การ ป้อนอาหาร อยากให้ช่วยเข้ามากัน

เริ่มโดย ZyBorgGO, กุมภาพันธ์ 28, 2009, 10:56:20 หลังเที่ยง

หัวข้อก่อนหน้า - หัวข้อถัดไป

0 สมาชิก และ 1 ผู้มาเยือน กำลังดูหัวข้อนี้

ก่ายก๊าย

เค้าคงคิดว่ามีแต่ลิ่วล้อไปรุมเขม่นเค้าแหละ

ปล.ผมไม่ได้รู้ใจใครในที่นี้เป็นการส่วนตัวเน้อ แต่ที่ตั้งกระทู้คล้ายๆ มาว่าคนที่ใช้ไซลิ้งป้อน ทำนองนั้น และอีกข้อนึงอยากรู้ความหมายคำว่าเขม่นของคุณจริงๆ

tuktik2255

แหม๋ hot เหลือเกิน กระทู้นี้ ติ๊กสรุปสั้น ๆ ให้นะค้ะ

ติ๊กเอง เข้าใจหัวข้อนี้นะค้ะ เพราะเคยคิดจะตั้ง แต่ ยังไม่กล้า สองจิตสองใจ เพราะ พี่ ๆ  เค้าใช้ สายยางป้อนกันหมด เพราะเค้ามีเหตุผล ซึ่ง ติ๊ก ก็อยากจะพยายามรณรงค์ เลี้ยงน้อยไม่ใช้ สายยางใส้ไก่อยู่แล้ว หากได้อ่านกระทู้ ของติ๊ก จะพยายามเหน็บเรื่องนี้ลงไปในภาพ และ มีภาพการกินของน้อง ๆ จาก ไซลิ้ง ที่ไม่มีสายยางโชว์ ทุกภาพ

แต่รุ่นพี่ ทุกคนที่เพาะนกขายนั้น ไม่สามารถทำได้ค่ะ เนื่องจากเวลา หากเราพยายามป้อนตัวแรกอยู่นั้น กว่าจะเสร็จอาจจะ ห้านาที (อย่างเร็ว)  ไปตัวที่สอง สามสี่   จนถึงตัวที่สิบอาจจะเกิน ชั่วโมงไปแล้วค่ะ ถ้าเป็นลูกนกเพิ่งเกิด ขนยังไม่มีที่ต้องการอาหาร สอง ชั่วโมงครั้ง ก็คงจะแย่ค่ะ


เนื่องจากอันตราย สำหรับ มือใหม่ ที่แฝงมากับสายยางนั้น ให้โทษสองอย่าง "ติ๊กก็อ่านมาเหมือนกัน ดูเหมือนว่า จะมีคนพยายามรณรงค์มาก่อนหน้าติ๊กแล้วค่ะ เพียงแต่ ไม่ได้ โปรโมทอย่างต่อเนื่อง"  เรื่องก็เลยเงียบไปมาถึงติ๊ก เอง แรกเลย ก็เลี้ยงด้วยสายยาง  ต่อมาอีก 1 เดือน สายยาง หล่นไปในท้อง ซึ่งช่วงนั้น มีคน ฮิท ทำสายหล่นลงท้อง อยู่หลายคน ติ๊กได้แต่ขำค่ะ แต่พอถึงตาตัวเองแล้วไม่ขำ ทำเอาน้ำตาร่วงเลยกลัวเค้าตาย อยู่ ต่างจังหวัดด้วย ก็ภาวนาให้ เค้าทนอีกวันนึงจะพาไปโรงพยาบาล  จนแล้วจนรอด ถ้ารอให้ถึงวันพร่ง วันมะรืน เห็นที สายยางจะใหลเข้า กระเพาะบด ถึงแก่ชีวิต แน่ ๆ  ตายเป็นตาย ติ๊กก็เลยต้องทารุณ เจ้านกจับบีบกระเพาะ จนใส้ไก่โผล่ออกมาจากคอ แล้วให้ อีกคนหยิบออกมาค่ะ ดีใจเป็นบ้าเลย

ให้ซดน้ำมานาน  หม่ำเนื้อกันต่อ ว่าถ้าเราไม่ใช้สายยาง นกจะได้อะไรบ้าง

อย่างแรกเลยก็คงไม่มีสายยางหล่นลงไปในท้องเพราะ มือใหม่ทุกคนใช้ ไซลิ้งค์ พร้อมใส้ไก่ ที่ร้านขายแถมมาให้ด้วย โชคดีอาจจะติด เคยที่ แบบผสม มาอีกกระปุกละ 200 (ติ๊กได้มาค่ะ  หะ  ๆ แสดงว่าโชคดี)  
นีกระทู้ถามเรื่องการชงข้าวคร้งแรกค่ะ
http://www.siamphoenix.com/2008/htdocs/modules/newbb/viewtopic.php?topic_id=676&forum=1&post_id=9561#forumpost9561[link

อย่างที่สอง  นกก็จะได้มีโอกาศได้ตัดสินใจโดยการแสดงออกให้เห็นได้ง่าย ถ้าเรายัดเยียดความผิดปรกติให้มันได้ดังนี้
     -  อาหารร้อนจัด
     -  อิ่มแล้วจ้ะ ไม่เอาแล้ว

สองข้อนี้ส่วนใหญ่ ผู้เลียง หลายคนมักประสบปัญหานี้กันมาแล้วซึ่งหากน้องใหม่ ทุกคนได้ตั้งใจอ่านประวัติกระทู้ให้มาก ๆ จะพบว่า ปัญหานี้แก้ไม่ได้ยากเลย เพียงแต่ เราต้องยอมมือเล้อะ หยดอาหารใส่หลังมือเหมือนกับ นมปัอน ลูกเท่านั้นเอง   แต่ผลลัพเกียวกับความขี้เกียจนี้ก็จะทำให้ กระเพาะลูกนกเรา สุก และก็ อักเสบตายเสียนกตัวหละหลายพัน และ พันห้า สำหรับซันติ๊ก  (แต่ติ๊กไม่เคยค่ะ รอดไป ศึกษากระทู้มาก่อน)  

ข้อนี้    ป้อนเย็นไป  ไม่ยอ่ย หรือย่อยช้า พาลบูดอีก นกแย่
           ป้อนร้อนไป  นกเป็นสุก  กระเพาะค่ะ สุก แย่กว่า

ส่วนอิ่มไม่อิ่ม นั้น ก็เช่นกัน การฟีดอาหาร ให้หนักหน่วง เกินไปสำหรับวัยของนก เช่น นกเดือนเดียว ใส่อาหารไป 25 cc หรือ + - นิ๊ดหน่อย เป็นการ ใส่อาหารลงไปมากจนเกินไป ซึ่ง ใครหละเป็นผู้กำหนด  ก็ รุ่นพี่ที่มีประสบการณ์เลี้ยง และนักวิชาการซึ่งคำณวนมาแล้วหรือ เคยป้อนกันจน มันไม่ย่อย แล้วเห็นว่ามันตายต่อหน้าต่อตามาแล้ว  ว่ากระเพาะลูกนกแต่ละเดือนนั้นใหญ่มากน้อยเพียงใด แต่ ถ้าหากเรา ให้นกเป็นผู้กำหนดหละ คนอ้วน ผอมกินจุไม่เท่ากัน นกก็เช่นกัน บางตัวเรียกร้องความสนใจ อยากจะกินเอามาก ๆ เพราะ ต้องการให้เรา สนใจเค้ามาก ๆ ก็กินจุมาก บางตัว รักษาสรีระ ก็ กินน้อยหน่อย แต่ เราก็ต้องดูด้วยว่ากินน้อยกว่า ที่ นักวิชาการเค้ากำหนดไว้มากเกินไปหรือเปล่าเท่านั้นเองค่ะ

ในข้อนี้  กินมากไป ย่อยไม่หมด  บูด  นกแย่แน่  
            กินน้อยไป สารอาหารไม่พอเพียงกับความต้องการ พลังงานและสารอาหาร  แย่ เช่นกัน


เอาหละ ใหน ๆ ก็เหน็บไปแล้วค่ะว่า คนป้อน ด้วยสายยางนั้นไม่ได้ โหด แต่ เค้าต้องการให้นกสุขภาพแข็งแรง ให้อยู่ได้นาน ๆ ไว้เป็น เพื่อนเป็น เครื่องประดับบ้าน หรือจะอะไรก็แล้วแต่ ยังไงก็ได้ขอให้อยู่ด้วยกันได้นาน ๆ  นั่นคือความสุขของคนเลี้ยงนก (คำพูดอาจจะดูไม่เสนอะหู แต่ จริงใจค่ะ)

อันที่จริง ติกก็เห็นด้วยกับความเห็นของเจ้าของกระทู้ เพียงแต่ติ๊กใช้คำพูดคนละอย่าง และ ต่างวาระซึ่งก็ต้องเข้าใจ ว่าจำนวน และเวลาเป็นสิ่งที่สำคัญ  ซึ่งติ๊กเอง เลี้ยงแค่ สองตัว มันก็ น่าจะ ok สำหรับการป้อนด้วยวิธีที่ช้ากว่า
เฉาก๊วยขาว ++ เล่าเรื่อง ++++ :-D

pjm

สรุปเลยนะครับ
1. การใช้เครื่องมือป้อนอาหาร  ใครใช้แบบไหน  ถนัดแบบไหน  สะดวกแบบไหนให้ใช้แบบนั้นครับ
2.เครื่องป้อนอาหาร
   2. 1. ไสไก่  ไม่สมควรใช้อย่างยิ่ง  มีโอกาศหลุดเข้ากระเพาะอาหารมาก  และฟีดเข้าหลอดลมด้วย
   2.2.  หลอดอาหาร  ที่เป็นสายยาง หัวสายยางมี สีตามขนาดถ้าใช้นานๆๆก็มีโอกาศหลุดเข้ากระเพาะ+และฟีดอาหารเข้าหลอดลม เหมือนกัน  ควรเช็คสภาพทุกครั้งก่อนใช้ และ ระมัดระวังในการใช้

3.ไม่ได้เครียดอะไรกับคำว่า  ป่าเถื่อน  เพียวอยากบอกให้รู้ไว้ว่า การที่จะตัดสินอะไรไปว่า ป่าเถื่อนหรือไม่ป่าเถื่อนนั้น ต้องคิดก่อนเพราะแต่ละคนมันมองคนละมุมกัน

tuktik2255

สั้น ๆ อีกนิ๊ด  (ทำไปทำมาจะไม่สั้นแล้วนิ)

คิดต่าง ทำต่าง แต่ก็ประสพความสำเร็จค่ะ
ขอบรรยายอีกนิ๊ด

เกี่ยวจำได้ว่า พี่ put ก็เคยสอนผ่านกระทู้น้องติ๊กว่า (หรือสอนผ่านกระทู้ใครห่วาติ๊กไปอ่านเจอ)  ป้อนอาหารโดยไม่ใช้ใส้ไก่ ก็อาจจะมีความเสี่ยงว่าอาหารจะเข้าหลอดลม แต่.. ถ้ามันเข้าไปจริง นกก็จะแค่สำลัก และจามออกมาทางจมูก แล้วก็หายใจได้ต่อ  ไม่ตาย ชดใช้กรรมที่ทำไว้ชาติที่แล้วโดยเกิดเป็นนกและอยู่กับผู้เลี้ยงต่อไป

แต่ ถ้ายัดใส้ไก่ผิดจังหวะ เข้าหลอดลม .....  ว๊าวววว เราจะได้เห็นนกเราเต็นแร็พ หงึก ๆ หงัก ๆ แบบนี้มันต้องถอนนน    อิๆ  แล้วก็จากไปเกิดเป็นอย่างอื่นภพหน้า


มา ๆ เข้าเรื่องบรรยายต่ออีกนิ๊ดค่ะ  

เราต่างก็อยากให้เค้าเชื่องมือ และเชื่องมือนั้น ความหมายของแต่ละคนก็แตกต่างกันออกไป  บางคนเชื่องแค่เกาะคอนไม่ไปใหน บางคนต้องการให้ลูบได้ด้วย บางคนต้องการให้นอนหงายเกาพุงได้ด้วย เห็นมั้ย ต่างกัน ส่วนติ๊ก นอกจากที่ว่ามาทั้งหมดแล้ว....... แกยังจะต้องบินไป บินกลับได้อีกด้วย

แต่กับ ป๋า ๆ ของติ๊กทุกคน และพี่น้องเกือบทุกท่าน (ดูเหมือนว่าน้อง ๆ จะไมมีนะ ติกเด็กสุด ฮา)  เลี้ยงนกเพื่อพาณิชย์ เค้าป้อน เพื่อสุขภาพ  

แต่เรา ๆ เลี้ยงเพื่อ เป็นมิตร  ความต่างอยู่ที่ตรงนี้นี่เอง นกป๋า ถึงจะป้อน (แบบป่าเถือน) อย่างไร  เค้าก็เชื่องในกรงของป๋าเค้าค่ะ บางที ป๋าเองบอกว่า นกจะให้มันใข่  เอาเชื่อง ๆ มาก็จะไม่ดี  เห็นมั้ยคะมันมีความหมายอยู่ค่ะ ป๋าเลยต้องป่าเถือน เอาไว้ค่ะ จะได้ไข ๆ เย้อะ ๆ (ขอเหน็บ อิๆ ) ว่าจะไม่ใช้คำป่าเถือนแระนะ  อุ๊ยย..  หลุดอีกแระ ขออภัย ฮา....

ส่วนน้อง  ๆเพิ่งเลี้ยงใหม่ ๆ ปัญหาที่ติ๊กโพสไปที่กระทู้บนก็ มีความหมายมาก ๆอยากให้ นำไปลองใช้ดู ใช้แล้ว นกมีสุขภาพจิตดี เพราะได้ มีโอกาสได้ลิ้มรสชาดอาหาร ได้กำหนดความอิ่มด้วยตัวเค้าเอง ไม่มีความเสี่ยง กระเพาะพังเนื่องจากร้อนเกินไป เพราะถ้าร้อนเกิน เค้าก็จะสบัดออกทันที ตั้งแต่ ของร้อนโดนลิ้น และ ไม่มีโอกาสที่จะได้ตายเพราะอดอาหารเนื่องจากสายยางเข้าไปอุดทางเดินอาหารไปยังกระเพาะบด

สุดท้าย ก็เชื่อง...   ในแบบ สไตล์ของติ๊กค่ะ  โย๊ว ๆ ฟามสุข มันคนละอย่างกานนจ้า
เฉาก๊วยขาว ++ เล่าเรื่อง ++++ :-D

pjm

น้องติ๊ก  

การที่อาหารไม่ย้อย หรือย้อยช้า  

ไม่ใช่เพราะว่าเราป้อนอาหารนกมากเกินไปนะครับ

นั้นมันเป็นอาการของนกที่เริ่มป่วย  หรือ ป่วย   นะครับ

ถ้าป้อนอาหารมากเกินไป  นกจะสำรัก  หรืออวก อาหารออกมา

และอาจทำให้อาหารเข้าหลอดลม  และนกอาจป่วยได้

ก่ายก๊าย

ป๊าดดดดดดดดดดดดดดด เจ๊ติ๊ก กล้าพูดได้ไงว่าเด็กสุด ผมเด็กกว่าอีกพึ่ง 19 ธันวา ที่ผ่านมา กิ๊กิ๊

boy.

ขออภัย ผมกดราคาครับ

tuktik2255

ผิดไปแร๊ว อิๆ  จะแสดงความ กูรู ซะหน่อย ฮุๆ  กลายเป็น กูปรี ไปเยย  ฮา ติ๊กอ่านมาผิดค่ะขออภัย  



ป๋าข๋า มันเป็นอย่างงี้นะคะ

อ้างถึงน้องติ๊ก
การที่อาหารไม่ย้อย หรือย้อยช้า
ไม่ใช่เพราะว่าเราป้อนอาหารนกมากเกินไปนะครับ

คือ ถ้ามัน ไม่ย้อย เลย หรือย้อย ลงมาช้ามาก แสดงว่า ป๋าต้องชงอาหารให้เค้าข้นมาก ๆ แน่เลยค่ะ ระวังนกป่วยเพราะขาดน้าเด้อ ค่า   คริๆ

อ้างถึงป๊าดดดดดดดดดดดดดดด เจ๊ติ๊ก กล้าพูดได้ไงว่าเด็กสุด ผมเด็กกว่าอีกพึ่ง 19 ธันวา ที่ผ่านมา กิ๊กิ๊

อ่า ก็ แบบ แอ๊บ ไว้ก่อง เหอะๆ เค้าเรียกว่า มันดูภูมิฐาน ไง ก็เลยไม่ได้ คิดว่า จะมีเด็ก  อิๆ
เฉาก๊วยขาว ++ เล่าเรื่อง ++++ :-D

ZyBorgGO

hot เลย หุหุ วุ่นวายอารายขนาดนี้ ผมตั้งกระทู้ทีนี่ แจ้งเกิดเลยรึ
ขอรับ ;-)

pjm

อ้างถึงtuktik2255 เป็นผู้เขียน:
ผิดไปแร๊ว อิๆ  จะแสดงความ กูรู ซะหน่อย ฮุๆ  กลายเป็น กูปรี ไปเยย  ฮา ติ๊กอ่านมาผิดค่ะขออภัย  



ป๋าข๋า มันเป็นอย่างงี้นะคะ

อ้างถึงน้องติ๊ก
การที่อาหารไม่ย้อย หรือย้อยช้า
ไม่ใช่เพราะว่าเราป้อนอาหารนกมากเกินไปนะครับ

คือ ถ้ามัน ไม่ย้อย เลย หรือย้อย ลงมาช้ามาก แสดงว่า ป๋าต้องชงอาหารให้เค้าข้นมาก ๆ แน่เลยค่ะ ระวังนกป่วยเพราะขาดน้าเด้อ ค่า   คริๆ



ถ้าจำไม่ผิด  ที่คุยกับน้องๆๆ  ที่มารับนกไปเลี้ยง

ถ้าป้อน  3  มื้อ  

มื้อแรก + มื้อที่ 2 แนะนำให้ข้นหน่อย  ประมาณ คล้ายนมข้น

ส่วนมื้อสุดท้าย ใสหน่อย  

เพราะฉนั้น ไม่มีการขาดน้ำแน่นอน

ถ้าข้นขนาดขาดน้ำนกที่บ้านคงขาดน้ำตายไปหมดแล้ว

ส่วน ถ้านกป่วย ข้นหรือใสขนาดไหน  มันก็ย้อยช้าอยู่ดี  หรืออาจไม่ย้อยเลย  ต้องดูดออก แล้วฟีดยาเข้าไปแทน

badpig

ไม่มีใครกระโตกกระตากหรอกครับ แต่คุณใช่คำพูดไม่เหมาะสม
 (ไม่ได้บอกว่าไม่สุภาพนะครับ) ขัดเกลาคำพูดฃักหน่อยก็o.k.ครับ

cherry

อ่านกระทู้นี้แล้ว ต้องการความช่วยเหลือหน่อยค่ะ ขอคำแนะนำนิดนึงได้ไหมคะ  เทคนิคในการป้อนไส้ไก่นกน่ะค่ะ มีวิธีการอย่างไร ในการใส่ไส้ไก่เข้าปากนกคะ ที่จะทำให้เค้าได้รับอันตรายน้อยที่สุด เพราะที่บ้านป้อนแบบไส้ไก่ค่ะ จะว่าป่าเถื่อนก็ยอมล่ะนะ เพราะงานที่ร้านค่อนข้างยุ่งนิดนึงจะไม่มีเวลามาก แต่ก็จะเล่นกับเค้าทุกครั้งที่พอมีเวลา ส่วนนกก็ค่อนข้างติดเจ้าของมากเหมือนกัน อาจเป็นเพราะเล่นกับเค้าบ่อย ๆ ถึงจะแป๊ป ๆ ก็เถอะ พอเลี้ยงนกเล็กอย่างเลิฟเบิร์ดเข้าไป ยอมรับเลย ว่าป้อนยากจัง หรือมีวิธีอื่น ที่ง่ายกว่านี้มั้ยคะ รบกวนหน่อยเถอะค่ะ ขอบคุณมากนะคะ

badpig

คุณด.ช. หาด ผมก็ฟังนะครับ ปอยฝ้าย มาลัยพร 555 คอเดียวกัน

pjm

อ้างถึงbadpig เป็นผู้เขียน:
คุณด.ช. หาด ผมก็ฟังนะครับ ปอยฝ้าย มาลัยพร 555 คอเดียวกัน

คุณหมอ ทายถูกเลย  เมื่อว่าก็ถามอยู่พิมพ์อะไร กัน

ได้คำตอบนี้เลย

 8-)  8-)  8-)

pjm

อ้างถึงcherry เป็นผู้เขียน:
อ่านกระทู้นี้แล้ว ต้องการความช่วยเหลือหน่อยค่ะ ขอคำแนะนำนิดนึงได้ไหมคะ  เทคนิคในการป้อนไส้ไก่นกน่ะค่ะ มีวิธีการอย่างไร ในการใส่ไส้ไก่เข้าปากนกคะ ที่จะทำให้เค้าได้รับอันตรายน้อยที่สุด เพราะที่บ้านป้อนแบบไส้ไก่ค่ะ จะว่าป่าเถื่อนก็ยอมล่ะนะ เพราะงานที่ร้านค่อนข้างยุ่งนิดนึงจะไม่มีเวลามาก แต่ก็จะเล่นกับเค้าทุกครั้งที่พอมีเวลา ส่วนนกก็ค่อนข้างติดเจ้าของมากเหมือนกัน อาจเป็นเพราะเล่นกับเค้าบ่อย ๆ ถึงจะแป๊ป ๆ ก็เถอะ พอเลี้ยงนกเล็กอย่างเลิฟเบิร์ดเข้าไป ยอมรับเลย ว่าป้อนยากจัง หรือมีวิธีอื่น ที่ง่ายกว่านี้มั้ยคะ รบกวนหน่อยเถอะค่ะ ขอบคุณมากนะคะ

รอให้นกหิวหน่อย  จะช่วยให้ป้อนง่ายขึ้น