/269773485/02042008603.jpg)

อย่าลืมแจ้งเรื่องรสชาติด้วยล่ะ

เก้ ติดจานดาวเทียมที่หัวมันด้วยดีมั้ยมันจะได้เอื้อมไปแกะไม่ได้

อ้างถึงdevil_kay เป็นผู้เขียน:
เจ้าโน๊ตยังหาซื้อตาชั่งไม่ได้ครับเลยไม่ทราบ นน. นก เด๋ยวพรุ่งนี้ผมจะออก
ไปจัดการเอง แต่วันนี้มีสิ่งผิดปรกติที่เกิดขึ้นดังนี้คือ
1. ปีกที่พันผ้าไว้พอแกะออกมาข้อต่อ ตรงปลีกกลาง บวม ครับ
โยมีอาการบวมทั้งด้านนอกและด้านใน ดังรูป

2. ขี้นกไม่เขียวเเล้วแต่เปลี่ยนเป็นใสๆแทน แต่กากยังมีสีเขียวอยู่บ้างครับ

3.เอ็นชัวร์ที่เมื่อวานย่อยดี 45 นาที 30 ซีซีหมด แต่วันนี้กลับใช้เวลาบ่อย
ถึง 2 ชั่วโมงต่อครั้ง โดยวิธีการเลี้ยงและอื่นๆเหมือนเดิมทุกอย่างครับ

( ผมพันปีกแบบนี้ถือว่าถูกต้องรึยังครับต้องมีการแก้ไขตรงจุดไหนไม๊ครับ
ต้องแกะผ้าทุกวันรึปล่าว กังวลเรื่องอาการบวมตรงปีกครับ )

1.หากเทียบกับคน ตรงที่บวม คือ ข้อศอก ใช่ไหมครับ  แสดงว่าจุดนั้น เป็นจุดที่มีปัญหา ที่ทำให้นกปีกตกหรือเปล่า  เสียดายที่ไม่มีรูปก่อนเข้าเผือกให้ดู

สาเหตุที่บวม เนื่องจากการจัดวางก่อนที่จะพันผ้า ไม่ถูกต้อง  หรือ บิดไปจากตำแหน่งที่ควรจะเป็น  

อีกกรณีหนึ่งคือ อาจจะพันแน่นเกินไป  ผ้าที่พัน เป็นชนิด Self adhesive หรือเปล่าครับ

2.น้ำยังใส คงไม่ต้องใช้ด๊อกซี่แล้ว

3.ความเข้มข้นเท่าเดิมหรือไม่  ถ้าใช่  ก็คงจะเป็นผลมาจากการบวมที่ปีกละครับ

ปกติแล้ว การพันปีก จะต้องไม่บวม และไม่ต้องแกะออกมาเลย ตลอดระยะเวลา 10-14 วัน เพื่อให้รอยหัก(ถ้ามี) เชื่อมติดกัน  การรื้อออกมาทุกวัน จะทำให้มันไม่ติดนะครับ

ลองพันใหม่  หากจำเป็น หาแผ่นพลาสติกแข็ง ตัดเป็นรูปตัววีแหลมๆ รองตรงใต้ศอกก่อน แล้วค่อยพัน  และพยายามเว้นข่อง ให้เห็นจุดที่บวมนั้น  เพื่อที่จะคอยสังเกตุว่า มันยุบลงหรือไม่

อีกกรณีหนึ่งคือ พาไปหาหมอที่มช. ให้เขา X- ray และเข้าเผือกให้

เรื่องหัก หรือหลุด  น่าจะเกิดความสามารถ  ไปให้หมอ ที่ มช. เขา X-ray ดู แล้ว รีบดำเนินการดีกว่า  

แต่ระวังเรื่องพันผ้าด้วย เดี๋ยวจะพันไปทั้งตัว เป็นมัมมี่

พี่อู๋ครับ คงไม่ต้องติดจานเพราะนกนิสัยดีไม่แกะเลยครับอิอิ

อ้างถึงC.tan เป็นผู้เขียน:

อ้างถึง1.หากเทียบกับคน ตรงที่บวม คือ ข้อศอก ใช่ไหมครับ  แสดงว่าจุดนั้น เป็นจุดที่มีปัญหา ที่ทำให้นกปีกตกหรือเปล่า  เสียดายที่ไม่มีรูปก่อนเข้าเผือกให้ดู

สาเหตุที่บวม เนื่องจากการจัดวางก่อนที่จะพันผ้า ไม่ถูกต้อง  หรือ บิดไปจากตำแหน่งที่ควรจะเป็น  

อีกกรณีหนึ่งคือ อาจจะพันแน่นเกินไป  ผ้าที่พัน เป็นชนิด Self adhesive หรือเปล่าครับ

2.น้ำยังใส คงไม่ต้องใช้ด๊อกซี่แล้ว

ใ3.ความเข้มข้นเท่าเดิมหรือไม่  ถ้าใช่  ก็คงจะเป็นผลมาจากการบวมที่ปีกละครับ

ปกติแล้ว การพันปีก จะต้องไม่บวม และไม่ต้องแกะออกมาเลย ตลอดระยะเวลา 10-14 วัน เพื่อให้รอยหัก(ถ้ามี) เชื่อมติดกัน  การรื้อออกมาทุกวัน จะทำให้มันไม่ติดนะครับ

ลองพันใหม่  หากจำเป็น หาแผ่นพลาสติกแข็ง ตัดเป็นรูปตัววีแหลมๆ รองตรงใต้ศอกก่อน แล้วค่อยพัน  และพยายามเว้นข่อง ให้เห็นจุดที่บวมนั้น  เพื่อที่จะคอยสังเกตุว่า มันยุบลงหรือไม่

อีกกรณีหนึ่งคือ พาไปหาหมอที่มช. ให้เขา X- ray และเข้าเผือกให้

1.ใช่ครับเทียบกับคนคือข้อศอกสาเหตุของ
การบวมผมคิดว่าเกิดจากการพันผ้าแน่นไปจริงๆครับ ตอนนี้แก้ไขเเล้วครับ
2.แล้วเอ็นโร หละครับ ตอนนี้ก็เริ่มกลัวกับยาตัวนี้อีกเเล้ว
3.ความเข้มข้นเท่าเดิมครับ
4.ผ้าผมไม่แน่ใจครับมันเขียนติดซองว่า Easifix Cohesive Bandage
ผ้ายืดวัสดุติดแผล สามารถยึดเกาะตัวเองได้

อ้างถึงdevil_kay เป็นผู้เขียน:
พี่อู๋ครับ คงไม่ต้องติดจานเพราะนกนิสัยดีไม่แกะเลยครับอิอิ

อ้างถึงC.tan เป็นผู้เขียน:


1.หากเทียบกับคน ตรงที่บวม คือ ข้อศอก ใช่ไหมครับ  แสดงว่าจุดนั้น เป็นจุดที่มีปัญหา ที่ทำให้นกปีกตกหรือเปล่า  เสียดายที่ไม่มีรูปก่อนเข้าเผือกให้ดู

สาเหตุที่บวม เนื่องจากการจัดวางก่อนที่จะพันผ้า ไม่ถูกต้อง  หรือ บิดไปจากตำแหน่งที่ควรจะเป็น  

อีกกรณีหนึ่งคือ อาจจะพันแน่นเกินไป  ผ้าที่พัน เป็นชนิด Self adhesive หรือเปล่าครับ

2.น้ำยังใส คงไม่ต้องใช้ด๊อกซี่แล้ว

ใ3.ความเข้มข้นเท่าเดิมหรือไม่  ถ้าใช่  ก็คงจะเป็นผลมาจากการบวมที่ปีกละครับ

ปกติแล้ว การพันปีก จะต้องไม่บวม และไม่ต้องแกะออกมาเลย ตลอดระยะเวลา 10-14 วัน เพื่อให้รอยหัก(ถ้ามี) เชื่อมติดกัน  การรื้อออกมาทุกวัน จะทำให้มันไม่ติดนะครับ

ลองพันใหม่  หากจำเป็น หาแผ่นพลาสติกแข็ง ตัดเป็นรูปตัววีแหลมๆ รองตรงใต้ศอกก่อน แล้วค่อยพัน  และพยายามเว้นข่อง ให้เห็นจุดที่บวมนั้น  เพื่อที่จะคอยสังเกตุว่า มันยุบลงหรือไม่

อีกกรณีหนึ่งคือ พาไปหาหมอที่มช. ให้เขา X- ray และเข้าเผือกให้

1.ใช่ครับเทียบกับคนคือข้อศอกสาเหตุของ
การบวมผมคิดว่าเกิดจากการพันผ้าแน่นไปจริงๆครับ ตอนนี้แก้ไขเเล้วครับ
2.แล้วเอ็นโร หละครับ ตอนนี้ก็เริ่มกลัวกับยาตัวนี้อีกเเล้ว
3.ความเข้มข้นเท่าเดิมครับ
4.ผ้าผมไม่แน่ใจครับมันเขียนติดซองว่า Easifix Cohesive Bandage
ผ้ายืดวัสดุติดแผล สามารถยึดเกาะตัวเองได้

1.และ 4.  มันเป็นผ้ายืด อย่าดึงให้ยืดมากนัก มันจะรัดจนบวม เผลอๆจะหายใจไม่ออก

2.Enro ให้ 3-5 วัน  หากชั่งน้ำหนักนก ให้ตามอัตราส่วน 15มก./กก. ก็ไม่มีปัญหาอะไรครับ    เอาอย่างคุณหนูแพร์จังกึมครับ เอานกห่อผ้า แล้วไปชั่งกับตาชั่งของรถขายกับข้าว

ครับท่านทวด
แต่เรื่องชั่งคงต้องซื้อตาชั่งจริงๆ เพราะที่อยู่ ณ. ตอนนี้ห้ามเลี้ยงสัตว์
ขืนหิ้วลงไปอีกอีเจ็บตับแหกปากมาทีเก้คงกระเด็นแน่ๆอิอิ

อัพเดต หน่อยครับละอ่อนเหนือ

อัพเดทครับ หลังจากที่เอาไป X-ray มา ปรากฎว่าส่วนข้อต่อตรงคอกอักเสบครับหมอได้เจาะเอาน้ำคล้ายน้ำเหลืองออก ครับแล้วก้อผันผ้าต่อ(http://i251.photobucket.com/albums/gg301/269773485/04042008605.jpg)

(http://i251.photobucket.com/albums/gg301/269773485/04042008606.jpg)

(http://i251.photobucket.com/albums/gg301/269773485/04042008604.jpg)

อ้างถึงBeach-Boy เป็นผู้เขียน:
อัพเดต หน่อยครับละอ่อนเหนือ

น้องอู๋นึกว่า  เจ้าเจ็บตับ  ไปเกิดใหม่แล้ว

รูป อึ ครับออกเขียวขี้ม้า

(http://i251.photobucket.com/albums/gg301/269773485/04042008608.jpg)

รูปผลการ X-ray ขอรับ

(http://i251.photobucket.com/albums/gg301/269773485/04042008610.jpg)

(http://i251.photobucket.com/albums/gg301/269773485/04042008611.jpg)

ช้อนสำหรับ ตวงอาหารครับ

(http://i251.photobucket.com/albums/gg301/269773485/04042008615.jpg)

นกหนัก 8 ขีด นะครับ
หมอบอกปีกที่บวมเกิดจากการอักเสบและติดเชื้อ ได้เจาะที่บวมๆออกแต่ผมกลับรู้สึกว่ามันยังบวมอยู่
เรื่องย่อยดีขึ้นมากแล้วครับใกล้ที่จะมอบคืนเจ้าของมันได้แล้ว


แต่...............
ที่เจ็บตับมากกก หมอบอกว่าผมเลี้ยงนกไม่เป็น เลี้ยงแบบผิดวิธี
เอานมให้นกกิน เลี้ยงยังไงจนผอมโกรกขนาดนี้ ฯลฯ
....ทีแ่รงได้อีกคือ  หมอยังไม่รู้จักยาินิสแตติน ไม่รู้ักเอนชัวร์
แถมยังแนะนำให้เข้าไปหาความรู้จากไนท์ซาฟารีอีก โอ๊ย.....
เจ็บตับ..........
 :-D  :-D  :-D

อ้างถึงอ้างถึง: PJM1 เป็นผู้เขียน:
น้องอู๋นึกว่า เจ้าเจ็บตับ ไปเกิดใหม่แล้ว

อ้างถึงอ้างถึง:
Beach-Boy เป็นผู้เขียน:
อัพเดต หน่อยครับละอ่อนเหนือ

ยังไม่ไปครับอีกนาน

อ้างถึงDNA เป็นผู้เขียน:

อ้างถึงอ้างถึง: PJM1 เป็นผู้เขียน:
น้องอู๋นึกว่า เจ้าเจ็บตับ ไปเกิดใหม่แล้ว

อ้างถึงอ้างถึง:
Beach-Boy เป็นผู้เขียน:
อัพเดต หน่อยครับละอ่อนเหนือ

ยังไม่ไปครับอีกนาน

เจ้าของไม่ค่อยสนใจน่าจะไปตั้งนานแล้วอึดชะมัด

ของมันแรงพี่ (vbvb = อิอิ)

แหมถ้าไปแล้วมันพูดแบบนี้จะได้รู้ว่า จอมมาร เป็นไงอิอิ

อ้างถึงdevil_kay เป็นผู้เขียน:
แหมถ้าไปแล้วมันพูดแบบนี้จะได้รู้ว่า จอมมาร เป็นไงอิอิ

เริ่มมีเฮ.......   แล้ว

พ่อเลี้ยงแห่งเมืองเหนือเริ่มได้อารมณ์

อ้างถึงdevil_kay เป็นผู้เขียน:
นกหนัก 8 ขีด นะครับ
หมอบอกปีกที่บวมเกิดจากการอักเสบและติดเชื้อ ได้เจาะที่บวมๆออกแต่ผมกลับรู้สึกว่ามันยังบวมอยู่
เรื่องย่อยดีขึ้นมากแล้วครับใกล้ที่จะมอบคืนเจ้าของมันได้แล้ว


แต่...............
ที่เจ็บตับมากกก หมอบอกว่าผมเลี้ยงนกไม่เป็น เลี้ยงแบบผิดวิธี
เอานมให้นกกิน เลี้ยงยังไงจนผอมโกรกขนาดนี้ ฯลฯ
....ทีแ่รงได้อีกคือ  หมอยังไม่รู้จักยาินิสแตติน ไม่รู้ักเอนชัวร์
แถมยังแนะนำให้เข้าไปหาความรู้จากไนท์ซาฟารีอีก โอ๊ย.....
เจ็บตับ..........
 :-D  :-D  :-D

  หมอเขาคงไม่ค่อยได้คลุกคลีกับ นกพวกนี้ เลยให้ไปหาความรู้จากไนท์ซาฟารี  แทนที่จะหาจากหมอน่ะค่ะ  :roll:  :roll:

ขอให้หายไวๆนะครับ ทั้งคนทั้งนก
เอาใจช่วยอยู่ครับ

อิอิ ...  หมอแกคงเลี้ยงแนวนกฮูก,นกเค้ามั้งครับ เลยให้ไปดูไนท์ซาฟารี
แกคงเป็นพวกไนท์ไลฟ์น่ะ เลยเจอแ่ต่นกราตรี ผีีเสื้อราตรี...

ต้องไปเอาคืนกะไอ้โน๊ต นะเก้

อ.หมอแก้ว เคยบอกว่า
นกปีกตกข้างนึงอาจเป็นโรคไตครับ