ตามนั้นเลยนะครับ
อยากทราบว่าในไซเตส หรือกฎหมายไทยที่มีต่อนก2ชนิดนนี้ ระบุอะไรเอาไว้บ้าง เช่นการห้ามค้า ห้ามจับ ห้ามๆๆๆสารพัดห้ามอะไรอีกไหม...เอาไว้เป็นความรู้ เวลามีตำรวจมา กวน มารีดไถ จะได้เถียงได้อย่างมีน้ามหนัก... หรือเพียงแค่มีคนเข้ามาถามก็ตามทีครับ....
ตอนนี้จองเจ้าตัวนี้ไว้แล้ว อีกไม่กี่วัน สู่ขอได้เลย
ชื่อ เจ้าทิพย์ ครับบบบผม
มาโชว์ตัวสักเล็กน้อยครับบบบบ ขอความเห็นหน่อยครับบ ท่าทางอายุเท่าไหร่แล้วนะ กว๊ากกก
ผมไม่แน่ว่าเค้าจับกันยังไง เพิ่งจะเริ่มศึกษาเรื่องนี้เหมือนกัน
แต่ที่แน่ๆก็คือ ห้ามนำเข้าและส่งออก แต่มันก็มีข้อยกเว้นอยู่
อย่างเช่น มันแบ่งเป็น บัญชี 1,2,3 นกที่เพาะพันในที่เลี้ยงอะไรทำนองนี้
ยังไงผู้เชี่ยวชาญช่วยมาไขอีกทีครับ
เคยเห็นในเวบของกรมอุทยานฯบัญชีไซเตส แต่ตอนนี้หาไม่เจอ
มีหนังสืออยู่ยังไงจะพยายามเอาลงเวบให้ดูกันแต่ทั้งหมดมันเยอะมาก จะเอาเฉพาะนกปากขอมาลงละกัน
ถ้าเป็นเช่นนั้นจริงๆจะขอบคุณมากครับ ที่นำข้อมูลเรื่องราวดีๆ ทางกฎหมายมาบอกกล่าวกันครับบบบ จะได้มีความรุ้รอบด้านเลยล่ะ
มีคนถามหลายคน คำตอบของผมมันไม่มีน้ามหนักเท่าไหร่ แค่บอกว่า ไม่ผิดๆ เท่านั้นเองครับบบ
ขอบคุณครับบผมมม
เจอแระ ลองเข้าไปดูครับศึษามาซักระยะแล้วแต่ยังไม่ค่อยเข้าใจ (http://www.dnp.go.th/wffp/%E0%B8%9B%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A8%E0%B8%81%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B8%97%E0%B8%A3%E0%B8%A7%E0%B8%87%E0%B8%97%E0%B8%A3%E0%B8%B1%E0%B8%9E%E0%B8%AF%5B1%5D%5B19%5D.pdf) <<<<< (http://www.dnp.go.th/wffp/%E0%B8%9B%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A8%E0%B8%81%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B8%97%E0%B8%A3%E0%B8%A7%E0%B8%87%E0%B8%97%E0%B8%A3%E0%B8%B1%E0%B8%9E%E0%B8%AF%5B1%5D%5B19%5D.pdf)
นกปากขออยู่ลำดับ 500กว่าๆ
อันที่จริงผมคิดว่าตำรวจเค้าก็ไม่ค่อยจะรู้เรื่องนี้เท่าไหร่
เราก็ปริ๊น บัญชีให้เค้าดูว่านกเราไม่มีในบัญชีนี้ ถึงมีผมเองก็ไม่รู้อยู่ดี
แต่ผมคิดว่าปัญหาอยู่ที่การขนย้ายที่ต้องขออนุญาตกับปศุสัตว์
ซึ่งปศุสัตว์เองก้ไม่ได้ตั้งด่านตรวจหรอกครับ มีแต่ตำรวจ ถ้ารถเราไม่ถูกเรียกตรวจเค้าก็ไม่เห้น (เป้นความคิดเห้นส่วนตัวนะครับ)
ถ้าWMหรือเพื่อนๆเห้นว่าไม่เหมาะสมยังไงก้ต้องขออภัยด้วยนะครับ
นกแก้วมาคอว์อยู่บัญชีที่1 อย่างนี้หมายความว่าอย่างไร เขาคุ้มครองอะไร มีบทข้อห้ามหรือไม่ อย่างไรบ้างครับ
...ถึงจะห้ามก็ไม่สน เพราะจะเลี้ยง ด้วยใจรักมิใช่ทึกทัก กักขังให้ทรมาณ
อย่าไปสนใจมันเลยไอ้พวกนี้ ถ้าอยากเลี้ยงก็เลี้ยงไปเถอะไม่มีใครมาสนใจหรอกแต่ระวังแค่อย่าให้มีคนร้องเรียนแล้วกันคนเดียวก็เป็นเรื่องได้ บลูโกลค์เท่าที่จำได้ไม่ใช่ cites1 ต้องเป็นสกาเล็ต
แต่จะจับได้ต้องมีการนำเข้าซื้อขายวุ่นวายไปหมดและจะต้องมีเจ้าของมาจับด้วยมันก็คล้ายกับของละเมิดลิขสิทธ์แต่สุดท้ายมันก็ทำอะไรเราไม่ได้ก็เราเพาะเลี้ยงได้เองแล้วมีซื้อขายกันทั่วไป
แต่ถ้ามันจะจับก็บอกให้มันจับให้หมดนะอย่าเลือกปฏิบัติ
สุดท้ายคืออยากเลี้ยงอะไรก็เลี้ยงไปเหอะไม่ต้องไปกลัวมันหรอกเค้าเลี้ยงกันทั่วบ้านทั่วเมือง
แล้วบัญชี 1 เลี้ยงได้ไหมครับ มีพวกไหนบ้างครับที่เป็นบัญชี 1 ครับ จะได้เลี้ยงถูก
มันไม่ใช่ความกลัวที่จะเลี้ยงหรอกครับ"nok " ที่ถามเรื่องนี้ เพื่อความรู้ประดับตัว ไว้ใช้ในการเลี้ยงนก หรือเลี้ยงอะไรก็ตาม...
ถ้ากลัวมากขนาดนั้น คงไม่คิดจะเลี้ยงหรอกครับ แต่เมื่ออยากรู้ ก็ต้องอยากได้คำตอบ เพราะกฏหมายมันก็มีอยู่ เราจำเป็นต้องรู้เอาไว้เวลามีปัญหาอะไรที่ไม่คาดถึง...มีคนถาม??จะได้เถียงได้ถูก ไม่แลดูว่าเราโง่น่ะ
อ้างถึงAnitashin เป็นผู้เขียน:
ตามนั้นเลยนะครับ
อยากทราบว่าในไซเตส หรือกฎหมายไทยที่มีต่อนก2ชนิดนนี้ ระบุอะไรเอาไว้บ้าง เช่นการห้ามค้า ห้ามจับ ห้ามๆๆๆสารพัดห้ามอะไรอีกไหม...เอาไว้เป็นความรู้ เวลามีตำรวจมา กวน มารีดไถ จะได้เถียงได้อย่างมีน้ามหนัก... หรือเพียงแค่มีคนเข้ามาถามก็ตามทีครับ....
ไม่ได้มีความรู้มากมาย
แต่ก็พอมีข้อมูลบ้าง
ลองศึกษาดูครับ
ไซเตส (CITES)
เป็นคำย่อของอนุสัญญาว่าด้วยการค้าระหว่างประเทศ ซึ่งชนิดสัตว์ป่าและพืชป่าที่ใกล้จะสูญพันธุ์ (The Convention on International Trade in Endangered Species of Wild Fauna and Flora) หรือเรียกกันทั่วไปว่า อนุสัญญาวอชิงตัน (Washington Convention)
จัดตั้งขึ้นเมื่อ พ.ศ. 2503 ถือเป็นอนุสัญญาที่นานาชาติร่วมมือกันเพื่อควบคุมการค้า การนำเข้า การส่งออก การนำผ่านแดน และการขนส่งสัตว์ป่า ไม่ให้กระทบกระเทือนต่อการอยู่รอดของชนิดพันธุ์นั้นๆ ด้วยการสร้างเครือข่ายทั่วโลก ในการควบคุมการค้าระหว่างประเทศ (International Trade) ทั้งสัตว์ป่า พืชป่าและผลิตภัณฑ์ แต่อนุสัญญาไซเตสไม่มีส่วนในการควบคุมการค้าภายในประเทศสำหรับชนิดพันธุ์ท้องถิ่น (Native Species) ปัจจุบันสำนักงานเลขาธิการ CITES ตั้งอยู่ที่กรุงโลซานน์ ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ บริหารงานโดยองค์การ UNEP (United Nation Environment Programme) และได้รับทุนสนับสนุนจากประเทศภาคีที่ปัจจุบันมีทั้งสิ้น 135 ประเทศ (พ.ศ. 2540)
อ้างถึงdexdoi เป็นผู้เขียน:
อ้างถึงAnitashin เป็นผู้เขียน:
ตามนั้นเลยนะครับ
อยากทราบว่าในไซเตส หรือกฎหมายไทยที่มีต่อนก2ชนิดนนี้ ระบุอะไรเอาไว้บ้าง เช่นการห้ามค้า ห้ามจับ ห้ามๆๆๆสารพัดห้ามอะไรอีกไหม...เอาไว้เป็นความรู้ เวลามีตำรวจมา กวน มารีดไถ จะได้เถียงได้อย่างมีน้ามหนัก... หรือเพียงแค่มีคนเข้ามาถามก็ตามทีครับ....
ไม่ได้มีความรู้มากมาย
แต่ก็พอมีข้อมูลบ้าง
ลองศึกษาดูครับ
ไซเตส (CITES)
เป็นคำย่อของอนุสัญญาว่าด้วยการค้าระหว่างประเทศ ซึ่งชนิดสัตว์ป่าและพืชป่าที่ใกล้จะสูญพันธุ์ (The Convention on International Trade in Endangered Species of Wild Fauna and Flora) หรือเรียกกันทั่วไปว่า อนุสัญญาวอชิงตัน (Washington Convention)
จัดตั้งขึ้นเมื่อ พ.ศ. 2503 ถือเป็นอนุสัญญาที่นานาชาติร่วมมือกันเพื่อควบคุมการค้า การนำเข้า การส่งออก การนำผ่านแดน และการขนส่งสัตว์ป่า ไม่ให้กระทบกระเทือนต่อการอยู่รอดของชนิดพันธุ์นั้นๆ ด้วยการสร้างเครือข่ายทั่วโลก ในการควบคุมการค้าระหว่างประเทศ (International Trade) ทั้งสัตว์ป่า พืชป่าและผลิตภัณฑ์ แต่อนุสัญญาไซเตสไม่มีส่วนในการควบคุมการค้าภายในประเทศสำหรับชนิดพันธุ์ท้องถิ่น (Native Species) ปัจจุบันสำนักงานเลขาธิการ CITES ตั้งอยู่ที่กรุงโลซานน์ ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ บริหารงานโดยองค์การ UNEP (United Nation Environment Programme) และได้รับทุนสนับสนุนจากประเทศภาคีที่ปัจจุบันมีทั้งสิ้น 135 ประเทศ (พ.ศ. 2540)
หน้าที่ของประเทศภาคีอนุสัญญาไซเตส
1. ประเทศภาคีต้องมีมาตรการในการบังคับใช้อนุสัญญาไซเตส มิให้มีการค้าสัตว์ป่า พืชป่า ผิดระเบียบอนุสัญญาไซเตส โดยมีมาตรการลงโทษผู้ค้า ผู้ครอบครอง ริบของกลางและส่งของกลางกลับแหล่งกำเนิด กรณีทราบถิ่นกำเนิด
2. ต้องตั้งด่านตรวจสัตว์ป่า พืชป่า ระหว่างประเทศ เพื่อควบคุมและตรวจสอบการค้าสัตว์ป่า พืชป่า และการขนส่งที่ปลอดภัยตามระเบียบอนุสัญญาไซเตส
3. ต้องส่งรายงานประจำปีเกี่ยวกับสถิติการค้าสัตว์ป่า พืชป่าของประเทศตน แก่สำนักเลขาธิการไซเตส
4. ต้องจัดตั้งคณะทำงานฝ่ายปฏิบัติการและคณะทำงานฝ่ายวิทยาการประจำประเทศ เพื่อควบคุมการค้าสัตว์ป่า พืชป่า
5. มีสิทธ์เสนอเปลี่ยนแปลงชนิดพันธุ์ในบัญชีหมายเลข 1,2,3 (Appendix I-?-?) ให้ภาคีพิจารณา
อ้างถึงdexdoi เป็นผู้เขียน:
อ้างถึงdexdoi เป็นผู้เขียน:
อ้างถึงAnitashin เป็นผู้เขียน:
ตามนั้นเลยนะครับ
อยากทราบว่าในไซเตส หรือกฎหมายไทยที่มีต่อนก2ชนิดนนี้ ระบุอะไรเอาไว้บ้าง เช่นการห้ามค้า ห้ามจับ ห้ามๆๆๆสารพัดห้ามอะไรอีกไหม...เอาไว้เป็นความรู้ เวลามีตำรวจมา กวน มารีดไถ จะได้เถียงได้อย่างมีน้ามหนัก... หรือเพียงแค่มีคนเข้ามาถามก็ตามทีครับ....
ไม่ได้มีความรู้มากมาย
แต่ก็พอมีข้อมูลบ้าง
ลองศึกษาดูครับ
ไซเตส (CITES)
เป็นคำย่อของอนุสัญญาว่าด้วยการค้าระหว่างประเทศ ซึ่งชนิดสัตว์ป่าและพืชป่าที่ใกล้จะสูญพันธุ์ (The Convention on International Trade in Endangered Species of Wild Fauna and Flora) หรือเรียกกันทั่วไปว่า อนุสัญญาวอชิงตัน (Washington Convention)
จัดตั้งขึ้นเมื่อ พ.ศ. 2503 ถือเป็นอนุสัญญาที่นานาชาติร่วมมือกันเพื่อควบคุมการค้า การนำเข้า การส่งออก การนำผ่านแดน และการขนส่งสัตว์ป่า ไม่ให้กระทบกระเทือนต่อการอยู่รอดของชนิดพันธุ์นั้นๆ ด้วยการสร้างเครือข่ายทั่วโลก ในการควบคุมการค้าระหว่างประเทศ (International Trade) ทั้งสัตว์ป่า พืชป่าและผลิตภัณฑ์ แต่อนุสัญญาไซเตสไม่มีส่วนในการควบคุมการค้าภายในประเทศสำหรับชนิดพันธุ์ท้องถิ่น (Native Species) ปัจจุบันสำนักงานเลขาธิการ CITES ตั้งอยู่ที่กรุงโลซานน์ ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ บริหารงานโดยองค์การ UNEP (United Nation Environment Programme) และได้รับทุนสนับสนุนจากประเทศภาคีที่ปัจจุบันมีทั้งสิ้น 135 ประเทศ (พ.ศ. 2540)
หน้าที่ของประเทศภาคีอนุสัญญาไซเตส
1. ประเทศภาคีต้องมีมาตรการในการบังคับใช้อนุสัญญาไซเตส มิให้มีการค้าสัตว์ป่า พืชป่า ผิดระเบียบอนุสัญญาไซเตส โดยมีมาตรการลงโทษผู้ค้า ผู้ครอบครอง ริบของกลางและส่งของกลางกลับแหล่งกำเนิด กรณีทราบถิ่นกำเนิด
2. ต้องตั้งด่านตรวจสัตว์ป่า พืชป่า ระหว่างประเทศ เพื่อควบคุมและตรวจสอบการค้าสัตว์ป่า พืชป่า และการขนส่งที่ปลอดภัยตามระเบียบอนุสัญญาไซเตส
3. ต้องส่งรายงานประจำปีเกี่ยวกับสถิติการค้าสัตว์ป่า พืชป่าของประเทศตน แก่สำนักเลขาธิการไซเตส
4. ต้องจัดตั้งคณะทำงานฝ่ายปฏิบัติการและคณะทำงานฝ่ายวิทยาการประจำประเทศ เพื่อควบคุมการค้าสัตว์ป่า พืชป่า
5. มีสิทธ์เสนอเปลี่ยนแปลงชนิดพันธุ์ในบัญชีหมายเลข 1,2,3 (Appendix I-?-?) ให้ภาคีพิจารณา
ระบบการควบคุมของอนุสัญญาไซเตส
การค้าสัตว์ป่า พืชป่าและผลิตภัณฑ์ระหว่างประเทศ จะถูกควบคุมโดยระบบใบอณุญาต (Permit) โดยที่สัตว์ป่าและพืชป่าที่อนุสัญญาไซเตสควบคุม จะต้องมีใบอนุญาตในการนำเข้า ส่งออก นำผ่านและส่งกลับออกไป ชนิดพันธุ์ของสัตว์ป่าและพืชป่าที่อนุสัญญาไซเตสควบคุม โดยได้กำหนดหลักการไว้ดังนี้
อ้างถึงdexdoi เป็นผู้เขียน:
อ้างถึงdexdoi เป็นผู้เขียน:
อ้างถึงdexdoi เป็นผู้เขียน:
อ้างถึงAnitashin เป็นผู้เขียน:
ตามนั้นเลยนะครับ
อยากทราบว่าในไซเตส หรือกฎหมายไทยที่มีต่อนก2ชนิดนนี้ ระบุอะไรเอาไว้บ้าง เช่นการห้ามค้า ห้ามจับ ห้ามๆๆๆสารพัดห้ามอะไรอีกไหม...เอาไว้เป็นความรู้ เวลามีตำรวจมา กวน มารีดไถ จะได้เถียงได้อย่างมีน้ามหนัก... หรือเพียงแค่มีคนเข้ามาถามก็ตามทีครับ....
ไม่ได้มีความรู้มากมาย
แต่ก็พอมีข้อมูลบ้าง
ลองศึกษาดูครับ
ไซเตส (CITES)
เป็นคำย่อของอนุสัญญาว่าด้วยการค้าระหว่างประเทศ ซึ่งชนิดสัตว์ป่าและพืชป่าที่ใกล้จะสูญพันธุ์ (The Convention on International Trade in Endangered Species of Wild Fauna and Flora) หรือเรียกกันทั่วไปว่า อนุสัญญาวอชิงตัน (Washington Convention)
จัดตั้งขึ้นเมื่อ พ.ศ. 2503 ถือเป็นอนุสัญญาที่นานาชาติร่วมมือกันเพื่อควบคุมการค้า การนำเข้า การส่งออก การนำผ่านแดน และการขนส่งสัตว์ป่า ไม่ให้กระทบกระเทือนต่อการอยู่รอดของชนิดพันธุ์นั้นๆ ด้วยการสร้างเครือข่ายทั่วโลก ในการควบคุมการค้าระหว่างประเทศ (International Trade) ทั้งสัตว์ป่า พืชป่าและผลิตภัณฑ์ แต่อนุสัญญาไซเตสไม่มีส่วนในการควบคุมการค้าภายในประเทศสำหรับชนิดพันธุ์ท้องถิ่น (Native Species) ปัจจุบันสำนักงานเลขาธิการ CITES ตั้งอยู่ที่กรุงโลซานน์ ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ บริหารงานโดยองค์การ UNEP (United Nation Environment Programme) และได้รับทุนสนับสนุนจากประเทศภาคีที่ปัจจุบันมีทั้งสิ้น 135 ประเทศ (พ.ศ. 2540)
หน้าที่ของประเทศภาคีอนุสัญญาไซเตส
1. ประเทศภาคีต้องมีมาตรการในการบังคับใช้อนุสัญญาไซเตส มิให้มีการค้าสัตว์ป่า พืชป่า ผิดระเบียบอนุสัญญาไซเตส โดยมีมาตรการลงโทษผู้ค้า ผู้ครอบครอง ริบของกลางและส่งของกลางกลับแหล่งกำเนิด กรณีทราบถิ่นกำเนิด
2. ต้องตั้งด่านตรวจสัตว์ป่า พืชป่า ระหว่างประเทศ เพื่อควบคุมและตรวจสอบการค้าสัตว์ป่า พืชป่า และการขนส่งที่ปลอดภัยตามระเบียบอนุสัญญาไซเตส
3. ต้องส่งรายงานประจำปีเกี่ยวกับสถิติการค้าสัตว์ป่า พืชป่าของประเทศตน แก่สำนักเลขาธิการไซเตส
4. ต้องจัดตั้งคณะทำงานฝ่ายปฏิบัติการและคณะทำงานฝ่ายวิทยาการประจำประเทศ เพื่อควบคุมการค้าสัตว์ป่า พืชป่า
5. มีสิทธ์เสนอเปลี่ยนแปลงชนิดพันธุ์ในบัญชีหมายเลข 1,2,3 (Appendix I-?-?) ให้ภาคีพิจารณา
ระบบการควบคุมของอนุสัญญาไซเตส
การค้าสัตว์ป่า พืชป่าและผลิตภัณฑ์ระหว่างประเทศ จะถูกควบคุมโดยระบบใบอณุญาต (Permit) โดยที่สัตว์ป่าและพืชป่าที่อนุสัญญาไซเตสควบคุม จะต้องมีใบอนุญาตในการนำเข้า ส่งออก นำผ่านและส่งกลับออกไป ชนิดพันธุ์ของสัตว์ป่าและพืชป่าที่อนุสัญญาไซเตสควบคุม โดยได้กำหนดหลักการไว้ดังนี้
ระบบการควบคุมของอนุสัญญาไซเตส
การค้าสัตว์ป่า พืชป่าและผลิตภัณฑ์ระหว่างประเทศ จะถูกควบคุมโดยระบบใบอณุญาต (Permit) โดยที่สัตว์ป่าและพืชป่าที่อนุสัญญาไซเตสควบคุม จะต้องมีใบอนุญาตในการนำเข้า ส่งออก นำผ่านและส่งกลับออกไป ชนิดพันธุ์ของสัตว์ป่าและพืชป่าที่อนุสัญญาไซเตสควบคุม โดยได้กำหนดหลักการไว้ดังนี้
ชนิดพันธุ์ในบัญชีหมายเลข 1 (Appendix I) เป็นชนิดพันธุ์สัตว์ป่าและพืชป่าที่ห้ามค้าโดยเด็ดขาดเนื่องจากใกล้จะสูญพันธุ์ ยกเว้นเพื่อการศึกษา วิจัย หรือเพาะพันธุ์ ซึ่งจะต้องได้รับความยินยอมจากประเทศที่จะนำเข้เสียก่อน ประเทศส่งออกจึงจะออกใบอนุญาตส่งออกได้ ทั้งนี้ต้องคำนึงถึงความอยู่รอดของชนิดพันธุ์นั้นๆ ด้วย
ชนิดพันธุ์ในบัญชีหมายเลข 2 (Appendix II) เป็นชนิดพันธุ์ของสัตว์ป่าและพืชป่าที่ยังไม่ถึงกับใกล้จะสูญพันธุ์ จึงยังอนุญาตให้ค้าได้ แต่ต้องมีการควบคุมไม่ให้เกิดความเสียหายหรือปริมาณลงอย่างรวดเร็วจนถึงจุดใกล้จะสูญพันธุ์ โดยประเทศที่ส่งออกต้องออกหนังสืออนุญาตให้ส่งออกและรับรองว่าการส่งออกแต่ละครั้ง จะไม่กระทบกระเทือนต่อการดำรงอยู่ของชนิดพันธุ์นั้นๆ ในธรรมชาติ
ชนิดพันธุ์ในบัญชีหมายเลข 3 (Appendix III) เป็นชนิดพันธุ์ที่ได้รับการคุ้มครองตามกฎมายของประเทศใดประเทศหนึ่ง แล้วขอความร่วมมือประเทศภาคีให้ช่วยดูแลการนำเข้า คือต้องมีหนังสือรับรองการส่งออกจากประเทศถิ่นกำเนิด
อ้างถึงdexdoi เป็นผู้เขียน:
อ้างถึงdexdoi เป็นผู้เขียน:
อ้างถึงdexdoi เป็นผู้เขียน:
อ้างถึงdexdoi เป็นผู้เขียน:
อ้างถึงAnitashin เป็นผู้เขียน:
ตามนั้นเลยนะครับ
อยากทราบว่าในไซเตส หรือกฎหมายไทยที่มีต่อนก2ชนิดนนี้ ระบุอะไรเอาไว้บ้าง เช่นการห้ามค้า ห้ามจับ ห้ามๆๆๆสารพัดห้ามอะไรอีกไหม...เอาไว้เป็นความรู้ เวลามีตำรวจมา กวน มารีดไถ จะได้เถียงได้อย่างมีน้ามหนัก... หรือเพียงแค่มีคนเข้ามาถามก็ตามทีครับ....
ไม่ได้มีความรู้มากมาย
แต่ก็พอมีข้อมูลบ้าง
ลองศึกษาดูครับ
ไซเตส (CITES)
เป็นคำย่อของอนุสัญญาว่าด้วยการค้าระหว่างประเทศ ซึ่งชนิดสัตว์ป่าและพืชป่าที่ใกล้จะสูญพันธุ์ (The Convention on International Trade in Endangered Species of Wild Fauna and Flora) หรือเรียกกันทั่วไปว่า อนุสัญญาวอชิงตัน (Washington Convention)
จัดตั้งขึ้นเมื่อ พ.ศ. 2503 ถือเป็นอนุสัญญาที่นานาชาติร่วมมือกันเพื่อควบคุมการค้า การนำเข้า การส่งออก การนำผ่านแดน และการขนส่งสัตว์ป่า ไม่ให้กระทบกระเทือนต่อการอยู่รอดของชนิดพันธุ์นั้นๆ ด้วยการสร้างเครือข่ายทั่วโลก ในการควบคุมการค้าระหว่างประเทศ (International Trade) ทั้งสัตว์ป่า พืชป่าและผลิตภัณฑ์ แต่อนุสัญญาไซเตสไม่มีส่วนในการควบคุมการค้าภายในประเทศสำหรับชนิดพันธุ์ท้องถิ่น (Native Species) ปัจจุบันสำนักงานเลขาธิการ CITES ตั้งอยู่ที่กรุงโลซานน์ ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ บริหารงานโดยองค์การ UNEP (United Nation Environment Programme) และได้รับทุนสนับสนุนจากประเทศภาคีที่ปัจจุบันมีทั้งสิ้น 135 ประเทศ (พ.ศ. 2540)
หน้าที่ของประเทศภาคีอนุสัญญาไซเตส
1. ประเทศภาคีต้องมีมาตรการในการบังคับใช้อนุสัญญาไซเตส มิให้มีการค้าสัตว์ป่า พืชป่า ผิดระเบียบอนุสัญญาไซเตส โดยมีมาตรการลงโทษผู้ค้า ผู้ครอบครอง ริบของกลางและส่งของกลางกลับแหล่งกำเนิด กรณีทราบถิ่นกำเนิด
2. ต้องตั้งด่านตรวจสัตว์ป่า พืชป่า ระหว่างประเทศ เพื่อควบคุมและตรวจสอบการค้าสัตว์ป่า พืชป่า และการขนส่งที่ปลอดภัยตามระเบียบอนุสัญญาไซเตส
3. ต้องส่งรายงานประจำปีเกี่ยวกับสถิติการค้าสัตว์ป่า พืชป่าของประเทศตน แก่สำนักเลขาธิการไซเตส
4. ต้องจัดตั้งคณะทำงานฝ่ายปฏิบัติการและคณะทำงานฝ่ายวิทยาการประจำประเทศ เพื่อควบคุมการค้าสัตว์ป่า พืชป่า
5. มีสิทธ์เสนอเปลี่ยนแปลงชนิดพันธุ์ในบัญชีหมายเลข 1,2,3 (Appendix I-?-?) ให้ภาคีพิจารณา
ระบบการควบคุมของอนุสัญญาไซเตส
การค้าสัตว์ป่า พืชป่าและผลิตภัณฑ์ระหว่างประเทศ จะถูกควบคุมโดยระบบใบอณุญาต (Permit) โดยที่สัตว์ป่าและพืชป่าที่อนุสัญญาไซเตสควบคุม จะต้องมีใบอนุญาตในการนำเข้า ส่งออก นำผ่านและส่งกลับออกไป ชนิดพันธุ์ของสัตว์ป่าและพืชป่าที่อนุสัญญาไซเตสควบคุม โดยได้กำหนดหลักการไว้ดังนี้
ระบบการควบคุมของอนุสัญญาไซเตส
การค้าสัตว์ป่า พืชป่าและผลิตภัณฑ์ระหว่างประเทศ จะถูกควบคุมโดยระบบใบอณุญาต (Permit) โดยที่สัตว์ป่าและพืชป่าที่อนุสัญญาไซเตสควบคุม จะต้องมีใบอนุญาตในการนำเข้า ส่งออก นำผ่านและส่งกลับออกไป ชนิดพันธุ์ของสัตว์ป่าและพืชป่าที่อนุสัญญาไซเตสควบคุม โดยได้กำหนดหลักการไว้ดังนี้
ชนิดพันธุ์ในบัญชีหมายเลข 1 (Appendix I) เป็นชนิดพันธุ์สัตว์ป่าและพืชป่าที่ห้ามค้าโดยเด็ดขาดเนื่องจากใกล้จะสูญพันธุ์ ยกเว้นเพื่อการศึกษา วิจัย หรือเพาะพันธุ์ ซึ่งจะต้องได้รับความยินยอมจากประเทศที่จะนำเข้เสียก่อน ประเทศส่งออกจึงจะออกใบอนุญาตส่งออกได้ ทั้งนี้ต้องคำนึงถึงความอยู่รอดของชนิดพันธุ์นั้นๆ ด้วย
ชนิดพันธุ์ในบัญชีหมายเลข 2 (Appendix II) เป็นชนิดพันธุ์ของสัตว์ป่าและพืชป่าที่ยังไม่ถึงกับใกล้จะสูญพันธุ์ จึงยังอนุญาตให้ค้าได้ แต่ต้องมีการควบคุมไม่ให้เกิดความเสียหายหรือปริมาณลงอย่างรวดเร็วจนถึงจุดใกล้จะสูญพันธุ์ โดยประเทศที่ส่งออกต้องออกหนังสืออนุญาตให้ส่งออกและรับรองว่าการส่งออกแต่ละครั้ง จะไม่กระทบกระเทือนต่อการดำรงอยู่ของชนิดพันธุ์นั้นๆ ในธรรมชาติ
ชนิดพันธุ์ในบัญชีหมายเลข 3 (Appendix III) เป็นชนิดพันธุ์ที่ได้รับการคุ้มครองตามกฎมายของประเทศใดประเทศหนึ่ง แล้วขอความร่วมมือประเทศภาคีให้ช่วยดูแลการนำเข้า คือต้องมีหนังสือรับรองการส่งออกจากประเทศถิ่นกำเนิด
ด้านล่างเป็นรายชื่อ นกปากขอ ที่ติดอนุสัญญา CITES APPENDIX-1
Blue-chested Parakeet
Blue-throated Macaw
Cuban Parrot
Forbes's Parakeet
Glaucous Macaw
Goffin's Cockatoo
Golden Parakeet
Great Green Macaw
Horned Parakeet
Hyacinth Macaw
Kakapo
Lear's Macaw
Lilac-crowned Amazon
Maroon-fronted Parrot
Mauritius Parakeet
Military Macaw
Night Parrot
Orange-bellied Parrot
Philippine Cockatoo
Puerto Rican Parrot
Red-And-Blue Lory
Red-browed Amazon
Red-fronted Macaw
Red-fronted Parakeet
Red-necked Parrot
Red-spectacled Amazon
Red-tailed Amazon
Salmon-crested Cockatoo
Spix's Macaw
St Lucia Parrot
St Vincent Parrot
Thick-billed Parrot
Tucaman Parrot
Ultramarine Lorikeet
Vinaceous Amazon
Yellow-crested Cockatoo
Yellow-eared Parrot
Yellow-shouldered Amazon
อ้างถึงdexdoi เป็นผู้เขียน:
อ้างถึงdexdoi เป็นผู้เขียน:
อ้างถึงdexdoi เป็นผู้เขียน:
อ้างถึงdexdoi เป็นผู้เขียน:
อ้างถึงdexdoi เป็นผู้เขียน:
อ้างถึงAnitashin เป็นผู้เขียน:
ตามนั้นเลยนะครับ
อยากทราบว่าในไซเตส หรือกฎหมายไทยที่มีต่อนก2ชนิดนนี้ ระบุอะไรเอาไว้บ้าง เช่นการห้ามค้า ห้ามจับ ห้ามๆๆๆสารพัดห้ามอะไรอีกไหม...เอาไว้เป็นความรู้ เวลามีตำรวจมา กวน มารีดไถ จะได้เถียงได้อย่างมีน้ามหนัก... หรือเพียงแค่มีคนเข้ามาถามก็ตามทีครับ....
ไม่ได้มีความรู้มากมาย
แต่ก็พอมีข้อมูลบ้าง
ลองศึกษาดูครับ
ไซเตส (CITES)
เป็นคำย่อของอนุสัญญาว่าด้วยการค้าระหว่างประเทศ ซึ่งชนิดสัตว์ป่าและพืชป่าที่ใกล้จะสูญพันธุ์ (The Convention on International Trade in Endangered Species of Wild Fauna and Flora) หรือเรียกกันทั่วไปว่า อนุสัญญาวอชิงตัน (Washington Convention)
จัดตั้งขึ้นเมื่อ พ.ศ. 2503 ถือเป็นอนุสัญญาที่นานาชาติร่วมมือกันเพื่อควบคุมการค้า การนำเข้า การส่งออก การนำผ่านแดน และการขนส่งสัตว์ป่า ไม่ให้กระทบกระเทือนต่อการอยู่รอดของชนิดพันธุ์นั้นๆ ด้วยการสร้างเครือข่ายทั่วโลก ในการควบคุมการค้าระหว่างประเทศ (International Trade) ทั้งสัตว์ป่า พืชป่าและผลิตภัณฑ์ แต่อนุสัญญาไซเตสไม่มีส่วนในการควบคุมการค้าภายในประเทศสำหรับชนิดพันธุ์ท้องถิ่น (Native Species) ปัจจุบันสำนักงานเลขาธิการ CITES ตั้งอยู่ที่กรุงโลซานน์ ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ บริหารงานโดยองค์การ UNEP (United Nation Environment Programme) และได้รับทุนสนับสนุนจากประเทศภาคีที่ปัจจุบันมีทั้งสิ้น 135 ประเทศ (พ.ศ. 2540)
หน้าที่ของประเทศภาคีอนุสัญญาไซเตส
1. ประเทศภาคีต้องมีมาตรการในการบังคับใช้อนุสัญญาไซเตส มิให้มีการค้าสัตว์ป่า พืชป่า ผิดระเบียบอนุสัญญาไซเตส โดยมีมาตรการลงโทษผู้ค้า ผู้ครอบครอง ริบของกลางและส่งของกลางกลับแหล่งกำเนิด กรณีทราบถิ่นกำเนิด
2. ต้องตั้งด่านตรวจสัตว์ป่า พืชป่า ระหว่างประเทศ เพื่อควบคุมและตรวจสอบการค้าสัตว์ป่า พืชป่า และการขนส่งที่ปลอดภัยตามระเบียบอนุสัญญาไซเตส
3. ต้องส่งรายงานประจำปีเกี่ยวกับสถิติการค้าสัตว์ป่า พืชป่าของประเทศตน แก่สำนักเลขาธิการไซเตส
4. ต้องจัดตั้งคณะทำงานฝ่ายปฏิบัติการและคณะทำงานฝ่ายวิทยาการประจำประเทศ เพื่อควบคุมการค้าสัตว์ป่า พืชป่า
5. มีสิทธ์เสนอเปลี่ยนแปลงชนิดพันธุ์ในบัญชีหมายเลข 1,2,3 (Appendix I-?-?) ให้ภาคีพิจารณา
ระบบการควบคุมของอนุสัญญาไซเตส
การค้าสัตว์ป่า พืชป่าและผลิตภัณฑ์ระหว่างประเทศ จะถูกควบคุมโดยระบบใบอณุญาต (Permit) โดยที่สัตว์ป่าและพืชป่าที่อนุสัญญาไซเตสควบคุม จะต้องมีใบอนุญาตในการนำเข้า ส่งออก นำผ่านและส่งกลับออกไป ชนิดพันธุ์ของสัตว์ป่าและพืชป่าที่อนุสัญญาไซเตสควบคุม โดยได้กำหนดหลักการไว้ดังนี้
ระบบการควบคุมของอนุสัญญาไซเตส
การค้าสัตว์ป่า พืชป่าและผลิตภัณฑ์ระหว่างประเทศ จะถูกควบคุมโดยระบบใบอณุญาต (Permit) โดยที่สัตว์ป่าและพืชป่าที่อนุสัญญาไซเตสควบคุม จะต้องมีใบอนุญาตในการนำเข้า ส่งออก นำผ่านและส่งกลับออกไป ชนิดพันธุ์ของสัตว์ป่าและพืชป่าที่อนุสัญญาไซเตสควบคุม โดยได้กำหนดหลักการไว้ดังนี้
ชนิดพันธุ์ในบัญชีหมายเลข 1 (Appendix I) เป็นชนิดพันธุ์สัตว์ป่าและพืชป่าที่ห้ามค้าโดยเด็ดขาดเนื่องจากใกล้จะสูญพันธุ์ ยกเว้นเพื่อการศึกษา วิจัย หรือเพาะพันธุ์ ซึ่งจะต้องได้รับความยินยอมจากประเทศที่จะนำเข้เสียก่อน ประเทศส่งออกจึงจะออกใบอนุญาตส่งออกได้ ทั้งนี้ต้องคำนึงถึงความอยู่รอดของชนิดพันธุ์นั้นๆ ด้วย
ชนิดพันธุ์ในบัญชีหมายเลข 2 (Appendix II) เป็นชนิดพันธุ์ของสัตว์ป่าและพืชป่าที่ยังไม่ถึงกับใกล้จะสูญพันธุ์ จึงยังอนุญาตให้ค้าได้ แต่ต้องมีการควบคุมไม่ให้เกิดความเสียหายหรือปริมาณลงอย่างรวดเร็วจนถึงจุดใกล้จะสูญพันธุ์ โดยประเทศที่ส่งออกต้องออกหนังสืออนุญาตให้ส่งออกและรับรองว่าการส่งออกแต่ละครั้ง จะไม่กระทบกระเทือนต่อการดำรงอยู่ของชนิดพันธุ์นั้นๆ ในธรรมชาติ
ชนิดพันธุ์ในบัญชีหมายเลข 3 (Appendix III) เป็นชนิดพันธุ์ที่ได้รับการคุ้มครองตามกฎมายของประเทศใดประเทศหนึ่ง แล้วขอความร่วมมือประเทศภาคีให้ช่วยดูแลการนำเข้า คือต้องมีหนังสือรับรองการส่งออกจากประเทศถิ่นกำเนิด
ด้านล่างเป็นรายชื่อ นกปากขอ ที่ติดอนุสัญญา CITES APPENDIX-1
Blue-chested Parakeet
Blue-throated Macaw
Cuban Parrot
Forbes's Parakeet
Glaucous Macaw
Goffin's Cockatoo
Golden Parakeet
Great Green Macaw
Horned Parakeet
Hyacinth Macaw
Kakapo
Lear's Macaw
Lilac-crowned Amazon
Maroon-fronted Parrot
Mauritius Parakeet
Military Macaw
Night Parrot
Orange-bellied Parrot
Philippine Cockatoo
Puerto Rican Parrot
Red-And-Blue Lory
Red-browed Amazon
Red-fronted Macaw
Red-fronted Parakeet
Red-necked Parrot
Red-spectacled Amazon
Red-tailed Amazon
Salmon-crested Cockatoo
Spix's Macaw
St Lucia Parrot
St Vincent Parrot
Thick-billed Parrot
Tucaman Parrot
Ultramarine Lorikeet
Vinaceous Amazon
Yellow-crested Cockatoo
Yellow-eared Parrot
Yellow-shouldered Amazon
ข้อมูลข้างต้น เป็นความรู้พื้นฐานในการศึกษาครับ
ไม่ได้มีเจตนาเป็นอย่างอื่น
ซึ่งส่วนตัวผมคิดว่า มันไม่มีผลกระทบอะไรกับผู้ที่มีใจรักในการเลี้ยงนกทุกท่าน ขอบคุณครับ
ขอบคุณ ท่านdexdoi มากครับที่ให้ความรู้ครับ แล้วถ้าเราจะเลี้ยงบัญชี 1 ได้ไหมครับ มีความผิดไหมครับ
-ขอบคุณครับ คิดเหมือนกันล่ะครับ ว่าไม่เป็นไรหรอก หากจะเลี้ยง
นี่เป็นเพียงกรณีศึกษาเอาไว้เท่านั้น
อ้างถึงlux005 เป็นผู้เขียน:
ขอบคุณ ท่านdexdoi มากครับที่ให้ความรู้ครับ แล้วถ้าเราจะเลี้ยงบัญชี 1 ได้ไหมครับ มีความผิดไหมครับ
ถ้าจำไม่ผิด เรื่องนี้ ผู้หลักผู้ใหญ่ผู้รู้หลายๆท่านในเวป เคยได้พูดคุยเสวนากันมาบ้างแล้วเรื่องนี้ (แต่นานมาแล้ว)
เอาเป็นว่า เลี้ยงไปเถอะครับ ถ้าเรามีความพร้อมที่จะเลี้ยง
สุขที่จะเลี้ยง
สุขที่จะดูแลเอาใจใส่ ก็ไม่มีสิ่งไหนมันจะมาบั่นทอนความตั้งใจของเราได้
(เพราะผมก็เลี้ยง)
สกาเล็ตบัญชี 1 หรือเปล่าครับ
ทฤษฎีกับประสบการณ์มันต่างกันมาก ทฤษฎีเราไม่รู้จริงแต่มีประสบการณ์มาบ้างก็เลยพอรู้นิดหน่อย
เฮียลัก005ครับ
นี่แหล่ะ นกในฝันเลยล่ะ ... เท่าที่อ่านมา บัญชี1 เขาแค่ห้ามซื้อขายส่งออกข้ามประเทศ แต่เราเลี้ยงและซื้อในบ้านเรา น่าจะปลอดภัย
ไม่เกี่ยวกับการห้ามเลี้ยงครับ
เรามีโอกาสได้ศึกษา ถึงอนุสัญญาCITESค่ะ
CITES คืออนุสัญญาการค้าระหว่างประเทศว่าด้วยพืชป่า และ สัตว์ป่า
ซึ่งวัตถุประสงค์การอนุรักษ์ทรัพยากรสัตว์ป่าและพืชป่าในโลก เพื่อประโยชน์แห่งมวลมนุษย์ชาติโดยเน้นทรัพยากรสัตว์ป่าและพืชป่าที่ใกล้จะสูญพันธุ์หรือมีการคุกคาม ทำให้มีปริมาณร่อยหรอจนอาจเป็นเหตุให้สูญพันธุ์ วิธีการของ CITES คือการสร้างเครือข่ายประเทศสมาชิก เพื่อควบคุม การค้า การส่งออก การนำเข้าซึ่งชนิดพันธ์ที่อนุสัญญาดังกล่าวกำหนด
ซึ่งจะควบคุมโดยระบบใบอนุญาต
ได้แก่
ส่งออก
นำเข้า
นำผ่าน
ส่งกลับออกไป
ตามมาตรา๒ แห่งอนุสัญญาได้กำหนดว่าชนิดพันธ์ในบัญชีที่๑คืออะไรบ้าง บัญชีที่๒ มีอะไรบ้าง บัญชีที่๓มีอะไรบ้าง ซึ่งความเข้มงวดในการซื้อขายในทางระหว่างประเทศจะมีความแตกต่างกัน
โดยประเภทที่๑ ได้แก่ชนิดพันธ์ที่โดยผลจากการค้าทำให้เกิดการสูญพันธ์ ดังนั้น การค้าทางระหว่างประเทศจึงต้องห้ามเด็ดขาด แต่ไม่ต้องห้ามการค้าภายในประเทศ เนื่องจากการค้าภายในประเทศมีผลกระทบต่อการสูญพันธ์ค่อนข้างน้อย เพราะสภาวะสิ่งแวดล้อมไม่ค่อยมีผลเสียต่อชนิดพันธ์นั้นๆมากนัก CITES จึงไม่ยุ่งเกี่ยวกับกรณีการค้าในประเทศ แต่ก็ต้องระวังว่าสัตว์หรือพืชที่เราจะซื้อขายกันนั้น มีกฎหมายภายในคุ้มครองอยู่รึเปล่า ทั้งนี้ไม่รวมถึงการจัดแสดงนะคะ สามารถนำสัตว์ของเราไปโชว์ได้ ไม่ต้องขออนุญาต
แต่ถ้าซื้อขายกัน ถ้าด่านตรวจจับได้ขึ้นมา ก็มีโทษปรับ 30,000 บาท จำคุก 30,000 หรือทั้งจำทั้งปรับ
ดังนั้นก่อนซื้อตัวอะไรมากจากต่างประเทศก็ดูดีๆนะคะ เด๋วจะเซงทีหลัง แล้วก็สงสารสัตว์ค่ะ เพราะมันพูดไม่ได้ว่ามันรู้สึกยังไง ผิดที่ผิดทางผิดอากาศ ผิดสภาวะ ก็ตายเปล่า ถ้ามันอยู่รอดได้ก็ไม่เปนไร แต่ถ้ามันแพร่พันธ์เยอะๆขึ้นมาแล้วกระทบต่อสัตว์ท้องถิ่นก็ไม่ดีอีกนะคะ ^^
ถ้ามันไม่เป็นอันตราย เช่นเป็นพาหะนำโรคเราว่าตำรวจไม่ยุ่งหรอกค่ะ เพราะหลายเรื่อง คือ เขาต้องดูแลรักษาของกลางซึ่งนำยึดได้ ซึ่งใครจะมาเสียเวลาดูแล อย่างช้างเขายังโคตรขี้เกียจจับเลยค่ะ ถ้ามันไม่เดือดร้อนก็ไม่เปนไร แต่ระวังช่วงไข้หวัดนกก็ซ่อนดีๆละกันค่ะ แล้วถ้าพี่ตำหนวดมากวนจริงๆ คุณต้องพิสูจน์ให้ได้ว่านกเป็นนกที่เพาะพันธ์จากในประเทศ (น่าจะมีสูจิบัตรนกนะ) แล้วนกก็ต้องไม่ใช่สัตว์สงวน สัตว์คุ้มครองด้วย ไม่อย่างนั้นก็อย่าเถียงเลยค่ะ ไปเสียค่าปรับเหอะ จูบลานกของคุณคืนให้มันสู่ท้องฟ้าดีกว่า
ถามคุณ Anitashin ซื้อตัวเท่าไรครับ ขอบคุณครับ
ตอบคุณกานต์นะครับ
คุณAnitashin เค้าขายทิ้งไปแล้วครับซื้อมาได้ไม่นานก็ขายแล้วครับน่าจะเลี้ยงตามแฟชั่นมากกว่าครับ
น้องกานต์ตอนนี้เค้าหลอนน่ะ แบบว่าเห็นบลูโกลด์รุ่นราวคราวเดียวกับตัวของเค้า(ที่โดนขโมยไปสดๆร้อนๆ) เป็นนึกว่าเป็นนกตัวเองทุกที 5555
ขอบคุณ ด.ช.หาดจ้า .............. แหม๋พี่เล็ก ตัวแรก มันเอาซะประเดิมเอาฤกษ์เอาชัยเลย เสียความรู้สึก แค้นฝังหุ่น รอแม่หายเศร้าก่อน เดี๋ยวซื้อตัวใหม่ นี่ให้นำจับไปและ 25000 แต่ไม่ได้ประกาศในเวบ ไม่รู้สมควรรึเปล่า เจอตัวมันก็คงทำไรมันไม่เป็น ต้องให้คนอื่นทำฮึฮึ เจ็บจายT.T
อย่างนี้ต้องซื้อนกมาทุกวัน มันมีปัญญามาขโมยทุกวันก็ให้มันรู้ไป
โอ๊ะ อันนี้ต้องขายบ้านขายช่องแล้วมั้งพี่เล็ก ซื้อทุกวันจะถึงปีไหมเนี่ย แบบนี้ ต้องให้พี่ๆทั้งหลายช่วยซื้อ แล้วปล่อยบิน ให้เหมือนนกหาง่ายไปเลย นกแก้วสายพันธุ์ไทย โบลิเวีย
อันที่จริงบัญชี1 สามารถนำเข้าส่งออกได้ครับ มีข้อยกเว้นคือ
สัตว์บัญชี1 ตัวนั้นเกิดจากการเพาะพันธุ์ ลูกของมันจะตกเป็นบัญชี2 แสดงว่าส่งออกได้
แต่ตอนที่เรานำเข้ามา มีหลักฐานการนำเข้าหรือไม่
อาจจะมีการนิรโทษกรรมสัตว์ที่นำเข้ามา แต่มีหลายส่วนคัดค้านเหมือนกัน
กรมอุทยานจะกำลังปรับปรุงกฏหมายสัตว์ป่าให้ทันสมัย เพราะที่เราใช้อยู่มันเก่ามากและไม่ทันสมัย