ลิงลม หรือ นางอาย

เริ่มโดย Pakchong Pets Shop, เมษายน 24, 2008, 05:09:28 หลังเที่ยง

หัวข้อก่อนหน้า - หัวข้อถัดไป

0 สมาชิก และ 1 ผู้มาเยือน กำลังดูหัวข้อนี้

...

ไม่บ่อยครั้งนักที่จะพบลิงลมลงมาหากินตามพื้นดิน  และมันก็สามารถเคลื่อนที่บนพื้นดินได้ดีในระดับหนึ่ง  แต่ส่วนมากมันจะลงดินก็ต่อเมื่อ ไม่มีทางที่จะเคลื่อนย้ายตัวเองไปตามต้นไม้ได้อย่างที่ต้องการ  ลงมาตามพื้นดินนั้นจะเป็นช่วงที่อันตรายสำหรับชีวิตของมันเอง  เพราะการเคลื่อนไหวที่ไม่ว่องไวนักของมน  ไม่อาจจะหลบหลีกนักล่าที่แสนปราดเปรียวได้  และยังมีรายงานด้วยว่าลิงลมบางตัวเมื่อถูกจับจะไม่ยอมอยู่นิ่ง กับพื้นกรงเลย  มันจะพยายามเกาะห้อยอยู่กับกรงตลอดเวลา  แม้แต่ตอนกินน้ำก็จะเอี้ยวตัว  ลงมาใช้ปากดื่มกิน  คนทั่วไปที่ได้เห็นลิงลมแล้วจะรู้สึกว่าสัตว์ชนิดนี้เป็นสัตว์ที่เชื่องช้ามาก  ซึ่งในความเป็นจริงแล้วพฤติกรรมส่วนใหญ่ของมันก็ชวนให้เห็นเป็นอย่างนั้น  แต่หากใครเห็นลิงลมขณะที่จับเหยื่อเป็นอาหารแล้วละก็  จะรู้สึกเชื่อสายตาเลยว่าสัตว์ที่ปกติแล้วต้วมเตี้ยมแบบลิงลมจะมีความรวดเร็วขนาดนั้น

เมื่อลิงลมพบกับอาหารที่เป็นแมลงเช่นตั๊กแตน  หรือแมลงปีกแข็งตัวใหญ่ ๆ ขนาดพอเหมาะพอดีที่จะเป็นอาหารมื้อค่ำของมันได้นั้น  มันจะค่อย ๆ คลานอย่างช้า ๆ จนได้ระยะที่แน่นอน  ก่อนที่จะคล้าเอาเหยื่อตัวนั้นมากัดอย่างรวดเร็วอย่างน่าทึ่ง  ดังนั้นจึงไม่ต้องสงสัยเลวว่านกที่หลับเพลินอยู่ตามกิ่งไม้  นั้นทำไมจึงถูกเจ้าลิงลมที่ดูเฉื่อยชานั้นจับกินได้

ตลอดเวลาที่แป๋วมาอยู่ที่วัดแห่งนี้มันไม่มีความสุขเลย  ทั้งความเป็นอยู่และสภาพสิ่งแวดล้อม  แป๋วเองยังจำได้ถึงวันที่มันอยู่ในบ้านหลังเก่าได้  วันแรก ๆ นั้นไม่ว่าใครต่างก็อยากจะจับอยากจะอุ้มมัน  จะเห็นว่ามันเป็นสัตว์น่ารักหรือแปลกประหลาดอะไรก็ตามทีจนมันเริ่มโตขึ้นความสนใจในตัวมันแม้จะลดน้อยลงตามเวลา  แต่ก็ถือได้ว่าสภาพความเป็นอยู่ของมันดีกว่านี้มากนัก

ส่วนบ้านเกิดที่แท้จริงของแป๋วนั้นยังอยู่ในความทรงจำเสมอมา  ความรู้สึกเรียกร้องหาความอิสระและแมกไม้ในป่าอันอุดมสมบูรณ์นั้นยังคงเต็มเปี่ยมอยู่ในมโนสำนึกของลิลมหนุ่มตัวนี้เสมอ  เมื่อเป็นสัตวืป่าแล้วไม่ไดอยู่ในป่าจะเรียกว่าเป็นสัตว์ป่าได้อย่างไรเล่า  

เหล็กที่ใช้ทำซี่กรงกับต้นไม้จริง ๆ นั้นสัมผัสที่รับรู้มันช่างแตกต่างกันเหลือเกิน

ถ้าเป็นไปได้แป๋วเองอยากจะย้อนถามคนที่เอาแป๋วมาเลี้ยงแต่แรกเหลือเกินว่า  เคยได้เรียนรู้ชีวิตกับพฤติกรรมรวมถึงความต้องการของแป๋วมาบ้างหรือเปล่า  ก่อนที่จะซื้อแป๋วมาจากพ่อค้าขายสัตว์ในวันนั้น  หรือแค่เลี้ยงแป๋วไว้ดูเพราะเห็นว่าน่ารักดก้  เก๋  เพียงอย่างเดียว  พอเห็นว่าแป๋วก้าวร้าว  ความรักความเอ็นดูที่เคยมีให้ก็หายไปจนหมดสิ้น  กระทั่งผลักภาระให้วัดเป็นผู้เลี้ยงดูอย่างอด ๆ อยาก ๆ คงมีคนคิดเหมือนกันกับเจ้าของแป๋วอยู่มากเหมือนกัน  ก็สัตว์ที่เลี้ยงอยู่ในวัดนี้ก็มาจากเจ้าของที่นิสัยอย่างเจ้าของเดิมของแป๋วเสียเป็นส่วนใหญ่  หลายตัวค่อย ๆ ทยอยตายไปเหลืออยู่ก็ไม่ได้มีสภาพที่ชวนมองเอาเสียเลยอีกไม่  นานแป๋วก็คงตามเพื่อน ๆ ไปด้วย


มีต่อครับ

4you

กะทู้นี้ทำให้ตระหนักถึงการเลี้ยงสัตว์ป่าและการค้าสัตว์ป่าทันทีเลยนะครับ    ยังไงผมก็ไม่สนับสนุนให้เลี้ยงสัตว์ป่าทุกชนิดครับ

Noru

น่าสงสารไม่น่าเลี้ยง ค่ะ กลางวันเชื่องช้ากลางคืนมีชีวิตชีวาชอบทานแมลง บางท่านเอามากักขัง ให้อาหารไม่ถูกต้องตายไปก็มาก ลองเข้าไปดู ค่ะ
http://www.youtube.com/watch?v=GgVp___GEYE
http://www.youtube.com/watch?v=UvMaMrGyqDQ&feature=related

...

แม้ว่าการเคลื่อนที่ของลิงคมนั้นจะดูเช่องช้า  แต่ก็เป็นความเชื่องช้าที่มั่นคง  หากได้เห็นลิงลมไต่กิ่งไม้จะเห็นได้ว่า  แต่ละก้าวที่มันเคลื่อนที่นั้นจะถูกยึดแน่นเอาไว้ด้วยนิ้วมือและนิ้วเท้าอันแข็งแรง  นิ้วมือของลิงลมนั้คล้ายกับมือของมนุษย์แต่นิ้วหัวแม่มือของลิงลมนั้นจะมีขนาดใหญ่และแข็งแรงกว่าทุกนิ้ว  และสามารถที่จะง้างกางไปทางด้านหลังได้เพื่อเหมาะสมกับการเกาะเกี่ยวต้นไม้  ส่วนนิ้วที่สองหรือนิ้วชี้นั้นจะหดสั้นกว่านิ้วอื่น ๆ ทั้งนี้ก็เพื่อความมั่นคงขณะที่นิ้วหัวแม่มือและนิ้วที่เหลือเกาะกับกิ่งไม้นั่นเอง

ทั้งลิงและคนนั้นต่างมีเล็บแบนติดปลายนิ้วมือ  ซึ่งเป็นลักษณะที่พบในสัตว์กลุ่มไพรเมท  ซึ่งลิงลมเองก็คงไว้ด้วยกับลักษณะเช่นนี้  แต่ลิงลมมีข้อยกเว้นอยู่สองนิ้วคือนิ้วชี้ของเท้าหลังทั้งสองข้าง  กล่าวคือแทนที่จะมีเล็บแบนเหมือนนิ้วทั่ว ๆ ไป  แต่เล็บในนิ้วชี้ของเท้าหลังนี้  จะมีลักษณะกลมและยาวเป็นแท่งออกมาก  ประโยชน์ของเล็บในนี้กคือใช้ในการแต่งตัว  และเกาเวลาที่คัน

พฤติกรรมเกือบทั้งหมดในตอนกลางวันของลิงลมก็คือการนอน  ลิงลมจะหลบนอนตามโพรงไม้หรือตามพุ่มไม้หนา ทึบสูง ๆ โดยที่มันจะเกาะหรือนั่งบนกิ่งไม้และซุกหน้าอยู่ระหว่างขาทั้งส่  มีผู้พบลิงลมนอนคว่ำพาดไปกับกิ่งไม้โดยปล่อยขาห้อยลงมาในวันที่อากาศร้อนจัดด้วย

การที่ลิงลมสามารถจับเกาะกิ่งไม้ได้นาน ๆ  ทั้งตอนหากินและตอนนอนนั้นก็เนื่องจากอุ้งมือที่แข็งแรงของลิงลม  นั้นมีเส้นเลือดฝอยอยู่มากซึ่งเส้นเลือดมากมายเหล่านี้ช่วยในการแลกเปลี่ยนก๊าซออกซิเจนและคาร์บอนไดออกไซด์ในเลือด  ทำให้ไม่มีอาการเจ็บปวดหรือปวดเมื่อยเมื่อมีการเกร็งกล้ามเนื้อเหนี่ยวยึดกิ่งไม้ไว้นาน ๆ

ลิงลมมีอีกชื่อหนึ่งที่รู้จักกันดีในหมู่ของชาวบ้านและพรานป่าว่า "ลิวจุ่น"  มันเป็นสัตว์ที่พรานไม่อยากจะพบเจอนัก  เพราะพรานป่าในสมัยก่อนถือว่าลิงลม  เป็นตัวซวยสำหรับการล่าสัตว์  เนื่องจากมีความเชื่อว่าหากพบลิงลมในขณะที่ออกป่าล่าสัตว์แล้วละก็  เก็บของกลับบ้านได้  เพราะว่าการเดินทางครั้งนั้นจะไม่มีทางล่าอะไรได้เลย  พรานจึงไม่ค่อยชอบลิงลมนักบางท่านก็ว่าหากพบเห็นลิงลมและต้องยิงทิ้งมิฉะนั้นจะไม่ประสบความสำเร็จกับการล่าสัตว์ในครั้งนั้น  ลิงลมจึงเป็นเป้ากระสุนของพรานด้วยความฉุนเฉียอยู่เสมอ

จะว่าไปแล้วลิงลมก็เป็นสัตว์ที่เกี่ยวข้องกับมนุษย์มานานแล้ว  เนื่องจากยังมีความเชื่ออีกมากมายเกี่ยวกับลิงลมด้วยดวงตาที่โตใสของลิงลมทำให้ชาวสิงหลในอินเดียและศรีลังกาในอดีตมีความเชื่อว่าน้ำมันจากตาของลิงลมทำยาเสน่ห์ได้

มีข้อความกล่าวไว้ว่าขนที่หนานุ่มของลิงลมใช้ในการห้ามเลือดได้ผลเป็นอย่างดีอีกด้วย

นอกจากนี้กองบรรณาธิการของเราท่านหนึ่งเคยพบลิงลมถูกแบะอกเอาตับไตไส้พุงออกแล้วรมควันจนแห้ง  ดูแล้วน่าเวทนามาก  วางขารวมกับเขาสัตว์กระดูกสัตว์อีกหลายอย่าง  สอบถามมาก็ได้ความว่า  "ใช้เป็นยา"  ก็ไม่รู้ว่ารักษาอะไรเหมือนกัน  จะรู้ก็เพียงแต่มีหลายชีวิตสูญเสียไปเพื่อการรักษาคน ( สมมติว่ารักษาได้จริง)  เหตุการณ์นี้พบได้ที่ตลาดช่องจอม  จังหวัดสุรินทร์ ชายแดนไทยและกัมพูชา


มีต่อครับ

keng_exotic


ภาพนี้ผมถ่ายมาจากสวนสาธารณะแห่งหนึ่ง แสดงให้เห็นถึงอาการตาเป็นต้อเนื่องจากกรงเลี้ยงโดนแสงจ้าและไม่มีที่ให้หลบแดด รวมถึงภาวะที่โภชนาการไม่ดีเพราะให้กินแต่ผลไม้เท่านั้น

ด.ช.หาด

น่าสงสารมาก ๆ เศร้าใจกับผุ้เลี้ยงที่ไม่มีความรับผิดชอบแบบนี้จัง
หนึ่งในสมาชิก แก๊งค์ "จู้ฮุกกรู"

DNA


...

ลิงคมเป็นสัตว์ที่โดดเดี่ยวเรามักจะพบเห็นมันเป็นตัวเดียวหรือเป็นคู่  หากพบเห็นมันเป็นกลุ่มเล็ก ๆ นั่นก็อาจะเป็นไปได้ว่าเป็นครอบครัวของมันที่ลูกลิงลมยังไม่แยกตัวออกไป

อย่างไรก็ตามเคยมีคนพบมันอยู่เป็นกลุ่มโดยมีลิงลมตัวเมียเพียงตัวเดียวนอกจากนั้นเป็นลิงลมตัวผู้  ซึ่งคงเป็นการรวมกันเพื่อการจับคู่ผสมพันธุ์กันนั่นเอง

ลิงลมหรือนางอายเช่นเดียวกันกับสัตว์ป่าอีกหลายชนิดข้อมูลทางด้านชีววิทยาของมันยังมีอยู่ไม่มากเท่าที่ควรโดยเฉพาะทางด้านการเจริญพันธุ์เท่าที่มีการบันทึกเอาไว้ลิลมตัวเมียมีระยะตั้งท้องตั้งแต่ 90 – 193  วัน  และปกติออกลูกครั้งละ 1 ตัว  นาน ๆ ครั้งจะพบว่าลิงลมมีลูก 2 ตัว

สัตว์เลี้ยงลูกด้วยน้ำนมส่วนใหญ่นั้นมักจะมีประสาทการดมกลิ่นที่ดีเนื่องจากว่าสัตว์เลี้ยงลูกด้วยน้ำนมเหล่านี้จะสื่อสารกันด้วยกลิ่นเป็นส่วนใหญ่  ก็เพราะว่าสัตว์เลี้ยงลูกด้วยน้ำนมส่วนมากนั้นมีพฤติกรรมการดำรงอยู่   อย่างโดดเดี่ยวการทิ้งกลิ่นเอาไว้จึงเป็นการแลกเปลี่ยนข่าวสารที่มีประสิทธิภาพ  แต่สัตว์ในกลุ่มไพรเมทนั้นส่วนใหญ่แล้วมีการดำรงอยู่อย่างมีสังคมการสื่อสารด้วยกลิ่นจึงไม่จำเป็นมาก  เท่ากับสัตว์พวกแรก  จะมีก็เป็นกลิ่นประจำตัวของแต่ละตัวเพื่อจดจำกันเองภายในฝูงและกลิ่นที่ใช้จดจำกันระหว่างแม่และลูกเท่านั้นที่เห็นได้ชัด

ถึงแม้ว่าลิลมจะเป็นไพรเมทชนิดหนึ่งก็ตาม  แต่ลิงลมก็ไม่ได้มีพฤติกรรมการอยู่ร่วมกันเป็นฝูงอย่างลิงและค่างดังนั้นมันจึงต้องมีการสื่อสารกันโดยอาศัยกลิ่น  เช่นเดียวกันกับสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมที่อาศัยอยู่โดดเดี่ยวชนิดอื่น ๆ โดยที่ลิงลมตัวผู้จะแสดงพฤติกรรมนี้อย่างเด่นชัดมันจะถ่ายปัสสาวะเอาไว้ตามใบไม้หรือกิ่งไม้ในอาณาเขตที่มันอาศัยอยู่เป็นการแสดงพื้นที่ครอบครองของลิงลมตัวผู้แต่ละตัว

นอกจากนี้การสื่อสารด้วยเสียงร้องของลิงลมก็มีความสำคัญไม่ยิ่งหย่อนไปกว่ากลิ่น  โดยที่ลิงลมจะใช้ในการประกาศอาณาเขตเช่นเดียวกับเสียงลิงลมจะร้องเป็นเสียงสูงเบา ๆ เสียงของมันยังมีประโยชน์ในการติดต่อกันระหว่างลิงลมตัวผู้และตัวเมียในช่วงเวลาที่เหมาะสมจะสืบทอดสายพันธุ์  อีกด้วย  เมื่อลิงลมตัวเมียได้ยินเสียงร้องของลิงลมหนุ่มแล้ว  มันก็จะร้องรับด้วยเสียงคล้ายกับนกหวีดก่อนที่จะเดินทางมาหากัน

เสียงของลิงลมนี้ว่ากันว่าชาวจีนได้ยินคล้ายกับเสียงของนกหวีดที่ลอยมาตามสายลม  บางทีอาจจะมีความสัมพันธ์กับชื่อลิงลมในภาษาไทยด้วยก็เป็นได้

ก็ที่มันได้ชื่อว่าลิงลมนั้นเพราะกล่าวกันว่าลิงลมนั้นจะเคลื่อนที่ได้เร็วมากเมื่อมีลมพัด  ยิ่งลมพัดแรงมากเท่าใดมันก็จะเคลื่อนที่ได้เร็วมาขึ้นเท่านั้น  ซึ่งจะผิดกับพฤติกรรมปกติซึ่งมันจะประพฤติตัวเป็นสัตว์ที่เชื่องช้าค่อย ๆ ไต่ไปตามกิ่งไม้ทีละก้าว ๆ แต่หลายคนให้ข้อสังเกตว่า  การที่มันเคลื่อนที่เร็ว  เมื่อมีลมพัดนั้นก็อาจะเป็นเพราะว่าขณะที่ลมพัดแรง ๆ นั้นกิ่งไม้จะไหวเอนไปมาอย่างรวดเร็วลิงลมสามารถที่จะใช้มือและเท้าของมันเกาะเกี่ยวไปตามกิ่งไม้ที่กำลังสั่นไหวนั้นได้อย่างคล่องแคล่ว  อีกทั้งกิ่งไม้ที่โยกเอนก็จะช่วยพาร่างกายของมันให้ติดไปกับกิ่งไม้นั้น  ก่อนที่จะไปเกาะกับกิ่งอื่น ๆ ที่ลมพัดเข้าไปใกล้จึงทำให้ดูเหมือนกับว่ามันเคลื่อนที่ได้เร็วเหมือนกับลมพัด

...

แป๋วลิงลมหนุ่มตัวนี้เข้าใจดีแล้ว่าคุณค่าของมันมีอยู่เพียงใด  การดำรงอยู่หรือตายไปของมันรวมถึงพวกพ้องสัตว์ป่าอีกนานาชนิดคงจะไม่ได้ทำให้เศรษฐกิจหรือความเป็นอยู่ของคนไทยดีขึ้นกระมัง  มันจึงไม่ได้รับการสนใจใยดีเท่าใดนัก  แต่ถ้าเลือกเกิดได้ชาติหน้ามันก็จะขอเกิดเป็นลิงลมอีกครั้งหนึ่ง  อย่างน้อยก็อย่าให้เกิดมาเป็นสิ่งมีชีวิตที่เต็มไปด้วยการเอารัดเอาเปรียบเลย

ลิงลมอย่างแป๋วรวมถึงสัตว์ป่าอื่น ๆ ที่มนุษย์ชอบนำมาเลี้ยงนั้น มีน้อยมากที่จะอยู่จนครบอายุขัยส่วนมากมักจะตายไปก่อนถึงวัยอันสมควรทั้งนั้น  และส่วนมากก็อยู่ได้ไม่นานนักหลังจากถูกจับหรือซื้อไปเลี้ยง  แม้ว่าอายุของลิงลมในกรงเลี้ยงที่ถูกบันทึกไว้จะมีอายุประมาณ 12 – 14 ปี  แต่นั่นก็เป็นลิงลมที่ปรับตัวได้และถูกเลี้ยงอยู่ในสวนสัตว์ที่มีคนดูแลอย่างใกล้ชิด

จะว่าไปแล้วการค้าสัตว์ป่านี่แหละเป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้ประชากรสัตว์ป่าต่าง ๆ ลดจำนวนลงมากกว่าการล่าเสียอีก  ก็เพราะว่าการล่าสัตว์นั้นแม้จะมีการล่ากันมากแต่ก็จะอยู่ในข้อจำกัดของความต้องการของคนเพียงไม่กี่คน  และก็มีสัตว์อยู่ไม่มากชนิดนักที่เขามีหนังที่ต้องได้มาจากการล่า  ปริมาณของสัตว์ที่ลดลงเราก็สามารถรู้ถึงจำนวนที่ค่อนข้างแน่นอนจากหนังหรือเขาที่เป็นหลักฐานประจานอยู่  หนังเสือหนึ่งผือนหรือเขากระทิง หนึ่งคู่  คือหนึ่งชีวิตสำหรับสัตว์ชนิดนั้น ๆ  แต่การลักลอบค้าสัตว์ป่าเราไม่มีทางทราบจำนวนที่แน่นอนของชีวิตสัตว์ที่จะสูญเสียเลยคนเลี้ยงจะไม่รู้เลยว่าลูกชะนีที่อุ้มอวดชาวบ้านอยู่  นั้นเป็นชะนีที่รอดมาจากจำนวนชะนีกี่ตัวที่ต้องตายไป  ชีวิตสัตว์จำนวนมหาศาลต้องล้มตายลงบนเส้นทางการค้าสัตว์สายนี้โดยที่ไม่มีใครรู้ได้ถึงจำนวนที่แน่นอน

................................................................................

" ไง !!  คราวนี้มีอะไรบ้างละ "

"ก็มีลูกนกขุนทองสามตัว  แล้วก็ไอ้ลิงจุ่นอีกตัว  ได้มาแค่นี้แหละไม่ไหว  ป่าไม้มันจับถี่เหลือเกิน"

"ทำไมน้อยจัง ..... ครั้งต่อไปพยายามหน่อยนะออเดอร์มีไม่อั้น  อะไรก็ได้  แปลก ๆ ยิ่งดี  เอาขึ้นรถให้ด้วยน๊ะ"

ครั้งนี้หญิงอ้วนกลายเป็นลูกค้า  ไม่จำเป็นต้องตรวจสอบ "สินค้า" เพราะความคุ้นเคยกันเป็นอย่างดี  พรานพื้นเมืองคนนี้ร่วมประกอบธุรกิจกับเธอมานานแล้ว  แม้เขาจะรู้อยู่ว่าเมื่อสัตว์ต่าง ๆ ที่เขาจับได้ไปสู่ตลาดราคาของมันจะมากกว่านี้หลายเท่า  แต่ถ้าเทียบกับอาชีพเดิมที่เข้าทำอยู่ก็ถือว่าคุ้มค่า  

อีกไม่นานชีวิตป่าพวกนี้ก็จะจบลงแล้วโดยมีตลาดนัดกลางกรุ่งเป็นจุดเริ่มต้นใหม่  ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าสิทธ์ถือครองอันใดที่นักค่าสัตว์ป่าผู้นี้รวมถึงคนค้าและคนซื้ออีกมากมายได้รับจึงมีสิทธิ์เหนือชีวิตของผู้อื่นขนาดนี้  หรือคือสิทธิ์ของการได้เกิดเป็นคน

ชีวิตน้อย ๆ ทั้งหมดนี้กำลังเป็นตัวแสดงนำของละครน้ำเน่าเรื่องใหม่  โดยมีคนที่หน้ามืดตามัวอีกหลายคนทยอยมาเป็นตัวดำเนินเรื่อง  ก่อนที่จะบังคับให้ละครเรื่องนี้จบลงด้วยควมามเศร้า ............  แต่ไม่มีน้ำตาให้กับดารานำ .........

ลุงน้อย

เคยเห็นเขาเอามาขายให้พ่อค้าที่สนามหลวง 2  ราคาตัวละ 500  ไม่รู้ว่าเขาขายต่อตัวละเท่าไหร่  รู้อย่างเดียว เลิกคิดที่จะซื้อสัตว์แบบนี้ไปนานแล้ว  

ที่มีอยู่แล้ว ดูแลพวกเขาให้ดีที่สุด หากสามารถเพาะพันธุ์ ขยายพันธุ์ได้ยิ่งดี  ส่วนที่คิดจะหามาเพิ่ม หยุดดีกว่าไหมครับ มันเป็นใบสั่งฆ่าแม่ของมันเลยนะครับ

หยุดซื้อ หยุดขาย หยุดล่า
ลุงน้อย แสนดี. 555

Guest

สกุลลิงลม นางอาย หรือลิงจุ่น (อังกฤษ: Slow loris, Loris; สกุลวิทยาศาสตร์: Nycticebus) เป็นสัตว์ในตระกูลโพรซิเมียน (Prosimian) จัดอยู่ในอันดับไพรเมท (Primate) หรือสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมที่มีพัฒนาการสูงสุด ชื่อ "Loris" ในภาษาอังกฤษนั้น มาจากภาษาดัตช์หมายถึง ตัวตลกในละครสัตว์ ด้วยความน่าเอ็นดูเหมือนแพนด้าตัวน้อยตาซื่อๆ
ลิงลมเป็นสัตว์ที่ออกหากินในเวลากลางคืน ธรรมชาติของลิงลมเขาจะเคลื่อนไหวอย่างเชื่องช้ามาก ไม่กระโดด เขาจะสันโดษและหลบหลีกและจะดูเขินอายเมื่อตกใจกลัวเอาแขนซุกใบหน้าไว้จึงได้ชื่อว่า นางอาย แต่ในฉับพลันเขาสามารถเคลื่อนที่ว่องไวได้อย่างน่าฉงนเมื่อกำลังหาอาหารยามค่ำยามลมโกรกลมพัดจึงได้ชื่อว่าลิงลม ลักษณะกายภาพจะมีขนนุ่มสั้นเหมือนกำมะหยี่หนานุ่มสีน้ำตาลหรือสีน้ำตาลแกมเทา ด้านท้องสีอ่อนกว่าลำตัว ตลอดแนวของสันหลังมีแถบสีดำเห็นเด่นชัด รูปร่างหน้าตาน่ารักเหมือนตุ๊กตา มีตากลมโต รอบดวงตาเป็นวงสีเข้ม หูเล็กและสั้น มีส่วนหางที่สั้นมากจนดูเหมือนไม่มีหาง สีขนมีความหลากหลายแตกต่างกันตามสภาพพื้นที่ที่อยู่อาศัย และชนิดพันธุ์ น้ำหนักเมื่อโตเต็มที่ประมาณ 1-2 กิโลกรัม ลิงลมจะกินน้ำหวานเกสรดอกไม้ต้นจากเขา น้ำหล่อเลี้ยงในเนื้อเยื่อของต้นไม้ป่า ยางมะม่วงหิมพานต์ ยางไม้อื่นๆ และอาร์โทรพอด เช่น แมลงปีกแข็ง แมงมุม ตั๊กแตน แมลงปอ ผีเสื้อ เป็นอาหารหลัก สัตว์เลื้อยคลานขนาดเล็กและลูกไม้สุกของผลไม้บางชนิดเป็นอาหารรองลงไป ลิงลมจะมีกระดูกสันหลังแบบพิเศษ และมีมือที่เก็บซ่อนนิ้วเพื่อให้จับเหยื่อและเคลื่อนที่ไปทั่วได้โดยไม่เป็นที่สังเกต นิ้วชี้ของขาหลังมีเล็บยาวปลายแหลมเห็นได้ชัด ขาหน้าและขาหลังสั้นกล้ามเนื้อแน่นแข็งแรง นอกจากนี้ยังมีพิษที่ซ่อนอยู่ในข้อศอก ที่ลิงลมจะใช้ผสมกับน้ำลาย เลียลูกของลิงลมเอง จากงานวิจัยสันนิษฐานว่า พิษนั้นช่วยปกป้องลูกจากสัตว์ที่มาคุกคาม เพราะโดยธรรมชาติปกติของลิงลมจะไม่เป็นฝ่ายรุก นอกจากว่าเป็นช่วงฤดูผสมพันธุ์และต้องป้องกันตัวเอง
ในปัจจุบันลิงลม ลิงจุ่น หรือนางอาย อยู่ในสถานะที่ใกล้สูญพันธุ์แล้วในธรรมชาติ เจ้าตัวเล็กขนปุกปุยน่ารักน่าเอ็นดูนี้ จะถูกจับออกมาจากถิ่นที่อยู่อาศัยในป่าแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เพื่อนำไปขายเป็นสัตว์เลี้ยง ถูกยิงเป็นอาหาร หรือทำเป็นยาบำรุงตามความเชื่อบ้าง เคลื่อนตัวตามเรือนยอดไม้ข้ามจับสายไฟฟ้าสายเปลือยโดนไฟช็อตตายก็มีมาก นายพรานทราบดีว่านางอายให้พิษได้โดยการเลียต่อมพิษที่ใต้ข้อศอกแล้วกัด ซึ่งเป็นพิษที่สามารถเป็นอันตรายถึงชีวิตได้ เหมือนลักษณะอาการของพิษที่มีต่อคนที่แพ้ผึ้งอย่างรุนแรง ดังนั้นนายพรานหรือผู้ขายจะใช้กรรไกรตัดเล็บตัดเขี้ยวของพวกเขาออก หรือไม่ก็ใช้คีมดึงเขี้ยวออก ก่อให้เกิดปัญหาฟันผุ รากประสาทฟันอักเสบ บวม เป็นหนอง สูญเสียความอยากอาหารด้วยอาการปวดอย่างเรื้อรัง พร้อมทั้งความบอบช้ำในประสาทสัมผัสและความเครียด จากนั้นก็ตายในที่สุด ภาวะขาดสารอาหาร ซึ่งเกิดขึ้นจากการรับประทานอาหารไม่สมดุลกัน โดยอาจมีสารอาหารบางอย่างได้รับไม่เพียงพอ เกิน หรือผิดสัดส่วน ซึ่งคนส่วนใหญ่ไม่ทราบว่าพวกเขาจะกินทั้งพืช และแมลง คนที่เลี้ยงลิงลมเป็นสัตว์เลี้ยงมักจะให้ผลไม้อย่างเคร่งครัด หรือบางครั้งก็ให้แต่ข้าวหรือขนมปัง อาหารสำเร็จรูป ทำให้เขาไม่ได้รับสารอาหารที่จำเป็นต่อกระบวนการสันดาปที่สมดุลในร่างกายของเขา บางครั้งลิงลมตัวน้อยถูกย้อมสีหรือฟอกขาวและทำให้เกิดการติดเชื้ออย่างน่าใจหาย ลิงลมที่ตรอมใจ หรือที่เครียดดุมักจะถูกละทิ้ง ร่างกายและจิตใจของพวกเขาจะอ่อนแอทรุดโทรมเต็มทีแล้วและพวกเขาก็จะไม่สามารถที่จะกลับไปใช้ชีวิตอาศัยอยู่ในป่าได้นาน

ตลาดการค้าลิงลมเป็นสถานการณ์จริงของความไร้มนุษยธรรมของมนุษย์ที่คนในสังคมควรมีส่วนรับผิดชอบอย่างแท้จริงทั้งทางตรงและทางอ้อม Search Link ค่ะ  
http://www.loris-conservation.org/database/captive_care/index.html

พฤติกรรมและนิเวศวิทยาของลิงลมในธรรมชาติ
สมมุติฐานจากพฤติกรรมและนิเวศวิทยาของลิงลมในป่าธรรมชาติ อาจสรุปความในขอบเขตจากการสังเกตการณ์ได้ว่า กระบวนการสันดาปพลังงานของลิงลมสอดคล้องกับโภชนาการและกระบวนการเผาผลาญอาหารของเขา การเคลื่อนไหวที่เชื่องช้าใช้พลังงานน้อย เขาจะปรับตัวอยู่ได้โดยไม่ต้องกินมาก โดยพืขอาหารหลักที่กินจะประกอบไปด้วย เนคทาร์น้ำหวานจากส่วนดอกของพืช ในป่าธรรมชาติจะมีความหลากหลายของไม้ป่า แซ้บและกัมคือน้ำหล่อเลี้ยงของท่อน้ำเลี้ยงเนื้อเยื่อของลำต้นและยางที่ปกป้องเนื้อเปลือก ยางจะเยิ้มออกมาเมื่อมีรอยบาก สังเกตต้นมะม่วงหิมพานต์มักจะมียางสีเหลืองอ่อนบ้าง เข้มบ้างอยู่ตามลำต้นและกิ่งใหญ่ๆเพราะมีรอยปริตามธรรมชาติ ยางนั้นโดยองค์ประกอบทางเคมีจะมีค่าของสารประกอบที่มีแร่ธาตุที่จำเป็นขณะเดียวกันก็มีค่าของความเป็นพิษอยู่ด้วย แต่กลไกการสันดาปพลังงานของลิงลม อาศัยกรดกลูคูโรนิก glucuronic acid จากน้ำหวานซึ่งเป็นอนุพันธุ์ของกลูโคส ทำหน้าที่เปลี่ยนสารพิษที่เข้าสู่ร่างกายเมื่อผ่านไปที่ตับ ให้มีพิษลดลง และอยู่ในสภาพที่ขับถ่ายออกได้ และแมลงต่างๆที่สัตว์อื่นๆไม่กินเพราะมีพิษแต่ลิงลมสามารถกินได้ ลิงลมจึงเป็นพรีไพรเมทที่ปรับตัวอยู่กับระบบนิเวศน์ที่เปลี่ยนแปลงได้ดี ถ้ามนุษย์ไม่ไปล่าพวกเขาค่ะ

[ไฟล์แนบถูกลบโดยผู้ดำเนินการ]

Noru

อ้างถึงparamita เป็นผู้เขียน:
สกุลลิงลม นางอาย หรือลิงจุ่น (อังกฤษ: Slow loris, Loris; สกุลวิทยาศาสตร์: Nycticebus) เป็นสัตว์ในตระกูลโพรซิเมียน (Prosimian) จัดอยู่ในอันดับไพรเมท (Primate) หรือสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมที่มีพัฒนาการสูงสุด ชื่อ "Loris" ในภาษาอังกฤษนั้น มาจากภาษาดัตช์หมายถึง ตัวตลกในละครสัตว์ ด้วยความน่าเอ็นดูเหมือนแพนด้าตัวน้อยตาซื่อๆ
ลิงลมเป็นสัตว์ที่ออกหากินในเวลากลางคืน ธรรมชาติของลิงลมเขาจะเคลื่อนไหวอย่างเชื่องช้ามาก ไม่กระโดด เขาจะสันโดษและหลบหลีกและจะดูเขินอายเมื่อตกใจกลัวเอาแขนซุกใบหน้าไว้จึงได้ชื่อว่า นางอาย แต่ในฉับพลันเขาสามารถเคลื่อนที่ว่องไวได้อย่างน่าฉงนเมื่อกำลังหาอาหารยามค่ำยามลมโกรกลมพัดจึงได้ชื่อว่าลิงลม ลักษณะกายภาพจะมีขนนุ่มสั้นเหมือนกำมะหยี่หนานุ่มสีน้ำตาลหรือสีน้ำตาลแกมเทา ด้านท้องสีอ่อนกว่าลำตัว ตลอดแนวของสันหลังมีแถบสีดำเห็นเด่นชัด รูปร่างหน้าตาน่ารักเหมือนตุ๊กตา มีตากลมโต รอบดวงตาเป็นวงสีเข้ม หูเล็กและสั้น มีส่วนหางที่สั้นมากจนดูเหมือนไม่มีหาง สีขนมีความหลากหลายแตกต่างกันตามสภาพพื้นที่ที่อยู่อาศัย และชนิดพันธุ์ น้ำหนักเมื่อโตเต็มที่ประมาณ 1-2 กิโลกรัม ลิงลมจะกินน้ำหวานเกสรดอกไม้ต้นจากเขา น้ำหล่อเลี้ยงในเนื้อเยื่อของต้นไม้ป่า ยางมะม่วงหิมพานต์ ยางไม้อื่นๆ และอาร์โทรพอด เช่น แมลงปีกแข็ง แมงมุม ตั๊กแตน แมลงปอ ผีเสื้อ เป็นอาหารหลัก สัตว์เลื้อยคลานขนาดเล็กและลูกไม้สุกของผลไม้บางชนิดเป็นอาหารรองลงไป ลิงลมจะมีกระดูกสันหลังแบบพิเศษ และมีมือที่เก็บซ่อนนิ้วเพื่อให้จับเหยื่อและเคลื่อนที่ไปทั่วได้โดยไม่เป็นที่สังเกต นิ้วชี้ของขาหลังมีเล็บยาวปลายแหลมเห็นได้ชัด ขาหน้าและขาหลังสั้นกล้ามเนื้อแน่นแข็งแรง นอกจากนี้ยังมีพิษที่ซ่อนอยู่ในข้อศอก ที่ลิงลมจะใช้ผสมกับน้ำลาย เลียลูกของลิงลมเอง จากงานวิจัยสันนิษฐานว่า พิษนั้นช่วยปกป้องลูกจากสัตว์ที่มาคุกคาม เพราะโดยธรรมชาติปกติของลิงลมจะไม่เป็นฝ่ายรุก นอกจากว่าเป็นช่วงฤดูผสมพันธุ์และต้องป้องกันตัวเอง
ในปัจจุบันลิงลม ลิงจุ่น หรือนางอาย อยู่ในสถานะที่ใกล้สูญพันธุ์แล้วในธรรมชาติ เจ้าตัวเล็กขนปุกปุยน่ารักน่าเอ็นดูนี้ จะถูกจับออกมาจากถิ่นที่อยู่อาศัยในป่าแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เพื่อนำไปขายเป็นสัตว์เลี้ยง ถูกยิงเป็นอาหาร หรือทำเป็นยาบำรุงตามความเชื่อบ้าง เคลื่อนตัวตามเรือนยอดไม้ข้ามจับสายไฟฟ้าสายเปลือยโดนไฟช็อตตายก็มีมาก นายพรานทราบดีว่านางอายให้พิษได้โดยการเลียต่อมพิษที่ใต้ข้อศอกแล้วกัด ซึ่งเป็นพิษที่สามารถเป็นอันตรายถึงชีวิตได้ เหมือนลักษณะอาการของพิษที่มีต่อคนที่แพ้ผึ้งอย่างรุนแรง ดังนั้นนายพรานหรือผู้ขายจะใช้กรรไกรตัดเล็บตัดเขี้ยวของพวกเขาออก หรือไม่ก็ใช้คีมดึงเขี้ยวออก ก่อให้เกิดปัญหาฟันผุ รากประสาทฟันอักเสบ บวม เป็นหนอง สูญเสียความอยากอาหารด้วยอาการปวดอย่างเรื้อรัง พร้อมทั้งความบอบช้ำในประสาทสัมผัสและความเครียด จากนั้นก็ตายในที่สุด ภาวะขาดสารอาหาร ซึ่งเกิดขึ้นจากการรับประทานอาหารไม่สมดุลกัน โดยอาจมีสารอาหารบางอย่างได้รับไม่เพียงพอ เกิน หรือผิดสัดส่วน ซึ่งคนส่วนใหญ่ไม่ทราบว่าพวกเขาจะกินทั้งพืช และแมลง คนที่เลี้ยงลิงลมเป็นสัตว์เลี้ยงมักจะให้ผลไม้อย่างเคร่งครัด หรือบางครั้งก็ให้แต่ข้าวหรือขนมปัง อาหารสำเร็จรูป ทำให้เขาไม่ได้รับสารอาหารที่จำเป็นต่อกระบวนการสันดาปที่สมดุลในร่างกายของเขา บางครั้งลิงลมตัวน้อยถูกย้อมสีหรือฟอกขาวและทำให้เกิดการติดเชื้ออย่างน่าใจหาย ลิงลมที่ตรอมใจ หรือที่เครียดดุมักจะถูกละทิ้ง ร่างกายและจิตใจของพวกเขาจะอ่อนแอทรุดโทรมเต็มทีแล้วและพวกเขาก็จะไม่สามารถที่จะกลับไปใช้ชีวิตอาศัยอยู่ในป่าได้นาน

ตลาดการค้าลิงลมเป็นสถานการณ์จริงของความไร้มนุษยธรรมของมนุษย์ที่คนในสังคมควรมีส่วนรับผิดชอบอย่างแท้จริงทั้งทางตรงและทางอ้อม Search Link ค่ะ  
http://www.loris-conservation.org/database/captive_care/index.html

พฤติกรรมและนิเวศวิทยาของลิงลมในธรรมชาติ
สมมุติฐานจากพฤติกรรมและนิเวศวิทยาของลิงลมในป่าธรรมชาติ อาจสรุปความในขอบเขตจากการสังเกตการณ์ได้ว่า กระบวนการสันดาปพลังงานของลิงลมสอดคล้องกับโภชนาการและกระบวนการเผาผลาญอาหารของเขา การเคลื่อนไหวที่เชื่องช้าใช้พลังงานน้อย เขาจะปรับตัวอยู่ได้โดยไม่ต้องกินมาก โดยพืขอาหารหลักที่กินจะประกอบไปด้วย เนคทาร์น้ำหวานจากส่วนดอกของพืช ในป่าธรรมชาติจะมีความหลากหลายของไม้ป่า แซ้บและกัมคือน้ำหล่อเลี้ยงของท่อน้ำเลี้ยงเนื้อเยื่อของลำต้นและยางที่ปกป้องเนื้อเปลือก ยางจะเยิ้มออกมาเมื่อมีรอยบาก สังเกตต้นมะม่วงหิมพานต์มักจะมียางสีเหลืองอ่อนบ้าง เข้มบ้างอยู่ตามลำต้นและกิ่งใหญ่ๆเพราะมีรอยปริตามธรรมชาติ ยางนั้นโดยองค์ประกอบทางเคมีจะมีค่าของสารประกอบที่มีแร่ธาตุที่จำเป็นขณะเดียวกันก็มีค่าของความเป็นพิษอยู่ด้วย แต่กลไกการสันดาปพลังงานของลิงลม อาศัยกรดกลูคูโรนิก glucuronic acid จากน้ำหวานซึ่งเป็นอนุพันธุ์ของกลูโคส ทำหน้าที่เปลี่ยนสารพิษที่เข้าสู่ร่างกายเมื่อผ่านไปที่ตับ ให้มีพิษลดลง และอยู่ในสภาพที่ขับถ่ายออกได้ และแมลงต่างๆที่สัตว์อื่นๆไม่กินเพราะมีพิษแต่ลิงลมสามารถกินได้ ลิงลมจึงเป็นพรีไพรเมทที่ปรับตัวอยู่กับระบบนิเวศน์ที่เปลี่ยนแปลงได้ดี ถ้ามนุษย์ไม่ไปล่าพวกเขาค่ะ

ลิงลม นางอาย หรือลิงจุ่น (อังกฤษ: Slow loris, Loris; สกุลวิทยาศาสตร์: Nycticebus) เป็นสัตว์ป่าคุ้มครอง ตามพระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พุทธศักราช 2535 ห้ามล่าห้ามมีไว้ในครอบครอง ถ้าไม่ได้รับอนุญาติจากกรมฯ Siamphoenix ไม่สนับสนุนให้ล่าหรือเอามาเลี้ยง ค่ะ ที่เอามานำเสนอเพื่อการศึกษา เท่านั้น

Guest

เกร็ดความรู้ "บาคาร่า" ดั้งเดิมนั้น ไม่ใช่การพนัน

ต้นกำเนิดของ บาคาร่า เป็นคำที่มาจากภาษาฝรั่งเศสว่า Baccarat ซึ่งมีรากศัพท์มาจากภาษาอิตาลีว่า "Baccara" มีความหมายว่า "ศูนย์" ซึ่งสื่อความหมายถึงแต้ม "ศูนย์" ซึ่งเป็นแต้มบนหน้าไพ่ที่มีมากที่สุดบนไพ่ที่ใช้เล่นบาคาร่า  จากการศึกษาประวัติของคำทำให้ผู้เชี่ยวชาญด้านเกมพนันสันนิษฐานว่า บาคาร่ามีต้นกำเนิดมาจากเกม Baccarat Online ของประเทศอิตาลี ซึ่งถูกคิดค้นขึ้นโดยนักพนันชาวอิตาลีชื่อ เฟลิกซ์ ฟาลกูยเรน (Felix Falguirein)ในช่วงปลายศตวรรษที่ 15 สมัยนั้น Sbobet เข้าไม่ได้ จึงเล่นโดยใช้ไพ่ทาโรต์ (Tarot Card) คาสิโน จากนั้นบาคาร่าถูกนำมายังฝรั่งเศสในสมัยพระเจ้าชาร์ลส์ที่ 8 (Charles VIII) กษัตริย์ของฝรั่งเศสในระหว่างส่งครามฝรั่งเศส-อิตาลี ช่วงคริสต์ศักราช 1494  **ปัจจุบัน บาคาร่า ได้มีการดัดแปลงให้เล่นผ่านทางสื่อออนไลน์ได้ เพื่อความสะดวกสบายของผู้เล่น และเสี่ยงน้อยลงต่อการถูกเจ้าหน้าที่ตรวจหรือจับกุม นี่คือตัวอย่างผู้ให้บริการบาคาร่าที่นิยมเล่นในประเทศไทย Gclub Online เป็นผู้ให้บริการเกม บาคาร่าออนไลน์เกม คาสิโนออนไลน์ เกม ป๊อกเด้งออนไลน์ และ Gclub ให้บริการ ลูกค้าทุกท่านสามารถเล่นผ่านทาง Gclub Iphone สมัครสมาชิก G club ได้ที่ G Club Online โทร 090-1860013 ถึง 8  เป็นต้น  จากการศึกษาประวัติศาสตร์ของเกมพนันเชื่อกันว่า เฟลิกซ์ ฟาลกูยเรน ได้คิดค้นเกม "Baccara" นี้ขึ้นมาโดยได้แนวคิดมาจากพิธีกรรมทางศาสนาของอารยะธรรมอีทรัสคัน (Etruscan) (อีทรัสคันเป็นอารยะธรรมอันเก่าแก่อารยะธรรมหนึ่งในอิตาลีมีอายุเก่าแก่ถึง 1500 ปีก่อนคริสตกาล) พิธีกรรมดังกล่าวมีจุดประสงค์เพื่อที่จะค้นหาหญิงสาวเพื่อรับตำแหน่งนักบวชหญิงในศาสนา โดยในการคัดเลือกจะใช้วิธีเสี่ยงทายด้วยลูกเต๋าแบบ 9 หน้า หากหญิงสาวคนไหนทอดลูกเต๋าแล้วได้ผลออกมาเป็นหน้าหมายเลข 9 หรือ 8 ซึ่งเป็นแต้มที่เท่าหรือใกล้เคียงกับจำนวนของเทพเจ้าที่บูชา (พวกอีทรัสคันจะนับถือเทพเจ้า 9 องค์) หญิงสาวผู้นั้นจะได้รับการคัดเลือก ถ้าทอดลูกเต๋าแล้วผลออกมาเป็นหน้าหมายเลข 6 หรือ 7 จะไม่ได้รับการคัดเลือก แต่ถ้าทอดลูกเต๋าแล้วได้หน้าที่มีหมายเลขน้อยกว่านั้นอาจหมายถึงความตายของหญิงสาวผู้นั้น ท่านที่รับชมสื่อไม่ว่าจะด้านไหนก็ตามก็ความใช้วิจารณญาณในการรับชม

ขอขอบคุณ www.siamphoenix.com ที่ให้ความกรุณาในการเผยแพร่