พอดีผมก็ไม่ได้เลี้ยงลูกนกมานานมากๆครับ ช่วงวันเสาร์ได้มีโอกาสกลับกรุงเทพ ไปเดินซันเดย์ สังเกตุลูกกระตั๊ว หลายๆร้าน ทั้งลูกป้อนและขนเต็ม ไม่มีห่วงขาเลยครับ เราจะรู้ได้มั้ยครับ ว่าร้านไหน เกิดไนไทยจริงๆ ไม่ใช่นกเรือ
จริงๆถูกใจนกตัวนึงมาก เป็นกระตั๊วเลเซอร์ เจ้าของบอกว่า อายุ 7 เดือน แต่ผมว่า น่าจะ ประมาณ 5 มากกว่า ตามความคิดผมนะ
มันติดตรงไม่มีห่วงนี่สิครับ ราคาเปิดไว้ที่ประมาณ 25 ครับ
ถ้าเอ่ยชื่อร้านจะผิดมั้ย วันนั้นที่ผมไป มีเลเซอร์ 4 อยู่บนคอน 2ครับ
เผื่อใครพี่ๆในนี้ส่งนกให้ร้านนั้นจะได้สบายใจว่านกในแน่ไม่ใช่เรือ
ผมชอบวัดดวงครับ ไม่ชอบจองไม่ชอบมัดจำ ถ้าถูกใจ และถ้าดวงจะได้เลี้ยง เค้าก้ต้องอยู่รอเรา
ขอบคุณครับ
นกกระตั้วลูกป้อนนกเรือ คงไม่มีร้านไหนบอกหรอกครับว่านกเรือ แต่สังเกตุจากสีขนและสภาพก็พอจะบอกได้ว่าเป็นนกเรือ นกบ้านเราขนจะออกสีขาวๆไม่คล้ำ ส่วนห่วงขามีหรือไม่มีก็ไม่ใช่เรื่องสำคัญเพราะนกบานเราบางที่เขาก็ไม่ได้ใส่ห่วงขา แต่ที่สำคัญตอนนี้นกเรือกระตั้วเลเซอร์เข้ามามากครับ
ก็จริงของคุณ bios_m นะครับ คงจะไม่มีร้านไหนมาบอกหลอกครับว่านกตัวนี้เป็นนกเรือ ตัวนี้เป็นนกบ้าน ก็คงจะต้องดูสีขนเหมือนที่คุณ bios_m บอกอีกนั่นแหละครับ
เพราะขนมันมอมนี่สิครับ เจ้าของร้าน บอกว่าวันนั้นเค้าอยู่ในลังแล้วโดนละอองฝนเลยเปรอะหนังสือพิมพ์ เฮ้อ ไม่ได้ไม่เชื่อพี่เค้านะครับ แต่อยากมั่นใจ
ขออนุญาต เอ่ย ชื่อร้านในนี้เลยนะครับนะครับ ถ้าพี่ๆ Webmaster เห็นไม่สมควรฝากลบด้วยครับ
ชื่อร้าน ดรีมครับ
เท่าที่ได้คุยกับร้านค้าในสนามหลวง 2 มาเขายังไม่กล้ารับมาขายเลยครับ ความเสี่ยงมันมีมาก
และจากที่เคยเลี้ยงกระตั้วลูกป้อนนกเรือความเสี่ยงสูงและมักจะมีโรค PBFD ติดมาด้วยครับ
โรคขน PBFD ระวังหน่อยน๊ะครับ เมื่อนำนกที่เป็นโรคนี้เข้ามาภายในบ้าน หรือสถานที่เลี้ยง จะมีโอกาสติดต่อถึงนกที่เลี้ยงอยู่ได้ รวมถึง กว่าจะกำจัดให้หมดไปได้ใช้เวลาแรมปีครับ
เพราะน้องท่านนึง เลี้ยงเกิดเป็น PBFD ลูกนกตายไปแล้ว เว้นไป 6 เดือน ไปเอามาเลี้ยงใหม่ ใช้อุปกรณ์ต่าง ๆ ของนกตัวเก่า สุดท้าย ก็เป็นเหมือนเดิม .......
คิดก่อนตัดสินใจที่จะหามาเลี้ยง ควรซื้อจากร้านค้าที่ได้มาตรฐาน หรือคิดว่าไม่มั่วในการนำเข้ามาขาย เพราะถ้าคิดว่ามีนกที่มีโรค PBFD แฝงไว้ในร้าน หรือในฟาร์ม ก็เสี่ยงที่จะติดต่อถึงกันกับนกคู่อื่น ๆ ได้เหมือนกัน ครับ
ส่วนใหญ่เท่าที่ทราบ นกเรือ จะมี
1. ไตรตัน อินโด
2. เกรเตอร์ ออสเตรเลีย ( แต่ไม่มีให้เห็นนานมากแล้ว )
3. กระตั้วดำ ( Palm )
4. กระตั้วมีเดียม
5. กระตั้วโมโลคอน
6. กระตั้วเลเซอร์
7. กระตั่วซีตรอน
พวกเลเซอร์ และซีตรอน บางครั้งจะมีการนำลูกนกมาเลี้ยง ที่มาเลเซีย แล้วขุนป้อน นำส่งเข้ามาทางรถทัวร์ ผ่านทางภาคใต้
ส่วนใหญ่เห็นเป็นเยอะ ๆ จะเป็นลูกกระตั้วมีเดียม และไตรตัน
จริงๆร้านดรีม นกค่อนข้างเชื่อถือได้นะครับ
เเต่งานนี้นกไม่มีห่วงขา เอ....ชักไม่เเน่ใจเเฮะ
จริงๆครับ ปัญหาผมคือ ผมชอบเลือกเป็นตัวๆดูนิสัยมันเลย ถ้าให้จองกับเพื่อนๆพี่ในเวบ ผมก็จะไม่ได้เล่นกับเค้าก่อนอยู่ดีครับ
เพราะอย่างที่ร้านนั้นผมก็ชอบแค่ตัวเดียวจาก 4 ตัวครับ
ดันไม่มีห่วงขาอีกเนาะ 55
อ้างถึงTurbo เป็นผู้เขียน:
จริงๆครับ ปัญหาผมคือ ผมชอบเลือกเป็นตัวๆดูนิสัยมันเลย ถ้าให้จองกับเพื่อนๆพี่ในเวบ ผมก็จะไม่ได้เล่นกับเค้าก่อนอยู่ดีครับ
เพราะอย่างที่ร้านนั้นผมก็ชอบแค่ตัวเดียวจาก 4 ตัวครับ
ดันไม่มีห่วงขาอีกเนาะ 55
ไม่แตกต่างหรอกครับท่าน ๆ ก็เลือกไปฟาร์มต่าง ๆ โดยการโทรเข้าไปเช็ค หรือฝากพี่ ๆ ที่ไปบ่อย ๆ หรือได้โทรคุย ถามก่อนน๊ะครับ แล้วถ้าถูกใจก็ค่อยเอา ตัวนั้น ๆ ครับ
หรือไม่งั้น ก็ไปเสี่ยงวัดดวง แต่ความน่ารักของนกบางครั้งมันเทียบไม่ได้เหมือนสุนัข หรอกครับ เจอหน้าลูบหัว มองตา กระดิกหางเข้าหา และอื่น ๆ แต่นกอาจจะไม่แสดงปฏิกริยาแบบนี้ ในลูกนก 30 - 45 วัน
ไม่งั้นคงต้องหานกโตเชื่องจับเล่นได้ นั่นก็ไปอย่างครับ
อย่าเสี่ยงกับปัญหาที่อาจจะเกิดขึ้น เพราะมันจะทำให้เกิดในระยะยาว
ขออนุญาติถามเรื่องโรคขน PBFD ถ้านกเป็นโรคขนจริงๆจะใช้วิธีตรวจอย่างไรถ้าไม่พานกไปหาหมอ (นำขนที่ล่วงเอาไปให้หมอตรวจได้หรือเปล่าครับ) ผมมีกระตั้วอยู่หนึ่งตัวขนของเคาไม่ล่วงแต่ขนด้านหลังจะมีลักษณะแตกและกร่อน คือตรงโคนจะมีขนเต็มแต่ปลายจะมีแต่ก้าน ผมเปิดดูผิวหนังก็ปกติไม่มีผื่นหรือเป็นแผล แป้งที่ตัวก็มีปกติ รบกวนช่วยวินิจฉัยให้ด้วยนะครับ ขอบคุณล่วงหน้าครับ
สังเกต คือ
- ต้องมีฝุ่นแป้ง สำหรับกระตั้ว
- เปิดขนดู บริเวณโคนขน ถ้าขนหลุดไปแล้ว มีขนแทงขึ้นมา ( ขนหลอด ) ต้องไม่เป็นเลือดคั่ง ต้องยื่นออกมาปกติ
- ลักษณะเล็บ และปากที่ผิดรูปไปจากที่ควรจะเป็น
การนำขนที่ร่วงไปให้ตรวจ ผมไม่แน่ใจ จากเท่าที่ทราบ ใช้การเจาะเลือดตรวจครับ
ขนหางที่กรอบ ชี้ไปทางโน้น ทางนี้ รวมถึงแตกหัก บางครั้งเป็นเพราะนกกัดแทะ ถูกกับซี่กรง ก็มีโอกาสเป็นไปได้ครับ
ต้องสังเกตการผลัดขน ถ้าไม่งอก หรืองอกแล้วผิดรูปไป ค่อยว่ากันครับ
ขอบคุณ ปู่ครับและขอขอบคุณเจ้าของกระทู้ด้วยครับ ขอถามปู่อีกหน่อยครับ คือการเจาะเลือดไปตรวจทำเหมือนกับการนำเลือดไปตรวจเช็คเพศหรือเปล่าที่เอาเลือดป้ายกับกระดาษแล้วนำไปให้หมอ แต่ผมก็สบายใจขึ้นมามาหน่อยตรงที่ขนใหม่ขึ้นมาไม่มีเลือดคลั่งเป็นขนปกติ ขนที่ขึ้นใหม่จะเป็นบริเวณที่คอและหัว แต่ที่หลังยังไม่ขึ้นครับ รบกวนอีกครั้งครับ
อ้างถึงpoolsuk เป็นผู้เขียน:
ขอบคุณ ปู่ครับและขอขอบคุณเจ้าของกระทู้ด้วยครับ ขอถามปู่อีกหน่อยครับ คือการเจาะเลือดไปตรวจทำเหมือนกับการนำเลือดไปตรวจเช็คเพศหรือเปล่าที่เอาเลือดป้ายกับกระดาษแล้วนำไปให้หมอ แต่ผมก็สบายใจขึ้นมามาหน่อยตรงที่ขนใหม่ขึ้นมาไม่มีเลือดคลั่งเป็นขนปกติ ขนที่ขึ้นใหม่จะเป็นบริเวณที่คอและหัว แต่ที่หลังยังไม่ขึ้นครับ รบกวนอีกครั้งครับ
วิธีตรวจเหมือนกันครับ แต่สำหรับกระตั้ว สามารถดูเพศได้จากการสังเกตุลักษณะภายนอกได้เลยครับ แต่นกต้องอายุ 2 ปีขึ้นไปครับ
ถ้าไม่แน่ใจ ซื้อจากฟาร์มที่เค้าเลี้ยงขายโดยตรงดีกว่าครับ
ไม่ก็สั่งนกแบบผมเลย มีลูกนกแบบไหนเอาหมด
ส่วนผม ถ้าเป็นลูกนก ราคาโดน ก็ซื้อครับ ไม่ว่ามีห่วง
หรือไม่มีห่วง
ส่วน ร้านดรีมผมก็ซื้ออยู่หลายตัวเหมือนกันครับ
โรคนี้มันติดกันง่ายขนาดไหนครับ
สมมุติ เราซื้อนกในร้านที่ ร้านๆข้างๆมีนกเป็น ก็แย่สิครับ เห็นว่าขนาดเอาชุดเลี้ยงตัวเดิมมาเลี้ยงยังเป็นเลย
แล้วที่พี่ๆบอกว่า สองปีสังเกตุได้ นี่ ระยะพักตัว มันนานมั้ยครับ
หมายถึงถ้าจะเป็นต้องเป็นใน 2 ปี หรือ นกโตแล้ว สัมผัสนกเป็นโรคก็ยังติดได้เหมือนโรคติดต่อทั่วไปครับ
ไม่ต้องคิดมากครับจะร้านข้างๆหรือสถานที่เดียวกัน นกก็มาจากแหล่งเดียวกันทั้งนั้น เพราะเข้ามาล๊อตเดียวกันครับ
เท่าที่พอทราบรายละเอียด อาจจะไม่ลึกซึ้งน๊ะขอรับกระผม ส่วนใหญ่ถ้าเป็นกับลูกนก น้อยครับที่จะมีโอกาสเติบโตเป็นผู้ใหญ่น๊ะครับกระผม แต่ถ้าเป็นพวกแฝงมากับพ่อแม่นก หรือนกโต ๆ บางตัวสุขภาพแข็งแรง ไม่แสดงผล แต่ถ้าตัวไหนอ่อนแอสักหน่อย หรือในช่วงนั้น ๆ ก็จะแสดงออกให้เห็นครับ
บางครั้ง สังเกตพ่อแม่ดูไม่เป็น แต่สุดท้ายลูกเป็น ก็ถ่ายทอดจากการกกฟัก ของพ่อแม่นกน๊ะครับ
ส่วนเรื่องระยะเวลา คงบอกไม่ได้หรอกครับ โอกาสเป็นไปได้มีครับ แต่มันจะแสดงออกแค่ไหนน๊ะครับกระผม ก็ควรที่จะเลือกเลี้ยงหน่อยน๊ะครับ ผมว่าช่วงนี้ หรือ ณ ปัจจุบันนี้ คิดว่าน่าจะน้อยแล้ว แต่ถ้าเป็นแต่เก่าก่อน ย้อนหลังไปสัก 8 - 10 ปี เยอะ ......... จนเบื่อไปเลยครับ
สมัยก่อน มีเดียมนกฟาร์ม ต้องมี 9000 - 10000 ++ แต่ถ้านกเรือ ก็แค่ 3500 - 4500 ทำให้หลาย ๆ คนมองนกเรือ ที่วางขายบริเวณลานเร่ เหมือนขายนกป่าไทยเลยไม่แตกต่างกัน แต่มันคือของนอก ๆๆๆ ที่มาทางเรือ ขอรับกระผม
ขอบคุณพี่ๆมากครับ เพราะ ตอนแรก ที่ผมเข้าใจ ผมเข้าใจไปว่าเป็นโรคทางสายเลือด
จึงไม่ควรซื้อนกป่าเพราะเราไม่รู้ว่าพ่อแม่พี่น้องเค้ามีเชื้อมั้ยครับ
PBFD is extremely contagious. Large amounts of the virus, which can become airborne, are found in the droppings, contents of the crop, and the feather dust of infected birds. The feather dust is easily dispersed and can contaminate food, water, cages, clothing, and other areas of the environment. Psittaccine beak and feather disease is thought to be transmitted by inhalation or ingestion of the virus. It has been suggested that the virus may be transmitted in utero from the female bird to the egg.
The incubation period (time between exposure to the virus and the development of signs) can be as short as 3-4 weeks, or up to several years, depending upon the amount of virus transmitted, the age of the bird, the stage of feather development, and the health of the bird's immune system.
เอามาจากในเนตครับ สรุปมันก็ติดต่อกันได้จริงๆเหมือนคนติดไวรัสทั่วไป เห้ออ
Reference : http://www.peteducation.com/article.cfm?c=15+1829&aid=2592
In Australia, a killed vaccine has been developed which can protect unexposed birds; it can cause more severe disease in birds already showing signs of PBFD. Birds should be vaccinated as young as possible, as soon as 14 days of age. The vaccine should be boostered after one month, and breeding birds should be vaccinated one month prior to breeding.
References and Further Reading
Altman, RB; Clubb, SL; Dorrestein, GM; Quesenberry, K. Avian Medicine and Surgery. W.B. Saunders Co. Philadelphia, PA; 1997.
Raidal, SR. http://wwwvet.murdoch.edu.au/caf/pbfd.htm. Murdoch University. Perth, Western Australia.
Rupley, AE. Manual of Avian Practice. W.B. Saunders Co. Philadelphia, PA; 1997.
เก่าหน่อยนะครับ