siamphoenix.com

ปกติแล้วนกแก้วอเมซอนจะมีกลิ่นตัวอยู่แล้วครับ กลิ่นเหมือนชะมดอะครับ

ขอบคุณทุก ๆท่านเช่นกันครับ ที่มอบมิตรภาพให้

อยากคุย MSN กับหลาย ๆท่านเลย แต่ผมยังไม่มีอีเมลล์

ถ้ายังไงแอ๊ดมานะครับ sirus_tunya@hotmail.com

ขอบคุณครับ

ขอไปด้วยคนได้ป่าวครับ

ผมพึ่งกลับมาอยู่ไทย ไม่ค่อยมีเพื่อนเลี้ยงนกครับ

ไม่ควรนะครับ

ควรหาซื้ออาหารลูกป้อนที่เหมาะสมกับนกชนิดนั้นมาป้อนนกครับ

ซีลีแลคมีนมเป็นส่วนประกอบ นกไม่สามารถย่อยได้ แต่ก็เป็นเรื่องที่น่าแปลกที่นกบางตัวก็รอดได้ด้วยซีรีแลค ... แต่ไม่คุ้มที่จะเสี่ยงครับ

อีกอย่าง ลูกนกควรได้รับอาหารที่เหมาะสมเพื่อเสริมสร้างอวัยวะต่าง ๆในช่วงเติบโต ดังนั้นควรซื้ออาหารลูกป้อนที่เหมาะสมกับชนิดของลูกนกมาป้อนครับ

ดีใจครับที่คุณได้ตัดสินใจพานกไปหาหมอ

นกป่วยไม่ควรรักษาเองนะครับ อาการที่แสดงออกคล้ายกันแต่ต้นกำเนิดอาจจะต่างกันก็ได้ ทำให้เราวินิจฉัยผิดโรค และให้ยาผิด ทำให้อาการยิ่งทรุด

ไวตามิน ก็เป็นอีกสิ่งนึงที่คนไทยมักเข้าใจผิดว่ายิ่งให้ยิ่งดี แต่หารู้ไม่ว่ามันมีโทษมากกว่าในบางกรณี นกที่ได้รับสารอาหารครบถ้วนสมบูรณ์ หรือได้ทานอาหารสำเร็จรูปที่มีคุณภาพทุกวัน(ในปริมาณที่พอเหมาะ)จะไม่มีความจำเป็นที่ต้องให้ไวตามินเสริมเลยครับ ไวตามินบางชนิดมีมากเกินไปจะเป็นอันตรายกับนกด้วยซ้ำ อย่างเช่น ไวตามินเอ

นอกจากนี้ นกบางสายพันธุ์มีความต้องการอาหารที่ต่างไปจากนกพันธุ์อื่นเช่น นกไฮยาซินมาคอร์ ต้องการไขมันที่สูงมาก แต่ต้องการโปรตีนต่ำ นกจะตายได้ถ้าได้รับโปรตีนในปริมาณมากเกินไป หรือลูกนกจะแคระแกรน อาหารสำเร็จรูปที่จะให้ไฮยาซินก็ควรดูที่ฉลากว่ามีโปรตีนกี่เปอร์เซ็นต์ บางคนไม่ทราบก็ให้ถั่วต้มกับนกมากไปซึ่งไม่เป็นผลดีเลยถ้าให้มากไปเพราะถั่วต้มมีโปรตีนสูง เป็นต้น

เพราะฉนั้นเราควรศึกษาวิธีการเลี้ยงอย่างถูกวิธีครับ ในประเทศไทยอาจจะมีแหล่งข้อมูลที่ให้ความรู้อย่างถูกต้องค่อนข้างน้อย ลองหาตามเว็ปต่างประเทศที่ให้ข้อมูลน่าเชื่อถือดูนะครับ

ครับ เมล็ดแอ๊ปเปิ้ลทานไม่ได้ครับ

อาหารอื่นที่นกไม่ควรทานคือ

ช๊อกโกแล๊ต กาแฟ ชา แอลกอฮอล์ อาหารที่มีน้ำตาลผสมเยอะจะทำให้ติดเชื้อจากยีสต์ได้ อโวคาโด้(อันนี้ห้ามเด็ดขาด) เห็ด(ไม่ควรเสี่ยง) อาหารที่มีเกลือสูง

คร่าว ๆก็ประมาณนี้ครับ

ผมแนะนำให้รีบนำนกไปหาหมอนะครับ ไม่ควรซื้อยาให้นกเอง เพราะเราเองยังไม่แน่ชัดเลยว่านกเป็นอะไรกันแน่

นกมักจะซ่อนอาการป่วยไว้เสมอ เพราะในธรรมชาติถ้าเค้าแสดงอาการเจ็บป่วยออกมา ก็จะเป็นเป้าสายตาของผู้ล่า

แล้วนี่เค้าแสดงอาการออกมามากขึ้นแล้ว รีบพาไปหาหมดเถอะครับ

จะป้อนไวตามิน ควรระวังมาก ๆนะครับ

ถ้าแพทย์ไม่ได้แนะนำ ก็ไม่มีความจำเป็นจะต้องทานไวตามินเสริมครับเพราะผลร้ายอาจจะมากกว่าผลดี

นกที่โตแล้วทานอาหารเองได้แล้ว ควรมุ่งเน้นที่อาหารที่มีประโยชน์และให้สารอาหารครบถ้วนจะดีกว่าครับ

ไวตามินบางตัวถ้ามากเกินไปจะทำให้เป็นพิษได้ครับ

ยินดีครับ

จากที่คุณบอกมาว่า นกทานผลไม้เองได้แต่ไม่มาก ก็เป็นสิ่งที่ดีครับ ถ้าจะเพิ่มปริมาณให้นกทาน ก็ให้ลดอาหารชนิดอื่นลงหน่อย แล้วก็ให้ผลไม้กับนกเพิ่มหน่อยครับ

ช่วงแรก ๆถ้าจะกระตุ้นให้เค้าทานผลไม้ คุณอาจจะหยิบให้เค้าทีละชิ้นก็ได้ครับ หรือไม่ก็ทานผลไม้ชนิดนั้นต่อหน้านก นกก็จะอยากรู้อยากเห็นและอาจจะเข้ามาขอทานบ้างครับ

ไวตามิน ส่วนตัวผมไม่แนะนำให้ใช้เลย ตราบใดที่นกได้สารอาหารจากอาหารที่ทานประจำครบถ้วนแล้ว ยิ่งคุณให้อาหารสำเร็จรูปด้วย ผมคิดว่าไม่น่าจะต้องให้เพิ่มนะครับ การได้รับไวตามินมากเกินไป อาจมีผลร้ายมากกว่าดีครับ

ทำได้ครับ

ให้คุณเตรียมอุปกรณ์คือ ไม่ว่าจะเป็น T stand หรือถังขยะก็ได้ โดยใช้ใบเดิมเสมอ

วิธีการคือ ให้ดูจังหวะที่นกกำลังจะอึ นกมักจะถอยหลังหรือพองขนนิดหน่อยบริเวณหาง นั่นเป็นอาการบอกว่านกน่าจะอึ ก็รีบเอานกไปเกาะบน T stand หรือให้เกาะมือแล้ววางมือไว้เหนือถังขยะ พร้อมกับบอกให้นกอึ โดยใช้คำว่าอะไรก็ได้ครับ ของผม ผมใช้ภาษาอังกฤษคือ "go poop" พอนกอึเสร็จ ก็ให้รางวัลนก เป็นคำชม เกาหัวให้ หรือให้เมล็ดพืชเป็นรางวัลก็ได้ ทำแบบนี้เรื่อย ๆนกจะเข้าใจเองครับ

ระยะเวลาของนกที่จะอึนั้นขึ้นอยู่กับตัวด้วยครับ บางตัวอึบ่อยบางตัวนาน ๆอึที ก็ต้องสังเกตุ แต่โดยปกติทั่วไปแล้วก็จะประมาณ ยี่สิบนาทีครับ ก็ต้องคอยกะ ๆเวลาเอาว่า ถ้านกไม่ได้อึนานยี่สิบนาที ก็ลองบอกให้นกอึดูก็ได้ครับ

วิธีฝึกให้นกอึตามคำสั่งนั้นมีทั้งข้อดีและข้อเสียนะครับ

ข้อดีคือ นกไม่อึเลอะใส่เรา

ข้อเสียคือ บางทีนกบางตัวจะกลั้นอึไว้ ถ้าไม่ได้รับคำสั่ง หรือบางที ไม่ได้จะอึ แต่ถ้าเราสั่งนกจะพยายามอึออกมาให้ได้เพื่อให้ได้รางวัลหลังจากอึ

ดังนั้นผมจะไม่เข้มงวดร้อยเปอร์เซ็นต์กับเรื่องนี้ครับ คือนกอึได้ตามสั่งเราซักเก้าสิบเปอร์เซ็นต์ก็น่าจะพอใจแล้ว อย่าเข้มงวดมากนัก

ลองดูนะครับ โชคดีครับ

ลูกนกพึ่งจะไม่กี่วัน ยังคงให้อาหารลูกป้อนอยู่

ถ้าใช้อาหารลูกป้อนที่มีคุณภาพแล้ว ไวตามินไม่จำเป็นจะต้องให้เลยครับ การให้ไวตามินเสริมกับนกนั้น อาจเป็นผลเสียได้ครับ ไวตามินที่มีมากในร่างกายมากเกินไป ก็จะเป็นพิษได้ อย่างเช่นไวตามินเอ รวมถึงแคลเซียมเองก็ตาม ถ้าได้รับในปริมาณมากเกินไปก็จะไม่ดี

ถ้าเราให้อาหารนกที่ถูกต้องตามที่นกควรจะได้รับ (รวมถึงนกใหญ่ที่บินได้แล้ว) ก็ไม่จำเป็นต้องให้ไวตามินเสริมเลยครับ ... ในหนังสือ birdtalk จะเขียนไว้เสมอว่า จะให้ไวตามินเสริมกับนกต่อเมื่อสัตวแพทย์เป็นคนสั่งเท่านั้น มิเช่นนั้นผลร้ายอาจจะมากกว่าดีครับ

นกฉลาดที่คุณหมายถึง หมายถึงนกที่พูดได้เก่งที่สุดหรือว่าอะไรครับ

ส่วนตัวผม จากที่เคยเลี้ยง ๆมา ผมมองที่ความเข้าใจและการสื่ออารมณ์ของนกและการรับมือกับนกตัวอื่นๆเป็นหลัก ในการตัดสินว่านกตัวนั้นฉลาดหรือไม่

นกกระตั้วของผมจะชอบโดนนกตัวอื่นแกล้ง คอยมาดึงขน งับขา ซึ่งเค้าก็เล่น ๆกันน่ะครับ นกกระตั้วก็จะไม่ทำอะไรปล่อยให้ตัวอื่นแกล้งไป จนทนไม่ได้ ถึงจะทำกลับไปแรง ๆทีนึง เพื่อบอกให้ตัวอื่นรู้ว่า พอได้แล้วมากเกินไปแล้ว ... อีกพฤติกรรมนึงคือ เค้าจะเอาเท้าจับหัวนกตัวอื่นที่จะเข้ามาแกล้งเพื่อไม่ให้นกตัวนั้นเข้ามาประชิดตัว

นกกระตั้วอีกตัวนึงที่ผมเลี้ยง เวลาสั่งให้เค้าหมุนตัว บางทีเค้าจะไม่อยากหมุน แต่พอเราสั่งให้หมุนเรื่อย ๆเค้าถึงยอมหมุน แล้วก็จะทำเสียงเหมือนกับเด็ก ๆที่ว่า "หมุนก็ได้ ๆๆ" ซึ่งแปลว่าเค้าเองก็รู้ว่าผมสั่งให้หมุน แต่ขี้เกียจหมุนเอง แต่สุดท้ายก็ยอมหมุนตัวแล้วทำเสียงรำคาญบวกกับหมุนตัวเร็ว ๆให้ครบรอบไปงั้นเพื่อจะได้ขนม

ประสบการณ์กับลูกนกกรีนวิงค์มาคอร์ ตัวนี้ผมก็มองว่าฉลาดมากครับ ถึงแม้พูดไม่ได้แต่จะทำเสียงในคอซึ่งบ่งบอกแทนคำพูดได้ดีมาก ๆว่าเค้ารู้สึกยังไงอยู่ ผมว่าอารมณ์ของเค้าลึกดี แล้วเค้าก็เข้าใจอะไรได้ดีมาก

อีกพฤติกรรมนึงที่ผมมองว่านกฉลาดดีคือ เค้าจะเอาอาหารสำเร็จรูปจากชามฝั่งนึงของกรง ไปจุ่มน้ำในชามอีกฝั่งนึงของกรง แล้วค่อยทาน คงจะชอบทานนิ่ม ๆมั้งครับ ... แต่อันนี้มีนกของท่านอื่น ๆก็ทำกัน

จากที่เคยได้อ่านหนังสือ นกกระตั้วขนาดใหญ่ดูเหมือนจะฉลาดที่สุดนะครับ ถึงแม้เค้าพูดไม่เก่งก็ตาม นกพวกนี้บางทีจะมีวิธีที่เล่นกับตัวเองอย่างไม่น่าเชื่อ เช่น เอาอาหารยัดใส่หลอดกระดาษ แล้วปีนขึ้นไปบนคอนเพื่อกินอาหารในหลอดนั้นทีละนิด หรือ เอาเมล็ดพืชหลาย ๆเมล็ดยัดใส่ขนบริเวณหน้าอกตัวเองแล้วใช้กล้ามเนื้อบังคับเส้นขนให้บีบเมล็ดพืชไว้เพื่อเอาไปกินอีกบริเวณหนึ่งของกรง

คำตอบนะครับ

1 ผมคิดว่าคุณน่าจะหมายถึง Double Yellow Headed Amazon ใช่มะครับ ตัวที่อยู่ในรูปหัวข้อกระทู้ของคุณ DYH จะแตกต่างกับ YN ตรงที่ DYH มีสีเหลืองบริเวณหัวมากกว่า บางตัวสีเหลืองลงมาถึงหลัง และบริเวรณท้อง ซึ่ง YN จะมีสีเหลืองที่ท้ายทอย บางสายพันธุ์ของ YN ก็จะมีสีเหลืองบนหัวได้ครับ แต่เป็นแค่แต้มเล็ก ๆนิดหน่อย ปีกของ DYH จะมีทั้งสีแดงและสีเหลืองปกคลุม ส่วน YN จะมีแค่สีแดงบริเวณหัวใหญ่เท่านั้น ปากของ DYH จะเป็นสีงาช้างครับ ส่วนปากของ YN จะเป็นสีเทาและมีสีงาช้างปนบ้างบางส่วน
ในกลุ่มของ YN เองจะมีสับสปีชียส์ที่ปากสีงาช้างด้วยครับ แต่คิดว่าไม่น่าจะมีในประเทศไทย

2 อเมซอน ขนาดต่างกันพอสมควรนะครับ ตัวเล็กสุดก็ใหญ่กว่าซันคอร์นัวร์นิดหน่อย ตัวใหญ่สุดที่เลี้ยง ๆกันก็ประมาณกระตั้วมีเดียม

3 เรื่องการพูดขึ้นอยู่กับสายพันธุ์ครับ อเมซอนสายพันธุ์ที่พูดเก่งที่สุดก็คือ กลุ่มหัวเหลืองทั้งหมด รวมถึง YN ด้วยครับ ส่วน Blue Fronted Amazon ก็พูดเก่งมากครับ แต่เสียงจะเล็ก ๆหน่อย คล้าย ๆผู้หญิง ... อเมซอนที่พูดเก่งที่สุด คือ YN ครับ

4 เสียงของอเมซอน แล้วแต่ตัวเลยครับ บางตัวเสียงดังมาก บางตัวค่อนข้างเงียบ จะพูดซะมากกว่า เรื่องนกร้องเสียงดัง จะต้องดูด้วยว่า เค้าร้องเพราะอะไร ถ้าร้องด้วยการเรียกร้องความสนใจ อันนี้จะต้องฝึกเค้านะครับ หัดให้เค้าใช้เสียงอื่นในการเรียกเรา แทนการร้องเสียงดังโวยวายด้วยภาษาที่เค้าใช้อยู่ ... เรื่องนี้ถ้าอยากทราบวิธีฝึก ก็ถามมานะครับแล้วจะแนะนำให้อีกครั้ง

5 อเมซอนมีแนวโน้มที่จะก้าวร้าวได้ครับ โดยเฉพาะนกที่อยู่ในกลุ่ม Hot Threes คือ DHY, YN, BF จะก้าวร้าวมากในช่วงฤดูผสมพันธุ์สำหรับนกที่อยู่ในวัยเจริญพันธุ์ และตัวผู้มักจะก้าวร้าวมากกว่าตัวเมียครับ ... ความก้าวร้าวนี้ ปีนึงก็อาจจะต้องเจอประมาณ สองเดือนสามเดือนขึ้นไปครับ หรือบางครั้งอาจจะทั้งปีเลยก็เป็นได้ในปีแรกของการเข้าสู่วัยเจริญพันธุ์ แต่ถ้าพ้นฤดูผสมพันธุ์ของเค้าไป อารมณ์ก็จะกลับสู่ปกติครับ และก็จะเป็นใหม่อีกเมื่อเข้าฤดูผสมพันธุ์ในปีถัดไป ... ในหลาย ๆกรณี นกอเมซอนตัวเมียจะอ่อนโยนมากขึ้นในช่วงฤดูผสมพันธุ์ แต่ก็ไม่ทุกตัวครับ

6 แล้วแต่ความชอบครับ สำหรับผม ผมชอบ DHY กับ YN มากสุดครับ

ข้อเจ็ดและข้อแปด อันนี้ท่านอื่นคงให้คำตอบที่ดีกว่าครับ ผมไม่ทราบข้อมูลเหล่านี้เลย

สรุป หาหนังสือเล่มนี้ได้หรือยังครับ

ถ้ายังไม่ได้ก็บอกผมได้นะครับ ผมจะกลับไทยกลางกรกฎานี้

ถ้ายังสนใจอยู่ จะให้ยืมไปถ่ายเอกสารครับ ไม่คิดค่าให้ยืมอะ ให้ยืมฟรี แค่รักษาหนังสือผมดี ๆก็พอฮะ