เรื่องสำคัญสำหรับผู้ที่นิยมเลี้ยงสัตว์เลี้ยง (โดยเฉพาะนกสวยงาม)

เริ่มโดย Pon, พฤษภาคม 31, 2008, 02:41:07 หลังเที่ยง

หัวข้อก่อนหน้า - หัวข้อถัดไป

0 สมาชิก และ 3 ผู้มาเยือน กำลังดูหัวข้อนี้

C_tan


เรื่องของนกเลี้ยง แต่ดันไปอยู่ผิดที่ผิดทาง  มีตัวอย่างให้เห็นมาแล้ว  เท่าที่ทราบก็มี

ริงเน็ค ที่อังกฤษ  เมื่อสิบกว่าปีก่อน มีกลุ่มนักศึกษาของมหาลัยออกไปทำการวิจัย สำรวจ  พบว่า มีอยู่ประมาณสามพันตัว  สาเหตุหลักที่กลายเป็นนกปล่อยคือ เลี้ยงแล้วหนวกหู รองลงมาคือ หลุดโดอบังเอิญ  และ ไม่เชื่อง  และผลของความเสียหายคือ มันทำลายพืชไร่ โดยเฉพาะผลไม้ เช่น แอ๊ปเปิ้ล ซะกระจุย

ม๊องค์ ที่เมกา  ข้อหาที่โดนคือ เสียงดัง  และ หลุดโดยบังเอิญ  ผลเสียคือ มันไปทำรังขนาดใหญ่ยักษ์ตามเสาไฟฟ้า ต้นปาล์ม  จนถึงขั้นบางรัฐประกาศเป็นนกต้องห้าม ห้ามเลี้ยง ห้ามนำเข้า



นอกจากนั้นก็เป็นรายเล็กๆ เช่น ผมเคยเจอหนังสือพิมพ์ยักษ์ใหญ่ของไทยลงข่าวหน้าสอง ในหัวข้อข่าวต่างประเทศ  ว่า  " พบนกบั๊ดเจอริก้าฝูงใหญ่ถูกปล่อยในสวนสาธารณะไต้หวัน "

ผมจำได้แม่น เพราะขำที่ว่าไม่มีใครสนใจจะค้นหาเลยหรือไง ว่าไอ้บั๊ดเจอริก้านั่นมันมีชื่อไทยว่าอะไร



kitty75

ทราบครับว่าเป็นนกหงส์หยก แต่ถ้าเป็นอย่างที่เรากลัวกัน หนังสือพิมพ์ไทยคงจะมีข่าว พบนกสวยงาม ไม่ว่าจะเป็นปากขอ ปากจู๋ บินว่อน ตามสวนสาธารณะ เรือกสวนไร่นา เป็นแน่
แต่ผมว่ามันคงไม่ถึงขั้นนั้นหรอกครับ......

ลุงน้อย

เจอข่าวแบบนี้ อย่าว่าคนจะเข้ามาเลี้ยงใหม่เลย แม้แต่ผมเอง เตรียมกรงไว้แล้ว ยังต้องชลอการเพิ่มจำนวนเลยครับ ปัญหาเศรษฐกิจยังน่าวิตกอยู่ มาซ้ำเติมเรื่องนี้เข้าไปอีก  ดีนะครับที่ยังไม่สั่งรังเพาะเพิ่ม กลัวได้ลูกนกจังเลย พับผ่าซิ
ลุงน้อย แสนดี. 555

ลุงน้อย

ลุงน้อย แสนดี. 555

ลุงน้อย

ลุงน้อย แสนดี. 555

tabtim

เห็นว่าวันนี้มีประชุม ไม่ทราบว่าถ้าประชุมแล้วได้ผลเป้นอย่างไรบอกกล่าวในเวปบ้างได้หรือไม่ค่ะ ขอบคุณล่วงหน้าเลยค่ะ :-(  :-(

sira

ผมว่าค่าธรรมเนียมคงเข้าไปยุ่งไม่ได้
คนเขียนกฏหมาย ออกมาควบคุมค่าว่า สัตว์ป่า ทั้งหมด
และทราบน้อยหรือแทบจะไม่ทราบ
เลยว่าสัตว์ป่าตามพันธกรณีระหว่างประเทศ คืออะไร
ที่สำคัญแทบจะไม่มองเลยด้วย
แต่คิดรวมๆ ว่าเป็นสัตว์ป่า

หากเรามองกว้างๆ ให้ประชาชนทำประชาพิจารณ์
ยังไงเราก็ไม่มีทางชนะ

"มาตรา 6 สัตว์ป่า ที่ได้รับความคุ้มครองตามพระราชบัญญัตินี้ มีดังต่อไปนี้
(1) สัตว์ป่าสงวน
(2) สัตว์ป่าคุ้มครอง
(3) สัตว์ป่าตามพันธกรณีระหว่างประเทศ
(4) สัตว์ป่าควบคุม
(5) สัตว์ป่าอื่นที่อยู่ในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า หรือบริเวณและสถานที่คุ้มครองพันธุ์สัตว์ป่า"

เพราะคำว่าสัตว์ป่า ได้ยำรวมเอา
สัตว์ป่าตามพันธกรณีระหว่างประเทศ
ซึ่งแม้แต่คนที่เสนอ wording นี่ลงไป
ถามหน่อยเถอะครับ จำหน่าย แยกแยะ ประเภทได้แค่ไหน

แต่การที่เราจะเอา มาตรา 6 (3) สัตว์ป่าตามพันธกรณีระหว่างประเทศ
ออกมาจากร่างได้นั้น ต้องมีเหตุผล ครอบคลุม ว่าทำไม (1) (2) (4) (5) ยังอยู่
ยกตัวอย่างให้เห็นอย่างชัดเจน
เพราะการแก้ร่าง ไม่อาจมองแต่มุมเล็ก ของคนบางส่วน
แต่ต้องให้เหตุผลคัดค้าน กับ เหตุผล ที่ เอา (3) มาร่างรวมอยู่ได้
ซึ่งดังกล่าวข้างต้น ก็มีความไปได้ไม่มากก็น้อย

ขอบคุณมากครับ
... ใครมาถึงเรือนชาน ต้องต้อนรับ ...

รักนกแก้ว

อ่าน และ เซ็ง เลย คับ อีกหน่อย  ดุจากสารคดี เอา น่า จะดีกว่าเลี้ยงและ มั้ง งานนี้

C_tan


ผมขออนุญาตแสดงความคิดเห็นเรื่องค่าธรรมเนียมอีกสักครั้งนะครับ

ในกรณีนกไทย  นกที่อาจกล่าวได้ว่าเป็นนกยอดนิยมอยู่ในขณะนี้ ( มีประกาศขายกันอยู่เสมอๆในเว็บใหญ่ๆอยู่สองเว็บ) ซึ่งก็คือ นกปรอดหัวโขนเคราแดง  หากทางการมีจุดประสงค์ที่จะสนับสนุนให้เพาะเลี้ยง และมีนโยบายที่จะอนุรักษ์นกป่า( ตามที่ได้ไปตกลงทำอนุสัญญากับไซเตส จริงๆ ) ก็ไม่มีเหตุผลใดที่จะยืนกรานเรื่องค่าธรรมเนียมซะสูงลิบอย่างนั้นครับ

เพราะลูกนกที่เพาะออกมาได้ มูลค่าราคาไม่ได้มากมายนัก  ที่เห็นที่ได้ยินว่าซื้อขายกันเป็นแสนเป็นล้านนั้น มันมีอยู่ไม่กี่ตัวเท่านั้นครับ  และกว่าจะปั้นได้ระดับนั้น คนเลี้ยงแทบจะอยู่ในสภาพหัวจุกซินโดรมขึ้นสมองแล้ว  ชีวิตวันๆวนเวียนอยู่แต่ในสนามแข่งนกเท่านั้นนะครับ

เมื่อมีมูลค่าไม่มาก ผู้เพาะขาย " บางราย " อาจต้องใช้บริการของนกป่าเข้ามาเสริมอีกจนได้ เพื่อความอยู่รอด  เพราะต้นทุนสูงขึ้นมาก

สินค้าทุกชนิด ถ้ามีปัญหาเรื่อง แบล๊ค/เกรย์ มาเก็ต  วิธีเดียวที่จะแก้ได้ก็คือ   การลดราคา/ลดต้นทุน ลงมา ให้เหลือราคาขายที่เท่า/ใกล้เคียงกัน ปัญหานั้นก็จะหมดไป

แต่นี่ท่านไม่สนใจ ไม่นำพา  ตั้งท่าจะเล่นรายละห้าหมื่นรวดเลย  :-D






ไม่แน่นะครับ สักวัน รัฐอาจโดนข้อหาจากไซเตส ว่า ไม่จริงใจในในการสนับสนุนให้ประชาชนอนุรักษ์นกป่า  มีส่วนรู้เห็นในการผูกขาดการค้านก   ใช้ไซเตสเป็นเครื่องมือในการกำจัด ขัดขวาง กลุ่มคนเลี้ยงนกส่วนใหญ่ อันนำมาซึ่งความเสื่อมเสียชื่อเสียงของไซเตส   ฯลฯ

และเมื่อถึงตอนนั้น  จะมาเรียกร้องขอความร่วมมืออะไรจากชาวบ้าน  ก็สายเสียแล้วนะขอรับ


:-D  :-D  :-D

 

C_tan


รู้สึกว่าเว็บบอร์ดจะเริ่มรวนแล้วนะครับ  เข้าไปอ่านตั้งแต่ต้นไม่ได้  ตอบสองทีเป็น reply # 1 ทั้งสองที



แก้ไขข้อความ:  ไม่รวนแล้วครับ  เป็นเพราะผมบังเอิญไปคลิกกดเปลี่ยนรูปแบบการอ่าน มันจึงเป็นเช่นนั้นแล :-D

ลุงน้อย

ได้ข่าวมาว่า ทั้งนก mutation & Hybrid เข้าข่ายหมด และจะรบกวนให้ผู้ใหญ่ในวงการนก ไปเจรจา ครับ  คงจะต้องช่วยกันออกความเห็น เพื่อเป็นข้อมูลในการไปเจรจากันหละครับ

ทุกอย่างมีข้อดีข้อเสีย ขอให้มันสมดุลกันเท่านั้น
ส่วนตัวแล้ว เห็นว่า ใบขออนุญาติเพาะพันธุ์ ต้องมีหรือไม่  เขาเสียทั้งค่าครอบครอง และ จำนวนตัวไปตั้งหลายตัวแล้ว
และการที่เขาสามารถเพาะพันธุ์ได้  เป็นสิ่งที่แสดงว่า มันจะไม่สูญพันธุ์  ย่อมเป็นสิ่งที่ดีไม่ใช่หรือ
และการที่เขาเพาะได้ เขาคงจะขาย คงไม่เก็บไว้หมด หรือ เพื่อปล่อยคืนธรรมชาติ ดังนั้น ต้องเสียใบขออนุญาตค้าสัตว์คุ้มครองด้วยอยู่แล้ว


ส่วนคนที่เลี้ยงสัตว์ที่มาจากการพาะเลี้ยง อาจจะไม่ต้องเสียค่าแจ้งครอบครองหรือเสียน้อยกว่าสัตว์จากป่า เพื่อส่งเสริมให้คนไม่เลี้ยงสัตว์ที่มาจากป่า  แต่หากวันนึงประสบความสำเร็จ สามารถขายได้ ต้องขอใบอนุญาติค้าต่อไป

ดังนั้น เราควรมีข้อกำหนดว่า สัตว์มาจากป่า กับ สักต์ที่เกิดจาการเพาะเลี้ยง มีข้อแตกต่างอย่างไร  เป็นต้น

ผมว่าถ้ามันลงตัวกัน ทุกคนคงจะขออนุญาตกันทั้งนั้น โดยที่ไม่จำเป็นต้องมีเจ้าหน้าที่มาตรวจตรากันมาก  เพราะบทลงโทษแรง คงจะไม่มีใครเสี่ยงให้ถูกดำเนินคดีอยู่แล้ว
ลุงน้อย แสนดี. 555

batman

ครับ อย่างที่พี่หมอชายตัน กล่าวครับ

        ผมว่าจะทำให้ประชาชนรายน้อย-รายเล็กที่นิยมเลี้ยงนกเพื่อ บริโภคความสุขซะมากกว่าการจำหน่าย จะทะยอย หายไปทีละราย ถ้าตราบใดรัฐจะมาอนุรักษ์ แค่ในวิธีการหรือ ในกระดาษ เพียงแค่นี้คงไม่พอที่จะสามารถอนุรักษ์สัตว์ป่าได้ ถ้ารัฐไม่ลงไปปรับปรุงดูแล วิถีชีวิตชาวบ้าน  ให้ความรู้ ประชาสัมพันธ์ ต่างๆเรื่องระบบนิเวศน์ ความสมดุลย์ทางธรรมชาติ ต่างๆนานา  
เชิญชวนไปเลย และ สนับสนุน จะทำให้ประชากรในพื่นที่มีรายได้มากกว่าและ มีความเป็นอยู่ดีขึ้นกว่าเดิม เป็นการเสริมสร้างภูมิคุ้มกันแล้ว ในอนาคต การอนุรักษ์ก็จะกลับมาแบบสมบูรณ์
ยกตัวอย่างเช่น
จะเกิดระบบนิเวศน์ที่เรียกว่าการสร้างรายได้ในชุมชน แบบ OTOPเกษตรกร เพาะเลี้ยงและ สามารถจำหน่ายได้ ทุกชนิด ที่ไม่สูญพันธ์ เป็นรายๆชนิด น่าจะอนูญาติไปอย่างนกเขาชวาเสียง จะทำให้ชาวบ้านสามารถนำมาช่วยเสริม ชีวิตให้สมบูรณ์ขึ้น
มีรายได้จากการปลูกข้าวจำหน่ายแก่นกต่างๆ เช่น ข้าวเปลือก อื่นๆที่สามารถผลิตได้
มีรายได้จากการผลิตหรือ จำหน่าย อุปกรณ์ต่างๆ ขยายสาขาออกไป ดูแล้ว ถ้าไปกีดกันก็คงต้องมีการลักลอบเช่นดังทุกวันนี้ครับ

จึงอยากให้หลายๆฝ่ายช่วยกันวิเคระห์ครับ เราฝ่ายที่ชอบทำการเพาะเลี้ยงก็คงอยากมีความสุขในการเลี้ยงแบบเดิมๆ มีความสุข และ สามารถลดปัญหาต่างๆ ได้
รักเธอเสมอ

nat

ม็อบราชดำเนินก็มีแล้ว  ไหนๆก็ไหนๆแล้ว ไปมีม็อบที่พหลโยธินอีกที่ไม่น่าจะเสียหายน่ะครับ...  8-)  8-)  8-)

C_tan


โอย...กว่าจะได้เรื่อง ก็งมโข่งกันอยู่นาน  คุณพลนี่น่าโดนตีสักป๊าบจริงๆ



สรุปคร่าวๆ  เรื่องมีอยู่ว่า เมื่อคราวที่ผู้การเสวกลุยจับนกเมื่อปี46
รัฐได้มีความคิดเห็นว่า น่าจะเอาเรื่องสัตว์ป่าทั้งหมดมาทำให้อยู่ภายใต้การดูแลของกฎหมาย  ไม่ว่าจะเป็นของไทย หรือ ของนอก  และรวมทั้งต้องการแสดงให้ไซเตสเห็นว่า ไทยให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี

และถ้ายังจำกันได้  ช่วงนั้น มีการประชุมไซเตสโลกในบ้านเราด้วย



เมื่อคิดเช่นนั้น  จึงได้มีการออกคำสั่ง ให้หน่วยงานของรัฐที่ทำหน้าที่ร่างกฎหมาย( ผมไม่แน่ใจว่าชื่ออะไร สังกัดทบวง กระทรวงไหน แต่ที่แน่ๆ ไม่ใช่ไซเตสตัวเจ้าของเรื่องครับ   ) ไปดำเนินการร่าง และทำประชาพิจารณ์มาให้เรียบร้อย  เพื่อนำเสนอและบังคับใช้ต่อๆไป

หน่วยงานที่ว่า โดยความรับผิดชอบ ดูแลเรื่องนี้คือ นาย.....( ขอโทษครับ เป็นโนบอดี สำหรับผม ลืมชื่อไปแล้วจริงๆครับ ) ก็ได้ทำตามขั้นตอน  แต่บังเอิญว่า  ท่านเป็นนักกฎหมาย และอาจไม่ได้เป็นคนเลี้ยงนก หรือ เลี้ยงตัวอะไรๆอื่นๆด้วย  การทำประชาพิจารณ์จึงอยู่ในแวดวงแคบๆ ในกลุ่มคนที่ท่าน"คิด"ว่า จะเกี่ยวข้องด้วย  ( ซึ่งผมคาดว่า น่าจะเป็นพวกสวนสัตว์ใหญ่ๆ  เช่น สวนเสือ สวนจระเข้  เป็นต้น )

ผลจึงออกมาดังที่เห็น  โดยเฉพาะในหมวดค่าธรรมเนียม

C_tan


จากนั้น ก็ได้มีการนำเสนอ  และโดนคัดค้านโดยกลุ่มเอ็นจีโอ มาหลายรอบแล้ว  เหตุที่เอ็นจีโอค้านเพราะไม่เห็นด้วยเรื่องการให้สวนสัตว์ซึ่งเป็นสถานที่อย่างนั้นแล้วจะมาเพาะสัตว์ขายได้ไง  อะไรประมาณฯนั้นละครับ  และอาจมีประเด็นอื่นๆอีกด้วย

หลังจากที่ได้มีการชักเข้าชักออกกันมาหลายรอบ  ตอนนี้ ข่าวแจ้งว่าผู้ยื่นสุดทนแล้ว เรื่องราว/งานที่ได้รับมอบหมายมา ไม่แล้วเสร็จซักที  จึงได้มีความพยายามครั้งสุดท้าย กะจะให้ผ่านให้ได้


บังเอิญ มีผู้ใหญ่ในวงการนกทรานหนึ่งทราบเรื่องนี้เข้า
จึงได้นำเรื่องนี้มาแจ้งให้ทราบ จุดประสงค์เพื่อให้รวมตัวกันหาทางแก้ไข
เพราะหากผ่านไปได้  มันจะชิ๊บ..กันทั้งหมด