เรื่องของเรื่องได้นกมาเมื่อวันเสาร์ ครับ
ลูกป้อนขนหนัง (ริงเน็คสีขาว)
เห็นว่าตัวใหญ่ได้มาก็ป้อนอาหารไม่บรรยะบรรยังเลยครับ
เล่นซะเกือบ 20 cc. ผลก็คือ ทะลัก และก็กะเพาะใหญ่มาก
น่ากลัวจะระเบิดสุด ๆ ก็บอกกะตัวเองว่าเบา ๆ มือหน่อย
มาเมื่อคืนวันอาทิตย์ตอนดึก ก็ปกติดีตลอดวันไม่มีปัญหาอะไร
ผมยังจับใส่ห่วงข้อเท้าเลยครับ ปลุกป้ำกันตั้งนานกว่าจะใส่ได้
ใส่ก่อนให้อาหารมื่อเย็นนะครับ
มาตอนเช้าก็กะเพาะแบนทั้ง สามตัว ก็เลยป้อนตัวละ 10 cc.
พอป้อนเสร็จก็สั่งเกตว่าตัวใหญ่สุดมันไม่ค่อยร่าเริง เหมือนกะน้อง ๆ ทั้ง สองตัว ก็แปลกใจว่าต้องเกิดเหตุแล้ว
มาตอนเที่ยงอาหารที่ให้มื่อเช้า ที่ให้ตัวใหญ่ ไม่ย่อยเลย
อยู่อย่างไงอยู่อย่างงั้น สาไม่สู่ดี มาตอนเย็นแย่หนักกว่า
ผมเลยป้อนน้ำอุ่นผสมเกลือแร่ แล้วก็นวดท้อง ก็ไม่ดีขึ้น
ณ ตอนนี้ มีเลือดไหลออกมาจากจมูก ไม่รอดแน่เลยครับ
แต่น้อง ๆ ทั้ง สองตัวก็ปกติดีมากกินอิ่มแล้วก็ร้องสียงดังอยู่ตั้งนาน
เหตุการณ์นี้คืออะไรหรอครับ ผมจะได้ระวังไม่ให้มันเกิดขึ้นอีก
อาหารที่ให้ก็เป็นน้ำร้อนต้มสุก ผสมอาหาร รอให้อุ่น ไม่เคยไม่ใช้น้ำต้มเลยนะครับ อุปกรณ์ก็ลวกน้ำร้อนทุกครั้งทุกมื่อ หรือว่าเป็นปัญญาจากวันแรก อาการเพิ่งออกวันนี้ครับ และมันก็ชอบทับกันซะด้วย ตอนนี้แยกตัวป่วยไว้ตางหากแล้วครับ
อาจต้องล้างกระเพาะครับ
ล้างยังไงครับ
แย่จัง น่าสงสารคับ อาการนี้ยาก
ได้ลูกป้อนสีขาวมา 3 ตัว ตอนนี้ตายไปแล้ว 2
ตายแบบไม่ถึง 24 ชั่วโมง ตัวที่ 3 ก็กำลังแย่ให้ยาฆ่าเชื้ออยู่ครับ
แล้วกลัวว่าจะซวยหนักกว่าด้วย เพราะเลี้ยงรวมกะลิงเน็คสีเหลือง
อีก 3 ตัว ขนเต็มตัวหมดแล้ว กำลังหัดกินเอง ตามตัวมีเลือดติด
ไม่ทราบว่าร้ายแรงหรือเปล่า ผมก็ไม่รู้ว่าได้นกอะไรมา เสียหาย
มากเลยครับ ตอนนี้แยกสีเหลืองทั้ง 3 ตัวออกนอกบ้าน ใส่กรงไว้แล้วครับ แยกสลิงค์ด้วยครับ ผมยาฆ่าเชื่อใส่ไว้ในน้ำให้แล้วครับ
รบกวนแนะนะยาด้วยนะครับ
มีวิธีป้องกัน หรืออย่างไร ฝากผู้รู้ช่วยแนะนำด้วยนะครับ
ริงเน็คเหมือนจะเลี้ยงไม่ยาก แต่แฝงอะไรอยู่มากมายเลย
ที่ผมไม่รู้ ช่วยด้วยครับ แย่แล้ว
ลูกป้อนนั้น บางครั้งก็ไม่ได้เกิดจากความผิดพลาดของเรา อาจผิดพลาดมาจากต้นแหล่งก็ได้ ซึ่งลูกนกโดยทั่วๆไป เวลาป่วยก็ไม่เสียชีวิตเร็วขนาดนี้ ความอยากได้ทำให้เราเผลอเลอในการตรวจตรา การให้ยานั้นต้องรู้สาเหตุของโรค เพราะถ้าเราให้ยาที่รักษาไม่ตรงอาการก็จะทำให้นกยิ่งทรุดลง ริงเนคเหลือง3ตัวอาจจะติดเลือดจากสีขาวที่ป่วยก็ได้ ต้องดูอาการของนกประกอบด้วย
จากที่ได้ดูนกนะครับคุณ put ตอนที่ได้มาก็ดูอยู่ตั้งนาน
แล้วก็เป็นร้านที่ซื้อขายกันมาหลายปี นกตื่นตัวมาก
ชูคอต้องการอาหารตลอด เดินทั่วตู้ สภาพภายนอกดูไม่ออกเลย
ว่านกมีเชื่อหรือเปล่า เลี้ยงได้วันครึ่ง เริ่มแย่แล้วครับคุณ put
คิดว่าไม่พลาดแล้วน้าๆๆๆๆ เป็นบทเรียนที่ยิ่งใหญ่เลยครับ
แล้วอย่างที่คุณ put ว่า "ความอยากได้ทำให้เราเผลอเลอในการตรวจตรา" ก็ดูอยู่นานแล้วนะครับ ไม่ใช้ว่าไปเจอปุ๊บซื้อเลย พิจารณาอยู่เกือบเดือน รอช่วงเวลา ทุนไม่เยอะ จะซื้อจะหา
ผมก็ค่อนข้างระวัง แต่เมื่อมันเกินเหตุแล้ว ผมก็จะได้ระวัง และจะได้รักษาให้ทันท่วงทีครับ
แล้วที่คุณ put ว่า "ริงเนคเหลือง3ตัวอาจจะติดเลือดจากสีขาวที่ป่วยก็ได้ ต้องดูอาการของนกประกอบด้วย" ผมแยกตั้งแต่แรกแล้วครับ สีขาวเป็นลูกนกขนหนัง ได้มาใส่ตู้กระจกเปิดไฟ ทั้ง 3 ตัว
ส่วนสีเหลือง ผมใส่กรงทั้ง 3 ตัวแยกตางหาก แต่ผมดันไปใช้สลิงค์เดียวกันป้อนทั้ง 6 ตัว ตอนแรกก็ว่าริงเน็คสีเหลือง เลือดที่ออกมา นึกว่าเวลามันบินแล้วมันเหยีบกัน แล้วเล็บมันก็คม แต่ดูไปดูมาพอมาฟัง ๆ อาการแล้วไม่รู้ว่ามูลเป็นเลือดหรือเปล่ากำลังดูอาการอยู่ครับ ว่าจะพาไปให้หมอตรวจที่โรงพยาบาลสัตย์ แถว ๆ เอกมัน (ใกล้บ้านครับ) กลัวจะเป็นอย่างที่คุณ put ว่า "ถ้าเราให้ยาที่รักษาไม่ตรงอาการก็จะทำให้นกยิ่งทรุดลง "
การตรวจตรานก ถึงแม้เราจะตรวจถ้วนถี่แล้วก็ตาม ก็ขึ้นอยู่กับความรู้ในการดูอาการของนกป่วยควบคู่ไปด้วย สาเหตุการตายของนกนั้นพอสรุปได้คร่าวๆว่า เกิดจากการป้อนอาหารที่ข้นเกินไปและปริมาณมากเกินไป ใช้สายที่ไม่ใช่ไส้ไก่ นกซึ่งยังเล็กควรจะใช้สายที่มีความอ่อนนุ่มป้อน เพราะเวลาดันลงไปจะไม่ทำให้หลอดอาหารบาดเจ็บ การที่นกร้องขออาหารนั้น แสดงว่าที่ร้านได้ทำการดูดอาหารออกหมดแล้ว และอาจไม่ทราบวิธีรักษาก็เลยไม่ป้อนอาหารให้ เพราะต้องการที่จะรีบจำหน่ายออก คนส่วนใหญ่เวลาซื้อนกเห็นนกหิวก็มักจะเลือกตัวนั้น ไม่ผิดครับ แต่ต้องดูหลายๆอย่างประกอบ สตายส์พ่อค้าที่สวน ส่วนมากจะป้อนอาหารวันละ2มื้อทั้งนี้ก็เพื่อให้คนที่มาซื้อนกดูแล้ว คิดว่านกตัวนี้แข็งแรง ไม่ชอบนกตัวที่นอนหลับเพราะคิดว่าไม่แข็งแรง ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ต้องดูอีกว่านกหลับเมื่อตื่นแล้ว อาการเป็นปกติหรือเปล่า