อิเลตตัสตัวพี่พึ่งตายไปตอนเช้าวันนี้ เพื่อนก็เลยล้วงอีกตัวมาให้ช่วยดูแลหน่อย กระเพาะไม่มีอาหารเลย ทั้งที่เกิดมาได้2วันแล้ว เมื่อสักครู่ไปป้อนอาหาร สังเกตุเห็นที่ทั้ายทอยนกบวมแดง คงเกิดจากความไม่สมบูรณ์ของพ่อ-แม่นก
เป็นไปตามคาด นกที่แม่ไม่เลี้ยง มักจะเจอปัญหาแบบนี้ ขนาดให้ยาดักใว้ก่อน ก็ยังเจอ ก็ต้องป้อนน้ำอุ่นช่่วยพร้อมยาอีก ส่วนอาการบวมก็ยังเหมือนเดิม ดูท่าแล้ว คงรอดยาก
.ให้น้ำอุ่นไป2รอบเริ่มย่อยดีขึ้นเกือบแห้งกระเพาะแล้ว ยังไม่กล้าให้อาหารเหลวๆ เปลี่ยนจากน้ำอุ่นเป็นน้ำเกลือ(หรือน้ำเกลือแร่ก็ได้)
3ชั่วโมงผ่านไป หลังจากที่ให้น้ำเกลือ(สำหรับคนไข้)ก็เริ่มย่อยจนแห้งกระเพาะแล้ว
หลังจากให้น้ำเกลือก็เริ่มย่อยดี ก็เลยลองป้อนอาหารเหลวๆให้ ผลปรากฏว่ายังย่อยฃ้าไม่มาก คิดว่ากว่าจะแห้งกระเพาะคงจะ6ชม. จึงยังคงหันกลับมาป้อนน้ำเกลือใหม่ ก็เริ่มย่อยดี เร็ว เช้านี้ให้ยาพร้อมอาหารเหลวๆใหม่ ดูว่าจะย่อยเร็วไหม
หลังจากป้อนอาหารเหลวแล้ว ระบบย่อยไม่ดีขึ้นเลย จึงหันมาป้อนอาหารเหลวๆสลับกับน้ำเกลือ ก๊ดีขึ้นหน่อย เช้ามาก็แห้งกระเพาะ ส่วนท้ายทอยบวมนั้น ให้ยามา5วันแล้ว ไม่มีปฏิกิริยาดีขึ้น คงยังเหมือนเดิม แต่ก็ไม่มีอาการทรุดให้เห็น ก็เลยคิดว่าไม่ป้อนยาแล้ว ปล่อยให้ค่อยๆหายไปเอง (ถ้ายังมีชีวิตอยู่รอด)
วันนี้เช้ากระเพาะก็ยังย่อยไม่หมด ทั้งๆที่ให้อาหารเหลวๆแล้ว จำเป็นต้องให้น้ำเกลือสลับกับบอาหารเหลวเพราะถ้าให้แต่น้ำเกลืออย่างเดียวหลายวัน นกก็จะเสียชีวิตเหมือนขาดสารอาหารจากเมล็ดพืช ก็เลยต้องประคองไปแบบนี้ เผื่อร่างกายนกแข็งแรงขึ้น
เมื่อคืนป้อนอาหารเหลวๆดูว่าเช้านี้จะย่อยหมดไหม ปรากฏว่ายังคงเหลืออาหารแบบเดิม จึงต้องให้น้ำเกลือก่อนเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเชื้อราจากการหมักหมมของอาหาร เดี๋ยวให้น้ำเกลือแล้วคงย่อยแห้งกระเพาะ จึงค่อยให้อาหารเหลวๆใหม่
วันนี้ให้น้ำเกลือไป2รอบแล้ว ย่อยช้าลงมาก เมื่อวานเจ้าของนกก็มาหา พาไปดูลูกนก ก็บอกว่ามีปัญหาเกี่ยวกับระบบย่อย ทำได้เท่านี้ ถ้าระบบย่อยดีขึ้นโอกาสรอดก็มี แต่ยาก เป็นไปตามธรรมชาติ ขนาดแม่นกยังไม่ยอมเลี้ยงเลย ก็พูดให้เจ้าของนกเข้าใจ
หลังจากปรับเปลี่ยนการป้อนน้ำเกลือเป็นมื้อสุดท้าย ระบบย่อยก็ดีขึ้นหน่อย ย่อยอาหารเหลวๆได้แห้งกระเพาะ
ท้ายทอยที่บวมแดง13วันแล้วก็ยังไม่มีอะไรดีขึ้น หยุดให้ยา มา6วันแล้ว คิดว่าจะกลับมาให้อีก 3 วัน อาการโดยรวม ป้อนอาหารข้นไม่ไม่ได้ ป้อนได้แต่เหลวๆเท่านั้น การพัฒนาการทางร่างกาย ช้ามาก ซึ่งปกติแล้ว ลูกนก15วันขนตัวต้องออกเป็นอุ่ยๆแล้ว ถ้าหากรอดก็จะเป็นอิเลคตัสที่เล็กที่สุด.
รอดมาดีเลยครับ เลี้ยงพันธุ์ธรรมดาแต่กลับได้ปิ๊กมี่
เช้าไปดูลูกนกตามปกติ เห็นกระเพาะอาหารยังย่อยไม่หมด ก็จับนกหงายท้องดู เจอสิ่งแปลกปลอมในท้องนกปูดออกมา ไม่ทราบว่าเป็นโรคอะไร
เฝ้าติดตามข่าวครับ
เช้านี้ไปดูอาการนก ใจชื้นขึ้นหน่อยย่อยเกือบหมดใน3ช.ม. ท้องที่ปูดออกมา ให้ยาไปแล้วก็ยุบหาย
ให้ยามาอีก 3 วันแล้ว อาการบวมแดงที่ท้ายทอยก็ยังไม่ดีขึ้นแต่ก็ไม่ได้ส่งผลเสียต่อร่างกาย วันนี้ไฟฟ้าจะดับ 9.00น-17.00น
วันนี้ไฟฟ้าดับถึงบ่าย3.30 ก็ไม่ได้สนใจเรื่องอุณหภูมื พอถึงเวลา10.30น. ไปดูอาหารที่ป้อนไปว่าเป็นยังไงบ้าง ปรากฏว่าเห็นลูกนกเก็บหัวอยู่ระหว่างท้อง กลมเป็นลูกฟุตบอล จึงรีบดูที่ปรอทในตู้ ปรากฏว่าอุณหภูมิแค่25องศาเอง ขืนปล่อยใว้จนถึงไฟฟ้ามา มีหวัง ตายแน่ นึกขึ้นได้ ต้องรีบเพิ่มอุณหภูมิ จึงต้มน้ำร้อนใส่ในถุงร้อนไปทิ้งใว้ในตู้ ก็ช่วยให้อาการหนาวของลูกนกดีขึ้น จาก25ขึ้นได้ถึง33
เช้าไปดูว่าอาหารย่อยหมดไหม ปรากฏว่ายังย่อยไม่หมด ก็เลยให้น้ำเกลิอไป ปรากฏว่า ร่างกายของนกไม่มีการตอบสนองเลย คิดว่าน่าจะถึงจุดจบของชีวิต พรุ่งนี้ก็คงเสียชีวิตเป็นแน่ ช่วยมาได้เกือบ3อาทิตย์ ไม่มีอะไรดีขึ้น ร่างกายไม่ตอบสนองการกินและไม่เจริญเติบโต เดี๋ยวจะลองดูดอาหารออก เพิ่มอุณหภูมิดู
ปล.กำลังจะไปทำ ปรากฏว่าลูกนกได้เสียชีวิตพอดี
หลังจากที่นกเสียชีวิตไปแล้ว ไม่นานแม่นกก็ไข่มาใหม่ พึ่งเป็นตัวเมื่อวันจันทร์(ไข่แค่ฟองเดียว) เพื่อนไปดูอีก แม่นกก็ไม่เลี้ยงเช่นเคย มาขอรบกวนผมช่วยเลี้ยงเช่นเคย เลี้ยงมาได้สามสี่วันแล้วยังไม่มีปัญหา ตัวโตขึ้นทุกวัน
เช้าวันนี้ก็ไปป้อนอาหารตามปกติ พออ้าปากนกเพื่อแหย่สายป้อน ก็แปลกใจ ทำไมนกไม่ค่อยตอบสนองการกิน ก็ป้อนไปได้5-6cc.ก็หยุดป้อน เอาสายป้อนออกเพราะรู้สึกนกไม่ค่อยยอมกินอาหาร ประเดี๋ยวเดียว นกก็อาเจียนออกมาเป็นเลือด ยังพอเห็นคราบเลือดติดอยู่ที่ถ้วยใส่ลูกนก
หลังจากให้ยาไปแล้ว ผ่านไป3ช.ม.ก็ไปดูว่าอาการเป็นอย่างไร ปรากฏว่า กระเพาะพักไม่ทำงานเลย อาหารยังคงเท่าเดิม และสังเกตที่ผิวหนังกระเพาะพักส่วนบนหยาบและมีร่องรอยการอักเสบ เดี๋ยวต้องดูดอาหารออกแล้วลองให้น้ำเกลือหรือเกลือแร่ก็ได้ ดูว่าจะมีปฏิกิริยายังไง อาการแบบนี้ดูท่าจะรอดยาก
ดูดอาหารออกแล้ว ปรากฏว่าในกระเพาะมีแต่เลือด
ลุ้นสุดๆไปเลยกระทู้นี้
ลุ้นไม่ขึ้นครับ อยู่ได้วันเดียวก็เสียชีวิตไปแล้วครับ
อ่านตั้งแต่ต้นจนจบ รู้สึกขนลุกเลยคะ จนต้องวิ่งไปดูเจ้าพริกหวานของตัวเอง เฮ้อ....