สำนึกจากธรรมชาติ
วันนี้นั่งป้อนลูกนกตัวน้อยๆ ที่เกิดมาจากใข่ใบน้อยๆ จนเติบใหญ่เป็นนกที่เกือบสมบูรณ์ ก็ภูมิใจอยู่ไม่น้อยที่เราสร้างชีวิตให้เขาเกิดมาดูโลกที่ วุ่นวายและอันตรายนี้ แต่เราก็เห็นแก่ตัวที่ให้เขาเกิดมาเป็นของเล่นของเราหรือเปล่า ?//เราไม่ใช่พ่อแม่เขา เราขโมยไข่เขามา เราใช้ สลิ้ง ป้อนเขาซึ่งมันก็ผิดธรรมชาติ เขาเห็น สลิ้ง คืออาหาร แทนที่จะเป็นปากแม่อันอบอุ่น เราไม่เคยสอนให้เขารู้ว่าเขาจะเป็นนกที่ดีได้ยังไง จะเป็นพ่อแม่ที่ดีต่อไปยังไง เรากำลังทำร้ายธรรมชาติเพราะการเห็นแก่ตัว ที่มาพูดถึงนี้ เพราะทุกวันนี้เราควักไข่นกมาป้อนมาขาย และเราไม่สามารถส่งนกคืนสู่ความเป็นนกได้ นอกจาก จะต้องมีคนดูแลตลอดไป นกที่จับคู่ มีลูกเลี้ยงลูกไม่เป็น ปัญญหานี้จะเกิดมากขึ้น และนกก็จะไม่เป็นนกนอกจากเป็นของเล่นในกรงแคบๆ ผมอยากขอความเห็นว่าในที่นี้ใครเห็นด้วยและไม่เห็นด้วย และมีความรู้สึกอย่างไร เหมือนอย่างที่ผมเป็นใหม๋.....???????
กินเจ นะครับจะได้ ๆ บุญบ้างไหน ๆ ก็ทำบาปไปแล้วไม่ต้องกลัวครับตกนรกไปเค้ามีชั้น ชุมชนคนรักนกไว้รองรับครับ
ของแบบนี้พูดได้ เถียงกันไปก็ไม่จบสิ้นหรอกครับ ก็เหมือนกับกินใข่ไก่นั่นแหละครับ คนทั่วโลก ใครก็กิน เอาใข่เค้ามาทั้งนั้น โอ้.... บาปทุกคน เพราะฉะนั้นช่วงนี้ กินเจ ครับได้บุญผมก็คนหนึ่งที่กินครับ
ตัวอย่าง วิจัยจากมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ แจ้งว่า
ปีที่แล้ว ชาวญี่ปุ่น บริโภคไข่ไก่เฉลี่ย 348 ฟอง/คน/ปี คนฮ่องกง กินไข่ 210 ฟอง/คน/ปี ชาวจีน บริโภค 270 ฟอง/คน/ปี ชาวมาเลเซีย 246 ฟอง/คน/ปี อเมริกัน 235 ฟอง/คน/ปี และ ชาวสิงคโปร์ บริโภคเฉลี่ย 280 ฟอง/คน/ปี
ส่วน คนไทย บริโภคไข่ไก่เฉลี่ยขึ้น-ลงอยู่ระหว่าง 145-165 ฟอง/คน/ปี
คนไทย 1 คน ทำร้ายดวงใจของแม่ไก่ 145-165 ครั้งต่อปี ต่อคนครับ
อ้างอิงจาก http://vivaldi.cpe.ku.ac.th/~note/event/?id=516670
ใจเย็น ๆ
[youtube=425,350]http://www.youtube.com/watch?v=hIn4GEH1lQg[/youtube]
โอ้ว...ผมกินไข่วันละ3-5ฟอง เฉลี่ยปีละพันกว่าฟอง แม่ไก่คงไม่ให้อภัยผมแน่ครับผมคงต้องรับกรรมที่ทำไว้ หรือเป็นพราะกรรมนำมาเกิด แต่ก็ไม่รู้ว่าทำไมต้องเกิดมารักนกด้วย สงสัยเป็นกรรมร่วมกันมา แล้วอีกอย่างก็เป็นกรรมของนกด้วยครับ ที่เกิดมาหน้าตาน่ารัก น่าเอ็นดู แบบว่าดูยังงัยก็ไม่เบื่อ ยิ่งดูก็ยิ่งรัก
คงเป็นกรรมเก่า ที่ทำให้เรามาเลี้ยงนก (ก็อยากเลี้ยงนักศึกษาสาวสาวขาวขาวอยู่เหมือนกัน)แต่ไม่ไหว ดูยังงัยยังงัยก็ไม่น่ารักเท่านก ก็เลยหันมาเลี้ยงแต่นก เลี้ยงแล้วก็เลยเลี้ยงให้ดีที่สุด อาหารดี น้ำดี ไม่มีขาด บรรยากาศดี ให้นกมีสังคมของเขา มีความปลอดภัยในชีวิต แต่ถ้านกต้องไปอยู่กันคนอื่น ถ้าเขาเลี้ยงไม่ดีก็ถือว่าเป็นกรรมของนกตัวนั้นนั้นครับ
ยกตัวอย่างครับ หมาบางตัวได้รับการเลี้ยงดูดียิ่งกว่าคน แต่บางตัวก็ถูกปล่อยวัดบ้าง อดหิวโซ หิวตาย รถทับตาย เป็นขี้เรื้อนตายบ้าง นกก็เหมือนกันครับบางตัวก็มีความเป็นอยู่ที่ดี บางตัวอยู่แบบ คนเห็นแล้วสงสัยว่า รอดได้งัย
ทำไมอยู่ได้ สรุปเป็นกรรมของนกด้วยครับที่ได้มาอยู่กับเรา คราวนี้ก็ขึ้นอยู่กับเราครับว่า จะดูแลเขาได้ดีขนาดไหน ให้เขามีความสุขได้มากเท่าไหนครับ
โชคดี พอดีเนื้อที่และเงินพอมีกินมีใช้
เลยทำกรงกรงกว้างหน่อย ได้กินดีอยู่ดี วันละ 3 มื้อ
นกผมกินวันละ3มื้อเหมือนกัน แต่ตัวผมเองสิ กินวันละแค่2มื้อเอง กินดีกินบ่อยกว่าผมอีกเนี่ย
อย่าซีเรียสมากนักครับสำหรับเรื่องนี้ เรื่องที่ป้อนอาหารจากไซริ้งค์ด้วย ขนาดคนเรายังดูดนมจากจุกขวดนมเลย ไม่ค่อยได้ดูดนมจากเต้ากันสักเท่าไหร่หรอก นมที่กินก็เป็นนมวัว ยุคสมัยมันเปลี่ยนไปแล้ว อย่าซีเรียสครับ
สงสัยต่อไปกินไข่ก็ต้องคิดอีกแล้วล่ะคะ
ทุกวันนี้ เคี้ยวแต่ผักแต่หญ้า บุญเหลือล้น
เฮ้อ...นกที่บ้านหนูกินแพงกว่าบางมื้อของหนูซะอีก
คิดแบบนี้ก็เลิกกินไก่เถอะครับ เพราะว่า
[youtube=425,350]http://www.youtube.com/watch?v=JJ--faib7to[/youtube]
กลุ่มพิทักษ์สิทธิสัตว์ในสหรัฐเปิดวิดีโอเทปตีแผ่ วิธีการฆ่าสุดโหดของนายทุนโรงฟักไข่ ที่จับลูกไก่ตัวผู้ที่ไร้ประโยชน์เข้าเครื่องบดเป็นๆ จนตาย ชี้อาจเป็นอุตสาหกรรมที่โหดเหี้ยมที่สุดในโลก พร้อมรณรงค์คนเลิกกินไข่ ผู้ประกอบการและสหภาพผู้ผลิตไข่ไก่ยันเป็นหลักปฏิบัติตามมาตรฐานที่วงการ สัตวแพทย์และวิทยาศาสตร์ยอมรับ
รายงานข่าวแจ้งเมื่อวันที่ 2 กันยายน ว่า เมอร์ซี ฟอร์ แอนิมอล กลุ่มพิทักษ์สิทธิสัตว์ในนครชิคาโก สหรัฐอเมริกา ออกมาตีแผ่ความเหี้ยมโหดที่เกิดขึ้นในอุตสาหกรรมเลี้ยงไก่เพื่อฟักไข่ใน ประเทศสหรัฐเมื่อต้นสัปดาห์นี้ โดยการนำวิดีโอเทปที่มีการบันทึกภาพเอาไว้อย่างลับๆ ที่โรงฟักไข่แห่งหนึ่งในเมืองสเปนเซอร์ รัฐไอโอวา ออกเผยแพร่ ซึ่งเผยให้เห็นภาพลูกไก่ตัวผู้ที่ถูกคัดเลือกทิ้งเพราะเห็นว่าไม่มีประโยชน์ เนื่องจากออกไข่ไม่ได้หรือโตไม่ทันที่จะมีเนื้อมากพอที่จะนำไปขายให้ได้กำไร นั้น ถูกจับโยนใส่เครื่องบดเป็นๆ จนตาย ซึ่งกลุ่มพิทักษ์สัตว์ชี้ว่า การเลี้ยงไก่เพื่อฟักไข่อาจเป็นอุตสาหกรรมที่โหดเหี้ยมที่สุดในโลกก็เป็นได้
ภาพ ดังกล่าวถูกแอบถ่ายโดยกล้องวิดีโอที่เจ้าหน้าที่ของกลุ่มเมอร์ซีฯที่ได้เข้า ทำงานและแอบไปติดตั้งกล้องเอาไว้ภายในโรงฟักไข่ของบริษัท ไฮ-ไลน์ นอร์ธ อเมริกา ผู้ผลิตไข่รายใหญ่ของสหรัฐที่มีสำนักงานใหญ่อยู่ในเวสต์ ดีมอยส์ และมีฐานการผลิตอยู่หลายแห่งในรัฐไอโอวา โดยเป็นการบันทึกภาพเอาไว้เมื่อเดือนพฤษภาคมและมิถุนายนที่ผ่านมา เผยให้เห็นคนงานของบริษัทไฮ-ไลน์กำลังคัดกรองลูกไก่ที่ผ่านมาตามสายพานว่า ตัวไหนผ่านหรือไม่ผ่านเกณฑ์ว่ายังมีประโยชน์อยู่ โดยลูกไก่ตัวผู้ที่ไม่ผ่านเกณฑ์ถูกจับหย่อนใส่เครื่องบดทั้งเป็นๆ อีกภาพหนึ่งเผยให้เห็นลูกไก่นอนตายอยู่บนพื้นโรงงานท่ามกลางกองเปลือกไข่ที่ หล่นมาจากเครื่องคัดกรอง และอีกภาพเป็นลูกไก่ที่ยังมีชีวิตอยู่แต่มีแผลพุพองนอนอยู่บนพื้น หลังจากถูกจับผ่านเข้าเครื่องทำความสะอาด
นายนาธาน รันเคิล ผู้อำนวยการบริหารของกลุ่มเมอร์ซีฯ แถลงต่อผู้สื่อข่าวที่เมืองดีมอยส์ว่า เราต้องถามตัวเองว่าหากมีการจับลูกสุนัขหรือแมวโยนใส่เครื่องบดเช่นนี้บ้าง เราจะยอมรับได้หรือไม่ ซึ่งตนไม่คิดว่าคนส่วนใหญ่จะรับได้ นายรันเคิลยังยอมรับว่าเป้าหมายของกลุ่มตนที่เคลื่อนไหวครั้งนี้ก็เพื่อต้อง การให้คนเลิกบริโภคไข่ ซึ่งเขาเชื่อว่าหลายคนคงจะไม่บริโภคไข่ไก่ถ้าล่วงรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับลูก ไก่เหล่านั้น
นายทอม เจอร์เกนเซน โฆษกบริไฮ-ไลน์ กล่าวว่า วิดีโอเทปดังกล่าวได้เผยการกระทำที่ไม่เหมาะสมและเป็นการละเมิดนโยบายว่า ด้วยความปลอดภัยของสัตว์ ซึ่งเจอร์เกนเซนหมายถึงภาพที่มีลูกไก่อยู่บนพื้นโรงงาน อย่างไรก็ตาม โฆษกของไฮ-ไลน์กล่าวว่า วิธีการฆ่าลูกไก่ดังกล่าวเป็นไปตามหลักปฏิบัติตามมาตรฐานที่วงการสัตวศาสตร์ และวิทยาศาสตร์ยอมรับ อย่างไรก็ดี ทางบริษัทกำลังสอบสวนในเรื่องนี้และจะมีการเปิดเผยผลการสอบสวนต่อไป
ด้าน โฆษกสหภาพผู้ผลิตไข่ของสหรัฐระบุว่า กลุ่มเมอร์ซีฯเป็นกลุ่มที่ไม่มีความน่าเชื่อถือและมีแรงจูงใจที่น่าสงสัย เพราะกลุ่มนี้ต้องการให้มีการเลิกบริโภคไข่ และว่า ไม่มีทางเป็นไปได้ที่จะเลี้ยงไข่ที่ฟักเป็นไก่ตัวเมียเพื่อให้ผลผลิตไข่ไก่ ได้เท่านั้น
ทั้งนี้ กลุ่มเมอร์ซีฯประมาณการว่ามีลูกไก่ตัวผู้ถูกฆ่าทิ้งในปริมาณมากถึง 200 ล้านตัวต่อปี โดยตัวเลขดังกล่าวตรงกับการประมาณการของสหภาพผู้ผลิตไข่ของสหรัฐ (เอพี)
ไก่อร่อยมั๊ยครับ
นกตัวไหนเปนนกผมโชคดีมาก
อยู๋ห้องแอร์
กินดีอยู๋ดีทุกมื้อ
อิอิ
จะผิดธรรมชาติ
หรือ
ไม่ผิดธรรมชาติ
ผมไม่รู้
แต่ว่า ซื้อเค้ามาแร้ว ก้อรักเค้า ดูแลเค้าให้ดีเหมือนพ่อแม่เค้าก้อพอแร้ว
กำ
ดูคลิบฆ่าลูกเจี๊ยบหดหู่จัง
-*-
แต่คลิบฆ่าหมูฆ่าวัวโหดกว่ามาก
แต่ดีตอนนี้กินเจอยู่
หึหึ
ถามว่า มี พระ องค์ นึง มี คนขายปลา คนนึง มี คนรอ ตักบาตรพระ คนนึง คนรอตักบาตร ได้สั่ง ปลาจาก คนขายปลา เพื่อ จะเอาไปตักบาตรพระ คนขายปลาก็ จัดการ ทุบหัว ขอดเกล็ด จนเสร็จ คนรอตักบาตร ก็ได้นำปลานี้ไปถวายพระ ถามว่า ใคร บาป ครับ ???
พระบาป เพราะถ้าพระไม่ผ่านมา ปลาตัวนี้คงไม่ต้องตาย (เป็นพระต้องฉันท์ไหมครับ)
คนขายปลาบาป เพราะถ้าคนขายปลาไม่ทำปลา ปลาคงไม่ต้องตาย (คนขายปลามีลูกเมียต้องเลี้ยงหาเลี้ยงปากท้องตัวเอง จากการขายปลา ขายไม่ได้ ลูกเมียเอาข้าวสารที่ไหนกรอกหม้อครับ)
คนรอตักบาตรบาป เพราะถ้าคนรอตักบาตรไม่สั่งปลาจากคนขายปลา ปลาคงไม่ต้องตาย (คนตักบาตรก็ รอที่จะ ถวายปลาแก่พระ เพื่อหวังจะได้บุญกุศล ที่ถวายอาหารให้พระฉันท์)
ใคร บาป ครับ ??????????????????????????????
เรื่อง นก ท่านต้อง ทำความเข้าใจกับคำว่า "สัตว์เลี้ยง" ครับ
ซึ่ง สุนัข แมว ก็เป็นสัตว์เลี้ยงครับ การเลี้ยง สุนัข ถ้าเปรียบแบบนี้แล้ว คงไม่ต่างจากการเลี้ยง นกเท่าไร มั้งครับ
อย่างงี้ถ้า บ้านใคร เลี้ยงสุนัข ก็คง เป็น พวกขโมย ลูกของสุนัขมาเลี้ยง จากแม่สุนัข รึครับ ??? ฟังดู แปลกๆชอบกล ??? ครับ
โดยผมคิดเห็นว่า ถ้า "ผู้เลี้ยง" ดูแล "สัตว์เลี้ยง" ของตัวเองได้ดีไม่ขาดตกบกพร่องแล้ว มันคงไม่ได้เป็นการผิดอะไร ที่เรา จะเลี้ยง สัตว์เลี้ยง จริงไหมครับ
ลูกไก่ออกจะน่ารัก ประเทษยิ่งเจริญไม่น่าเชื่อจิตใจมนุษย์ช่างต่ำลง เห็นแล้วอดสงสารไม่ได้ มีโอกาสเกิดได้หายใจแต่ไม่มีโอกาสเติบโต ถ้าตายตอนเป็นไข่มันคงดีกว่า
น่าสงสารจริงๆ ไปดีเถอะนะเจ้าไก่เอ้ย
อ้างถึงplatalay เป็นผู้เขียน:
คิดแบบนี้ก็เลิกกินไก่เถอะครับ เพราะว่า
[youtube=425,350]http://www.youtube.com/watch?v=JJ--faib7to[/youtube]
กลุ่มพิทักษ์สิทธิสัตว์ในสหรัฐเปิดวิดีโอเทปตีแผ่ วิธีการฆ่าสุดโหดของนายทุนโรงฟักไข่ ที่จับลูกไก่ตัวผู้ที่ไร้ประโยชน์เข้าเครื่องบดเป็นๆ จนตาย ชี้อาจเป็นอุตสาหกรรมที่โหดเหี้ยมที่สุดในโลก พร้อมรณรงค์คนเลิกกินไข่ ผู้ประกอบการและสหภาพผู้ผลิตไข่ไก่ยันเป็นหลักปฏิบัติตามมาตรฐานที่วงการ สัตวแพทย์และวิทยาศาสตร์ยอมรับ
รายงานข่าวแจ้งเมื่อวันที่ 2 กันยายน ว่า เมอร์ซี ฟอร์ แอนิมอล กลุ่มพิทักษ์สิทธิสัตว์ในนครชิคาโก สหรัฐอเมริกา ออกมาตีแผ่ความเหี้ยมโหดที่เกิดขึ้นในอุตสาหกรรมเลี้ยงไก่เพื่อฟักไข่ใน ประเทศสหรัฐเมื่อต้นสัปดาห์นี้ โดยการนำวิดีโอเทปที่มีการบันทึกภาพเอาไว้อย่างลับๆ ที่โรงฟักไข่แห่งหนึ่งในเมืองสเปนเซอร์ รัฐไอโอวา ออกเผยแพร่ ซึ่งเผยให้เห็นภาพลูกไก่ตัวผู้ที่ถูกคัดเลือกทิ้งเพราะเห็นว่าไม่มีประโยชน์ เนื่องจากออกไข่ไม่ได้หรือโตไม่ทันที่จะมีเนื้อมากพอที่จะนำไปขายให้ได้กำไร นั้น ถูกจับโยนใส่เครื่องบดเป็นๆ จนตาย ซึ่งกลุ่มพิทักษ์สัตว์ชี้ว่า การเลี้ยงไก่เพื่อฟักไข่อาจเป็นอุตสาหกรรมที่โหดเหี้ยมที่สุดในโลกก็เป็นได้
ภาพ ดังกล่าวถูกแอบถ่ายโดยกล้องวิดีโอที่เจ้าหน้าที่ของกลุ่มเมอร์ซีฯที่ได้เข้า ทำงานและแอบไปติดตั้งกล้องเอาไว้ภายในโรงฟักไข่ของบริษัท ไฮ-ไลน์ นอร์ธ อเมริกา ผู้ผลิตไข่รายใหญ่ของสหรัฐที่มีสำนักงานใหญ่อยู่ในเวสต์ ดีมอยส์ และมีฐานการผลิตอยู่หลายแห่งในรัฐไอโอวา โดยเป็นการบันทึกภาพเอาไว้เมื่อเดือนพฤษภาคมและมิถุนายนที่ผ่านมา เผยให้เห็นคนงานของบริษัทไฮ-ไลน์กำลังคัดกรองลูกไก่ที่ผ่านมาตามสายพานว่า ตัวไหนผ่านหรือไม่ผ่านเกณฑ์ว่ายังมีประโยชน์อยู่ โดยลูกไก่ตัวผู้ที่ไม่ผ่านเกณฑ์ถูกจับหย่อนใส่เครื่องบดทั้งเป็นๆ อีกภาพหนึ่งเผยให้เห็นลูกไก่นอนตายอยู่บนพื้นโรงงานท่ามกลางกองเปลือกไข่ที่ หล่นมาจากเครื่องคัดกรอง และอีกภาพเป็นลูกไก่ที่ยังมีชีวิตอยู่แต่มีแผลพุพองนอนอยู่บนพื้น หลังจากถูกจับผ่านเข้าเครื่องทำความสะอาด
นายนาธาน รันเคิล ผู้อำนวยการบริหารของกลุ่มเมอร์ซีฯ แถลงต่อผู้สื่อข่าวที่เมืองดีมอยส์ว่า เราต้องถามตัวเองว่าหากมีการจับลูกสุนัขหรือแมวโยนใส่เครื่องบดเช่นนี้บ้าง เราจะยอมรับได้หรือไม่ ซึ่งตนไม่คิดว่าคนส่วนใหญ่จะรับได้ นายรันเคิลยังยอมรับว่าเป้าหมายของกลุ่มตนที่เคลื่อนไหวครั้งนี้ก็เพื่อต้อง การให้คนเลิกบริโภคไข่ ซึ่งเขาเชื่อว่าหลายคนคงจะไม่บริโภคไข่ไก่ถ้าล่วงรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับลูก ไก่เหล่านั้น
นายทอม เจอร์เกนเซน โฆษกบริไฮ-ไลน์ กล่าวว่า วิดีโอเทปดังกล่าวได้เผยการกระทำที่ไม่เหมาะสมและเป็นการละเมิดนโยบายว่า ด้วยความปลอดภัยของสัตว์ ซึ่งเจอร์เกนเซนหมายถึงภาพที่มีลูกไก่อยู่บนพื้นโรงงาน อย่างไรก็ตาม โฆษกของไฮ-ไลน์กล่าวว่า วิธีการฆ่าลูกไก่ดังกล่าวเป็นไปตามหลักปฏิบัติตามมาตรฐานที่วงการสัตวศาสตร์ และวิทยาศาสตร์ยอมรับ อย่างไรก็ดี ทางบริษัทกำลังสอบสวนในเรื่องนี้และจะมีการเปิดเผยผลการสอบสวนต่อไป
ด้าน โฆษกสหภาพผู้ผลิตไข่ของสหรัฐระบุว่า กลุ่มเมอร์ซีฯเป็นกลุ่มที่ไม่มีความน่าเชื่อถือและมีแรงจูงใจที่น่าสงสัย เพราะกลุ่มนี้ต้องการให้มีการเลิกบริโภคไข่ และว่า ไม่มีทางเป็นไปได้ที่จะเลี้ยงไข่ที่ฟักเป็นไก่ตัวเมียเพื่อให้ผลผลิตไข่ไก่ ได้เท่านั้น
ทั้งนี้ กลุ่มเมอร์ซีฯประมาณการว่ามีลูกไก่ตัวผู้ถูกฆ่าทิ้งในปริมาณมากถึง 200 ล้านตัวต่อปี โดยตัวเลขดังกล่าวตรงกับการประมาณการของสหภาพผู้ผลิตไข่ของสหรัฐ (เอพี)
ไม่น่าเอามาให้ดูเลยวุ๊ย? สงสารลูกไก่ครับผม ขนาดตอนไข้หวัดนก ผมดูทีวีเห็นเจ้าหน้าที่จับไก่ใส่ถุงแล้วนำไปฝังทั้งเป็น ผมยังเปลี่ยนช่องหนีเลย สงสารมันครับ
ส่วนคุณkit_sailom ครับ ที่คุณพูดมามันก็ถูก แต่ผมก็กล้าพูดได้ว่า
พี่ฯน้องฯรวมถึงคุณด้วย ก็คงรักนกเหมือนเพื่อนเหมือนลูก ไม่ต่างอะไรกับที่แม่นกรักลูกฯของมันหรอกครับ ส่วนเรื่องการอยู่กินนี้ไม่ต้องพูดถึง ผมว่ากินดีอยู่ดีมากกว่าอยู่ตามธรรมชาติมากฯ จะเสียก็แต่เรื่องนกอาจจะหมด"อิสระภาพ"ครับผม
ปล.เรื่องนี้ก็เหมือน"ไก่กับไข่"อันไหนเกิดก่อนกัน มันเหมือนกับปัญหาโลกแตกครับ
สุดท้ายนี้ แค่คุณรักลูกนกของคุณให้มากฯ อย่าเบื่อแล้วไม่สนใจเค้าก็เป็นพอครับ แค่นี้โลกทั้งใบก็ให้คุณคนเดียว ครับผม
นานาจิตตัง ทุกอย่างมีเหตุผล
สัตว์ที่ไม่แข็งแรง เลี้ยงเพื่อเป็นเกษตรกรรมไม่ได้ ก็ต้องนำไปทำประโยชน์ด้านอื่น
ผมเชื่อว่า ลูกเจี๊ยบเหล่านั้น ก็จะกลายไปเป็นโปรตีน ในขั้นตอนของอาหาร ไม่ใช่ทำลายทิ้งเฉยๆ
ส่วนเรื่องการเลี้ยงของพ่อแม่นกนั้น ผมว่า ซักวันพ่อแม่มันก็ต้องเลี้ยงเป็น แต่คนเราเอง เป็นห่วงมันเกินไป จนเป็นการไปรบกวนมัน ธรรมชาติก็บอกให้มันต้องทำลายทิ้ง คนเราก็ไปตีความว่า มันฟักไข่ไม่เป็น เลี้ยงลูกไม่เป็น
และในธรรมชาติ ลูกนกที่ฟักออกมา ก็ไม่มีทางที่จะรอดทุกตัว คนเราเองอีกนั่นแหละ อยากให้มันรอดทุกตัว ด้วยความเมตตาและความโลภไปพร้อมๆกัน
ผมก็มีพ่อแม่นก ที่โตมาจากลูกป้อน มันก็สามารถ ฟักไข่ เลี้ยงลูก ของมันได้ แต่เป็นนกขนาดเล็ก ถึง กลางนะครับ ผมไม่มีประสบการณ์กับนกขนาดใหญ่
คนเราเองด้วยกัน ยังไม่เข้าใจกันเลย
การที่พยายามไปเข้าใจสัตว์เลี้ยง ก็เป็นสิ่งที่ดี แต่จะให้มันเป็นไปอย่างที่คิดทุกอย่าง ผมเห็นว่า มันคงไม่สามารถเป็นอย่างที่เราคิดทุกอย่างครับ
คิดเหมือนพี่น้อยค่ะ นานาจิตตัง พ่อ-แม่นกที่บ้านจิก็ โตมาจากลูกป้อน และด้วยความที่ป้อนมันมากับมือ ก็เลยรู้ว่า พ่อ-แม่ของมัน คงไม่ได้สอนมันให้เป็นนกที่ดีได้ และไม่เคยสอน กกไข่ ไม่เคยสอนกินอาหาร แต่ทุกวันนี้ พ่อ-แม่นกคู่นี้ ก็ ออกไข่มา หลายครอกแล้วด้วย กกไข่เอง เอง(ทั้งๆที่ พ่อ-แม่ ของมันไม่ได้สอนมันมาเลย) พอออกเป็นตัว พ่อ-แม่นกคู่นี้ก็ป้อนลูกเอง ลูกก็สมบูรณ์อ้วนตุ้บ กว่าที่เราล้วงออกมาป้อนเสียอีก ดังนั้นเลยคิดว่า ธรรมชาติ ของนก เราอย่าไปคิดแทนนกเลยค่ะ คนกับนก คงคิดตรงนี้ต่างกันไป
ยังจำกรงบินบ้านกลางกรุง ของ เจ้าของกระทู้ได้ อยากถามว่า ตอนนี้ เป็นอย่างไรบ้างแล้วคะ ไม่เห็น เอาข่าวคราวความคืบหน้ามาบอกเล่าเลยคะพี่ จะได้ เป็นวิทยาทาน ต่อน้องๆ ต่อไปว่า ถ้ากรงกว้างๆ นกจะอยู่ดี มีสุข หรือเป็นอย่างไรแล้ว ต้นไม้ที่อยู่ในกรง ยังอยู่ดีไหม อัพเดทให้ดูพร้อมภาพด้วยสิคะ ยังติดตามอยู่ค่ะ
ถ้าเราซื้อมาแล้วเลี้ยงดูเค้าให้มีความสุข สุขภาพจิตดี
ก็คงจะดีมั้งคะ
แต่ถ้าซื้อมาเลี้ยงทิ้งๆขว้างๆก็คงจะแย่หน่อย
วีดีโอโหดร้ายมากๆ
ลูกเจี๊ยบออกจะน่ารักขนาดนั้น
ก็นึกและเคารพในคำวิจารณ์ในแต่ละด้านของคนที่รักนกทั้งหลาย ในมุมมองที่ออกจะเห็นแก่ตัวนิดๆกันทั้งนั้น เนื่องจากคนเราก็มีกิเลสกันมากน้อยต่างกัน ธรรมชาติของนกนั้นแท้จริงก็คือ ตัวการแพร่พันธ์เมล็ดพืชครับธรรมชาติสร้างสมดุลเอาไว้เหมาะสมหรือจะเป็นพระเจ้าก็ได้ที่สร้างปีกให้แก่เขาแล้ว เขาจะบินเป็นกิโลจากต้นไม้หนึ่งไปสู่ที่ๆหนึง นี่เป็นสาเหติที่ให้เขาบินได้ประโยชน์ในการแพร่เม็ดพืช ส่วนนกกินพืชกินสัตว์หน้าที่จะต่างกันไป แต่วันนี้หน้าที่ทุกอย่างจะผิดเพี้ยนไป แต่ก็คงยอมรับได้ว่าสมดุลธรรมชาติกำลังจะล่มสลายในไม่นานนี้แน่นอนไม่เวอร์หรอกนะพูดจริง แต่ก็ขอให้ผมตายก่อนและกัน กะทู้ที่ผมตั้งให้คิดนี้ เป็นความเห็นแวบหนึ่งที่ผ่านมาในหัวในขณะที่มองตานกที่กำลังป้อนแล้วคิดไปว่าเรามานั่งทำอะไรที่ผิดหน้าที่อยู่หรือเปล่า?????ก็แค่นั้นเองนะ ก็ทำให้คิดว่าเจ้านกที่ผมไปเอาไข่มาฝักนี่มันก็เลี้ยงลูกไม่เก่ง ไม่ยอมกก สักที คิดไปคิดมาก็ย้อนไปอีกว่า สงสัยนกคู่นี้เกิดมาจาก นกที่เอาไข่มาฝัก จึงขาดทักษะในการกกไข่เลี้ยงลูก จนทำให้ผลที่ออกมาถ่ายทอดเป็นทอดๆจนนกสายนี้จะไม่สามารถช่วยตัวเองและขยายพันธ์ได้อีกต่อไปหากไม่มีมนุษย์ คอยช่วย นี่คิดในแนววิทย์นะ แม้แต่ spix macaw เองก็ต้องยอมรับว่าเขาก็หาทางในการรักษาพันธ์ไว้เช่นกันก็ควักไข่นี่แหละ ก็เลยคิดว่า ถ้าทำได้ ก็จะไม่ไปยุ่งกับไข่นกอีกหากไม่จำเป็น นกที่เลี้ยงมาเชื่องระดับหนึ่งก็ไม่เอามาจี๋จ๋าจนเสียนก ก็แค่นี้แหละที่อยากนำเสนอ ส่วนที่ไม่อยากกล่าวถึงกรงนกกลางกรุง ก็เพราะทุกวันนี้คนเรารู้หน้าไม่รู้ใจ เปิดตัวมากก็จะเป็นการเรียกโจรเข้าบ้าน เรารักของเราดีกว่าเงียบๆเลี้ยงนกให้ใกล้เคียงธรรมชาติมากที่สุดหากเราตายไปวันหนึ่งแล้วอยากเอาไปปล่อยเขาใหญ่ เขาก็จะไม่โดนจับเพราะความเชื่องเกินเหตุ หรืออดตายในธรรมชาติ ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อ หากเรารักใครมากเอาเขามากักขังแม้แต่ในกรงทอง เขาก็เหมือนตายทั้งเป็นฉันใด ทุกวันนี้ผมก็เป็นเช่นนั้น ผูกพันธ์จนไปใหนข้ามคืนก็ไม่ได้ เพราะนกเหล่านี้เชื่องขนาดไม่ได้กินอาหารป้อนก็ร้อง โวยวาย โดยเฉพาะนกใหญ่ ก็คิดดู บ้านในซอยเงียบๆ แล้วนกร้องพร้อมๆกัน จะหนวกหูขนาดใหน๋ !!!!ก็กำลังจะขยายพื้นที่ไปนอกเมืองอยู่เป็น project กรงบินขนาดใหญ่ แต่ก็คำนวนขนาดตามปัจจัยอยู่ หากสำเร็จก็บุญของลูกๆมัน ที่ที่ว่านี้อยู่ มวกเหล็ก ใครอยากจะไปอยู่ก็เชิญ กำลังคุยกับเพื่อนทำนิคมคนรักนก นกใครจะแหกปากดังแค่ใหนก็เชิญ เพราะ คนเลี้ยงนกไม่ว่ากัน แบ่งคนละ 100 วา ขึ้น ไม่เลวนะ...............
ปล.ตอบคุณ จิ. โอ้โห ยังจำกระทู้เก่าของผมได้อีกนะ ตอนนี้กรงดูจะเก่าไปตามอายุแต่นกก็เปลี่ยนไปบ้าง ตามที่เห็นในรูป สมาชิคที่อยู่ก็มีทั้งถาวรและชั่วคราวผลัดเปลี่ยนไป อนาคต ที่นี่ก็คงต้องขยับขยาย ที่ดินมันแพง เอาว่าจะย้ายลูกๆไปอยู่แถวๆเขาอะครับ....
สมาชิกรอกินข้าว