การเลี้ยงนกอย่างยั่งยืนการเลี้ยงนกอย่างยั่งยืน
สืบเนื่องจากเห็นช่วงนี้ มีท่านสมาชิกใหม่ผ่านแวะเวียนเข้ามาพูดถึงอยากจะเลี้ยงนกสายพันธุ์นี้ สายพันธุ์นั้น สายพันธุ์โน้น
ข้อควรปฏิบัติ ในการคิดจะหานกเข้ามาเลี้ยง ควรคำนึงถึงหลายสิ่ง หลายอย่าง
ที่กล่าวเช่นนี้เพียงเพราะว่า ใช่คุณมีสถานะ หานกมาได้ในราคาที่พอเหมาะ แล้วคุณจะเลี้ยงเขาให้ดีและอยู่กับคุณไปอย่างยั่งยืน มันต้องมีหลาย ๆ สิ่งเป็นองค์ประกอบ
นกแต่ละสายพันธุ์ นั้นมีทั้งข้อดีและข้อเสียอยู่ด้วยกันทั้งนั้น ควรศึกษาถึงข้อดีและข้อเสียของแต่สายพันธุ์ไว้ก่อน การที่ซึ่งจะนำนกตัวนึงเข้ามาเลี้ยง บางครั้งคิดว่าง่าย ......... เพียงซื้อเข้ามา ใส่กรง ใส่อาหาร นั่งดู เล่นกับเขาบ้างเมื่อยามเราว่าง แต่แท้ที่สุดแล้ว แต่ละสายพันธุ์ อย่างที่กล่าวมาข้างต้นแล้วนั้น เวลา การเอาใจใส่ และอื่น ๆ จะเป็นตัวบ่งบอกถึงนกตัวนั้น ๆ จะอยู่กับเราตราบนานเท่านาน ได้มากน้อยแค่ไหน
โดยส่วนตัวที่เลี้ยงนกมา มักจะพบเห็นกับปัญหาของพี่ ๆ น้อง ๆ และท่านสมาชิกอื่น ๆ ที่ว่า เลี้ยงไปแล้ว เกิดปัญหา เสียงดัง ข้างบ้างไม่ปลื้ม คนที่บ้านไม่ปลื้ม และอื่น ๆ อีกนานับประการ การเลี้ยงนกก็เปรียบเสมือนการหาภาระเข้ามาใส่ตัวแหละครับ นกตัว ๆ นึงอยู่กับเรา อย่างต่ำ ๆ ก็คงต้องมี 10 ปีขึ้นไป บางตัวอยู่กับเรา 40 – 60 ปี ( บางครั้งอาจจะต้องมอบอำนาจ ใส่เอาไว้ในกองมรดก )
การเลี้ยงนกมองที่ความชอบครับ ที่ใช้ตรงนี้ ที่ไม่อยากให้เลี้ยงนกเพราะตลาด หรือพวกมากลากไป คิดเสียว่า เลี้ยงนกตัวนึง ควรศึกษาและมองถึงความต้องการของผู้เลี้ยงด้วยว่า ต้องการเลี้ยงเพื่อเป็นเพื่อน เลี้ยงเพราะเห็นเขาเลี้ยงกัน เลี้ยงเพื่อการเพาะพันธุ์
ผมเองก็เคยเลี้ยงพอสมควร บางครั้งอาจจะไม่เยอะหรือไม่หลากหลายเท่าที่พี่ ๆ น้อง ๆ ในนี้ แต่ก็เห็นความเป็นไป และกลไก ของตลาดมาสักระยะนึง
บางสายพันธุ์ถ้ามองถึงกลไกทางตลาด คิดแต่ทางด้านการตลาด คิดจะเพาะพันธุ์ให้เป็นไปในช่วงเวลานั้น ๆ คงเป็นไปไม่ได้ครับ อย่าพยายามที่จะยึดติดตรงนั้น แต่ก็เห็นเหมือนกันว่า หลาย ๆ ท่าน หลาย ๆ ฟาร์ม ไม่ยึดติดตรงนี้เลย ๆ กลายเป็นแต่เพียงผู้เดียวที่มีปริมาณสายพันธุ์ที่ตลาด ณ ขณะนั้นไม่ยอมรับ และได้เก็บไว้แต่เพียงผู้เดียว จน ณ เวลานี้ ใครนึกถึงนกสายพันธุ์นี้ ก็ต้องนึกถึง
ขอบอกว่ากระแส .... จะเป็นตัวพลิกผัน แปรเปลี่ยนไปสำหรับผู้รักและเลี้ยงนก ยึดถือตัวเองเป็นที่ตั้ง หมั่นศึกษาหาความรู้ ก่อนที่จะเลี้ยงนกแต่ละสายพันธุ์ และขนาด หรือไซด์ที่เลี้ยงได้ ณ เวลานั้น ๆ ของท่านเอง
ขอให้เสมือนเป็นการเลี้ยงนก ไม่ใช่นกเลี้ยงเรา และอยู่ต่อไปอย่างยั่งยืน
เห็นด้วยอย่างยิ่งเลยครับ รูปเจ้าเซย่าล่าสุดเลยเปล่าครับ
อ้างถึงbios_m เป็นผู้เขียน:
เห็นด้วยอย่างยิ่งเลยครับ รูปเจ้าเซย่าล่าสุดเลยเปล่าครับ
ไม่ใช่ครับ ไว้จะถ่ายมาให้ดูครับ ซน และแสบจนขนไม่สวยหมดแล้วครับ :lol: :-D :lol:
เอามาให้ดูอีกนะครับ ชอจัง
เลี้ยงนกแก้วอายุยืนๆ ก็เหมือนแบกภาระระยะยาวไว้บนบ่า ศึกษาให้ดีก่อนเลี้ยง และคิดให้ดีว่าเราพร้อมสำหรับภาระระยะยาวครั้งนี้หรือไม่
...ปู่... คือปู่โด้?? :idea: :idea:
ทำไมเปลี่ยนชื่อล่ะคะ...
ก็แก่แล้วน๊ะ เลี้ยงนกจนแก่แล้ว น๊ะหลานเอ้ย!!!!
:lol: :lol: :lol: :-o :-o :-o :-D :-D :-D
อาการแรกของคนแก่
1. ผม(ขน)ล่วง จนกลายไปเป็นเสี่ย(เงิน)ล้าน แล้วแต่จะเริ่มจากส่วนไหน บางคน 1 ล้าน บางคน 2 ล้าน และบางคนค่อยๆ ล้าน (เหมือนผม)
2. ลืมชื่อตัวเอง
3. ........ (มาเติมต่อให้ด้วย)
55555
[ไฟล์แนบถูกลบโดยผู้ดำเนินการ]
อ้างถึงกิเดโอน เป็นผู้เขียน:
อาการแรกของคนแก่
1. ผม(ขน)ล่วง จนกลายไปเป็นเสี่ย(เงิน)ล้าน แล้วแต่จะเริ่มจากส่วนไหน บางคน 1 ล้าน บางคน 2 ล้าน และบางคนค่อยๆ ล้าน (เหมือนผม)
2. ลืมชื่อตัวเอง
3. ........ (มาเติมต่อให้ด้วย)
55555
ข้อ 1. ผมไม่เป็นเช่นนั้นครับ แต่สกรีนเฮด ซะ .... แต่แอบหงอกแล้วอะสิ หุหุ เลยให้เตียน ๆ เข้าไว้ แบบเห็นแต่ตอหงอก ๆ ก็ไม่ค่อยครับ หุหุ
ข้อ 2. ยังไม่ถึงขนาดนั้นครับ แต่เริ่มหลง ๆ ลืม ๆ บ้างเป็นบางครั้ง
ข้อ 3. เหมือนจะเป็นลม .... ฟุ้งซ่าน อยากได้ไปหมด ... ( แบบนี้เรียกว่าแก่อะปล่าวหว่า ) หุหุ
ข้อ 4. ที่เป็นอยู่คือ เริ่มปลงสังขาร ยุบหนอ พองหนอ กิเลศหมดไป ( แต่ตัณหา ยังอยู่ ) อิ อิ
ข้อ 5. ข้อนี้นึกออกเลย พกยาดมหลาย ๆ อัน
นาน ๆ ถ้าเจอผมเดินใส่หมวกแก๊บ ปิดหน้าปิดตา ถือยาดม ๆๆๆ ตลอด 2 - 3 อันที่พก แถว ๆ จตุจักร และ Sunday ละก็ใช่เลย อิ อิ