การป้อนอาหารนกใหญ่ควรป้อนแบบไหนดีครับ
บางคน บอกไม่ต้องใช้ใส้ไก่ ให้ป้อนคล้่ายๆใช้ช้อนหยอดอาหารให้นกกลืนเอง แต่ผมสังเกตุ จังหวะที่เค้ากลืน เค้าจะร้องไปด้วยกลัวจะลงหลอดลม หรือป้อนแบบมีใส้ไก่ดีกว่า เพราะจะไม่มีโอกาศลงหลอดลม แต่ไม่ว่าจะป้อนแบบไหนเค้าก็จะร้องไปด้วย จังหวะที่เค้าร้องหลอดลมต้องเปิดใช่ไหมครับ
ผมยังไม่ชินกับป้อนนกใหญ่ๆอย่างเกรย์ เพราะป้อนซันมาตลอด
คนที่ขายผมเค้าบอกไม่ต้องใช้ใส่ไก่ ให้สอดเข้าไปทางริมๆปาก แล้วค่อยๆกด เป็นจังหวะให้เค้าได้หายใจ แล้วเค้าจะกลืนเอง
ผมก็ทำตามที่เค้าบอก วิธีนี้ค่อนข้างจะเละหน่อย เพราะอาหารชอบกระเดนออกมา แต่ก็ยังไม่รู้ว่าจะกลับใช้ใส่ไก่ดีไหม วานผู้มีประสมการณ์ช่วยทีครับ
ไปซื้อสายป้อนแบบ ใส่กับหลอด 60 ซีซี ( เลิกใช้ไส้ไก่ ) ป้อน
เหมือนซันไม่ต้องเชื่อใครมากเชื่อมือตัวเอง ครับ
สายป้อนแบบไหนครับ ยังไม่เคยหน้าตา...พอมีรูปตัวอย่างไหมครับ
ร้านขายนกทั่วไปมีขายใช่ไหมครับ
ไปร้านนริศ บอกว่าซื้อสายป้อนเอาแบบหัวขาวก็ได้ ครับ
ร้าน นริศ อยู๋ที่ไหนคร๊าบบเพ่
อ้างถึงTaLo เป็นผู้เขียน:
ร้าน นริศ อยู๋ที่ไหนคร๊าบบเพ่
อยู่ชันเดย์ ซอยเจ็ดครับ
รูปภาพไม่แน่ใจนะครับ ผมซื้อที่ร้านขายนก 60 บาท
ผมใช้ซ้อนป้อนมันก็ปลอดภัยดีนะครับแต่ซื้อมาไว้เพราะนกไม่ค่อยสบาย บางทีไม่ยอมกินต้องป้อนเข็ม
ใช้ไซริงค์แบบนี้ไม่ได้มั๊งครับ สายมันถอดล้างยาก
เอาไซริงค์ 60 ซีซี มันจะพอดีเลย ถอดสายล้างลวกน้ำร้อนก็ง่าย
ถ้าใช้ไซริงค์เล็กเดี่ยวนี้มีหัวชนิดเล็กที่ทำมาใหม่จุกสีฟ้าอ่อน
ลองไปถามดูที่ร้าน บุญถวิล อตก.ครับ ตกอันละ 50 บาทเอง
ยาวขนาดนั้นเลยเหรอครับ..^-^
ถ้าชำนาญหน่อย ส่วนใหญ่เห็นป้อนไส้ไก่กันหมดครับ
ผมป้อนไส้ไก่ไม่เป็น ใช้แต่ไซริงค์10ซีซี พอนกกับคนเข้าจังหวะกันแล้วก็ไม่เลอะเทอะเท่าไรครับ
http://www.youtube.com/watch?v=bxOdL_eaaR4&NR=1
http://www.youtube.com/watch?v=MZTBC_7N0zo&feature=related
อาหารในvdo เป็นอาหารชนิดไหนครับเห็นมีเมล็ดธันพืชปนอยู่ด้วย ท่าจะดีไม่น้อย สังเกตุดูฝรั่งเค้าจะชอบให้แบบนี้กันทั้งนั้น
อ้างถึงdevil_kay เป็นผู้เขียน:
ไปซื้อสายป้อนแบบ ใส่กับหลอด 60 ซีซี ( เลิกใช้ไส้ไก่ ) ป้อน
เหมือนซันไม่ต้องเชื่อใครมากเชื่อมือตัวเอง ครับ
เห็นด้วยกับเก้ครับ ผมก็เหมือนกันครับ ป้อนซัน มาอิเล็คตัส แล้วก็มาเป็น BG เลยครับ เชื่อมือตัวเองดีที่สุดครับ
อ้างถึงsamurai เป็นผู้เขียน:
อ้างถึงTaLo เป็นผู้เขียน:
ร้าน นริศ อยู๋ที่ไหนคร๊าบบเพ่
อยู่ชันเดย์ ซอยเจ็ดครับ
รูปภาพไม่แน่ใจนะครับ ผมซื้อที่ร้านขายนก 60 บาท
ผมใช้ซ้อนป้อนมันก็ปลอดภัยดีนะครับแต่ซื้อมาไว้เพราะนกไม่ค่อยสบาย บางทีไม่ยอมกินต้องป้อนเข็ม
เบอร์โทรร้านนริศนะครับ 02-2659283-4 ครับ
ลองโทรไปดูนะครับ
อ้างถึงdevil_kay เป็นผู้เขียน:
ใช้ไซริงค์แบบนี้ไม่ได้มั๊งครับ สายมันถอดล้างยาก
เอาไซริงค์ 60 ซีซี มันจะพอดีเลย ถอดสายล้างลวกน้ำร้อนก็ง่าย
ถ้าใช้ไซริงค์เล็กเดี่ยวนี้มีหัวชนิดเล็กที่ทำมาใหม่จุกสีฟ้าอ่อน
ลองไปถามดูที่ร้าน บุญถวิล อตก.ครับ ตกอันละ 50 บาทเอง
เบอร์โทรร้านบุญถวิลครับ 02-2793180 ครับ
ลองสอบถามดูนะครับ
อ้างถึงball เป็นผู้เขียน:
อ้างถึงdevil_kay เป็นผู้เขียน:
ใช้ไซริงค์แบบนี้ไม่ได้มั๊งครับ สายมันถอดล้างยาก
เอาไซริงค์ 60 ซีซี มันจะพอดีเลย ถอดสายล้างลวกน้ำร้อนก็ง่าย
ถ้าใช้ไซริงค์เล็กเดี่ยวนี้มีหัวชนิดเล็กที่ทำมาใหม่จุกสีฟ้าอ่อน
ลองไปถามดูที่ร้าน บุญถวิล อตก.ครับ ตกอันละ 50 บาทเอง
เบอร์โทรร้านบุญถวิลครับ 02-2793180 ครับ
ลองสอบถามดูนะครับ
ร้านบุญถวิล ไม่มีสายป้อน ชนิดนี้ครับ
มีแบบใหม่หัวสีฟ้า ครับสำหรับใส่กับไซริงค์เล็ก มีขายเก้ซื้อมายกโหลอยู่ เลย
รูปแบบสายป้อน แบบซีรีโคน และไซริ้ง ขนาดที่ใช้ป้อน
สายป้อน ราคาขึ้นอยู่กับขนาด สัก 50 - 80 บาท
ส่วนไซริ้งค์ ขนาด 60 CC จะราคา 250 บาท
ราคาอาจจะ + - นิดหน่อย ( เพราะซื้อนานแล้ว )
เทคนิควิธีการป้อน ล้วนแล้ว แต่เป็นเทคนิคเฉพาะตัว ขึ้นอยู่กับความถนัด บางคนถนัดแบบใช้ไส้ไก่ บางคนถนัดแบบใช้ช้อนบีบ บางคนถนัดแบบใช้ไซริ้งค์ป้อน ( ไม่มีสาย )
แต่จากประสบการณ์ส่วนตัว และตัวเอง นกไซด์กลาง และใหญ่ มีโอกาสที่จะสำลักอาหารที่ป้อน ได้ค่อนข้างมากครับ เพราะช่องหายใจ จะอยู่บริเวณโคนลิ้น เมื่อนกกินอาหาร และร้องไปด้วย โพรงอากาศที่บอกบริเวณโคนลิ้น อาจจะเปิด เพื่อหายใจ และอื่น ๆ เวลาป้อน อาหารจากทางปาก หรือหยอดอาหารลงไป อาหารมีโอกาสที่จะไหลเข้าไป ทำให้เกิดการสำลัก เข้าน้อย ลูกนกจามออกมา เข้ามา จามไม่ได้ อาจจะถึงขั้นตายได้
รวมถึงการป้อนด้วยสายไส้ไก่ ... ถ้าเข้าไปในหลอดลม ก็ถึงตายได้เหมือนกันครับ
การป้อนสายซีรีโคน ดีตรงที่ว่า ช่องอาหารที่ออกมาจะอยู่บริเวณด้านข้าง ของสาย แต่ไม่มีออกช่วงปลายครับ เมื่อสายแหย่เข้าไปในหลอดลม นกจะสบัด หรืออาจจะกดเข้าไป จะไม่มีออกมาบริเวณปลาย ครับ แต่จะออกด้านข้างครับ ผมว่าป้องกันได้อีกอย่างนึงครับ
พยายามเลือกสายที่มีขนาดใหญ่ ที่เหมาะสมกับนกแต่ละชนิด อย่าใช้เล็กเกินไป ใหญ่ ๆ เข้าไว้ดีกว่าครับ
ลองดูครับ
ข้อมูลโดยท่าน ทวด ทพ. ชาย ตัน ขอรับกระผม
คำแนะนำในการเลี้ยงดูลูกนกแก้ว
เนื่องจากปัจจุบัน ได้มีการเพาะขยายพันธุ์นกแก้ว เพื่อจำหน่ายเป็นสัตว์เลี้ยงกันเพิ่มมากยิ่งขึ้น ทั้งนกที่มีสายพันธุ์ที่นำเข้ามาจากต่างประเทศ และนกที่มีถิ่นกำเนิดในแถบเอเซีย ดังนั้น ทางชมรม สยามไอเวียรี่คลับ จึงได้จัดทำเอกสารนี้ขึ้นมาเพื่อเผนแพร่ เพื่อให้ความรู้แก่ผู้ที่สนใจได้ใช้เป็นแนวทางในการเลี้ยงดูลูกนกอย่างประสพความสำเร็จ เติบโตเป็นสัตว์เลี้ยงที่มีคุณภาพ และมีโอกาสแพร่ขยายพันธุ์ต่อไป ในอนาคต
การเริ่มต้นเลี้ยงนกแก้ว โดยการหาซื้อลูกนกที่ได้รับการป้อนอาหารด้วยมือ และโตจนสามารถที่จะช่วยเหลือตัวเองได้แล้ว นั้น จะเป็นวิธีที่ดีที่สุด หรือหากต้องการที่จะป้อนอาหารลูกนกด้วยตนเอง ก็ควรที่จะเลือกลูกนกที่มีเส้นขนแหลมเป็นหนาม ๆๆ ( ขนหลอด ) ขึ้นมาบ้างแล้ว จะปลอดภัยกว่า ที่จะซื้อลูกนกที่มีอายุน้อยกว่านี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ผู้ที่ไม่เคยป้อนอาหารลูกนกมาก่อน
เลือกลูกนกที่มีดวงตาแจ่มใส นิ้วเท้าอวบอ้วน ไม่มีน้ำมูก ไม่หายใจทางปาก ปีกแนบชิดลำตัว ขนรอบ ๆ ก้น ไม่มีคราบสิ่งสกปรก ในกล่องหรือในตู้ที่ใส่ลูกนกไม่มีกลิ่นเหมืนอันเกิดจากลูกนกท้องเสีย หรือไม่มีคราบอาหารที่ลูกนกขย้อนออกมา
อาหารที่ใช้ป้อนลูกนก ( ไม่ควร ) ใช้อาหารสำหรับเด็กอ่อน เช่น ซีรีแรค ซึ่งมีส่วนผสมของนมอยู่ด้วย นกไม่ใช่สัตว์ที่เลี้ยงลูกด้วยนม จึงไม่มีเอ็นไซน์แลคเตส สำหรับย่อยนม เมื่อได้รับอาหารที่มีนม ผสม อยู่ด้วยในปริมาณที่มาก จะทำให้เกิดอาการท้องเสีย หรืออาหารไม่ย่อยได้
อาหารสำหรับลูกนกแบ่งออกเป็น 3 กลุ่มคือ
1. อาหารสำเร็จรูป ส่วนใหญ่ เท่าที่เห็นกันอยู่นั้น จะเป็นอาหารสูตรจากต่างประเทศ ซึ่งจะมีราคาค่อนข้างสูง และจะมีคุณค่าทางอาหารครบถ้วน สำหรับลูกนกเมื่อเปรียบเทียบกับอาหาร ที่ผลิตภายในประเทศ ราคาจะต่างกันมาก ๆ
2. อาหารที่ผสมขึ้นเอง โดยใช้เมล็ดพืช เช่น ถั่วเชียว ถั่วเหลือง ฟักทอง ปลายข้าว แครอท ข้าวโพด ไข่ไก่ ต้มรวมกันจนสุกเปื่อย เติมวิตามินและเกลือแร่ ข้อดี ของอาหารประเภทนี้คือ สามารถเตรียมได้เอง ประหยัด ส่วนข้อเสีย คือ อาจไม่ได้รับสารอาหารครบถ้วนตามที่ลูกนกต้องการ
3. ผลไม้ เช่น กล้วย มะละกอ ฯลฯ
อุปกรณ์ที่ใช้ในการป้อนอาหาร มีให้เลือกใช้ดังนี้คือ
1. ไซริ้งค์ พร้อมกับสายยาง ( ไส้ไก่ จักรยาน ขนาด ยาว ประมาณ 3 – 5 นิ้ว ) วิธีการป้อน แบบนี้ ค่อนข้างสะดวก แต่ความสะดวกต่าง ๆ ก็จะแฝงถึงอันตรายสำหรับลูกนกด้วย โดยจะแหย่ปลายสายยางเข้าไปในปากลูกนก ( บริเวณด้านข้าง ) ไม่ควรแหย่ลงไปตรงกลางปากลูกนก เนื่องจาก บริเวณ ใต้โคนลิ้น ของลูนกจะเป็นหลอดลม สายยาง หรือไส้ไก่ อาจจะเข้าไปในหลอดลมได้ ( ถึงตายเชียว )
2. ไซริ้งค์ พร้อมกับสายยาง ( ชนิดป้อนลูกนกปากขอ โดยเฉพาะ ) ปกติ สลิ้ง ชนิดนี้ จะไม่ค่อยได้เห็น เข้ามาขาย ตามร้านขายนกต่าง ๆ มากมายนัก ( มีขายเฉพาะที่ ) โดยจะไม่ต้องห่วง ๆ เรื่องอาหารเข้า หลอดลม เนื่องจากอาหาร จะออกมาบริเวณ ช่องด้าน ข้างของสายยาง
3. ไซริ้งค์ อย่างเดียว โดยแหย่ ปลายไซริ้ง ที่บรรจุอาหารเข้าที่มุมปาก แล้วค่อย ๆๆ บีบ ก้านไซริ้งค์ อย่างช้า ๆ
4. ช้อนชา ที่บีบขอบทั้งสองข้าง ห้อเข้าหากัน ตักอาหารป้อนลูกนกอย่างช้า ๆ ปลอดภัย มากที่สุด แต่ค่อนข้างจะเลอะเทอะ
คำแนะนำในการป้อนอาหาร
1. อุณหภูมิของอาหารที่ใช้ป้อนลูกนก หากเป็นอาหารสำเร็จรูป ควรมีอุณหภูมิอยู่ระหว่าง 37.7 – 43.3 องศา C ( 100 – 110 องศา F )
2. ผสมอาหารตามอัตราส่วนที่ระบุไว้ และเพียงพอต่อการใช้ในแต่ละมื้อ ปัญหาที่มักจะพบคือในกรณีที่ซื้ออาหารที่แบ่งขายเป็นถุง ๆ ขอให้สอบถามเรื่องอัตราส่วนผสมที่ชัดเจนด้วย ซึ่งจะแตกต่างกันไปแล้วแต่ละยี่ห้อ
3. หากเป็นผลไม้ ใช้ช้อนขูด ๆ ให้นกกินทีละน้อย ควรใช้ผลไม้ที่ใหม่สดอยู่เสมอ
4. ความถี่ ในการป้อนอาหาร
แรกเกิด ให้ทุก ๆ 2 ชั่วโมง ( 9 – 10 ครั้ง ต่อ วัน )
เมื่อถึงวันที่ 8 ให้ทุก ๆ 3.5 – 4 ชั่วโมง ( 5 – 6 ครั้ง ต่อ วัน )
เมื่อถึงวันที่ 14 ให้ทุก ๆ 5 ชม. ( 4 ครั้ง ต่อวัน )
เมื่อถึงวันที่ 24 – 30 ให้ทุก 8 ชม. ( 3 ครั้ง ต่อวัน )
เมื่อถึงช่วงที่น้ำหนักตัวของลูกนกขึ้นถึงจุดสูงสุด 2 ครั้งต่อวัน
หมายเหตุ : น้ำหนัก นกต้องขึ้นทุกวัน เพียงแต่ว่า จะขึ้นมากหรือน้อย เท่านั้น จะไม่มีการลดลง
ช่วงอายุที่ลูกนกมีน้ำหนักสูงสุดนี้จะแตกต่างกันออกไปในแต่ละสายพันธุ์ เมื่อถึงตอนนั้น ลูกนกจะมีน้ำหนักตัวมากกว่า พ่อแม่นก และหลังจากนั้นจะกินอาหารน้อยลง น้ำหนักตัวจะค่อย ๆ ลดลง ๆ และได้เวลาที่จะเริ่มฝึกกินอาหารด้วยตนเอง
การป้อนอาหารนกมีเรื่องที่พึงต้องระมัดระวังคือ การรักษาความสะอาด ทำบันทึกการให้อาหารและน้ำหนักตัวของลูกนก ใช้อุปกรณ์ในการป้อน และชนิดของอาหารที่เหมาะสม ในกรณีที่มีปัญหาเกิดขึ้น จะแสดงออกดังนี้คือ
1. น้ำหนักตัวเพิ่มขึ้นน้อยมาก หรือลดลง
2. อาหารที่ป้อนใช้เวลานานมากกวาจะย่อยหมดไปจากกระเพาะ
3. ปฏิกริยาตอบสนองต่อการป้อนอาหารต่ำมาก
การที่ลูกนกมีน้ำหนักตัวเพิ่มขึ้นน้อยมาก หรือลดลง อาจจะมีสาเหตุดังนี้
1. นกได้รับอาหารในปริมาณที่น้อยเกินไป การป้อนไม่จำเป็นต้องรอจนอาหารในกระเพาะหมดเกลี้ยงแล้วถึงเริ่มป้อนมื้อต่อไป ในรอบยี่สิบสี่ชั่วโมง จะมีช่วงที่กระเพาะของลูกนกว่างเปล่าคือ ตอนเช้า
2. ชนิดของอาหารไม่เหมาะสมกับพันธุ์ของนกนั้น ๆ พวกลูกนกแก้วขนาดใหญ่เช่น กระตั้ว มาร์คอ ต้องการอาหารที่มีปริมาณไขมันที่สูงกว่า นกชนิดอื่น ๆ
3. อุณหภูมิในการเลี้ยงดูลูกนกไม่เหมาะสม หากต่ำกว่าที่ควร ระบบการย่อยอาหารจะทำงานล่าช้าลงมาก
- ลูกนกแรกเกิดควรได้รับความอบอุ่นที่อุณหภูมิ 36.6 องศา C
- เมื่ออายุ 5 – 12 วัน อุณหภูมิ 35 – 31.6 องศา C
- เมื่ออายุ 12 วัน ถึงระยะขนขึ้น เป็น ขนหนาม อุณหภูมิ 31 – 28 องศา C
- เมื่อมีขนคลุมเกือบทั่วทั้งตัว อุณหภูมิ 26.5 องศา C
4. อุณหภูมิของอาหารที่ไม่เหมาะสม หากสูงเกินไป ความร้อนของอาหารจะลวกเนื้อเยื้อที่บุกกระเพาะจนกลายเป็นเนื้อตาย หากต่ำกว่า ไป การย่อยจะช้ามาก จนกระทั่งเกิดการบูดเน่าอยู่ภายในกระเพาะอาหาร
5. ความเครียดจากสภาพแวดล้อม
6. เกิดจากการติดเชื้อ เช่น เชื้อแบคทีเรีย เชื้อรา หรือเชื้อไวรัส เชื้อแบคทีเรียที่พบได้บ่อยได้ แก่ เชื้อซาลโมเนลล่า ซึ่งทำให้เกิดโรคในระบบทางเดินอาหาร ส่วนเชื้อรา ได้แก่ พวกแคนดิด้า อัลบิแคน มักพบในช่องปาก และผนังของเยื่อบุกระเพาะอาหาร
7. การสำลักอาหารหากไม่มากนัก ลูกนกจะแสดงอาการไอ และจามเพื่อขับเอาอาหารที่สำลักออกมาประมาณหนึ่งถึงสองชั่วโมง แล้วจะค่อยทุเลาลง ในกรณีที่มีอาหารเข้าไปในหลอดลม เป็นจำนวนมาก จะหายใจลำบาก เกิดการติดเชื้อในปอด หรือ อาจตายอย่างเฉพียงพลัน เพื่อหลีกเลี้ยงกรณีดังกล่าว การป้อนอาหารจึงควรกระทำอย่างช้า ๆ และด้วยความระมัดระวัง
8. กระเพาะอาหารอักเสบ เกิดจากอาหารที่ไม่เหมาะสมกับลูกนก อาหารที่ตกค้างอยู่ในกระเพาะอาหารระยะเวลานานเกินไป จนทำให้เกิดการหมัก ลูกนกจะแสดงอาการขย้อนอาหารนั้นออกมา การแก้ไขโดยใช้ยา Kaopectate จนอาการดีขึ้น จึงกลับมาป้อนอาหารตามปกติ