มาดูวิธีป้อนอาหารไม่ใช้ใส้ไก่ สำหรับการเลี้ยงนกจำนวนน้อย ไม่เสียเวลา

เริ่มโดย Guest, มกราคม 08, 2010, 12:24:54 หลังเที่ยง

หัวข้อก่อนหน้า - หัวข้อถัดไป

0 สมาชิก และ 1 ผู้มาเยือน กำลังดูหัวข้อนี้

Guest

พูดถึงป้อนไม่ใช้ใส้ไก่ ถกกันมานานตั้งแต่สมัยเบียร์เข้ามาเป็นน้องใหม่ เมื่อปีที่แล้ว บ้างก็ มีคนโพสว่าใส้ใช้ไ่ก่นั้น "ป่าเถือน" ฟังแล้วถูกใจ แต่ น่าสงสาร นายคนนั้น โดนด่าเปิง เนื่องจากอาจจะแยกประเภทไม่ถูก แต่ วัตถุประสงค์นั้นเป็นเรื่องที่ดี

เบียร์ก็เป็นคนหนึ่งที่เลี้ยงนกต่อจากคุณติ๊ก และเห็นว่าคุณติ๊กเองก็เคยทำใส้ไก่หล่นลงท้อง ใหนจะนกเพื่อน ๆ หลายตัว พลาดต้องตายไปเพราะ รีบป้อนอาหาร ขณะที่มันยังร๊อนนนน อยู่    ...  พ่อเพื่อนเบียร์แถว บางใหญ่ ก็ ทำเกรยตายไปถึงสองตัว  กำลังจะไปสู่ขอมาฝึกบินเล่นกับโยโย่ บูบู้เลย  ตายเสียแล้ว "ทั้งคู่"  ป้อนอาหารร้อนจนตายทั้งคู่  ...  น่าสงสาร

นกไม่มีโอกาสได้ปฏิเสธสิ่งดังต่อไปนี้เลย
1. ปริมาณอาหาร   นกบางตัวกินเก่ง บางตัวกินน้อย เหมือนคนอ้วนคนผอม บางที 10 cc ก็ดูน้อยไป แต่อีกหลายตัว มันมากเิกินไป หากเราไม่ใช้ใส้ไก่ เมื่อเค้าได้รับอาหารตามต้องการแล้วเค้าจะบินไปเอง

2. ความร้อน..   ถ้าอาหารผ่านใส้ไก่ ไม่ผ่านลิ้นผ่านคอ ลงไปพักที่กระเพาะพักเลย อาหารร้อน ๆ นั้นจะลวกเนื้อเยื่อกระเพาะ นกเราเจ็บป่วยทันที ทรมาณทันที นอกจากนั้น ขนหน้าอกยังจะต้องร่วง หนักเข้า ก็ทะลุ กินทางปาก รั่วทางอก.....  

3. ตัวใ้ส้ไก่เองอาจจะหลุดลงไป   ยกเว้น ท่านที่ใช้ใส้ไก่อย่างดี ที่โอกาสหลุดยาก เพราะส่วนใหญ่ ซื้อนกจากร้าน มันจะแถม ที่ป้อนราคาถูก ๆ ให้ พร้อมสายยางใส้ไก่เติมลมรถจักรยาน

4 ใส้ไก่สกปรก  จากประสบการณ์ตรง อาหารที่คาอยู่ในใส้ไก่ ล้างยากชะมัด ดิ้นไปดิ้นมา อาหารข้างในไม่รู้หลุดออกมาหมดหรือเปล่าไม่สามารถปลิ้นมันออกมาล้างให้สะอาดเอี่ยมเหมือน ไซลื้งค็ได้ อย่างดีก็ ติดเชื้อ หรืออาหารมีราอยู่ในใส้ไก่ ที่แห้งกรังไปแล้ว....    กรรมแท้

5  อันนี้จะเป็นข้อดีแล้วหละ ... นกเราจะได้มีการพัฒนาการเรื่องการลิ้มชิมรสรับรู้รสชาติอาหาร กระตุ้นให้นกเองก็อยากกิน เวลาเอาอะไรมาวางก็จะรู้สึกอยากกินอยากแท้ะไปหมดจ้า

นึกได้เท่านี้แหละ ขออภัยสำรับท่านที่รู้แล้ว เห็นว่า มีน้องใหม่ เพิ่งเลี้ยงกันมากเลย นับ ๆ ได้ ก็ หกเจ็ดตัวแล้วเฉพาะซัน

สำหรับ ท่านที่กังวลว่าป้อนอาหารไม่ทัน แล้วจะเย็น ทำให้นกป่วย เอ่อ  อันนี้ไม่มีความเห็น เพราะเบียร์เองมองว่า ถึงจะป้อนร้อน ๆ เอ้ย  อุ่นๆ  ให้เค้า  อีกไม่เกิน 5 นาทีมันก็ต้องเย็น บ่อยครั้งสมัยเจ้าสองตัวแสบนี้ยังเด็ก ๆ ละอ่อน  ก็ต้องกินอาหารที่ชงจากน้ำก๊อกเย็นสนิท......   สุขภาพก็ยังดีอยู่  แต่ ให้กินไม่มากเหมือนแค่รองท้อง ประมาณ ครึ่งนึงของที่ต้องป้อนทั้งหมดเ่ท่านั้น    แต่ถ้าเป็นอาหารชงใหม่ เชื่อว่า คงไม่เย็นเร็วขนาดนั้น หรืออาจจะต้องแช่ถ้วยไว้ในน้ำร้อนอีกทีจะชะลออาการเย็นเร็วได้ครับ
[youtube=425,350]http://www.youtube.com/watch?v=0UrqQqz6B4k[/youtube]

ชื่อนกแต่ละตัวน้า  ตัวปีกเขียว ๆ นั่น เจ้าบูบู้ เป็นจ่าฝูง จ่าจริง ๆ หะ  ๆ มีอิทธิพลกับทุกตัวหาก เธอเกลียดใคร ทุกตัวจะต้องเกลียดตาม

ปีกเหลือง สีสว่าง  ๆ ที่เห็นซ้ายสุดช่วงแรก คือเยโล่ สมาชิกใหม่  ซึ่งตอนท้าย ๆ จะเลือนไปอยู่กลาง

ปีกเหลือง สีตุ่น ๆ คือเจ้าโยโย่จ้า

==========================
===========================



อันที่สองนี้ นานมาแล้วคับ ตอนที่สมัยสองตัวแสบน่าจะอายุประมาณ 6 เดือนได้หลายคนดูแล้วจ้า

[youtube=425,350]http://www.youtube.com/watch?v=lx9bdDsuGTU[/youtube]

Anitashin

เห็นด้วยครับ คุณเบียร์
นึกถึงสภาพถ้าเป็นคนเรา ถ้าไม่ป่วยสบายดีๆ ก็ไม่ควรให้อาหารทางสายยางใช่มั้ย เพราะคนที่ให้อาหารทางสายยาง ก็มีแต่ไอซียูทั้งนั้น
เคยฟังประสบการณ์ว่า มันทรมาณมากๆ  สมัยที่เลี้ยงนกแก้วเป็นใหม่ๆ ก็เคยศึกษาเรื่องนี้ แต่ผมก็ไม่กล้าอยู่ดีนั้นแหล่ะ เขาอาจจะอิ่มน้อย หรืออิ่มมากไม่เท่ากัน แต่เขาก็ได้รับความปลอดภัยจากสายใส้ไก่เท่านี้ก็ก็แฮปปี้ทั้งคนกับนกครับ

-ขอบคุณสำหรับ คลิบยูทูบครับ อิอิ ท่าทางนายแบบเลี้ยงนกจะอารมณ์ดีเหมือนนกเลยนะครับ คราวน่าขอเห็นทั้งนก ทั้งนายแบบ(เจ้าของนก) เลยนะคัพพ
~อริยะผิดมาก
~~นักปราชญ์ผิดน้อย  
~~~ปุถุชนไม่ผิดเลย :idea:

pjm

น้อง bier   เท่าที่จำได้  พี่ไม่ได้ด่าเค้าเรื่อง  ป้อนแล้วป่าเถื่อน  

พี่ว่าเค้า  เรื่องเอาเรื่องป้อนนก  มาเทียบกับคน  ว่าถ้ามาป้อนคนแบบนั้นมั้งจะเอาไหม   เค้าก็โดยไปซะ  ยังมีปากดีอีกหลายเรื่อง

การที่สงสารเค้ามันไม่น่าสงสารหรอก  เพราะมาเปรียบเทียบกีบคน
แต่ถ้าถามว่า  มีชีวิตเหมือนกันไหม   มันเหมือนกันครับ   แต่ต้องแยกแยอะระหว่างคน  กับ  นกครับ


1. การที่ป้อนนกแต่ละครั้ง ควรสังเกตุการป้อนทุกครั้ง ว่า  ป้อนอาหารนกเอาไปแล้ว  กระเพาะนกนั้น กลมขนาดไหนถ้ากลมมากๆๆ  มันก็จะ  เหมือนคนกินมากๆๆ  แล้วเกิดอาการจุก  
ถ้าป้อนน้อยไป  นกก็จะเกิดการขาดสารอาหาร  ตัวเล็ก

การที่ป้อนนกแล้วนกส่ายหน้านี้   เพราะนกนั้นยังไม่หิวก็จะส่ายหน้าออก  แต่ถ้านกหิวอาหาร  ก็จะรับสายป้อนเองโดยไม่ต้องจับยัดเข้าปากแบบที่เค้าทำกัน  

(ถ้าใครเคยเห็นลูกนกที่อยู่ในรังพ่อแม่ก็จะรู้ว่า  พ่อแม่นกป้อนอาหารให้ลูกนก  มากกว่า  ที่เราป้อนอีก  เพราะมันจะเป็นลูกกลมๆๆ บางที่ใหญ่กว่าตัวนกอีก)

2.  ส่วนเรื่องความร้อนของอาหาร   อยู่ที่คนป้อนว่าจะประมาท  หรือมักง่ายหรือป่าว  ส่วนมากที่กระเพาะทะลุ กระเพราะความประมาท + มักง่าย  ไม่ตรวจสอบก่อน ( พี่ป้อนมาเกือบ 50 ตัว ไม่เคยกระเพาะทะลุเลยแม้แต่ตัวเดียว)

3ถ้าใช้ไส้ไก่  ป้อน  มันหลุดแน่ๆๆอยู่แล้ว  ไม่น่าใช้  
ควรใช้สายป้อนอาหารที่มีแยกสีตามขนาดของสายป้อน
ถึงจะมีราคาแพงหน่อย แต่ที่แน่ๆๆ โออาศหลุดน้อยถ้าไม่ประมาท
ทำความสะอาดไซค์ลิงค์ ก่อนใส่สายป้อน

4.การทำความสะอาจสายป้อน  หรือไซค์ลิงค์  
ทำโดยการในต้มน้ำร้อนหรือลวกน้ำร้อน  แล้วใช้แรงดันของไซค์ลิงค์ทำความสะอาจสายป้อน( ควรทำความสะอาจหลังจากป้อนด้วยน้ำสะอาจ  และก่อนป้อนด้วยน้ำร้อน)

5.ลูกนกที่ป้อนระยะเริ่มแรกยังไม่สามารถแยกรสชาติอาหารได้จนกว่าจะเริ่มแทะ

ส่วนการป้อนนกในลิงค์ที่สอง  ถึงจะป้อนด้วนสายอาหารมา  นกก็ยังกินแบบนั้นได้ เหมือนกัน  เพราะนกมาร์อายุ 2-3 ปีก็ยังกินแบบนี้อยู่  แต่ที่ละ 60-70 ซีซี

ทุกอย่าง  ถ้าไม่ประมาท  หรือ  มักง่าย  หรือ  คิดว่าไม่เป็นไร

มันก็จะไม่เกิดเรื่องครับ


kitty75

อืมมมมมม    ใช่ครับ จริงๆการป้อนนก ไม่ว่าจะใช้ไซริ้งค์เพียวๆ หรือจะมีสายต่อนั้นไม่น่ามีปัญหา ปัญหาอยู่ที่บุคคลมากกว่า ละเมียดสักนิด อย่าชุ่ย แล้วทุกสิ่งทุกอย่างจะดีเองครับ

aong1

สุดยอดครับป๋าเชษฐ์

ปล.แต่ที่คุณbier พูดมามันก็ถูกอยู่นะครับ ทุกอย่างในโลกนี้
ไม่มีอะไรที่สมบรูณ์แบบซะทุกอย่าง ครับผม
มือใหม่ในวันนี้...คือเซียนนกในวันข้างหน้า :pint:

aong1

อ้างถึงจอมมาร เป็นผู้เขียน:
^^^^


ตอนแรกผมนึกว่าคุณ"เก้"ว่า"ป๋าเชษฐ์"ซะอีก เพราะอ่านผ่านฯว่า
"แรด" ที่ไหนได้ ผมตาฝาดเองตะหาก(โง่จริงนะเรา)5555
มือใหม่ในวันนี้...คือเซียนนกในวันข้างหน้า :pint:

ด.ช.หาด

อย่างที่เฮีย ๆ ว่าล่ะครับ ระวังสักนิด ละเอียด ซักหน่อยก็ไม่เสียหายครับผม

เริ่ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด !!!
หนึ่งในสมาชิก แก๊งค์ "จู้ฮุกกรู"

กานต์

อย่าเพิ่งระวังซักนิด ระวังให้มากๆเลยจะดียิ่งกว่า จะได้ ไม่มีโอกาสที่จะพลาด เดวเหมือนผม และเวลาใส่สายอาหารในการป้อน สำคัญมากคือ ต้องสวมสายป้อนขณะดูดอาหารด้วยนะครับ มันจะมีสูญญากาศดูดไม่ให้มันหลุดง่ายๆ   คำแนะนำจากป๋าเชฐครับ

nok

สุดยอดจริงๆสมแล้วที่เค้ายกให้เป็นกูรูคนป้อนนกถ้าขาดความละเอียด รอบคอบ ช่างสังเกตุ และสะอาด ต่อให้คิดวิธีมากมายมาป้อนก็ไม่มีทางรอด จริงๆนะถ้าขาดสารอาหารก็ตายแต่จะไม่ตายทันทีจะค่อยๆผอมและก็ตาย





ผ่านมาเยอะ  เจ็บมาเยอะ
























 :-(  :pint:

Guest

โอววว กระทู้ล่อเป้า  ไม่โดนป๋าเชต ด่า ถือว่าผ่านแระ อิ ๆ  ถือว่ากระทู้แนะนำน้อง ๆ ละกันเน้อะ  เห็นว่า ตอนนี้ น้กใหม่ สมาชิกใหม่ เย้อะ ไม่อยากเสียใจกับ กระทู้ สายยางตก กะ กระเพาะทะลุในบอร์ดนกป่วย เห็นแล้วก็สะเทือนใจครับป๋า

pjm

จะด่าได้ยังไง แต่  เอาไว้เตือนสติดีกว่า

เพียงแต่  อยากให้พี่ๆๆน้องๆๆเข้าใจให้ถูกต้อง

อย่าคิดว่าทำอย่างนู้นแล้วจะเป็นอย่านั้นอย่างนี้  

อย่าคิดว่าความคิดตัวเองถูกต้องและ ดี กว่าความคิดคนอื่น   แล้ว

ไปกล่าวหาความคิดคนอื่นว่าผิดหรือ เลว

การเป็นคนผู้ใฝ่รู้  ควรจะรับรู้ข้อมูลหลายๆๆ อย่าง   แล้วนำ

มาทบทวน  และ  วิเคราะห๋ และ  พิจารณา     แล้วนำมาประยุกต์

กับสถานที่  +  สิ่งแวดล้อม  +  กำลังทรัพย์  ของเรา

เพื่อที่จะให้เราเลี้ยงนกอย่างมีความสุข  ไม่ต้องวิตกจริต

ปล.  ไม่ประมาท  +  ระวังสักนิด ละเอียด ซักหน่อยก็ไม่เสียหาย

ครับผมอย่างที่น้องอู๋ว่าไว้

P L A thong

เจ๋งค่ะจะไม่ใช้แระ แต่เวลามีจำกัดอ่ะค่ะ แต่ว่าก็ระมัดระวังตลอดเร้ยนะค่ะ กลัวหลุดลงประเพาะเขาไป
จงกล้า เพื่ออิสระของชีวิต ทุกสรรพสิ่งเกิดมาเพื่อการอิสระ มนุษย์ยังต้องการ แล้วนกละ คุณเค