พอดีเพิ่งซื้อนกแก้วโม่งมาจากจุตจักรเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมานี้คะ สภาพมันฟูขนมาอยู่แล้ว แต่ไม่ทราบว่ามันป่วยเพราะมันดูแข็งแรงดี เสียงร้องก็ดูใสๆ จนวันที่3 เริ่มแสดงอาการทรุดตัวลง ผอมลงไปถนัดตาเลยคะ มีสำรอกอาหาร(ให้ทางไซลิ้ง) ถ่ายเป็นเหลว คอพับ สายตาดูขุ่นๆ มีอาการเกร็งข้อเท่ากำจนหงิดเลยคะ แล้วน้องชายพาไปหาหมอที่ร.พ.สัตว์บางเขน(มก.) หมอก็ให้ยามา แต่พอมันกลับถึงบ้านก็มีอาการชักเกร็งกระตุกทั้งตัว หัวใจเต้นเร็วมากคะ เป็นอย่างนี้ตลอดวันตลอดคืน จะช่วยมันยังไงดีคะ อาการมันร่อแร่มาก แต่อยาหจะมีความหวังว่ามันจะรอดอ่ะค่ะ
อาการลูกนกไม่สบายมันจะแสดงอาการค่อนข้างรวดเร็วน๊ะครับ ผอมซูบภายใน 24 - 48 ชม. เท่านั้นครับ
ไม่ทราบว่าทางโรงพยาบาลบอกว่าเป็นอะไรครับกระผม
ไม่ทราบอาหารที่ป้อน
1. เป็นอาหารชนิดใด
2. อาหารย่อยกว่าจะหมดในแต่ละมื้อ ประมาณกี่ชม. ต่อกี่ CC
3. ควรเสริมให้น้ำเกลือแร่ เพราะนกอาจจะขาดน้ำ
4. ให้ความอบอุ่นกับนก ( กกไฟ )
5. อื่น ๆ
ลูกนกที่ซื้อจากตลาดนัดสวนจตุจักร หรือตลาดนัดที่อื่น ๆ ควรต้องระวังลูกนกไม่สบายสะสมน๊ะครับกระผม เพราะถ้ามาถึงมือเราแล้ว ไม่รักษา หรือนกยังไม่แสดงอาการออกมาให้เห็น นานวัน ไป เมื่อนกสุขภาพไม่ดี อาการต่าง ๆ มักจะแสดงออกมาน๊ะครับ
แต่อย่างที่บอก นกน่าจะอาการไม่ค่อยดีแล้วครับ ภาวนาให้ฟื้นคืนโดยเร็ว
ขอให้หายเร็วๆนะครับ
ตอนพานกแก้วโม่งหาหมอ หมอบอกมันแค่ขาดวิตตามิน และพักผ่อนไม่พอค่ะ และก็ไม่ได้ทำการรักษาให้นอกจากเก็บตัวอย่งไปนะคะ ส่วนอาหารเป็นอาหารสำเร็จรูปทั่วไปค่ะ นกแก้วอีกตัวก็กินไม่เป็นอะไร ส่วนอาหารเสริมอย่างเช่นพวกเกลือแร่รึวิตามินตามที่บอกไม่ได้ให้หรอกค่ะ เพราะไม่ทราบว่ามันต้องการด้วย คือเพิ่งหัดเลี้ยงนกอ่ะค่ะ และก็ท้ายสุดนี้ มันได้ช๊อกอย่างรุงแรงครั้งหนึ่งก่อนตายด้วยค่ะ
เฮออ ..... ต้องพยายามศึกษาหาความรู้ก่อนเอาเข้ามาเลี้ยงน๊ะครับ จริง ๆ ผมก็เป็นคนนึงที่เคยเลี้ยงนกและประสบการณ์กับการตายไปก็หลากหลายเหมือนกันครับ
คือบางครั้งก็ต้องพยายามดูแลเขาน๊ะครับ แต่ด้วยสภาพนกที่กว่าจะมาถึงมือผู้บริโภค ( ผู้เลี้ยง ) มันสั่งสมโรคเอาไว้ก่อน ไม่แสดงที่ร้านแต่มาแสดงที่คนเลี้ยง หรือก่อนซื้อหา ก็ต้องเช็คสภาพนก กันนิดนึงครับ อาจจะดูไม่รู้หรอกครับ ว่าเขาเป็นหรือไม่เป็นถ้าเขาไม่แสดงออกให้เห็น เช่นของคุณที่เกิดน๊ะครับ เช่น ขนพอง ขนฟู ตาปลือ และอื่น ๆ ครับ
เจอหมอวิเคราะห์อาการแบบนี้ ผมละกลัวใจจริง ๆ
ขอแสดงความเสียใจด้วยครับ
ปล. อีกตัว ตอนนี้อาการเป็นเช่นไรแล้วบ้างครับกระผม ลองอ่านหน้าสุขภาพ และวิธีการเลี้ยงลูกนกในนี้น๊ะครับ มีอะไร Post ถามได้ครับ ไม่ต้องเกรงใจขอรับกระผม [/b]
เกลือแร่ ที่ผมกล่าวไปในกระทู้ก่อน คือเมื่อนกมีอาการไม่ค่อยดี ป่วย สำลอกอาหาร นกจะเกิดอาการขาดน้ำครับ ผิดหนังเปลี่ยนสีจากสีชมพู ไปเป็นสีออกช้ำแดง ๆ ลูกนกจะผอมซูบ หน้าอกจะกลายเป็นสันแหลม เหมือนอกไก่ จำเป็นต้องให้เกลือแร่ และให้อยู่ในอุณหภูมิที่อุ่น ๆๆๆ ( ด้วยการกกไฟ หรือในตู้อบ ) แล้ว ต้องวิเคราะห์ว่าเกิดจากอะไรน๊ะครับ แล้วจึงให้ยาเพื่อช่วยแก้ไขขอรับกระผม
เสียใจด้วยครับ
เหมือนผมเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมาเลยซื้อมาเลี้ยงอยู่ได้ 2-3 วันตาย ไม่ใช่นกนะครับ สัตว์อย่างอื่น
เสียใจด้วยครับ
ผมก็เจอเหมือนกันครับ เป็นแก้วแขก 2 ตัว ไม่รอดทั้งคู่ครับ
เสียใจด้วยค่ะ...
คงต้องคอยดูแลตัวที่เหลือ..
ทำความสะอาดกรง...และเล่าวิธีการเลี้ยงปัจจุบันให้ละเอียด...เช่น
อายุนก..อาหารที่ป้อน...กินอะไร ยี่ห้ออะไร... อย่างไร
เดี๋ยวคุณลุง คุณพี่ เค้าคงช่วยแนะนำให้ตัวที่เหลือรอดปลอดภัยค่ะ...
เสียใจด้วยครับ
ขอบคุณทุกท่านมากค่ะ ก็เสียใจนิดๆ แต่คิดว่าดีกว่ามันไปตายในมือคนขายนกอ่ะค่ะ เพราะได้ข่าวมาว่าคนขายนะ พอมีนกที่เริ่มขายไม่ออกคือเปงโรคอ่ะค่ะก็จะปล่อยมันตายไม่ก็โยนทิ้งเลยค่ะ ข้อเท็จจริงข้อนี้ดิฉันไม่ทราบแน่ชัดนะคะ แต่ได้ยินแม่บอกว่าเช่นนี้ค่ะ
ส่วนกแก้วอีกตัวหนึ่งเป็นพันธุ์คอนนัวร์ มีอาการจามบ้าง กินอาหารน้อย ชอบอาบน้ำ ส่งเสียงดังไปหน่อยประมาณ ได้ยินไปตั้ง 3-4 บ้านน่ะคะ แล้วก็ชอบบินออกกำลังกายอยู่ในบ้านทุกวัน น้องชายว่าจะพามันไปหาหมออยู่น่ะคะ น้องว่าดูมันขนยุ่งๆนิดหน่อย แล้วพอมันบินเล่นแล้วชอบมาเกาะแล้วหอบอยู่ข้างๆหูน่ะคะ ส่วนการพักผ่อนของมันก็ไม่เพียงพอหรอกคะ ตื่นพร้อมคนที่บ้านประจำ ข้อนี้ไม่รู้จะแก้ปัญหาอย่างไร เพราะบ้านไม่มีที่มากอ่ะค่ะ
นกตื่นเช้าเป็นเรื่องปกติของนกเขาอยู่แล้วครับ แต่เสียงที่ดังนี้ระวังข้างบ้านเขาจะไม่ปลื้มนะครับ
มีข้อมูลเพิ่มเติมค่ะ นกแก้วคอนนัวร์ตัวนี้ จามไม่มีน้ำมูกนะคะ จามแห้งๆ ไม่ค่อยบ่อยค่ะ ส่วนอึ ตอนเช้าอึแรกจะเปงสีเขียว พอเรื่องสายๆก็จะเปงสีน้ำตาลค่ะ
อ้างถึงKomeporN เป็นผู้เขียน:
มีข้อมูลเพิ่มเติมค่ะ นกแก้วคอนนัวร์ตัวนี้ จามไม่มีน้ำมูกนะคะ จามแห้งๆ ไม่ค่อยบ่อยค่ะ ส่วนอึ ตอนเช้าอึแรกจะเปงสีเขียว พอเรื่องสายๆก็จะเปงสีน้ำตาลค่ะ
ขอข้อมูลเพิ่มเติม เช่น
1. ลูกนก หรือนกโต ( อายุประมาณเท่าไหร่ )
2. ถ้ายังลูกนก ป้อนอาหารวันละกี่ครั้ง และป้อนวิธีการใด
3. เรื่องชอบอาบน้ำ นกแก้วทุกตัวชอบครับ แต่ต้องพยายามให้โดนแดดบ้าง ( แดดยามเช้า ไม่ควรให้โดนแดดเที่ยง หรือบ่ายครับ )
กรณีนกกินอาหารน้อย ถ้าเป็นลูกนกที่ขนเริ่มเต็มแล้ว จะเริ่มกินอาหารน้อยลง และต้องให้อาหารสดเสริมช่วยน๊ะครับ
กรณีนกนอนพอ หรือไม่พอ ไม่ใช่ประเด็นสำคัญครับ ถ้าคุณหมอบอกผมแบบนี้ หุหุ ผมไม่แวะไปหาแล้วขอรับกระผม
ปล. อาการจาม เกิดขึ้นได้หลายสาเหตุด้วยกัน อาจจะเคยสำลักอาหาร มีสิ่งแปลกปลอมเข้าไปติดในโพรงจมูก อากาศเปลี่ยนแปลง เป็นหวัด และอื่น ๆ ครับ
อ้างถึงKomeporN เป็นผู้เขียน:
มีข้อมูลเพิ่มเติมค่ะ นกแก้วคอนนัวร์ตัวนี้ จามไม่มีน้ำมูกนะคะ จามแห้งๆ ไม่ค่อยบ่อยค่ะ ส่วนอึ ตอนเช้าอึแรกจะเปงสีเขียว พอเรื่องสายๆก็จะเปงสีน้ำตาลค่ะ
:roll: :roll: :roll:
อ้างถึงKomeporN เป็นผู้เขียน:
ขอบคุณทุกท่านมากค่ะ ก็เสียใจนิดๆ แต่คิดว่าดีกว่ามันไปตายในมือคนขายนกอ่ะค่ะ เพราะได้ข่าวมาว่าคนขายนะ พอมีนกที่เริ่มขายไม่ออกคือเปงโรคอ่ะค่ะก็จะปล่อยมันตายไม่ก็โยนทิ้งเลยค่ะ ข้อเท็จจริงข้อนี้ดิฉันไม่ทราบแน่ชัดนะคะ แต่ได้ยินแม่บอกว่าเช่นนี้ค่ะ
ครับ ลูกนกไทย ที่ถูกจับมาจากธรรมชาติ หรือมาจากแหล่งประเทศเพื่อนบ้าน กว่าจะถูกจับ รวบรวม และส่งมาเป็นทอด ๆ จนมาถึงมือพ่อค้าในกรุงเทพฯ ล้วนแล้ว คงใช้เวลาในการสะสมยอดพอสมควร การป้อน การดูแล คงไม่เป็นไปตามสุขลักษณะอันพึงป้อนสำหรับ ลูกนกปากขอขนาดเล็กน๊ะครับ
กระทั่งอาหารการกิน และเทคนิคการป้อน ลูกนแตกต่างจากแหล่งที่มา แตกต่างที่รังที่เกิด อาจจะมีโรคภัยไข้เจ็บแอบแฝง เมื่อเข้ามาอยู่รวมกันเยอะ ๆ ตัวไหนแข็งแรง ก็รอดอยู่ได้นาน ตัวไหนไม่แข็งแรงก็ตายไป การรักษา คงไม่เข้มงวด และรักษาให้หายขาดหรอกครับ เมื่อตัวไหนมีลักษณะที่อ่อนเพลีย ก็อาจจะแบ่งเก็บเอาไว้ในรังอีกใบนึง ไม่เอาออกมาขายคงเพราะว่าเดี๋ยวลูกค้าจะดูรู้ว่าลูกนกไม่แข็งแรง และจะทำให้ดูเสมือนว่าลูกนกตัวอื่น ๆ คงติดกัน พลอยจะทำให้ขายไม่ได้ เมื่อตายก็แค่ทิ้งไป แม้จะขุดหลุมกลบก็ไม่มีน๊ะครับ
อันนี้เป็นศัจธรรมของผู้ค้าสัตว์ป่าอยู่แล้วขอรับกระผม เศร้าใจมาก มันจะถูกเลี้ยงให้โตเพื่อการสืบพันธุ์วางไข่ เพาะขยาย่ต่อไปในภายภาคหน้า คงมีเพียงไม่กี่เปอร์เซนต์จากจำนวนลูกนกที่ถูกจับมาขาย น๊ะขอรับกระผม :-? :-? :-? :-? :-?
อ้างถึงC.tan เป็นผู้เขียน:
อ้างถึงKomeporN เป็นผู้เขียน:
มีข้อมูลเพิ่มเติมค่ะ นกแก้วคอนนัวร์ตัวนี้ จามไม่มีน้ำมูกนะคะ จามแห้งๆ ไม่ค่อยบ่อยค่ะ ส่วนอึ ตอนเช้าอึแรกจะเปงสีเขียว พอเรื่องสายๆก็จะเปงสีน้ำตาลค่ะ
:roll: :roll: :roll:
เจอตรวจสอบภาษาไทยอีกแล้วขอรับกระผม อิ อิ
ดีน๊ะเนี่ยเป็นคนพิมพ์เร็ว พิมพ์เยอะแต่ไม่ค่อยผิด หุหุ รอดตัวไปขอรับกระผม :-o :-o :lol: :-D
ขอบคุณมาค่ะสำหรับคำแนะนำ แต่เรื่องตวรจสอบภาษาไทยเนี่ย เปงข้อผิดพลาดทางเทคนิคค่ะ ต้องขอออภัยอย่างยิ่ง
:roll: :roll: :roll:
อ้างถึงอ้างถึง:
มีข้อมูลเพิ่มเติมค่ะ นกแก้วคอนนัวร์ตัวนี้ จามไม่มีน้ำมูกนะคะ จามแห้งๆ ไม่ค่อยบ่อยค่ะ ส่วนอึ ตอนเช้าอึแรกจะเปงสีเขียว พอเรื่องสายๆก็จะเปงสีน้ำตาลค่ะ
หนูม่ายรุ หนูมาววว :pint:
คุณ KomeporN จากอาการดังกล่าวท่านผู้อาวุโส สันนิฐานไว้ว่า ลูกนกแก้วที่ตายไป มีอาการขนฟู ชัก เกรง เท้าหงิก หากส่วนขี้ที่ออกมา เป็นน้ำ ๆ เขียว ๆ ก็น่าจะเป็นโรคคลามัยเดีย หรือ ไข้หวัดนกแก้ว นะขอรับกระผม
ระวังลูก Sun ที่อยู่ที่บ้านจะมีโอกาสติดเชื้อนี้ได้น๊ะขอรับกระผม
ขอบคุณครับ
เพื่อการป้องกันโรคที่พี่โด้ว่า คุณKomeporN ควรจะทำความสะอาดกรง ภาชนะ วัสดุอุปกรณ์ที่ใช้กับนก ให้สะอาดนะครับ ให้ดีก็ย้ายห้องไปสักอาทิตย ์เพื่อป้องกันการติดเชื้อนะครับ
ค่ะ เจ้านกแก้วโมงตัวที่ตายอ่ะค่ะ น้องชายได้ไปสอบถามแถวร้านที่ซื้อนกมาย่านจตุจักรค่ะ ทราบมาว่านกเป็นโรคนิวคราสเซิล เพราะอาการที่น้องชายบอกและคนขายบอกตรงกันเปี๊ยบเลยค่ะ และก็หลังจากหาข้อมูลแล้ว ก็อึ้งไปเลยค่ะเพราะโรคนิวคราสเซิลเป็นโรคติดต่อร้ายแรงชนิดหนึ่งมักจะระบาดในสัตว์ปีก โดยเฉพาะเป็ดไก่ สร้างความเสียหายอย่างมาก และที่น่าตกใจตอนค้นหาข้อมูลเพราะโรคนี้มันเกี่ยวกับไข้หวัดนก อ่านข้อมูลแล้วงงๆ+ตกใจมากๆ แล้วคนที่บ้านเราจะรอดกันไหม ตอนนี้เวลาผ่านมาอาทิตย์คนที่บ้านไม่มีอาการไจ้หวัดจึงทราบว่าไม่ใช่ไข้หวัดนกที่ระบาดในคนได้ค่ะ (โล่งอก) แต่สงสรมันที่ต้องมาตายนั่นแหละค่ะ และก็ขอบคุณสำหรับทุกคำแนะนำนะคะ
นิวคราสเซิล ไม่ใช่ไข่หวัดนกน๊ะครับ ไม่ติดถึงคนน๊ะขอรับกระผม
แต่จากที่ท่านผู้อาวุโส ท่านสันนิฐาน อย่างที่กล่าวไปแล้วว่า อาจจะเป็นไข้หวัดนกแก้ว (คลามัยเดีย)
ลองดูครับกระผม
ถ้าเป็นนิวคาสเซิ้ล หมอที่เกษตร หรือ สัตว์แพทย์ทั่วไปต้องรู้จักครับ เพราะเป็นโรคที่ทุกคนต้องเรียนมา และอาการมันชัดเจนมากตรงที่หัว/คอ จะบิด ระบบประสาทจะถูกทำลาย นกจะทรงตัวไม่ได้ จะหมุนๆตัวไปจนล้มลง
ที่คุณ C.tan บอกอ่ะค่ะ มีอาการตรงกับนกแก้วโม่งที่ตายค่ะ มันเป็นอัมพาตทั้งตัว เริ่มจากอาการเกร็งที่ขาและปีก ลามมาที่คอ มีอาการคอบิด ไม่สามารถยืนทรงตัวได้ ก็เลยวางมันให้อยู่ในท่าที่นอนสบายที่สุด ที่มาอัมพาตก็ลามมาที่ปาก และตายในที่สุดค่ะ
แต่อาการนี้ปรากฏหลังจากที่พานกไปหาหมอแล้วอ่ะค่ะ หมอจึงไม่ทราบว่ามันเป็นอาการนี้ด้วย
ขอบคุณ คุณKomeporn ครับ ที่กรุณาให้ข้อมูลเพิ่มเติม
นิวคลาสเซิ้ล อาการจะเริ่มที่หัวก่อนครับ เริ่มหัวปิด คอบิด ตัวจะหมุนๆๆตามส่วนที่บิดไป หมุนจนล้มลง
ส่วน คลามัยเดีย ในระยะสุดท้าย ระบบประสาทจะถูกทำลายเช่นกัน แต่เป็นที่ช่วงล่างก่อน โดยจะเริ่มเป็นอัมพาตที่ขา นิ้วเท้าจะหงิกงุ้ม ยืนไม่ได้
และอาการแรกเริ่มที่เห็นได้ชัดคือ ขี้ที่ออกมา ส่วนน้ำจะเป็นสีเขียว ซึ่งเป็นสีของน้ำดีครับ
และคลามัยเดีย สามารถติดต่อถึงคนได้ด้วย หากสมาชิกในบ้านมีอาการป่วยในระยะนี้ ขอให้แจ้งให้แพทย์ทราบด้วย สามารถรักษาให้หายได้ครับ
ชักไม่แน่ใจแล้วค่ะ คนในบ้านก็มีป่วยกันบ้าง คิดว่าเป็นการป่วยเพราะสภาพอากาศมากกว่าค่ะ ช่วงนี้อากาศแปรปรวนอยู่ด้วย แต่ก็มีอาการปวดหัวหนัก 2 วันหลังจากนกเริ่มป่วยนะคะ ส่วนน้องชายปวดหน้าอกบ้างค่ะ
อาการติดเชื้อไข้หวัดนกแก้ หรือ คลามัยเดีย หรือ ซิสตาโคซีส จะเริ่มต้นด้วยการปวดหัว คล้ายๆกับโรคไข้หวัดใหญ่ครับ รักษาหาย รักษาไม่ยากครับ
แต่เมื่อเป็นอยู่แค่สองวัน แล้วก็หายไป ก็คงไม่ใช่นะครับ
ส่วนน้องชาย ที่มีอาการเจ็บปวดหน้าอก สาเหตุมาจากสาวไม่รักหรือเปล่าเอ่ยยย....
:-D
ไปหาข้อมูลในเน็ทเกี่ยวกับ คลามัยเดีย แล้วพบว่าเป็นเชื้อโรคชนิดหนึ่งแต่รายละเอียดมีไม่ชัดนัก จึงใคร่ถามผู้ชำนาญทั้งหลายว่าคลามัยเดียนี่เกิดมาได้ยังไง และมีอาการของโรคยังไงนอกจากท่านผู้รู้ได้อธิบายข้างต้นมาแล้ว เพราะหาข้อมูลยังไงก็หาไม่เจอ ส่วนอาการปวดหัวหนักของตัวผู้โพสต์เองก็ยังไม่หายคะ ยังเป็นอยู่พอทรงอาการได้
อ้างถึงKomeporN เป็นผู้เขียน:
ไปหาข้อมูลในเน็ทเกี่ยวกับ คลามัยเดีย แล้วพบว่าเปงเชื้อโรคชนิดหนึ่งแต่รายละเอียดมีไม่ชัดนัก จึงใคร่ถามผู้ชำนาญทั้งหลายว่าคลามัยเดียนี่เกิดมาได้ยังไง และมีอาการของโรคยังไงนอกจากท่านผู้รู้ได้อธิบายข้างต้นมาแล้ว เพราะหาข้อมูลยังไงก็หาไม่เจอ ส่วนอาการปวดหัวหนักของตัวผู้โพสต์เองก็ยังไม่หายคะ ยังเป็นอยู่พอทรงอาการได้
สงสัยจะชินกับการพิมพ์ว่า เปง มาเอาใจช่วยให้พิมพ์ให้ถูกนะครับ :-)
แก้ไขคำผิดแล้วนะคะพอดีชินกะในMsnมากไปหน่อย
โรคคลามัยเดียจากที่หามาใช่ลักษณะดังนี้รึเปล่าคะ
โรคคลาไมดิโอซีส ( Chlamydiosis )
หมายถึง โรคที่เกิดจากเชื้อ คลาไมเดีย ( chlamydia ) ซึ่งมีคุณสมบัติเป็นแบคทีเรียมากกว่าไวรัส แต่เดิมโรคนี้มี 2 ชื่อ คือ ซิตตาโคซีส ( psittacosis ) เป็นโรคที่เกิดขึ้นในคนและนกพวก ซิตตาซิน ( psittacine ) เช่น นกแก้ว นกหงส์หยก เป็นต้น ส่วนออนิโทซีส ( ornithosis ) เป็นโรคที่เกิดขึ้นในนกอื่นๆ ที่ไม่ใช่พวกซิตตาซิน แต่ทั้งคู่ก็เกิดจากเชื้อเดียวกัน ดังนั้น จึงเรียกโรคทั้งสองว่า คลาไมดิโอซีส และจัดอยู่ในกลุ่มของโรคที่เกิดจากแบคทีเรีย
สาเหตุ ( Etiology )
เกิดจากเชื้อ คลาไมเดีย ซิตตาไซ ( Chlamydia psittaci ) ซึ่งเป็นแบคทีเรียที่อาศัยอยู่ในเซลล์ เชื้อนี้จะแพร่กระจายทางอากาศ ตามปกติจะเกิดขึ้นในระหว่างการเลี้ยง การฆ่าสัตว์ปีก และจากนกที่เลี้ยงตามบ้าน เช่น นกแก้ว และ นกหงส์หยก เป็นต้น ในคนจะทำให้เกิด เอทีปปิคอลนิวโมเนีย ( atypical pneumonia )
อาการ ( Symptoms ) และ รอยโรค ( Lesion ) ขึ้นอยู่กับความรุนแรงของเชื้อ
พวกที่เกิดจากเชื้อชนิดรุนแรง มีอาการเบื่ออาหาร อุณหภูมิร่างกายสูง( 41 -43 เซลเซียส ) หลับใน และมีอุจจาระ เป็นเจลลาตินสีเขียวปนเหลือง ผลสุดท้ายจะซึมมากและตาย เวลาผ่าซาก ซากจะ ที่เห็นเด่นชัดคือ หัวใจขยายใหญ่ มีแผ่นไฟบรินเกาะรอบๆ เยื้อหุ้มหัวใจหนา และมีเลือดคั่งพร้อมกับมีไฟบรินนัสเอ็กซูเตต ( fibrinous exudate ) ปอดมีสีแดงเข้มและมีไฟบรินนัสเอ็กซูเดต
พวกที่เกิดจากเชื้อชนิดรุนแรงน้อย ส่วนมากเป็นแบบ เรื้อรัง จะมีอาการเบื่ออาหารเล็กน้อย หลับใน และมัก จะแพร่เชื้อเป็นวงจรจากพ่อแม่ ไปยังลูก จะตายเป็นจำนวนมาก ส่วนตัวที่รอดจะไม่แสดงอาการแต่จะเป็นพาหะนำโรค
การวินิจฉัยโรค ( Diagnosis )
การวินิจฉัยต้องอาศัยการทดสอบในห้องปฎิบัติการ โดยการทำอิมเพรสชันสเมียร์จากเอ็กซูเดตที่ได้จากเยื้อหุ้มหัวใจ ตับ และอวัยวะอื่นๆ แล้วย้อมด้วยสี จิมซา ตรวจหา อินตราไซโตพลาสมิกคลาไมเดีย ( intra cytoplasmIc chlamydia ) ซึ่งมีลักษณะกลม ส้นผ่าศูนย์กลางน้อยกว่า 0.5 ไมครอนและอยู่รวมกันเป็นกลุ่ม
การรักษา ( Treatment )
ยาที่ได้ผลดีคือ คลอเตตราไซคลินและเตตราไซคลินชนิดอื่นๆ ยาเหล่านี้ใช้มนขนาด 200 - 400 กรัม สมอาหาร 1 ตัน เป็นเวลา 3 สัปดาห์ อย่างไรก็ดียานี้สามารถทำลายเชื้อได้หมดทีเดียว
การป้องกันและควบคุม ( Prevention and control )
เมื้อพบโรคนี้จะต้องควบคุม การแพร่กระจายของเชื้อ เชื้อนี้จะฆ่าได้ง่ายโดยยาฆ่าเชื้อโรคพวกฟีนอลและฟอร์มาลดีไฮด์ และทำให้พื้นชื้นเพื่อป้องกันการแพร่กระจายไปกับฝุ่นละออง
.