แกะรอยนกที่เคยรัก

เริ่มโดย batman, สิงหาคม 26, 2008, 05:59:32 หลังเที่ยง

หัวข้อก่อนหน้า - หัวข้อถัดไป

0 สมาชิก และ 2 ผู้มาเยือน กำลังดูหัวข้อนี้

batman

นกตัวโปรด สุดรัก ที่สามารถคว้าถ้วยใบแรกให้กับผม
แข่งครั้งแรก ได้ที่ 8 เสียงทองที่สนามวัดลาดปลาดุก ปี 2550
หลังจากนั้นก็ได้มาเรื่อยๆ เริ่มสนุกแล้ว  
นอกจากเลี้ยงเลิฟก็เลี้ยงนกหัวจุก ควบคุ่กันครับ  
กำลังมองหานกตัวไหนที่เพาะยาก   อยากจะลองเหมือนกันครับ
รักเธอเสมอ

batman

มีเพื่อนหลายท่านให้ช่วยลงกระทู้เรื่องการป้องกัน และ รักษาโรคที่มีหลายๆท่านว่าน่ากลัวครับ เลย ขออนุญาติ ลงข้อมูลเพื่อ ป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์ที่เราไม่อยากให้เกิดครับ


ว่าด้วยเรื่องโรคฝีดาษครับ

 ก่อนอื่นขอเริ่มบทความที่น่าจะเรียนรู้ก่อนครับ ว่าช่วงเวลานี้ เรื่องที่เราต้องให้ความตระหนัก และ เป็นความรู้ที่ควรทราบก่อนนำนกเข้ามาเลี้ยงที่บ้านเรา ต้องเตรียมตัวกันอย่างไร ครับ
ก่อนอื่นที่สำคัญที่สุดมากๆๆๆๆๆๆๆๆๆ เลยครับ คือ ต้องถามใจเราก่อนว่าเรารักการเลี้ยงนก ชนิดนี้ มากน้อยแค่ไหนครับ
ถ้าชอบมากๆ ก็ศึกษาข้อมูลต่างๆ ของนก ชนิดนก สายพันธ์นก และ อาหารการกิน โรคแ ละการรักษา ซึ่งมาอันดับสุดท้าย และ ท้ายสุด ของการเลี้ยงนก ถ้าไม่เจอ ถือว่า เฮง แต่ เจอ ก็ถือว่าเป็นประสพการณ์ และ เป็นสิ่งที่ควรจำ และ ต้องไม่ให้เกิดอีก
วิธีการ ดูว่านก มีเชื้อหรือไม่มี ไม่สามารถตอบได้ครับ แต่ที่สำคัญ ให้พิจารณาที่ตา และ ขา ว่ามีร่องรอยโรคหรือไม่ นกมีอาการ ตากระพริบ หรือ ไม่ ดูให้ถ้วนถี่ครับ
และ ถ้าเป็นไปได้ ต้องดูร้านข้างๆด้วยในกรณีซื้อนกที่มีร้านค้านก แบบนี้ มากกว่า 1 ร้าน

[ไฟล์แนบถูกลบโดยผู้ดำเนินการ]
รักเธอเสมอ

batman

******ทำการแยกนก หรือ กักนกที่ได้มาใหม่ ******
    ถ้าแน่ใจค่อยซื้อนกมาที่บ้าน แล้ว ทำการแยกนกที่ได้มาใหม่ออกห่างจากสถานที่เลี้ยงให้ไกลๆ โดยให้แยก หรือ กักนกไว้ประมาณ 15- 30 วัน หรือ ให้นานหน่อยก็ปลอกภัยมากกว่าเดิมครับและสถานที่แยกนก ต้องมีมุ้งกันยุงล้อมรอบ เพื่อป้องกันยุงมากัด หรือ สัตว์เลี้ยงอื่นๆเช่น หนู แมลงวัน อื่นๆ

พอนำนกใหม่ มาถึงบ้านแล้วให้ เอา น้ำยา เวอร์คอนซื้อตามร้านขายยา ซองเล็กๆ ราคาประมาณ 18 บาท ผสมน้ำตามอัตราส่วน 2/10 ของซอง เทลงในน้ำ 1.0 ลิตร ในกระป๋องป๊อกกี๊ แล้วพ่นให้โดนตัวนกให้ทั่วแล้ว นำนกไปตากแดดให้แห้งเพื่อเป็นการฆ่าเชื้อโรคต่างๆที่อาจจะติดมากับตัวนก

สามารถพ่นได้ทั้งตัว ไม่ต้องกลัวเรื่องโดนตานกหรือ พ่นรอบๆ บริเวณที่เลี้ยงนก อย่างน้อยเดือนละ 1 ครั้ง

[ไฟล์แนบถูกลบโดยผู้ดำเนินการ]
รักเธอเสมอ

batman

ยาและวิตามินที่จำเป็นที่ให้นกเพื่อ ป้องกันและรักษา มีดังนี้ครับ

ยาไบโอ B-12 เวลาได้นกใหม่ให้เพื่อลดความเครียดนกจากการเดินทาง หรือ อากาศเปลี่ยน
วิตามินต่างๆ ผสมน้ำให้นกกิน


สำหรับนกใหม่ที่มาให้ทำความสะอาดนกโดยใช้ป๊อกกี๊ผสมเวอร์คอน ฉีดพรมให้ทั่วตัวนก แล้ว มาตากแดด ให้แห้ง แล้ว ค่อยให้น้ำผสมน้ำยา ให้กิน นกจะกินดีมากๆ

[ไฟล์แนบถูกลบโดยผู้ดำเนินการ]
รักเธอเสมอ

batman

ข้อมูลมาจากเวป Cookies Talkies.com ครับ ขอขอบคุณ กระทู้ดีๆในเวปนี้ครับ สำหรับเรื่องฝีดาษที่จะเขียนให้อ่านกันนี้ เกิดจากประสบการณ์ส่วนตัวรวมถึงหนังสือและความรู้ตามเวปไซต์ต่างๆ อาจจะไม่เป็นวิชาการนักแต่ก็ได้ผลครับ เอาล่ะเข้าเรื่องกันเลยดีกว่า

โรคฝีดาษในนกเชื่อกันว่าเป็นโรคติดต่อที่มียุงเป็นพาหะ ดังนั้นถ้าเราจะป้องกันยุงไม่ให้มากัดนกเราได้ ก็จะป้องกันนกเราไม่ให้เกิดฝีดาษได้ ทีนี้เราจะป้องกันยุงอย่างไรดีล่ะครับ ดีที่สุดก็ทำคอกนกเป็นระบบปิดซึ่งระบบนี้จะป้องกันโรคอื่นๆนอกจากฝีดาษได้อีกด้วย ซึ่งอันนี้คงจะเหมาะกับคนที่เลี้ยงนกปริมาณมากๆ ถ้าคนที่เลี้ยงน้อยตอนเย็นอาจจะเอาผ้าขาวบางมาคลุมไว้ก็ได้ บางคนอาจจะจุดยากันยุงร่วมด้วย

รูปตัวอย่างนกที่มีอาการป่วยครับ
อย่าตกใจนะครับ วิธีนี้ ต้องป้องกัยอันดับแรกก่อนครับ ทำตามขั้นตอนครับ

แต่ถ้าเป็นแล้วก็มีการรักษาครับ อย่ากลัวและตกใจไปก่อนนะครับ

[ไฟล์แนบถูกลบโดยผู้ดำเนินการ]
รักเธอเสมอ

batman

สำหรับผมเองเลี้ยงนกอยู่ในห้องที่มีมุ้งลวด แล้วในห้องก็จะใส่พิมเสนกับการบูนด้วย เป็นการไล่ยุงไม่ให้เข้าใกล้คอกนกอีกอย่างนึงเพราะว่าบางครั้งเราเปิด-ปิดห้องก็จะมียุงตัวร้ายตามเข้ามา ตอนนี้ก็กำลังศึกษาอยู่ว่าการบูนสามารถไล่ไรนกได้หรือไม่ แต่รู้ว่าเวลาเข้าไปในคอกนก รู้สึกสดชื่นขึ้นครับ

แต่บางคนบอกว่าทำไมที่บ้านเลี้ยงนกไม่มีมุ้งกัน ก็ไม่เห็นเป็นโรคนี้ แสดงว่าคุณโชคดีว่าแถวบ้านที่คุณเลี้ยงนกไม่มีโรคนี้อยู่ แต่คุณอาจจะไม่โชคดีตลอดไปถ้าคุณนำนกใหม่เข้ามาแล้วไม่กักโรค

บางครั้งนกที่เราซื้อมาก็ไม่มีโรคอะไร แต่นกนั้นอาจจะพาโรคมาหาเราด้วยเหมือนกับคนต่างชาติมาทานต้มตำบ้านเราแล้วท้องเสีย แต่เราไม่เป็นอะไรนั่นแหละ ดังนั้นเมื่อนำนกใหม่เข้ามาต้องกักโรคไม่น้อยกว่า 30 วันนะครับ  แน่นอนและ มั่นใจในการเลือกซื้อนก

 
รูปนี้ยุงกัดที่ตานกครับ วิธีรักษาไม่ยากครับ ค่อยๆรักษาตามอาการครับ

[ไฟล์แนบถูกลบโดยผู้ดำเนินการ]
รักเธอเสมอ

batman

เอายา เทอร์รามัยซิน แบบชนิดป้ายตามาทาบริเวณ ที่เป็น
***  เทคคนิคทีผมใช้เองครับ ลองทำตามดูนะครับ ให้เอาคั๊ตตอนบัท  สำลีทีใช้แคะหูคนนั่นเอง มี 2 ข้างให้ใช้ข้างหนึ่งต่อ นก 1 ตัว แบบประหยัด เอายาบีบที่ปลายสำลี แล้วไปป้ายตานก ***  ข้างที่ดีก่อนนะครับ เพื่อป้องกันเชื้อนกที่ตาที่เป็นแล้ว ป้องกัน นกอื่นๆที่รอบๆข้างไม่ให้เชื่อเข้าตาข้างที่ดีครับ แล้ว เอาสำลี ไปเช็ดข้างที่โดนยุงกัด และ ต้องระวังในกรณีนกเป็นมากกว่า 1 ตัว เพราะคนที่ทำต้องรักษาความสะอาดด้วยครับ ขั้นตอนนี้ต้องรัดกุมไม่งั้นมือเราจะเป็นพาหะ
แล้วสังเกตุอาการทุกๆเช้า และ เย็นว่านกสามารถกินอาหารได้หรือไม่

****อาหารจำเป็นมากๆสำหรับนกช่วงนี้ครับ ****
รักเธอเสมอ

batman

แนะนำลิ้งค์ที่ดีมีประโยชน์ครับhttp://www.cookietalkie.com/ctk/handbook/hb_sick_lovebird.asp

http://www.birdslover.com/vboard_talklovebirds/board.php?id=738&use_file=view

[ไฟล์แนบถูกลบโดยผู้ดำเนินการ]
รักเธอเสมอ

batman

กระทู้นี้ขออนุญาติลงด้วยนะครับ เพราะว่าผมเจอเองจากประสพการณ์ รู้เท่าไม่ถึงการณ์  ก่อนสงกรานต์ 1 เดือน   เดือน มีนาคม2551
ได้นำนกใหม่เข้าบ้าน โดยไม่ได้สังเกตุอาการนก และ ไม่ได้กักกันนก  และ ซื้อนกใหม่เข้ามาโดยนกที่ได้ราคาถูกตัวละ 200 กว่าๆ แต่สวยมากครับ แบบเหมา ทีละ 10 กว่าตัว โดยไม่ทราบว่ามีอะไรแฝงมาด้วย
ในขณะนั้นในบ้านมีนกประมาณ 80 กว่าตัว + การนำนกที่เจอในตลาดบ้าง ตามบ้านบ้าง ตามที่ต่างๆมารวมกันได้ประมาณ 120 ตัว

ปรากฎว่า ยุงได้มีในโรงเรือน อยู่ก่อนแล้ว แต่นกเก่ามี่เลี้ยงแข็งแรงไม่มีอะไร

แต่พอนกใหม่เข้ามาเท่านั้น นกเก่าที่มีอยู่เริ่มมีอาการเป็นตุ่มที่ตา และ เท้า ช่วงแรก ไม่รู้เนื่องก็ว่าได้ ก็ให้ยาตามอาการ และ ก็ยังปล่อยนกรวมกัน เป็นเหตุให้นก ก็เป็นพาหะไปด้วย ยุงในพื้นที่นั้นๆ ก็จะค่อยๆเพิ่มตามจำนวนนกที่เราเป็น เลยทำให้ยากที่จะควบคุม

***  มารู้ทีหลังว่าต้อง แยกนกที่เป็นออกห่างไกลๆ
***  ทำลายยุงบริเวณนั้นให้หมด และ ป้องกันไม่ให้ยุงชุดใหม่เข้าไป  กว่าจะรู้นกเป็นเกือบหมดครับ ประมาณ 100 กว่าตัว เป็นหมด

มาไล่แยกนก ทำลายยุง ดูแลรักษานก ช่วงนั้นรู้เลยว่า ไม่น่าเลยเรา ไม่ศึกษา วิธีการดูนก มาก่อน ว่าจะต้องป้องกันอย่างไร

รูปนกที่เป็นที่เท้า
รักเธอเสมอ

batman

ครับ มาถึงขณะนี้ โรคต่างๆที่เคยเจอรู้สึกว่าธรรมดาไปแล้วครับ ถ้าเราผ่านมาแล้ว และ โรคใหม่ๆก็ต้องศึกษากันไปครับ

ในการเลือกซื้อนก ให้เลือกแหล่งที่เลี้ยงที่ดูสะอาด และ โรงเรือนต่าง อย่าอยู่ใกล้บริเวณที่เสี่ยง  หาร้านที่ดูนกมีสุขภาพดี และ อย่ซื้อนกที่เขาขายราคา ผิดปกติ  เพราะ อาจจะเสียใจแบบผม ครับ นก หายไปประมาณ 80 กว่าตัว ที่ไม่สามารถ รักษาได้   ส่วนมาก จะค่อยๆผอมไป   เพราะตุ่มที่เราเห็นนั้น มี 2 แบบคือ
1.ฝีดาษแบบภายนอก ที่เราเห็นได้ชัด ตามบริเวณ ตา และ เท้า
2.ฝีดาษจากภายใน หรือ ที่ลิ้น ลำคอ นกจะไม่สามารถกินอาหารได้ และ อยู่ได้ไม่นาน



สรุปได้ก็คือ ทั้งหลายทั้งปวงที่เล่ามาครับ ให้อย่าประมาทครับ คือการป้องกัน และ กักนกใหม่ และ การควบคุมดูแล รักษาต่างๆ ตามขั้นตอน  


และนกที่เรารักก็จะอยู่อย่างมีความสุข แบบทุกวันนี้ แถมได้ผลผลิตที่ดี และ สวยงาม
ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ย่อมมาจากการเอาใจใส่และดูแลนกนั่นเองครับ


*******ขอให้เลี้ยงนกอย่างมีความสุขนะครับ *******
รักเธอเสมอ

ลุงน้อย

ช่วงสมัยที่ผมเลี้ยงแบบขอบตา  เขาว่า นกล่าง ( ไม่ขอบตา ) ไม่กลัวยุง  ผมชอบเล่นของแพง จึงไม่มีประสบการณ์ กับนกไม่ขอบตาเลยครับ  

เคยได้ยินข่าวว่า นกของบุรินทร์โดนงานเข้า  เข้าใจไปเองว่า น่าจะเป็นนกขอบตา   โอ้แม่เจ้า  ...........

แต่ต้องขอนับถือ ในความพยายามที่จะรักษามัน และยื้อชีวิตมันไว้ได้ถึง 1 ใน 3 เชียวนะครับ
ลุงน้อย แสนดี. 555

batman

ขอบคุณครับคุณลุงน้อย

ผมเจอกับตัวเองในช่วงนั้นแรกๆไม่ทราบครับว่าเป็นอะไร หลงทางปล่อยนกรวมกันในที่เลี้ยงห้องเดียวกันเกือบ 1 อาทิตย์
ทำให้ยุงในที่ๆนั้น มีเชื่อฝีดาษเต็มไปหมด แรกๆเข้าใจผิดคิดว่าเอานกที่ป่วยแยกออก
หลังจากนั้นอาทิตย์ที่ 2 เริ่มกลับลำได้ เพราะในอาทิตย์แรก ยุ่งกับการทำกรงสำรองเพื่อเอาไว้ไกลๆ ป้องกันยุง งู หนู และ น้ำฝน อื่นๆ มากมาย พอนึกได้ ต้องกำจัดยุง เลยต้องกลับไปยืมไม้ตีแบด  ไม่ตียุงที่ชาร์ตไฟฟ้าได้ มาไล่ตียุงให้หมด ใช้ไม้แบตตียุงไฟฟ้า 2 อันไล่ตียุง เช้า บ่าย เย็น ประมาณ วันแรกๆ ก็ เกือบ 50 ตัว
เลยได้รู้ว่าช่วงเวลาที่ยุงบินออกหาเหยื่อนั้น ช่วงเช้าจะไม่ค่อยมี เพราะสว่างยุงไม่ชอบ บ่ายมีนิดหน่อย แต่หัวค่ำมาจากไหนก็ไม่รู้ เพียบเลย

          ประสพการณ์ นั้นมากมายเพราะมานั่งรักษานกวันละประมาณ 2ชั่วโมงครึ่ง ทุกๆวัน ตั้งแต่ล้างทำความสะอาด เช็ดแห้ง ป้ายยาทาตา และ ลงท้ายด้วยเอาเบตาดีนผสมน้ำ 1 ต่อ 1 ทาที่แผลที่เท้า ทำอย่างนี้ทุกๆตัวที่เป็น 4 ด้าน   ตา 2 เท้า 2 เป็นจำนวน เกือบ 80 ตัว แยกตามอาการ
เป็นตุ่มที่ตา
เป็นตุ่มที่ขา
เป็นหนองที่ตา
เป็นหนองที่ขา
เริ่มไม่กินอาหาร
ทำไงเรา หาตัวช่วยคิดถึงพี่หมอ แล้ว ทั้ง 2พี่หมอเลย 555
เอาอาหารลุกป้อนมาป้อน
เอาข้าวโพดของโปรด เอาขนมปัง อิ่นๆที่นกชอบกินทุกวิถีทางที่จะให้นกรอด

ช่วงสงกรานต์เลยอดเที่ยวเพราะไม่มีอารมณืไปไหน หยุดงาน 7 วัย ต้องมาที่ทพงานทุกวัน มารักษานก พ่นยา อาบน้ำ ตากแดด  สุดยอดเลยครับ  
แต่ผ่านมาแล้ว เลย อยากให้ทราบว่า วิธี รักษายาก กว่าวิธีป้องกันครับ  อย่าให้เจอเลย  

ยาบางตัวกินแล้วรักษา แต่ให้โดสมากไปก็ อาจถึงตายได้ ช่วงนั้นได้รบกวนพี่หมอทั้งพี่หมอชายตัน และ พี่หมออี๊ เรื่องการรักษา เพราะเราไม่ทราบเรื่องน้ำหนักตัวนกให้สัมพันธ์กับ นก ให้มากนกไม่รอด ให้น้อย นกหายช้า ดื้อยา

ว่างๆ มาเล่าใหม่ครับ กำลังมันส์เลย ขอตัวทำงานก่อน

พอพูดถึงพี่หมอชายตัน  ผมนึกขึ้นมาว่าวันก่อน มิกกี๊เม้าท์ มากินนก ดันเอาแลนแนทผสมก้างปลา แล้ว ดันเอามีเราไปขยำ ก้างนั้นทิ่มเข้าเนื้อ  เสร็จแน่เรา วางยาหนู หรือ วางยาตัวเอง กลัวมากๆ   คิดถึงพี่หมอเลย 555   พี่หมอชายบอกว่า น้ำหนักเรามากว่าหนู่ ปริมาณที่เราโดนน้อย ไม่สามารถทำอะไรเราได้  โล่งใจเลยเรา
รักเธอเสมอ

jaokhunta

หวัดดีพี่จี๊  ที่บ้านก้อยังเลี้ยงเลิฟเบิร์ดอยู่ครับ ถึงแม้ใครจะว่านกล่างแต่ผมก้อมีเกือบทุกสี ถึงราคาไม่แพงแต่ก้อเลี้ยงครับและก้อมีลูกๆออกมาตลอดทุกทีที่เดินไปดูก้อยังเห็นความสวยงามในตัวนกที่มีหลากหลายสีสัน ยินดีและดีใจที่ยังมีคนเลี้ยงเลิฟเบิร์ดด้วยใจ ซึ่งตอนนี้คงเหลือน้อยลงทุกที

tuktik2255

ติ๊กอยากรู้ว่า เลิฟเบิร์ด เขาจะน่ารักและขี้อ้อนหรือป่าวคะ นิสัยเขาเป็นอย่างไรคะ ( ที่จริงน่าจะไปเปิดอ่านเองก็ได้เนอะ ) รบกวนป่าวว ๆ อิอิ เผื่อจะหาไว้เลี้ยงดูบ้างงงง :-D  :-D
เฉาก๊วยขาว ++ เล่าเรื่อง ++++ :-D

batman

ครับ
ตอบแบบ ทันทีเลยว่านกก็เหมือนคนเราครับ ให้ความสนใจนกตัวไหนมากครับ  นกตัวนั้นๆ ก็ ตอบรับกับคนที่เลี้ยงนกจะมีความผูกพันธ์กับเจ้าของ เวลาเรียกก็บินมาหา เรื่องขี๊อ๊อนไหม  ขอตอบว่า เลี้ยงนกเชื่องๆ แล้วจะหลงครับ แต่ข้อเสียนกลูกป้อน จะดุมากๆ และ ยากที่จะให้ทายาทในอนาคตครับ

ผมมีนกเชื่องๆ หลายตัว แต่ พอโตแล้ว ก็อยากให้นกเข้าสังคมกับนก ไปคลุกคลีมากๆ แล้ว นกจะขาดชีวิตการเป็นนกที่สมบูรณ์ครับ
รักเธอเสมอ