ว่าด้วยกระทู้ ที่เลี้ยงด้วยใจครับ
หายไปนาน กลับมาเลี้ยงนก ที่คิดว่าตัวเองชอบมากที่สุด และ ไม่แพ้นกกรงหัวจุก นั่นก็คือ นกเลิฟเบริ์ด
ใครๆ อาจจะบอกนกตัวเล็กๆ แต่ เราเป็นคนที่ใจเดียวแต่หลายรส เลย หาโอกาส ฉลองคอมใหม่ เอามาให้พี่ๆช้วยดูหน่อย เผื่อหาเพื่อนๆที่เลี้ยงครับ
สวยมากๆเหมือนนกย้อมสีเลยครับ
นกตัวเล็กๆที่ทำให้หัวใจเราหวั่นไหว ไม่แพ้นกกรงหัวจุก ด้วยเพราะว่านกสามารถ พัฒนาสีนกได้มากมาย ตามแต่จินตนาการครับ นกสามารถผสมสีนกให้ได้สีที่เราต้องการได้ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นต้องมาจากพื้นฐานการเรียนรู้เรื่องการผสมสีนก ที่เรียกว่า Genetics ตอนนี้เพิ่งจะเริ่มต้นครับ
เริ่มจากนกธรรมดาก่อน แล้วค่อยๆ หานกเข้ามาตามที่เราต้องการให้เป็นหรือ อนากได้ครับ เอารูปมาดูเล่นๆไปก่อนนะครับ
อันนี้คงต้องเรียนรู้จากพี่อ้อ นะครับ
ไข่แต่ใบ ที่นกออกมา มีลุ้นทุกๆครอกครับ โดยที่พ่อแม่นก อาจจะเป็นนกต่างสีกันจะมีลุ้นครับ
อย่างในรูปเป็นนก ลูติโน่หน้าแดง ที่ใครๆเรียกว่านกล่าง แต่คุณค่านกไม่ใช่เพียงแค่ราคาค่างวดที่เราทึกทักว่าถูก ไม่ดี แพง ดี ต่างที่กลไกการตลาดนั่นเอง กระแสสค่านิยมต่างๆ
แต่ในปัจจุบันนี้คนที่เลี้ยงส่วนใหญ่ ใจ มาก่อน อันดับแรก
ดูนกเรื่อยๆนะครับ จะเอามาให้ดูสวยๆ น่ารัก
เห็นตอนนกลงมาให้อาหาร ใบกระเพรา หญ้าขน ดูแล้ว มีความสุข แบบบอกไม่ถูก 555
นกพวกนี้เลี้ยงตั้งแต่กอน ไข้หวัดนกระบาด พอดี เห็นมีข่าวเลยต้องเก็บไว้เป็นความลับ ขนาด ผบ.ทบ ที่บ้านยังไม่รู้เลยว่าเอาไปไว้ไหมหมด เสียดายนกสีสรรสวยๆ ที่เคยเอามาป้อน ว่ามันสนุก และ ลำบากแค่ไหน 555
ลูกนก ที่เรามาป้อนครับ จะเห็นได้ว่า นกที่มีลูกมากว่า 3 ตัว ตัวที่เกิดมาทีหลัง เป็นต้องไปสวรรค์ เลยจำเป็นต้องเอามาเป็นพ่อเลี้ยง
แล้วก้อ ป้อนมากระทั่งโต เต็มมือ แต่ภูมิใจครับ นกไม่ไปสวรรค์ ก่อนเวลาอันควร
ในรูปมีนกที่เป็น พาย์ดเขียวเหลืองหน้าแดง ลุติโน่หน้าแดง อื่นๆ
ในรูปมีนกที่เป็น พาย์ดเขียวเหลืองหน้าแดง ลุติโน่หน้าแดง อื่นๆ
น้องเก้ ว่างวันไหน มาดูได้ครับ ลงมากทม โทรบอกพี่นะครับ
จะให้ดูนกที่เลี้ยงไว้ แบบมันส์ ๆ
คู่นี้รักมากครับ เป็นพายืด ฮาฟไซเดอร์ นกแปลกครับ
ลีลาการหยอกล้อ ช่างน่ารักจริงๆ
พวกเรารักกัน แหมยืนชิดกันหมดเลย 5555
สวยค่ะ เป็นนกที่ สีสัน สวยงามมากๆค่ะ
มีแบ่งสวยๆๆมาเลี้ยงบางไหมครับ
น้องๆๆเค้าสนใจ
อ้างถึงpjm1 เป็นผู้เขียน:
มีแบ่งสวยๆๆมาเลี้ยงบางไหมครับ
น้องๆๆเค้าสนใจ
โห พี่ สอยทุกไซด์ เลย :-D :-D :-D
:-o :-o
ไม่ได้เห็นกรงนก LB นานแล้ว ยังอยากกลับไปเลี้ยงเหมือนเดิมอีกแล้ว
:roll: :roll:
เฮ้อ!!! เมื่อไหร่เลิฟเบิร์ดจะราคาขึ้นน้อ จริงๆแล้วมันเป็นนกที่น่ารักใช้ได้เลยทีเดียว แต่จากราคาที่โดนปั่นกันไปถึงคู่ละหลายแสนในนกสีสูงๆ บางคนพอมีเงินเก็บบ้าง คิดว่าจะมาเลี้ยงนกเป็นอาชีพ ก็เลยต้องเจ็บหนัก
ว่าแต่ว่าตอนนี้ราคานกมันก็ถูกเกินไปจริงๆระครับ ถ้าคิดจะซื้อมาเลี้ยงแล้วออกลูกมา ขายลูกเป็นค่าอาหารนก มันก็ไม่ค่อยพอเสียแล้ว เสียดายนกที่น่ารักจริงๆ.........
สวยมากเลยครับ
สวยๆทั้งนั้นเลย
เมื่อก่อนนู้น เคยเลี้ยงแบบมีขอบตา
ถ้าจะมาเลี้ยงอีก แนะนำสีอะไรครับ ยังชอบแบบมีขอบตามากกว่า
แบบขอบ กับ ไม่ขอบ อันไหนต้องดูแลมากกว่ากันครับ แบบทนต่อโรค ทนต่อยุง ประมาณนั้น
สวัสดีครับพี่ๆ และ เพื่อนๆ น้องๆ
อันว่าโรคนกนั้นมีมากมายครับ ต้องขึ้นกับว่าแหล่งที่เราเอานกเข้ามา และ สถานที่ที่เราเลี้ยงนก ต้องสะอาดด้วยครับ เพราะ เราต้องเข้าไปเลี้ยงนกทุกๆวัน ต้องมีอากาศที่ดี และ ไม่มีกลิ่นอับ แสงแดดเข้าถึง
โรคก็ยังมีเช่น หวัด ตาเจ็บ ฝีดาษ แคงเกอร์
แต่ก็มีวิธีการรักษา ป้องกัน แต่ให้เน้นที่การป้องกันดีกว่าครับเพราะว่าด้วยเรื่องโรคฝีดาษ เพิ่งเจอกับตัวเอง เมื่อคราวซื้อนกใหม่เข้ามาโดยไม่มีความรู้เรื่องการกักนก การพิจารณราเลือกซื้อนก ว่านก สังเกตุอาการป่วยอย่างไรครับ ต้องค่อยๆศึกษา พิจารณา แล้ว นกที่เราเลี้ยงจะมีสุขภาพที่ดีครับ
อาหารการกิน ก็ง่ายๆครับ อาหารผสมทั่วๆไป และ หาที่มีฝุ่นจากอาหารน้อยๆครับ
ที่ว่าด้วยเรื่องราคานะครับ
ปัจจุบัน คิดว่าราคานก คงจะเป็นราคาที่คิดว่าสมเหตุสมผลครับ และ ที่ว่าราคาต่ำ คิดว่ามีเฉพาะบางคนที่เลี้ยงนกแล้วแบบเล่นๆ ไม่รู้จะขายใครก็ เอามาแบบเร่ขายโดยไม่คิดถึงราคากลางของตลาด เบื่อ เลิกเลี้ยง ขายแบบดีกว่าปล่อย ทำให้ราคาตลาด ผลิกผัน
วิเคราะห์แล้ว จากประสพการณืที่เลี้ยงครับ นก 1 ตัว กินอาหารแล้ว เวลาขายไม่คุ้มกับค่าอาหารครับ เพราะราคาที่คนเคยซื้อได้ในราคาถูก โดยไม่คำนึงถึงสุขภาพนก และ อาการป่วยของนกที่ตามมา ผมเคยเจอนกราคาถูกที่เอามาครับ ซื้อนกสวยๆ จากราคานกที่ถูกแบบไม่น่าเชื่อว่าราคานี้ซื้อได้ โดยไม่ได้มองว่าทำไมราคานกถูกจัง แต่ด้วยที่ว่าชอบ และ ไม่อยากให้คนที่ซื้อนกราคาถูกนี้ไปเลี้ยงแบบทิ้งๆ ขว้างๆ เลยเอาเข้าบ้าน
หลังจากนั้นไม่นาน นกก็เริ่มแสดงอาการมีตุ่มที่ตาและ เท้า เป็นอาการแห่งที่มาของโรค มีเวลาจะเอามาลงเพื่อ ป้องกันครับ ทุกๆ ข้อมูลเพื่อการดำรงไว้สำหรับคนที่มีจิตใจที่รักนกแบบพวกเราครับ เลี้ยงเพื่อรัก ไม่ใช่เพื่อการพาณิชย์ ในบางครั้งลงแบ่งขายนกยังหวั่นๆ ว่าจะโดน แบนไปว่าเป็นพ่อค้านกป่าว แต่ในเมื่อนกเริ่มมีการพัฒนาก็ต้องมีนกในระหว่างการพัฒนาตามมาทำให้จำนวนนนกที่เราต้องการในขั้นที่ 3 และ 4 มีมากมาย ไม่รู้จะเก็บไว้ไหน นี่คือแหล่งข้อมูลที่พอทำนกเองแล้เวจะรู้ว่าเมื่อต้องการนกสีไหน ลองทำสัก 2 คู่ ลูกนกที่ได้นชั้นที่ 1 มีครอกละกี่ตัว และ ครอกที่2 อีกกี่ตัว คนืที่ไม่ได้สนใจมนการทสีนก หรือ พัฒนานกให้ได้สวยๆ จะไม่รู้คุณค่านกในแต่ละตัวว่ามีคุณรค่าในความเป็นนกสวยต่างกันอย่างไร แต่คุณค่าของการมีชีวิตนั้นยิ่งใหญ่กว่าสี และ ราคานะครับ
พี่ไพเชษฐ์ เฮียเต่า ลุงน้อย สนใจนกสีไหนบอกน้องได้ครับ
ในปัจจุบัน นกที่นิยมนะครับ
นกขอบตา
ในสีนกที่มีความสวยงามเช่นนกสีโทนม่วง และ นกเซเบิล
นก พาย์ดโดมิแนนท์
นกไม่ขอบตาเช่น
โอพาลีน ทุกสี แล้วแต่ความชอบครับ
ในนกที่สมัยก่อนเลี้ยงกัน บางท่านเหมารวมเรียกว่านกล่าง เช่นนกไม่ขอบตา และ นกขอบตา ทำให้คนที่เลี้ยงนก มีจิตใจไม่ค่อยดีกับคำว่านกล่าง เลยคนไม่นิยมเลี้ยง
โดยส่วนตัวผมชอบนกที่เรียกว่านกล่างครับ เพราะพื่นฐานการทำนก ถ้าไม่มีนกล่างที่ว่านี้ก็จะไม่มีนกในปัจจุบันครับ เรียกว่าสูงสุดกลับสู้สามัญ ทั้งขึ้นกับความแข็งแรง ด้วยแล้ว นกสีเขียวที่เรียกว่าสีนกแก้วก็ยังครองความแข็งแรงและการถ่ายทอดพันธุกรรมที่ดำรงด้วยโครงสร้าง และ ความอดทนต่อโรคต่างๆ และ แม้กระทั่งงู ก็ไม่สามารถทำร้ายนกสีนี้ได้
ตัวอย่างรูปที่แนบมาเป็นนกขอบตาครับ
นกไม่ขอบครับ เรีบกว่าโอพาลีน
ในรูปเป็นก ลูติโน่ โอพาลีน และ ไอโน่ โอพาลีน
นกขอบตาสวยๆครับ รูปเป็นของพี่ที่รู้จักกันในเวปครับ
ขออนุญาติลงด้วยนะครับ
กลุ่มนี้ที่บางท่านเรียกว่านกล่าง ดูอย่างไรก็สวยครับ และที่สำคัญ ปัจจุบันคนไม่ได้เลี้ยงแล้ว น่าจะหายากขึ้นทุกทีครับ
นกสวยๆ
นกสวยๆ
จี๊ ทำสีแบบไฮยาซินเลย
หวัดดี... "จี๊"...
*** :-D ดีใจที่เห็นนกเลิฟเบิร์ดมาขึ้นแท่นโชว์โฉมที่เว็ปนี้บ้าง... และยิ่งดีใจมากขึ้นที่คนที่นำมาขึ้นแท่นคือคนที่รักนกจริงๆ... พี่เองมีนกสวยๆ ที่ผลิตได้อยากเอามาให้เพื่อนๆ ที่นี่ได้ชมแต่ก็เกรงว่าจะถูกมองว่านำมาลงเพื่อเป็นการปั่นทางการค้า... เพราะไม่ชอบกับคำๆ นี้ ก็เลยได้แต่รอดูว่าจะมีใครนำนกสวยงามอย่างเลิฟเบิร์ดนี้มาขึ้นแท่นบ้าง... ดีใจจริงๆ :-D
*** แล้วที่นัดไว้เมื่อไหร่พร้อมก็มานะ ยินดีต้อนรับ... อ้อ!!! เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา น้อง yun_cool ก็มารับ Opaline ไป 7 ตัว... จี๊จะรับไปสักกี่ตัวดีจ๊ะ เดี๋ยวพี่จัดให้... ;-)
อ้างถึงต้นอ้อล้อลม เป็นผู้เขียน:
หวัดดี... "จี๊"...
*** :-D ดีใจที่เห็นนกเลิฟเบิร์ดมาขึ้นแท่นโชว์โฉมที่เว็ปนี้บ้าง... และยิ่งดีใจมากขึ้นที่คนที่นำมาขึ้นแท่นคือคนที่รักนกจริงๆ... พี่เองมีนกสวยๆ ที่ผลิตได้อยากเอามาให้เพื่อนๆ ที่นี่ได้ชมแต่ก็เกรงว่าจะถูกมองว่านำมาลงเพื่อเป็นการปั่นทางการค้า... เพราะไม่ชอบกับคำๆ นี้ ก็เลยได้แต่รอดูว่าจะมีใครนำนกสวยงามอย่างเลิฟเบิร์ดนี้มาขึ้นแท่นบ้าง... ดีใจจริงๆ :-D
*** แล้วที่นัดไว้เมื่อไหร่พร้อมก็มานะ ยินดีต้อนรับ... อ้อ!!! เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา น้อง yun_cool ก็มารับ Opaline ไป 7 ตัว... จี๊จะรับไปสักกี่ตัวดีจ๊ะ เดี๋ยวพี่จัดให้... ;-)
ที่ผมเล่าให้ฟังไม่ได้พาดพิงถึงคุณอ้อแต่ประการใดนะครับ แต่ผมเคยเห็นด้วยตาตนเองว่ามันมีการปั่นจริงๆ สร้างกระแสคล้ายๆหุ้น ซื้อๆขายๆ โห!!! ทำกันเนียน ทั้งๆที่นกมันไม่รู้เรื่องอะไรด้วยเลย ก็เลยนำมาเล่าให้ฟังครับ แต่ยอมรับนะครับว่าเลิฟเบิร์ดสีสวยใช้ได้เลย แถมยังเสียงไม่ดังอีกด้วย น่าเลี้ยงครับ
ครับ เฮียเต่า พี่อ้อ พี่คิตตี๊
ผมเพิ่งจะเริ่มการเรียนรู้การทำสีนกโดยอ่านจากหนังสือ การทำสีนกชื่อว่า เลิฟเบริ์ด เจ้าสีสรร โดยหนังสือ ก็อาศัยยืมพี่ๆ มาอ่านก่อนครับ หาเงินมาซื้อหนังสือ ทีหลัง อิอิ
ครับเฮียเต่าจะพยายามทำสีแปลกๆครับ ชอบนกสีแปลกๆ แต่ต้องถามพี่อ้อ ครับ พี่อ้อ น่าจัเชี่ยวชาญเรื่องการทำสีนกมากกว่าคงต้องรบกวนพี่อ้อนะครับ
นกพี่อ้อ ผมสนใจมากครับ จะเอามาพัฒนาต่อให้สวยๆครับ แต่เรื่องงบประมาณ คงต้อง ค่อยๆซื้อที่ละ ตัว สองตัวครับ เดือนนึงมีงบใต้ดิน ด้านการเลี้ยงนกที่ว่านี้ไม่มากครับ ต้องส่งลุกป้อน ลุกชาย 2 คนกิน ด้วยเรียนด้วย 555 กำลังใช้เงินเลย คนโต อนุบาล 2
คนเล็ก 1.7 ปี กำลังกิน กำลังนอนเลยครับ
ครับที่พี่kitty ว่า ราคานก ทำไมสูงมากเมื่อก่อน ผมเองก็เคยเป็นคนที่ แอนตี๊มากๆครับ เพราะเลี้ยงนกธรรมดา
แต่มีพี่ท่านหนึ่งใจดีมากให้นกตังแรกมาเป็นลูติโน่ครอบส้ม ราคาตอนต้นปีคิดว่าประมาณ 4000-5000 บาท พี่ท่านนี้ให้มาฟรีๆ โดยไม่คิดค่าอาหารเลย เป็นต้นเรื่องที่ทำให้ผมมาศึกษาการทำสีนก และ เรื่องอื่นๆ ที่เคยสงสัยว่าทำไม นกราคาถึงได้เปลี่ยนแปลงมาก เพราะว่าการทำสีนกโอพาลีนนั้น ขึ้นอยู่กับนกเพศผู้เท่านั้นครับ ทำให้ราคานกตัวผู้ แพง โค................ตร เมื่อก่อนบังคับขายเป็นคู่ เสมือน ขายนก 1 คู่คิดแต่ราคานกตัวผู้ ตัวเมียแถมให้ เพราว่านกที่ทำมานั้นโดยส่วนใหญ่ โอกาสเกิดจากเป็นนกตัวผู้และ ตัวเมีย 50 : 50 แต่ในที่ว่า 50 เปอร์เซนต์ ใครจะทราบว่า โอกาสลุกนก กว่าจะลงรังได้ใช้เวลาเท่าไหร่ บางคน 1 ครอก เป็นตัว 4-5 ตัว แต่ พอโตเรื่อยๆ ค่อยๆ อยู่ใต้หญ้า กว่าจะลงรัง จาก 4-5 ตัว เหลือ เพียงแค่ 1 ตัว แต่ทำไมนกสีปรกติ ธรรมดา มีลูกดก นั่นคือข้อที่ต้องนำมาคิด แก้ไขการทำนกให้ดี และ แข็งแรงครับ
นกเลิฟเสน่ห์นกไม่ได้ขึ้นกับราคานก แต่ขึ้นกับความันส์ ในแต่ละคู่ที่เราต้องการทำสีนกว่าจะได้ในสิ่งที่เราคิดไหม เป็นการคิดแบบจิจตนาการ หรือ ที่เรียกว่าความน่าจะเป็น pop โอกาสที่ลูกนกจะเกิดเป็นสีนั้นสีนี้
ลูกนก ตัวแรกที่แตกตัวจากไข่ บางคน ต้องลุ้นว่าตาแดงไหม ดูเล็บ ดูลั้ม โอย ....... มันส์ครับ
ผลผลิต อันดับที่ 2 ครับพี่อ้อ
โตขึ้น สงสัยจะบ้านกเหมือนผมทั้ง 2 คน ครับ
เอ๊ะ สยามพีนิกซ์ไฮ5 เด็กเหรอเนี่ย อ๊าวใครมีลูกเอารูปมาลงได้ที่กระทู้นี้ได้เลยครับ ดูสิว่าลูกใครน่ารักสุด ( น้องต้นลูกคุณเอ เหมือนจะน่ารักสุดแต่ แก่นสุดๆเช่นกัน อิอิ)
อ้างถึงkitty75 เป็นผู้เขียน:
อ้างถึงต้นอ้อล้อลม เป็นผู้เขียน:
หวัดดี... "จี๊"...
*** :-D ดีใจที่เห็นนกเลิฟเบิร์ดมาขึ้นแท่นโชว์โฉมที่เว็ปนี้บ้าง... และยิ่งดีใจมากขึ้นที่คนที่นำมาขึ้นแท่นคือคนที่รักนกจริงๆ... พี่เองมีนกสวยๆ ที่ผลิตได้อยากเอามาให้เพื่อนๆ ที่นี่ได้ชมแต่ก็เกรงว่าจะถูกมองว่านำมาลงเพื่อเป็นการปั่นทางการค้า... เพราะไม่ชอบกับคำๆ นี้ ก็เลยได้แต่รอดูว่าจะมีใครนำนกสวยงามอย่างเลิฟเบิร์ดนี้มาขึ้นแท่นบ้าง... ดีใจจริงๆ :-D
ที่ผมเล่าให้ฟังไม่ได้พาดพิงถึงคุณอ้อแต่ประการใดนะครับ แต่ผมเคยเห็นด้วยตาตนเองว่ามันมีการปั่นจริงๆ สร้างกระแสคล้ายๆหุ้น ซื้อๆขายๆ โห!!! ทำกันเนียน ทั้งๆที่นกมันไม่รู้เรื่องอะไรด้วยเลย ก็เลยนำมาเล่าให้ฟังครับ แต่ยอมรับนะครับว่าเลิฟเบิร์ดสีสวยใช้ได้เลย แถมยังเสียงไม่ดังอีกด้วย น่าเลี้ยงครับ
สวัสดีค่ะ... "คุณ kitty75"... :-D
*** ทราบค่ะว่า คุณ kitty75 ไม่ได้พาดพิงถึงอ้อ ...แหมมมมม ก็อ้อออกจากน่ารัก :-P เอ๊ยยยยย !!! เพราะอ้อมั่นใจว่าตัวเองไม่เคยปั่นราคาและยืนยันว่าไม่ได้เลี้ยงนกตามกระแส... ;-)
*** อย่างไรก็ตามต้องยอมรับว่าในยุคนึงสมัยนึงมีการซื้อขายเลิฟเบิร์ดในราคาสูงมากและมีการขยายตัวอย่างกว้างขวาง และมีการกระทำที่เรียกว่า "ปั่นราคา" เกิดขึ้นจริง ... และอ้อก็ไม่เคยเห็นด้วยกับการกระทำดังกล่าว (รายละเอียดคงไม่ต้องพูดถึงเพราะคิดว่าคงทราบกันพอควรอยู่แล้ว)... และเพราะเหตุการณ์ในอดีตทำให้มีหลายคนฝังใจพฤติกรรมของคนเกี่ยวกับนกชนิดนี้... ก็เลยเป็นความระแวดระวังโดยส่วนตัวค่ะ... ด้วยไม่ชอบพฤติกรรมของคน "ปั่นราคา" จึงไม่อยากถูกมองว่าเป็นพวก "ปั่นราคา" ในสายตาคนอื่น เท่านั้นเองค่ะ !!! ...
*** แล้วก็จริงอย่างคุณ kitty75 เขียนไว้นั่นแหละค่ะว่า นกเลิฟเบิร์ดนั้นมีสีสันสวยงาม... ปัจจุบันเลิฟเบิร์ดมีหลากหลายสีสัน แต่มีผู้เลี้ยงจำนวนไม่มากนักส่วนใหญ่จะเหลือแต่ผู้เลี้ยงที่มีใจรัก เพราะโอกาสทางการค้าดูไม่คุ้มค่าการลงทุนสักเท่าไหร่ ทำให้เดี๋ยวนี้บางสีหาดูไม่ได้อีกแล้ว หรือ หากหาได้ก็ยากมาก... แต่เชื่อหรือไม่ว่ามีนกเลิฟเบิร์ดบางชนิดที่เป็นที่ต้องการของชาวต่างชาติ ซึ่งอ้อเชื่อว่าหลายๆ ท่าน หากมีโอกาสได้เห็นคงนึกไม่ถึงทีเดียวว่ามีเลิฟเบิร์ดสีเหล่านี้เกิดขึ้นด้วย... เพราะตามตลาดทั่วไปจะหาดูได้ยากมาก และคงไม่สามารถหาดูได้ครบถ้วนทุกสีสัน...
*** ส่วนในเรื่องของเสียง ... หากเลี้ยงเพียงเล็กน้อยก็ถือว่าไม่ดังมากนัก แต่หากเลี้ยงเป็นจำนวนมากจัดว่าดังเอาการอยู่ ... เพราะนกเลิฟเบิร์ดที่สุขภาพแข็งแรงจะร่าเริงและส่งเสียงแทบจะตลอดเวลา...
*** บอกได้คำเดียวว่าในภาวะปัจจุบันหากใครคิดจะเข้ามาลงทุนเพื่อหวังผลกำไรกับนกชนิดนี้หรือนกชนิดไหนๆ ควรพิจารณาในหลายๆ ด้าน... แต่หากต้องการเลี้ยงเพราะความชอบและความรักเป็นเบื้องต้น โดยส่วนตัวยอมรับว่า "นกเลิฟเบิร์ดเป็นจ้าวแห่งสีสันโดยแท้"
หาเวลาถ่ายรูปนกสวยๆ ที่มีที่มาแห่งคำว่า เจ้าสีสรร อย่างที่พี่อ้อ ว่าครับ
เสน่ห์ นกเลิฟ อยู่ที่สีสรร และ เจ้าเสียง แก๊ก ๆๆๆๆๆๆๆๆ ถ้าใครเลี้ยงนกกรงหัวจุกจะกลัวมากๆเลย เพราะบางคนว่า จะทำให้นกกรงหัวจุก นั้น เพลงเสีย และ จะร้องไม่เป็นสำนวน
แต่ของผมเอง แขวนกรงนกหัวจุกไว้ท่ามกลางกรงนกเลิฟเบริ์ด และ เป็นนกแข่งซะด้วย สงสัยงานนี้ นกอาจจะร้องริก แสดงอาการดุดันและ สมบูรณืด้วยเสียง แก๊ก ๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ 5555
นกสวยๆครับ 3 สีหน้า เช่น หน้าปูน หน้าส้ม และ หน้าแดง
คู่นี้ใช่พาย์ดโกลเด้นหน้าส้มไหมนี่ครับ
พาย์ดโอลีฟหน้าแดง
แล้วมากรงที่มีเบบี้ครับ ครอกแรกจากไข่ครั้งแรก 3 ฟอง เกิด 3 เหลือ รอดแค่ 2 อีก 1 ตัว แบน แถมอยู่ใต้หญ้ารองรัง
กลุ่มหัวครอบ หรือ โอพาลีน OPALINE
นกสีเขียว และ โอลีฟ
พาย์ดสีสดสวย สีนี้ที่คลั่งไคล้ แต่ส่วนมาก สวยๆ จะเป็นเพศผู้
หลากสี ล้วนสบายตา
เครียดๆมาดูนกแล้ว สบายใจจัง
ผลงานของการเอาไว้รวมกับนกหัวจุกครับ ก็เป็นที่น่าพอใจ
ที่ 10 เสียงทอง งานแข่งนกที่สนามเทศบาลกระทุ่มแบน วันเสาร์ที่2 สิงหาคม 2551 เป็นเหตุผลที่สามารถบอกได้ว่า สามารถเลี้ยงรวมกับบริเวณที่เราเลี้ยงนกอื่นๆ ได้ครับ เย้ๆๆๆๆ
นกตัวโปรด สุดรัก ที่สามารถคว้าถ้วยใบแรกให้กับผม
แข่งครั้งแรก ได้ที่ 8 เสียงทองที่สนามวัดลาดปลาดุก ปี 2550
หลังจากนั้นก็ได้มาเรื่อยๆ เริ่มสนุกแล้ว
นอกจากเลี้ยงเลิฟก็เลี้ยงนกหัวจุก ควบคุ่กันครับ
กำลังมองหานกตัวไหนที่เพาะยาก อยากจะลองเหมือนกันครับ
มีเพื่อนหลายท่านให้ช่วยลงกระทู้เรื่องการป้องกัน และ รักษาโรคที่มีหลายๆท่านว่าน่ากลัวครับ เลย ขออนุญาติ ลงข้อมูลเพื่อ ป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์ที่เราไม่อยากให้เกิดครับ
ว่าด้วยเรื่องโรคฝีดาษครับ
ก่อนอื่นขอเริ่มบทความที่น่าจะเรียนรู้ก่อนครับ ว่าช่วงเวลานี้ เรื่องที่เราต้องให้ความตระหนัก และ เป็นความรู้ที่ควรทราบก่อนนำนกเข้ามาเลี้ยงที่บ้านเรา ต้องเตรียมตัวกันอย่างไร ครับ
ก่อนอื่นที่สำคัญที่สุดมากๆๆๆๆๆๆๆๆๆ เลยครับ คือ ต้องถามใจเราก่อนว่าเรารักการเลี้ยงนก ชนิดนี้ มากน้อยแค่ไหนครับ
ถ้าชอบมากๆ ก็ศึกษาข้อมูลต่างๆ ของนก ชนิดนก สายพันธ์นก และ อาหารการกิน โรคแ ละการรักษา ซึ่งมาอันดับสุดท้าย และ ท้ายสุด ของการเลี้ยงนก ถ้าไม่เจอ ถือว่า เฮง แต่ เจอ ก็ถือว่าเป็นประสพการณ์ และ เป็นสิ่งที่ควรจำ และ ต้องไม่ให้เกิดอีก
วิธีการ ดูว่านก มีเชื้อหรือไม่มี ไม่สามารถตอบได้ครับ แต่ที่สำคัญ ให้พิจารณาที่ตา และ ขา ว่ามีร่องรอยโรคหรือไม่ นกมีอาการ ตากระพริบ หรือ ไม่ ดูให้ถ้วนถี่ครับ
และ ถ้าเป็นไปได้ ต้องดูร้านข้างๆด้วยในกรณีซื้อนกที่มีร้านค้านก แบบนี้ มากกว่า 1 ร้าน
[ไฟล์แนบถูกลบโดยผู้ดำเนินการ]
******ทำการแยกนก หรือ กักนกที่ได้มาใหม่ ******
ถ้าแน่ใจค่อยซื้อนกมาที่บ้าน แล้ว ทำการแยกนกที่ได้มาใหม่ออกห่างจากสถานที่เลี้ยงให้ไกลๆ โดยให้แยก หรือ กักนกไว้ประมาณ 15- 30 วัน หรือ ให้นานหน่อยก็ปลอกภัยมากกว่าเดิมครับและสถานที่แยกนก ต้องมีมุ้งกันยุงล้อมรอบ เพื่อป้องกันยุงมากัด หรือ สัตว์เลี้ยงอื่นๆเช่น หนู แมลงวัน อื่นๆ
พอนำนกใหม่ มาถึงบ้านแล้วให้ เอา น้ำยา เวอร์คอนซื้อตามร้านขายยา ซองเล็กๆ ราคาประมาณ 18 บาท ผสมน้ำตามอัตราส่วน 2/10 ของซอง เทลงในน้ำ 1.0 ลิตร ในกระป๋องป๊อกกี๊ แล้วพ่นให้โดนตัวนกให้ทั่วแล้ว นำนกไปตากแดดให้แห้งเพื่อเป็นการฆ่าเชื้อโรคต่างๆที่อาจจะติดมากับตัวนก
สามารถพ่นได้ทั้งตัว ไม่ต้องกลัวเรื่องโดนตานกหรือ พ่นรอบๆ บริเวณที่เลี้ยงนก อย่างน้อยเดือนละ 1 ครั้ง
[ไฟล์แนบถูกลบโดยผู้ดำเนินการ]
ยาและวิตามินที่จำเป็นที่ให้นกเพื่อ ป้องกันและรักษา มีดังนี้ครับ
ยาไบโอ B-12 เวลาได้นกใหม่ให้เพื่อลดความเครียดนกจากการเดินทาง หรือ อากาศเปลี่ยน
วิตามินต่างๆ ผสมน้ำให้นกกิน
สำหรับนกใหม่ที่มาให้ทำความสะอาดนกโดยใช้ป๊อกกี๊ผสมเวอร์คอน ฉีดพรมให้ทั่วตัวนก แล้ว มาตากแดด ให้แห้ง แล้ว ค่อยให้น้ำผสมน้ำยา ให้กิน นกจะกินดีมากๆ
[ไฟล์แนบถูกลบโดยผู้ดำเนินการ]
ข้อมูลมาจากเวป Cookies Talkies.com ครับ ขอขอบคุณ กระทู้ดีๆในเวปนี้ครับ สำหรับเรื่องฝีดาษที่จะเขียนให้อ่านกันนี้ เกิดจากประสบการณ์ส่วนตัวรวมถึงหนังสือและความรู้ตามเวปไซต์ต่างๆ อาจจะไม่เป็นวิชาการนักแต่ก็ได้ผลครับ เอาล่ะเข้าเรื่องกันเลยดีกว่า
โรคฝีดาษในนกเชื่อกันว่าเป็นโรคติดต่อที่มียุงเป็นพาหะ ดังนั้นถ้าเราจะป้องกันยุงไม่ให้มากัดนกเราได้ ก็จะป้องกันนกเราไม่ให้เกิดฝีดาษได้ ทีนี้เราจะป้องกันยุงอย่างไรดีล่ะครับ ดีที่สุดก็ทำคอกนกเป็นระบบปิดซึ่งระบบนี้จะป้องกันโรคอื่นๆนอกจากฝีดาษได้อีกด้วย ซึ่งอันนี้คงจะเหมาะกับคนที่เลี้ยงนกปริมาณมากๆ ถ้าคนที่เลี้ยงน้อยตอนเย็นอาจจะเอาผ้าขาวบางมาคลุมไว้ก็ได้ บางคนอาจจะจุดยากันยุงร่วมด้วย
รูปตัวอย่างนกที่มีอาการป่วยครับ
อย่าตกใจนะครับ วิธีนี้ ต้องป้องกัยอันดับแรกก่อนครับ ทำตามขั้นตอนครับ
แต่ถ้าเป็นแล้วก็มีการรักษาครับ อย่ากลัวและตกใจไปก่อนนะครับ
[ไฟล์แนบถูกลบโดยผู้ดำเนินการ]
สำหรับผมเองเลี้ยงนกอยู่ในห้องที่มีมุ้งลวด แล้วในห้องก็จะใส่พิมเสนกับการบูนด้วย เป็นการไล่ยุงไม่ให้เข้าใกล้คอกนกอีกอย่างนึงเพราะว่าบางครั้งเราเปิด-ปิดห้องก็จะมียุงตัวร้ายตามเข้ามา ตอนนี้ก็กำลังศึกษาอยู่ว่าการบูนสามารถไล่ไรนกได้หรือไม่ แต่รู้ว่าเวลาเข้าไปในคอกนก รู้สึกสดชื่นขึ้นครับ
แต่บางคนบอกว่าทำไมที่บ้านเลี้ยงนกไม่มีมุ้งกัน ก็ไม่เห็นเป็นโรคนี้ แสดงว่าคุณโชคดีว่าแถวบ้านที่คุณเลี้ยงนกไม่มีโรคนี้อยู่ แต่คุณอาจจะไม่โชคดีตลอดไปถ้าคุณนำนกใหม่เข้ามาแล้วไม่กักโรค
บางครั้งนกที่เราซื้อมาก็ไม่มีโรคอะไร แต่นกนั้นอาจจะพาโรคมาหาเราด้วยเหมือนกับคนต่างชาติมาทานต้มตำบ้านเราแล้วท้องเสีย แต่เราไม่เป็นอะไรนั่นแหละ ดังนั้นเมื่อนำนกใหม่เข้ามาต้องกักโรคไม่น้อยกว่า 30 วันนะครับ แน่นอนและ มั่นใจในการเลือกซื้อนก
รูปนี้ยุงกัดที่ตานกครับ วิธีรักษาไม่ยากครับ ค่อยๆรักษาตามอาการครับ
[ไฟล์แนบถูกลบโดยผู้ดำเนินการ]
เอายา เทอร์รามัยซิน แบบชนิดป้ายตามาทาบริเวณ ที่เป็น
*** เทคคนิคทีผมใช้เองครับ ลองทำตามดูนะครับ ให้เอาคั๊ตตอนบัท สำลีทีใช้แคะหูคนนั่นเอง มี 2 ข้างให้ใช้ข้างหนึ่งต่อ นก 1 ตัว แบบประหยัด เอายาบีบที่ปลายสำลี แล้วไปป้ายตานก *** ข้างที่ดีก่อนนะครับ เพื่อป้องกันเชื้อนกที่ตาที่เป็นแล้ว ป้องกัน นกอื่นๆที่รอบๆข้างไม่ให้เชื่อเข้าตาข้างที่ดีครับ แล้ว เอาสำลี ไปเช็ดข้างที่โดนยุงกัด และ ต้องระวังในกรณีนกเป็นมากกว่า 1 ตัว เพราะคนที่ทำต้องรักษาความสะอาดด้วยครับ ขั้นตอนนี้ต้องรัดกุมไม่งั้นมือเราจะเป็นพาหะ
แล้วสังเกตุอาการทุกๆเช้า และ เย็นว่านกสามารถกินอาหารได้หรือไม่
****อาหารจำเป็นมากๆสำหรับนกช่วงนี้ครับ ****
แนะนำลิ้งค์ที่ดีมีประโยชน์ครับhttp://www.cookietalkie.com/ctk/handbook/hb_sick_lovebird.asp
http://www.birdslover.com/vboard_talklovebirds/board.php?id=738&use_file=view
[ไฟล์แนบถูกลบโดยผู้ดำเนินการ]
กระทู้นี้ขออนุญาติลงด้วยนะครับ เพราะว่าผมเจอเองจากประสพการณ์ รู้เท่าไม่ถึงการณ์ ก่อนสงกรานต์ 1 เดือน เดือน มีนาคม2551
ได้นำนกใหม่เข้าบ้าน โดยไม่ได้สังเกตุอาการนก และ ไม่ได้กักกันนก และ ซื้อนกใหม่เข้ามาโดยนกที่ได้ราคาถูกตัวละ 200 กว่าๆ แต่สวยมากครับ แบบเหมา ทีละ 10 กว่าตัว โดยไม่ทราบว่ามีอะไรแฝงมาด้วย
ในขณะนั้นในบ้านมีนกประมาณ 80 กว่าตัว + การนำนกที่เจอในตลาดบ้าง ตามบ้านบ้าง ตามที่ต่างๆมารวมกันได้ประมาณ 120 ตัว
ปรากฎว่า ยุงได้มีในโรงเรือน อยู่ก่อนแล้ว แต่นกเก่ามี่เลี้ยงแข็งแรงไม่มีอะไร
แต่พอนกใหม่เข้ามาเท่านั้น นกเก่าที่มีอยู่เริ่มมีอาการเป็นตุ่มที่ตา และ เท้า ช่วงแรก ไม่รู้เนื่องก็ว่าได้ ก็ให้ยาตามอาการ และ ก็ยังปล่อยนกรวมกัน เป็นเหตุให้นก ก็เป็นพาหะไปด้วย ยุงในพื้นที่นั้นๆ ก็จะค่อยๆเพิ่มตามจำนวนนกที่เราเป็น เลยทำให้ยากที่จะควบคุม
*** มารู้ทีหลังว่าต้อง แยกนกที่เป็นออกห่างไกลๆ
*** ทำลายยุงบริเวณนั้นให้หมด และ ป้องกันไม่ให้ยุงชุดใหม่เข้าไป กว่าจะรู้นกเป็นเกือบหมดครับ ประมาณ 100 กว่าตัว เป็นหมด
มาไล่แยกนก ทำลายยุง ดูแลรักษานก ช่วงนั้นรู้เลยว่า ไม่น่าเลยเรา ไม่ศึกษา วิธีการดูนก มาก่อน ว่าจะต้องป้องกันอย่างไร
รูปนกที่เป็นที่เท้า
ครับ มาถึงขณะนี้ โรคต่างๆที่เคยเจอรู้สึกว่าธรรมดาไปแล้วครับ ถ้าเราผ่านมาแล้ว และ โรคใหม่ๆก็ต้องศึกษากันไปครับ
ในการเลือกซื้อนก ให้เลือกแหล่งที่เลี้ยงที่ดูสะอาด และ โรงเรือนต่าง อย่าอยู่ใกล้บริเวณที่เสี่ยง หาร้านที่ดูนกมีสุขภาพดี และ อย่ซื้อนกที่เขาขายราคา ผิดปกติ เพราะ อาจจะเสียใจแบบผม ครับ นก หายไปประมาณ 80 กว่าตัว ที่ไม่สามารถ รักษาได้ ส่วนมาก จะค่อยๆผอมไป เพราะตุ่มที่เราเห็นนั้น มี 2 แบบคือ
1.ฝีดาษแบบภายนอก ที่เราเห็นได้ชัด ตามบริเวณ ตา และ เท้า
2.ฝีดาษจากภายใน หรือ ที่ลิ้น ลำคอ นกจะไม่สามารถกินอาหารได้ และ อยู่ได้ไม่นาน
สรุปได้ก็คือ ทั้งหลายทั้งปวงที่เล่ามาครับ ให้อย่าประมาทครับ คือการป้องกัน และ กักนกใหม่ และ การควบคุมดูแล รักษาต่างๆ ตามขั้นตอน
และนกที่เรารักก็จะอยู่อย่างมีความสุข แบบทุกวันนี้ แถมได้ผลผลิตที่ดี และ สวยงาม
ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ย่อมมาจากการเอาใจใส่และดูแลนกนั่นเองครับ
*******ขอให้เลี้ยงนกอย่างมีความสุขนะครับ *******
ช่วงสมัยที่ผมเลี้ยงแบบขอบตา เขาว่า นกล่าง ( ไม่ขอบตา ) ไม่กลัวยุง ผมชอบเล่นของแพง จึงไม่มีประสบการณ์ กับนกไม่ขอบตาเลยครับ
เคยได้ยินข่าวว่า นกของบุรินทร์โดนงานเข้า เข้าใจไปเองว่า น่าจะเป็นนกขอบตา โอ้แม่เจ้า ...........
แต่ต้องขอนับถือ ในความพยายามที่จะรักษามัน และยื้อชีวิตมันไว้ได้ถึง 1 ใน 3 เชียวนะครับ
ขอบคุณครับคุณลุงน้อย
ผมเจอกับตัวเองในช่วงนั้นแรกๆไม่ทราบครับว่าเป็นอะไร หลงทางปล่อยนกรวมกันในที่เลี้ยงห้องเดียวกันเกือบ 1 อาทิตย์
ทำให้ยุงในที่ๆนั้น มีเชื่อฝีดาษเต็มไปหมด แรกๆเข้าใจผิดคิดว่าเอานกที่ป่วยแยกออก
หลังจากนั้นอาทิตย์ที่ 2 เริ่มกลับลำได้ เพราะในอาทิตย์แรก ยุ่งกับการทำกรงสำรองเพื่อเอาไว้ไกลๆ ป้องกันยุง งู หนู และ น้ำฝน อื่นๆ มากมาย พอนึกได้ ต้องกำจัดยุง เลยต้องกลับไปยืมไม้ตีแบด ไม่ตียุงที่ชาร์ตไฟฟ้าได้ มาไล่ตียุงให้หมด ใช้ไม้แบตตียุงไฟฟ้า 2 อันไล่ตียุง เช้า บ่าย เย็น ประมาณ วันแรกๆ ก็ เกือบ 50 ตัว
เลยได้รู้ว่าช่วงเวลาที่ยุงบินออกหาเหยื่อนั้น ช่วงเช้าจะไม่ค่อยมี เพราะสว่างยุงไม่ชอบ บ่ายมีนิดหน่อย แต่หัวค่ำมาจากไหนก็ไม่รู้ เพียบเลย
ประสพการณ์ นั้นมากมายเพราะมานั่งรักษานกวันละประมาณ 2ชั่วโมงครึ่ง ทุกๆวัน ตั้งแต่ล้างทำความสะอาด เช็ดแห้ง ป้ายยาทาตา และ ลงท้ายด้วยเอาเบตาดีนผสมน้ำ 1 ต่อ 1 ทาที่แผลที่เท้า ทำอย่างนี้ทุกๆตัวที่เป็น 4 ด้าน ตา 2 เท้า 2 เป็นจำนวน เกือบ 80 ตัว แยกตามอาการ
เป็นตุ่มที่ตา
เป็นตุ่มที่ขา
เป็นหนองที่ตา
เป็นหนองที่ขา
เริ่มไม่กินอาหาร
ทำไงเรา หาตัวช่วยคิดถึงพี่หมอ แล้ว ทั้ง 2พี่หมอเลย 555
เอาอาหารลุกป้อนมาป้อน
เอาข้าวโพดของโปรด เอาขนมปัง อิ่นๆที่นกชอบกินทุกวิถีทางที่จะให้นกรอด
ช่วงสงกรานต์เลยอดเที่ยวเพราะไม่มีอารมณืไปไหน หยุดงาน 7 วัย ต้องมาที่ทพงานทุกวัน มารักษานก พ่นยา อาบน้ำ ตากแดด สุดยอดเลยครับ
แต่ผ่านมาแล้ว เลย อยากให้ทราบว่า วิธี รักษายาก กว่าวิธีป้องกันครับ อย่าให้เจอเลย
ยาบางตัวกินแล้วรักษา แต่ให้โดสมากไปก็ อาจถึงตายได้ ช่วงนั้นได้รบกวนพี่หมอทั้งพี่หมอชายตัน และ พี่หมออี๊ เรื่องการรักษา เพราะเราไม่ทราบเรื่องน้ำหนักตัวนกให้สัมพันธ์กับ นก ให้มากนกไม่รอด ให้น้อย นกหายช้า ดื้อยา
ว่างๆ มาเล่าใหม่ครับ กำลังมันส์เลย ขอตัวทำงานก่อน
พอพูดถึงพี่หมอชายตัน ผมนึกขึ้นมาว่าวันก่อน มิกกี๊เม้าท์ มากินนก ดันเอาแลนแนทผสมก้างปลา แล้ว ดันเอามีเราไปขยำ ก้างนั้นทิ่มเข้าเนื้อ เสร็จแน่เรา วางยาหนู หรือ วางยาตัวเอง กลัวมากๆ คิดถึงพี่หมอเลย 555 พี่หมอชายบอกว่า น้ำหนักเรามากว่าหนู่ ปริมาณที่เราโดนน้อย ไม่สามารถทำอะไรเราได้ โล่งใจเลยเรา
หวัดดีพี่จี๊ ที่บ้านก้อยังเลี้ยงเลิฟเบิร์ดอยู่ครับ ถึงแม้ใครจะว่านกล่างแต่ผมก้อมีเกือบทุกสี ถึงราคาไม่แพงแต่ก้อเลี้ยงครับและก้อมีลูกๆออกมาตลอดทุกทีที่เดินไปดูก้อยังเห็นความสวยงามในตัวนกที่มีหลากหลายสีสัน ยินดีและดีใจที่ยังมีคนเลี้ยงเลิฟเบิร์ดด้วยใจ ซึ่งตอนนี้คงเหลือน้อยลงทุกที
ติ๊กอยากรู้ว่า เลิฟเบิร์ด เขาจะน่ารักและขี้อ้อนหรือป่าวคะ นิสัยเขาเป็นอย่างไรคะ ( ที่จริงน่าจะไปเปิดอ่านเองก็ได้เนอะ ) รบกวนป่าวว ๆ อิอิ เผื่อจะหาไว้เลี้ยงดูบ้างงงง :-D :-D
ครับ
ตอบแบบ ทันทีเลยว่านกก็เหมือนคนเราครับ ให้ความสนใจนกตัวไหนมากครับ นกตัวนั้นๆ ก็ ตอบรับกับคนที่เลี้ยงนกจะมีความผูกพันธ์กับเจ้าของ เวลาเรียกก็บินมาหา เรื่องขี๊อ๊อนไหม ขอตอบว่า เลี้ยงนกเชื่องๆ แล้วจะหลงครับ แต่ข้อเสียนกลูกป้อน จะดุมากๆ และ ยากที่จะให้ทายาทในอนาคตครับ
ผมมีนกเชื่องๆ หลายตัว แต่ พอโตแล้ว ก็อยากให้นกเข้าสังคมกับนก ไปคลุกคลีมากๆ แล้ว นกจะขาดชีวิตการเป็นนกที่สมบูรณ์ครับ
น้องตาครับ นกแบบนี้ตายังพอมีไหมครับ
พี่หามาเพาะอยู่ครับ สายที่เพาะครับเป็นพวก
พาย์ดโกลเด้นหน้าส้ม และ หน้าแดง
ลูติโน่หน้าส้ม และ หน้าแดง
พาย์ดหน้าขาว และ หน้าปูน
และ นกแปลก ๆ ที่หาดูได้ยากครับ
เอารูปมาให้ชมด้วยนะครับ
อ้างถึงbatman เป็นผู้เขียน:
น้องตาครับ นกแบบนี้ตายังพอมีไหมครับ
พี่หามาเพาะอยู่ครับ สายที่เพาะครับเป็นพวก
พาย์ดโกลเด้นหน้าส้ม และ หน้าแดง
ลูติโน่หน้าส้ม และ หน้าแดง
พาย์ดหน้าขาว และ หน้าปูน
และ นกแปลก ๆ ที่หาดูได้ยากครับ
เอารูปมาให้ชมด้วยนะครับ
นกสวยดีนะครับพี่จี้
สบายดีหรือเปล่าครับ
รูปนี้ฝากให้น้องบอลชมครับ
แล้วจะบอกว่าไม่ยาก
ตัวโปรด ครับตัวแชมป์
ดู แล้วจะบอกว่าไม่ยากครับน้องบอล
กลัวเบื่อ ครับ พอแค่นี้ก่อนครับน้องบอล มากทม มาเที่ยวบ้านได้ครับ ยินดีต้อนรับครับผม
บรรยากาศหน้าบ้าน ครับ
ตัวนี้ให้พี่อ้อ is beauty ชมครับ
แหมเห็นเลิฟเบิร์ดแล้วย้อนกลับไปนึกถึงอดีตตอนเริ่มเลี้ยงนกแบบเพาะพันธุ์ครั้งแรก เดี๋ยวจะลองไปค้นรูปนกที่เคยเลี้ยงมาลงโพสบ้างดีกว่าครับ :-D :-D :-D
สโนไวท์ที่เคยทำไว้เมื่อปลายปี 45
ไอโน่นกเชื่องที่เลี้ยงแบบลูกป้อนตัวแรกๆ เชื่องๆมากๆครับ
พายด์แบบนี้สมัยนั้นแพงมากๆ ห้าทุ่มคนยังขอเข้ามาซื้อลูกป้อน
พายด์อีกบางส่วนที่เก็บรูปไว้
ถ้าใครเล่นเวบเบิร์ดเลิฟเวอร์ประจำอาจจะคุ้นๆพายด์สองในหกตัวนี้เกาะอยู่ตรงเวบบอร์ดพูดคุยเลิฟเบิร์ด อิอิ ถึงตอนนี้ไม่ได้เลี้ยงแล้วแต่เวลาผ่านเข้าไปเวบเบิร์ดเลิฟเวอร์ต้องแวะเข้าไปดูกระทู้เลิฟเบิร์ดประจำครับ :-D :-D :-D
ขออีกรูปครับ ซิลเวอร์ม่วงที่เคยเลี้ยง ชอบมากๆ
ดีครับต้อนรับกลับบ้านครับ อาจารย์ พี
ต้องเรียกว่าอาจารย์พี่เพราะว่าต้องหาความรู้และ คำชี๊แนะ จากพี่พี นั่นเอง ขนาดปัจจุบัน นกราคาลดลงมามากนะครับ ยังหานกที่พี่พี นำมาโพส แทบไม่ได้ครับ จะมีก็น้อยมากๆ และ บางท่านก็ไม่ยอมแบ่ง ( ) เป็นผลมากจากคนไม่ได้เลี้ยงก็นำมาขายสู่ตลาดแบบขายเหมา เลยทำให้นกรุ่นเก่าๆ หายไปจากบ้านเรา ในอนาคตนกชนิดนี้ก็จะถูกลืมเลือน
มีโอกาสจะนำมาเพาะเลี้ยงใหม่ครับพี่ พี
ผมหาได้แค่นี้เองครับ แต่กำลังเพิ่มประชากรครับ
สวยๆทั้งนั้นนะครับ วันหน้าถ้าจะหวนกลับไปเลี้ยงจะได้ไปขอแบ่งครับ :-D :-D :-D
เมื่อก่อนเคยเลี้ยงเลิฟเบิร์ดขายครับ
ต้องแยกให้มันเป็นคู่น้ำท่าอาหารต้องอย่างดีเพราะตอนนั้นราคามันสูงมากๆ
แต่พอไข้หวัดนกเข้าเลยเลิกขายครับจับมันมาใส่กรงรวมกันไปเลยจิงพอเลี้ยงซักพักก็ขายมันไม่ลงครับ
เพราะมันน่ารักเกินจะห้ามใจจริงๆ
ซน ฉลาด อิอิ พอเอามันมารวมกันยิ่งมีชีวิตชีวาครับ
เห็นแบบนี้ใครๆ ก็อยากเพาะครับ เห็นลูกนกที่เกิดมาแล้ว ชื่นใจ
[ไฟล์แนบถูกลบโดยผู้ดำเนินการ]