ลิงลม หรือ นางอาย

เริ่มโดย Pakchong Pets Shop, เมษายน 24, 2008, 05:09:28 หลังเที่ยง

หัวข้อก่อนหน้า - หัวข้อถัดไป

0 สมาชิก และ 1 ผู้มาเยือน กำลังดูหัวข้อนี้

Pakchong Pets Shop

รบกวนสอบถามข้อมูลเกี่ยวกับ

อาหาร ลักษณะนิสัย สายพันธุ์ (ใน ป.ไทย) การสืบพันธุ์

ขอบคุณครับ
:-D :-D :-D

...

อ้างถึงTurkeyman เป็นผู้เขียน:
รบกวนสอบถามข้อมูลเกี่ยวกับ

อาหาร ลักษณะนิสัย สายพันธุ์ (ใน ป.ไทย) การสืบพันธุ์

ขอบคุณครับ

กระทู้นี้ ล่อเป้า หรือปล่าวขอรับกระผม  

ไงก็ อย่าเลยครับ  เดี๋ยวจะบานปลาย

ขอบคุณครับ

aeeprs

กินผัก ผลไม้ แมลง ไข่นก เป็นสัตว์หากินกลางคืน กลางวันจะนอน และเนื่องจากเป็นสัตว์หากินกลางคืน ตาจึงปรับตัวให้ ใช้ในที่ที่ มีแสงสว่างน้อย เมื่อคนนำมาเลี้ยง ชีวิตคนเลี้ยงมักเป็นชีวิตกลางวัน จึงบังคับเขาให้อยู่ด้วยกลางวัน กินกลางวัน เมื่อเลี้ยงไปได้ระยะหนึ่ง ตาเขาก็จะมีปัญหาคือเกิดบอดขึ้นได้ เพราะปรับตัวกับแสงสว่างไม่ไหวครับ
 เป็นการทรมาณสัตว์นะครับ อย่างเลี้ยงเลี้ยง มาร์โมเสท หรือ ทามมารีนดีกว่าครับ ถูกกฏหมายด้วยครับ

keng_exotic

สัตว์ป่าคุ้มครองนะครับ มิเหมาะมิควรที่จะนำมาเลี้ยง
ที่สำคัญมันไม่เชื่องตลอดกาล(เพราะไม่ใช่ตุ๊กตาลิง) เวลาติดสัดจะดุมาก กัดเจ็บมาก หากโดนแสงแดดจ้าบ่อยๆจะทำให้ตาเป็นต้อได้ครับ

อาหาร ผลไม้ที่ไม่เปรี้ยว แมลง ไข่นก จิ้งจก ลูกนก

...

ผมเคยเห็น เขานำมาเลี้ยงเกาะตามตัว  บอกว่าเชื่องอย่างนั้น อย่างโน้น อย่างนี้  สายพันธุ์ ก็มีทั้งไทย และอินโดนีเซีย  

ความเชื่อง  คงเป็นเพราะเขายังเล็ก และรวมถึง โดนตัดเขี้ยวไปน๊ะครับ  

เดี๋ยวผมจะพยายามหาข้อมูลให้ อ่านดูครับ กระผม

แต่สุดท้ายไง ก็ไม่ค่อยอยากจะสนับสนุน เลยครับ  ถ้าหลงมา ก็ปล่อยกลับสู่ธรรมชาติ ขอรับกระผม

bios_m

เป็นสัตว์ป่าคุ้มครอง ตามพระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พุทธศักราช 2535
RE-AMEMIYA : ลมป่าภูเขาไฟ

...

บทความ โดยคุณ วนกร  อุดมการณ์

จากหนังสือ ADVANCED THAILAND GEOGRAPHIC  
ISSN : 0859-5359 ปีที่ 4  ฉบับที่ 35  เดือนพฤษภาคม - มิถุนายน  2542

นางอาย  หรือ ลิงลม

" ซื้อไหมค้า ....  น่ารักน่ะค้า ... เลี้ยงจ่ายค่ะ "
หญิงร่างค่อนข้างอ้วนกำลังพยายามเสนอ  " สินค้า " ของเธออยู่  แล้วก็ดูเหมือนว่าน่าจะเป็นไปตามที่เธอคิดเพราะหญิงสาวคนนั้นดูท่าทางสนใจไม่น้อย

" ตัวนางอายค่ะ ... ไม่แพงนะคะ ...  หาไม่ได้หรอกคะ  ราคานี้นะ "


สิ่งมีชีวิตรูปร่างอ้วนกลมสีน้ำตาลอมเทาซุกตัวแน่นิ่งอยู่ในถุงกระดาษสีน้ำตาลใบไม่ใหญ่ไปกว่าตัวมันเท่าไหร่นัก  จะมีก็เพียงเงยหน้ามองออกมาจากทางปากถุงด้วยความสงสัยในบางครั้งเท่านั้น  แต่เมื่อดดนแสงสว่างก็หันหน้ากลับไปซุกอยู่อย่างเดิม  ดูแล้วเหมือนกับเอียงอายไม่มีผิด

" หายากน่ะคะ ... นาน ๆ จะมีมาซักตัวรีบซื้อไว้เถอะค่ะวันสุดท้ายแล้ว "

หญิงอ้วนทำหน้าที่ของเธออย่างเต็มที่  เธอรู้ดีว่าหากไม่ " ปล่อย "  ออกไปเสียแต่โดยไวแล้วละก็   เธออาจจะชวดเงินก้อนใหญ่ไปเลยก็ได้สำหรับเย็นวันอาทิตย์อย่างนี้  ประสบการณ์การเป็นแม่ค้าขายสัตว์ป่ามาหลายปีในตลาดนัดสวนจตุจักรสอนเธอให้รู้ถึงความเป็นจริง  ก็ไม่รู้ว่าเจ้าลิงลมหรือนางอายตัวนี้บอบช้ำมามากแค่ไหนการที่จะเสี่ยงเก็บเอาไว้อีกเป็นอาทิตย์นั้น  มันมีสิทธิ์ตายได้นั่นหมายความว่ากำไรของเธอน้อยลงไปอีกโขอยู่

" ตัวละพันแพงไป .... ลดหน่อยสิ  ไม่ได้ก็ไม่เอา "

" ไม่ได้จริง ๆ ค่ะ  กำไรตัวละไม่กี่สิบบาทเองนะคะ.... เสี่ยงก็เสี่ยง "

กระแสอนุรักษ์เพิ่มมากขึ้นและการที่เจ้าหน้าที่เกี่ยวข้องเข้มงวด  ในการดูแลการลักลอบค้าสัตว์ป่า  ทำให้รายได้ของเธอลดลงไปอย่างมาก  เมื่อได้ตัวอะไรมาสักตัวหนึ่งก็ไม่สามารถนำออกมาวางขายอย่างประเจิดประเจ้อเหมือนเดิมได้แต่กระนั้นก็ตามหากมีความต้องการ  " สินค้า " อยู่อย่างต่อเนื่องรายได้ของเธอก็ยังมีอยู่อย่างต่อเนื่อง  เช่นเดียวกันแม้กระแสอนุรักษ์จะรุนแรงมากเพียงใดก็ตาม  ในความเป็นจริงมันก็ยังไม่สามารถเหนือกว่าความอยากของคนอยู่ดี  

การเจรจาหลังจากนั้นคงเป็นไปตามกลไกของความต้องการ  คนซื้อก็อยากได้ของถูก  คนขายก็อยากขายได้แพง ๆ  เพื่อกำไรที่มากตามไปด้วย  แต่ในที่สุดดูเหมือนว่าลูกค้าจะเป็นฝ่ายชนะ  เป็นเจาของ  " สินค้า "  ด้วยแบงก์สีม่วง ๆ เพียงใบเดียวเท่านั้น  ก็ไม่รู้ว่าทำไมเธอจึงยอมขายทั้งที่ในตอนแรกบอกว่ากำไรตัวละไม่กี่สิบบาท

ลูกค้าของเธอเดินคล้อยหลังไปไกลแล้ว  แม้จะไม่สมหวังในราคาขาย  เพราะเธอเคยโก่งราคาได้เกือบสองพันบาท  สำหลับลูกลิงลมที่ดูเชื่อง ๆ สักตัว  หน้าที่ต่อจากนี้ก็คงเป็นการหา " สินค้าตัวใหม่ "  สำหรับการขายครั้งต่อไป  แม้ต้องหลบ ๆ ซ่อน ๆ แต่มันก็คุ้มค่าไม่ใช่หรือกับกำไรที่ได้เกือบเท่าตัวแบบนี้



มีต่อครับ

...

" ว๊าย ... น่ารักจังเลย  ตัวอะไรเนี่ยดูสิขี้อายด้วย "

"ขอชั้นอุ้มบ้างสิ  ขนมันนิ้มนิ่มอย่างกับตุ๊กตา  แน่ะ ... น่ารักจัง "

" ถ้ามีอีกหาให้ชั้นตัวนึงนะ  จะได้เอามาอุ้มเล่นแบบเธอบ้าง "

สารพัดคำพูดที่ชื่นตมต่อ " ตัวเลี้ยงตัวใหม่ "  ทำให้เธอดูอดภูมิใจลึก ๆ ไม่ได้ว่าการเลี้ยงเจ้าตัวอ้วนกลมขี้อายนี้  ทำให้เธอเหนือกว่าคนที่เลี้ยงหมาเลี้ยงแมวทั่วไป  ทุกครั้งที่มีคนเห็นเธอ  ( จงใจ ) อุ้มมันออกมา  เธอจะต้องกลายเป็นจุดเด่น  เป็นเป้าสายตาอยู่เสมอ  ใคร ๆ ก็อยากจะได้มันมาอุ้มเล่นบ้าง  ยิ่งตอนที่มันกำลังซุกหน้าเอียงอายอย่างไม่ยอมสบตากับใครนั้น  ยิ่งทำให้มันยิ่งน่าเอ็นดูมากยิ่งขึ้น  ทำให้ใครต่อใครต่างพยายามทำให้มันเงยหน้าอยู่เสมอ  ก่อนที่จะปล่อยให้มันซุกหน้าหลบตาเพื่อหนีแสง  พร้อมกับแสดงความขบขันกับกริยาของมัน

" น่าสมเพช ....  อยากจะเลี้ยงสัตว์ป่าแต่พฤติกรรมของสัตว์ที่เลี้ยงเธอยังไม่เคยคิดจะเรียนรู้  ลิงลมเป็นสัตว์หากินกลางคืน  ดวงตาไม่สามารถสู้แสงแดดเจิดจ้าตอนกลางวันได้  เรื่องสำคัญแบบนี้สมองของเธอคิดบ้างไหมหนอ "

หากลิงลมตัวนั้นพูดได้มันอาจจะตะโกนใส่หน้าคนที่อุ้มอยู่ก็ได้  การเลี้ยงสัตว์นั้นทำให้คนเลี้ยงมีจิตใจที่อ่อนโยน  มีเมตตารักสัตว์  เห็นอกเห็นใจเพื่อนร่วมโลก  แต่ยังมีคนอีกหลายคนที่เห็นสัตว์เป็นเพียงเครื่องแสดงฐานะ  การมีสัตว์หายากแปลกไปกว่าคนอื่น  หรือทำให้คนเลี้ยงมีความรู้สึกเหนือกว่าคนอื่นนั้น  เคยมีอยู่ในจุดประสงค์การเลี้ยงสัตว์เลย

ยิ่งเป็นสัตว์ป่าด้วยแล้วดูเหมือนว่าจะเป็นที่หมายปองของคนชอบเลี้ยงสัตว์ประเภทหลังมากเหลือเกิน  สัตว์ป่าหลายชนิดถูกจับออกมาจากป่าเพื่อรอคอยการซื้อขาย  โดยเฉพาะลูกสัตว์ที่เต็มไปด้วยความน่าเอ็นดู  และลิงลมก็เป็นหนึ่งในสัตว์ป่าที่ถูกมนุษย์จับมาเป็นสัตว์เลี้ยง

ลิงลมหรือที่ใครหลายคนเรียกชื่อตามพฤติกรรมที่ไม่ชอบแสงสว่างของมันว่านางอายนั้น  เป็นสัตว์ป่าชนิดหนึ่งที่มีลักษณะเฉพาะตัวหลายอย่างที่ไม่เหมือนใคร  จึงมักไม่มีปัญหาในการทำความรู้จักกับมัน  แต่การที่มันเป็นสัตว์ที่มีพฤติกรรมและกิจกรรมต่าง ๆ ในเวลากลางคืนก็เลยทำให้ไม่ค่อยมีคนได้พบเห็นตัวจริงมันมากนัก  โดยเฉพาะคนส่วนใหญ่ที่ห่างไกลจากป่าเขาลำเนาไพร

ลิงลมเป็นต้ว์ที่อยู่ในกลุ่มเดียวกันกับลิงและมนุษย์  หรืออยู่ในอันดับ  Primates  สัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมในวงศ์ลิงลมนี้  ทั่วโลกมีทั้งหมด  6 สกุล  11 ชนิด  และสามารถแบ่งออกเป็นสองวงศ์ย่อยคือ  พวกลอริสิด  หรือลิงคมที่พบในบ้านเรา  โดยลิงลมถูกจัดให้อยู่ในวงศ์ย่อยของลิงลมหรือ Subfamily Lorisinae ทั่วโลกมีอยู่ทั้งหมด 4 สกุล  และ 5 ชนิดคือพวก Pottos ที่พบในทวีปแอฟริกาและลิงลมที่พบในเอเชีย  ซึ่งในประเทศไทยนั้นก็พบเพียงสกุลและชนิดเดียวเท่านั้น  และ Subfamily Galanginae ซึ่งเป็นลิงลมพวกที่พบในทวีปแอฟริกา  เป็นสัตว์ที่มีการพัฒนามาเพื่อการปีนป่ายและห้อยโหนอย่างรวดเร็ว  ไม่เหมือนกับลิงลมบานเราที่มีการพัฒนาการมาเพื่อการปีนป่ายอย่างช้า ๆ ไปตามลำต้นและกิ่งไม้  


มีต่อ

kitty75

อ้างถึงkeng_exotic เป็นผู้เขียน:
สัตว์ป่าคุ้มครองนะครับ มิเหมาะมิควรที่จะนำมาเลี้ยง
ที่สำคัญมันไม่เชื่องตลอดกาล(เพราะไม่ใช่ตุ๊กตาลิง) เวลาติดสัดจะดุมาก กัดเจ็บมาก หากโดนแสงแดดจ้าบ่อยๆจะทำให้ตาเป็นต้อได้ครับ

อาหาร ผลไม้ที่ไม่เปรี้ยว แมลง ไข่นก จิ้งจก ลูกนก
อย่างงี้ก็ดีเลย เลี้ยงควบคู่ไปกับการเลี้ยงนก เวลามีลูกนกออกมาจะได้เอาไปให้มันกิน อิ อิ (ล้อเล่นนะครับ)

Pakchong Pets Shop

ขอบคุณทุกท่านครับ

คิดจะเลี้ยงเหมือนกัน แต่ไม่ทราบข้อมูลทางด้านอื่น ๆ อย่างที่ทุกท่านแจ้งมา

เห็นมีคนเลี้ยงอยู่ ไม่ทราบว่า พวกเขาจะรู้ไหมในพฤติกรรม หรือ อันตรายที่จะมีต่อสิ่งมีชีวิตที่เขานำมาเลี้ยง

ได้ทราบข้อมูล แล้วก็นึกสงสารพวกมันเหมือนกันนะครับ มีข่าวอยู่เรื่อย ๆ เรื่องการลักลอบนำเข้าและออก มักจะพ่วงด้วย ตัวนิ่ม

ได้ทราบเช่นนี้แล้วก็คงไม่กล้าที่จะนำมาเลี้ยงแล้วหละครับ
:-(
:-D :-D :-D

Pakchong Pets Shop

แล้วก็ต้องขออภัยทุกท่านด้วยนะครับ

ไม่ได้มีเจตนาที่จะ ชักชวน หรือ ชักจูง เพียงแต่อยากทราบข้อมูลที่เท็จจริง เท่านั้นครับ
:-D :-D :-D

...

ลิงลมเป็นลิงที่มีขนาดค่อนข้างเล็กความยาวของหัวและลำตัวรวมกันก็ราว ๆ 30 – 40 เซติเมตร  เท่านั้น  ส่วนน้ำหนักก็ประมาณหนึ่งถึงสองกิโลกรัม  รูปร่างของลิงลมนั้นดูแล้วอ้วนกลมเหมือนตุ๊กตาชวนให้คิดถึงหมีโคอาล่าที่มีในทวีปออสเตรเลีย  แต่จะแตกต่างกันที่หูของลิงลมนั้นเล็กและสั้นมากไม่เหมือนกับหูของหมีโคอาล่าที่ใหญ่และมีขนยาวฟู

ขนตามลำตัวของลิงลมนั้นโดยรมแล้วจะมีสีเทาจะอ่อนแก่ก็แปรผันกันไปในลิงลมแต่ละตัว  ลิงลมที่พบทางภาคใต้นั้นจะมีออกน้ำตาลแดงมากกว่าลิงลมที่พบทางตอนบนของประเทศ  และลิงลมจะมีขนสีเข้มลากจากหัวไปถึงสันหลังซึ่งก็จะแปรผันกันไปอีกเช่นเดียวกัน  บางตัวก็เป็นสีน้ำตาลเข้มบางตัวก็เข้มมากจนเป็นสีดำไปเลยก็มี  และลิงลมบางตัวอาจมีแถบที่ว่านี้ลากยาวไปจนถึงหางเลยก็ได้  ซึ่งหางของลิงลมนั้นก็สั้นมาก  จนดูคล้ายกับว่ามันไม่มีหางเลย  ทำให้ตัวของมันยิ่งดูอ้วนกลมยิ่งขึ้นไปอีก

" ผมบอคุณแล้วไม่ใช่เหรอว่าอย่าเลี้ยง  แล้วเป็นไงล่ะ "

" ก็เห็นมันน่ารักดี  ดูเชื่อง ๆ ไม่คิดว่าไอ้ลิงบ้ามันจะกัดฉันนี่ "

" แล้วจะทำยังไงกับมันล่ะ "

" จะเอาไปไหนก็เอาไปเถอะ "

เลี้ยงสัตว์ป่าเนื่องจากหลงใหลในความน่ารักน่าชังเมื่อยามเป็นลูกสัตว์   หลังจากที่สัตว์ป่าตัวนั้นโตขึ้น  สัญชาตญาณที่มีอยู่ทำให้มันต้องสำแดงความเป็นป่าออกมา  ด้วยการกัดและข่วนหรือทำร้ายเจ้าของด้วยวิธีใด ๆ ก็ตาม  เหตุผลเหล่านี้ก็เพียงพอแล้วที่จะทำให้เจ้าของหาทางกำจัดเพื่อทำให้ผู้เลี้ยงรู้สึกว่าตัวเองปลอดภัย  ส่วนสัตว์ป่าตัวนั้นหรือมันก็จะไม่ได้รับการแยแสจากคนเลี้ยงตั้งแต่วันที่มันแสดงพฤติกรรมก้าวร้าวอย่างนั้นออกมาแล้ว  เรื่องราวเหล่านี้ดำเนินไปคล้ายกับละครน้ำเน่าที่เราสามารถเดาตอนจบได้ตั้งแต่เห็น  ใครสักคนซื้อสัตว์ป่ามาเลี้ยงและละครน้ำเน่าเรื่องเดียวกันที่เปลี่ยนเพียงแค่ดารานำแสดงเท่านั้น  คงเป็นเหตุการณ์ที่ทำให้  "แป๋ว" ลิลมหนุ่มต้องมาอยู่ในกรงโทรม ๆ ที่วัดแห่งหนึ่งที่ค่อนข้างไกลจากชุมชนนอกจากมันแล้วยังมีสัตว์อีกหลายชนิดถูกขังกรงเอาไว้  เพื่อให้คนที่มาทำบุญได้เดินดู  ไม่ว่าจะเป็นนกหลายชนิด  ลิงกัง  แม้กระทั่งหมีควายตัวใหญ่  ทุกตัวอยู่ในสภาพที่ซูบผอม  กับกรงที่สกปรก  จากสภาพดังกล่าวทำให้เดาได้ไม่ยากเลยว่าการดูแลพวกมันนั้นต้องเรียกว่า  " ตามยถากรรม "

" แป๋ว "  มาอยู่ที่วัดนี้ได้เกบือสองเดือนแล้ว  ด้วยเหตุผลก็เพราะว่ามันกัดมือคนที่มาแหย่มันเสียจนเป็นแผลและคนที่ถูกกัดนั้นก็บังเอิญเป็นลูกชายจอมซนของคนที่ซื้อมันมาเลี้ยงนั่นเอง  ความจริงแป๋วก็เป็นสัตว์ที่ขี้อายตามประสาสัตว์ที่หากินกลางคืนทั้งหลาย  และมันค่อนข้างจะคุ้นเคยกับคนก็เนื่องจากมันถูกนำมาเลี้ยงตั้งแต่ยังไม่โตมากนัก  ซึ่งปกติมักก็ดูเชื่องและเฉื่อยชา  ทำตัวเหมือนของเล่นมีชีวิตให้ครอบครัวนี้ได้จับต้อง  และมันเองก็ไม่เข้าใจตัวเองด้วยว่ามันกัดเด็กที่มาแหย่มันทำไม  รู้แต่เพียงว่าความต้องการบางอย่างในร่างกายของมันทำให้มันหงุดหงิด


มีต่อครับ

bios_m

เกือบจะเอามาเลี้ยงแล้วเหมือนกันคนขายชอบบอกว่าเลี้ยงง่าย

เซ็งคนขาย
RE-AMEMIYA : ลมป่าภูเขาไฟ

ไอยเรศ

สัตว์แทบทุกชนิดถ้าจะเลี้ยงต้องมีความรู้ ถึงความต้องการ ข้อควรระวัง นิสัย ของสัตว์ชนิดนั้นๆเสียก่อน
ไม่ว่าจะนก ลิงลม นางอาย เสือ ปลา แมลง ส่วนผิดกฎหมายหรือไม่นั้นอีกเรื่องนึง กฎหมาย คือกติกากลาง แต่การที่มีการแก้ไขกฎหมาย มีผลในวันรุ่งขึ้น มิได้หมายความว่า ศีลธรรมจรรยามันจะมีการเปลี่ยนแปลงไปในเพียงวันเดียวที่มีการประกาศกฎหมาย

กฎหมายระดับพรบ มีเกือบพันฉบับ ไม่มีใครรู้ จำ ทำได้หมด

ระดับของกฎหมายเกี่ยวกับศีลธรรมยังแบ่งไปอีกหลายประเภท พูดไปก็จะยาว

ถ้าจะบอกว่าอยากเลี้ยงก็เลี้ยงไปเถอะ (แม้มันจะผิดกฎหมาย มันเรื่องของคุณเอง)(สัตว์ป่าหลายชนิดมีศักยภาพที่จะพัฒนาเป็นสัตว์เลี้ยงได้ ) ถ้าคิดว่าเลี้ยงได้ดี มีชีวิตรอด พัฒนาความรู้ในการดำรงชีวิตของสัตว์ชนิดนั้น มีโอกาสก็ขยายพันธุ์มันบ้าง เพื่อคืนในส่วนที่เราเอามา
ก็เลี้ยงไปก็อาจถูกท่านนักอนุรักษ์ (ผู้มีความรู้สูง มีจิตใจที่สูงส่ง มีวิสัยทัศน์ที่กว้างไกล รู้จักป่าดงเป็นอย่างดีว่าป่าเมืองไทยแสนสมบูรณ์ เพียงพอให้สัตว์ป่ามากมายขยายพันธุ์ได้ดังเดิม  โดยไม่มีปัญหาพื้นที่ไม่เหมาะสม ทับซ้อนของพื้นที่หากิน สภาพป่าเป็นเกาะที่ถูกชุมชนล้อม ปัญหาเลือดชิดในสัตว์ป่า ) ตำหนิเอาได้

เอาเป็นว่าจะเลี้ยงอะไร ก็รู้จัก(ตัวสัตว์) รู้ใจ(ตัวเอง) เสียก่อนนะครับ

ปล.ผมชื่นชมและเคราพด้วยใจจริงต่อนักอนุรักษ์ที่ทำงานจริง และเข้าใจความจริงอย่างรอบด้าน

...

" โทรศัพท์ไปถามสวนสัตว์เขาบอกว่าคงถึงช่วงฤดูผสมพันธุ์ของมันแล้วล่ะ  อย่าไปแหย่  เพราะช่วงนี้มันจะอารมณ์แปรปรวน  ไม่ดี "

แป๋วจำได้ว่าเจ้าของของแป๋วคุยกันอย่างนี้  ก่อนที่จะพามาปล่อยไว้ที่วัดแห่งนี้เลี้ยงดู  มันจะรู้หรือเปล่าว่าคนนั้นมักจะหาทางป้องกันตัวเองเสมอ  เมื่อรู้ตัวว่าไม่ปลอดภัยและในขณะนั้นมันก็เป็นสิ่งที่มีอันตรายของครอบครัวนั้นไปแล้ว

ลิงลมนั้นหากนำมาเลี้ยงตั้งแต่เป็นเด็กอยู่  เราก็สามารถเลี้ยงมันให้เชื่องและเป็นสัตวืเลี้ยงที่ดีได้  นอกจากนี้มันยังปรับตัวให้หากินในเวลากลางวันได้ด้วย  แต่เมื่อโตเต็มวัยแล้ว  สัญชาติญาณต่าง ๆ ที่มีอยู่ในตัวมันก็อาจจะทำให้มันเป็นสัตว์ที่ก้าวร้าวได้  โดยฑาะในช่วงเวลาของการสืบทอดเผ่าพันธุ์  ส่วนลิงลมที่โตเต็มที่นั้นจะดุมากเมื่อถูกจับ  ถึงแม้จะเห็นเชื่อง ๆ แบบนี้  เมื่อถูกจับมันจะคำรามและกัดทุกสิ่งทุกอย่างที่เข้าใกล้มัน  เสียงขู่คำรามของมันฟังดูคล้ายเสียงแมว

คนมาทำบุญที่วัดเมื่อเป็นแป๋ว  ก็มักจะมาคอยจ้องดูทีกรงของแป๋วเสมอ  ก็เพราะอยากรู้ว่าแป๋วเป็นตัวอะไรกันแน่  เนื่องจากแป๋วจะซุกตัวนิ่งอยู่บนกิ่งไม้ในกรงนั่นเอง  แต่เกือบทุกคนก็มักจะยอมแพ้ที่จะรอให้แป๋วหันหน้ามาให้ดู  แล้วก็มีไม่น้อยที่พยายามทำให้แป๋วเคลื่อนไหวให้ได้  ทั้งเขย่ากรงหรือเอาไม้แหย่  หาความสงบไม่ได้เลยทีเดียว  แต่แป๋วไม่คิดที่จะกัดแล้วล่ะ  แป๋วรู้ตัวดีว่าไม่สามารถสู้กับคนเหล่านี้ได้

นอกจากนั้นอาหารการกินก็ไม่ดีนักมีเพียงกล้วยงอม ๆ ค้างกรงเท่านั้น

"ว๊าย !!!! .....  คุณพ่อขา  มันกินแมลงสาบด้วยค่า ...."

ความฝังใจว่าสกปรก  เด็กหญิงคนนั้นคงตกใจน่าดูที่เจ้าลิงลมผอมตัวนี้คว้าเอาแมลงสาบเคราะห์ร้ายเขาปาก  ความจริงมันก็ไม่อยากกินนักหรอก  แมลงสาบฉุน ๆ ในเมืองไม่ใช่อาหารที่มันต้องการ  แต่ตลอดเวลาที่มันมาอยู่ที่วัดนี้มันไม่  เคยได้รับอาหารโปรตีนที่มันต้องการเลย  ดังนั้นแมลงสาบที่ไต่ยั้วเยี้ยไปมาในกรงสกปรกนี้จึงยั่วยวนสัญชาติญาณมันได้เป็นอย่างดี

แต่กลิ่นเฉพาะกายชวนเวียนหัวของแมลงสาบนั้นก็ทำให้มันต้องคาบอาหารจำเป็นนั้นทิ้งออกมาจนได้

ตามธรรมชาติลิงลมไม่ได้กินผลไม้เป็นอาหารหลัก  เหมือนลิงทั่วไปอย่างที่หลายคนเข้าใจ  แต่ลิงลมต้องการอาหารประเภทสัตว์เป็นส่วนใหญ่  ดดยมันจะไต่ไปตามกิ่งไม้หาสัตว์เล็ก  จำพวกแมลง  กิ้งก่า  นกเล็ก ๆที่หลบนอนอยู่ตามยอดไม้  จักจั่น ตัวใหญ่ ๆ ที่ชอบเกาะร้องอยุ่ตามกิ่งไม้ก็เป็นสิ่งที่ลิงลมชื่นชอบ  นอกจากนั้นยังมีรายงานว่าอาหารโปรดอีกอย่างหนึ่งของลิงลมก็คือหอยทาก  โดยเฉพาะ หอยทากต้นไม้ (Tre snail)  ซึ่งเป็นหอยทากที่หากินอยู่ตามลำต้นของต้นไม้  ไม่ได้อยู่ตามพื้นดินอย่างหอยทากทั่วไป  โดยที่ลิงลมจะมีฟันหน้าและเขี้ยวของขากรรไกรล่างจัดเรียงกันคล้ายหวี  เพื่อสะดวกในการกินหอยทาก



มีต่อครับ