รบกวนช่วยดูตาน้องค็อกคาเทลให้ทีค่ะ!

เริ่มโดย natch_ou, เมษายน 08, 2009, 03:10:42 หลังเที่ยง

หัวข้อก่อนหน้า - หัวข้อถัดไป

0 สมาชิก และ 1 ผู้มาเยือน กำลังดูหัวข้อนี้

natch_ou

น้องค็อกฯ พันธุ์ตาแดง อายุประมาณ 2-3เดือน(มั้งคะ)
เป็นแผลที่ตาข้างขวา แบบนี้ควรใช้อะไรทา หรือต้องหยอดตารึป่าวคะ?
ตอนที่ได้รับเค้ามา คนขายบอกว่ามันเป็นคราบอาหาร
ก็เลยเอาน้ำอุ่นเช็ดๆ ให้เค้า
แต่รู้สึกว่า ยิ่งเช็ดจะยิ่งไปกันใหญ่ ก็เลยไม่แน่ใจว่าตกลงเป็นคราบอาหาร หรือว่าเป็นอะไรกันแน่?!
ยังไงรบกวนท่านผู้รู้ช่วยบอกวิธีรักษาด้วยนะคะ
แล้วเวลาเช็ดตาให้เค้า เสร็จแล้วเค้าก็ชอบเอาตาไปถูกับปีก
จะทำไงดีคะ??

อีกอย่างตอนนี้น้องเค้ามีน้ำมูก แบบว่าเวลาจามฟิดๆ ทีนี่
น้ำมูกกระเด็นหยดใส่เราเลยอ่ะ จะใช้ยาอะไรช่วยเรื่องน้ำมูกเค้าได้บ้างคะ??

แล้วก็...
เวลาที่เค้าอ้าปาก แล้วมีเสียงวี๊ดออกมาคืออะไรคะ??
เค้าหายใจไม่ออกรึป่าว!!?
ーーーーーーーーーーーーーーーーーーーーーーーーーーーー
ーーーーーーーーーーーーーーーーーーーーーーーーーーーー
RIP. "ALBINO".. "AECHO".. "GAMO".. "DUAL".. & "DUO"
ลูกจะอยู่ในความทรงจำแห่งรักของพ่อและแม่ตลอดไป
------<<@
ーーーーーーーーーーーーーーーーーーーーーーーーーーーー
ーーーーーーーーーーーーーーーーーーーーーーーーーーーー

put

ซื้อยาป้ายตา เทอร์รามัย ออยส์เมนท์ และ ด้อคซี่ไซคลีน ที่ร้านขายยาคน  บีบคลีมเข้าในดวงตานกวันละ3ครั้ง แล้วจับนกใว้ซักพักเพื่อให้ตัวยาซึมเข้าดวงตา เพราะถ้ารีบปล่อยนก นกจะมีอาการละคายเคืองตาก็จะหาที่เช็ดถู ทำให้ยิ่งอักเสบไปใหญ่  

ส่วนด้อคซี่ไซคลีน แกะยาออกจากแตปซูล แบ่งยาออกเป็น4ส่วนเท่าๆกัน เอามา1ส่วน ผสมน้ำ10cc. ค๊อคหนักประมาณ70กรัมก็สูบน้ำยา0.7cc.แล้วfeedให้นกวันละ2ครั้งเช้า-เย็น5วัน  น้ำยาที่ผสมแล้วใส่ขวดเก็บเข้าตู้เย็นได้7วัน ยาที่เหลือแบ่งห่อกระดาษเก็บใว้ครั้งต่อไป(ด้อคซี่รักษาอาการหวัด หลอดลมอักเสบ)

annie

ขอถามคุณ put หน่อยค่ะ  เกี่ยวกับเรื่องหลอดลมอักเสบ ถ้าใช้ยาออริโอมัยซินแทนกันได้ไหม

แล้วนกที่มีอาการเหมือนน้ำมูกตันๆตลอดเวลา บางครั้งก็หอบเนี้ยคือโรคหลอดลมอักเสบหรือเปล่าค่ะ

put

ออริโอมัยซินใช้รักษาอาการหลอดลมอักและเรื้อรังได้ แต่ไม่มีโดสในการรักษานก  ฉะนั้นเวลาใช้ ผู้ใช้จะใช้กะๆเอา ซึ่งถ้าให้มากไปก็ไม่ดีหรือน้อยไปก็ไม่ดีเช่นกันและยาตัวนี้ต้องให้ก่อนอาหาร1ช.ม.

ส่วนใหญ่เวลานกเป็นหวัดแล้วขาดการดูแลรักษาโรคที่จะตามมาคือหลอดลมจะเริ่มอักเสบด้วย ในกรณีที่เริ่มมีเสมหะในลำคอ ถ้าไม่ได้รับยาแต่แรกก็จะทำให้ลุกลามถึงขั้นนกอ่อนแอ ซึมและตายในที่สุด

natch_ou

ขอถามเพิ่มเติมนะคะ

1. ยา doxycycline ใช้กับพวกนกลูกป้อนจะเป็นอันตรายมั๊ยคะ?
(เลี้ยงลูกป้อนเลิฟเบิร์ด กับลูกป้อนค็อกคาเทล เป็นหวัดกันทั้งคู่เลย เพราะแยกกรงไม่ทัน แต่กลัวยาจะแรงเลยยังไม่กล้าให้อ่ะค่ะ --")

2. แล้วพวกมัลติวิตามิน จำเป็นที่จะต้องให้เค้าด้วยรึป่าวคะ?

3. ระหว่าง"มัลติ-วิตามิน" สำหรับสัตว์ กับ "Seven Seas"
อันไหนให้แล้วจะดีกว่าคะ แล้วควรผสมในปริมาณเท่าไหร่?
(ในกรณีที่อาจจะต้องเสริมวิตามินอ่ะค่ะ)

4. วันก่อนไปร้านขายอุปกรณ์นก เล่าอาการที่นกเป็นหวัดให้พี่ที่ร้านฟัง เค้าเลยแนะนำ "Profloxacin" มาให้
บอกว่าเหมือน "Bio-B12" แต่ดีกว่า เพราะกินแล้วยาไม่สะสมที่ตัวนก ไม่ทราบว่าท่านใดเคยใช้บ้างรึป่าวคะ? แล้วดีรึป่าว?
(แนบไฟล์ภาพมาให้ดูกันด้วยอ่ะค่ะ)

5. ยาป้ายตาที่คุณ put แนะนำ มันใช่ตัวเดียวกันกับในรูปที่แนบมารึป่าวคะ?

6. ปกตินกลูกป้อนทั่วไปควรอยู่ในที่ ที่มีอุณหภูมิประมาณเท่าไหร่คะ?

7. เคยอ่านมาว่า ถ้ามูลนกเป็นสีเขียว แสดงว่าสุขภาพไม่ดีหรือกำลังป่วยอยู่ จริงรึป่าวคะ? แล้วปกติมูลนกควรเป็นสีอะไรอ่ะคะ?

8. ช่วงนี้ฝนตก มดอพยพเข้าห้องเพียบเลยค่ะ มีวิธีป้องกันมดขึ้นกรงมั๊ยคะ? ไม่กล้าเอาน้ำหล่อใต้กรงอ่ะค่ะ กลัวจะทำให้อุณหภูมิเย็นเกินไป(รึป่าว) กลัวเค้าจะไม่หายหวัดอ่ะค่ะ

คำถามเยอะมากกกกก  เพราะไม่สันทัดเรื่องนกอ่ะค่ะ เห็นคนอื่นเลี้ยงกันนึกว่าง่าย ที่ไหนได้ อยากจะร้องไห้เพราะต้องดูแลเยอะจริงๆ ยังไงรบกวนช่วยชี้แนะด้วยนะคะ
ーーーーーーーーーーーーーーーーーーーーーーーーーーーー
ーーーーーーーーーーーーーーーーーーーーーーーーーーーー
RIP. "ALBINO".. "AECHO".. "GAMO".. "DUAL".. & "DUO"
ลูกจะอยู่ในความทรงจำแห่งรักของพ่อและแม่ตลอดไป
------<<@
ーーーーーーーーーーーーーーーーーーーーーーーーーーーー
ーーーーーーーーーーーーーーーーーーーーーーーーーーーー

put

1.ไม่เป็นอันตรายครับ เพราะมีโดสยาในการให้
2.ถ้าใช้อาหารลูกป้อนที่มีคุณภาพ ก็ไม่ต้องให้  เพราะในอาหารนั้นเขาผสมวิตามินมาแล้ว
3.ของสัตว์จะบอกสัดส่วนในการให้
ของคนไม่ได้บอกปริมาณที่ใช้กับสัตว์
ต้องดูแร่ธาตุต่างๆที่ผสมรวมกัน อันไหนมีแร่ธาตุมากกว่าก็น่าจะใช้อันนั้น
4.สรรพคุณของยาใช้รักษาอาการของโรคใกล้เคียงกันแต่profloxzacinควบคุมได้กว้างกว่า ทั้งสองชนิดเป็นตัวยาคนละกลุ่มและไม่มีโดสในการรักษาเป็นตัวๆ  ส่วนใหญ่จะบอกว่า1กรัมต่อน้ำ1ลิตร ซึ่งเป็นปริมาณที่มากและก็จะใช้รักษาไก่ซึ่งมีจำนวนมาก
5.ใช่ยาป้ายตาterramycin ครับ
6.อย่าให้ต่ำกว่า30องศาcและไม่ควรเกิน35-36องศาc
7.ลูกป้อนถ้ายังเล็ก มูลก็จะมีสีคล้ายอาหารที่ป้อน โตขึ้นอีกหน่อยสีก็จะค่อยๆเข้มขึ้น จนกินอาหารเองได้ก็จะเป็นสีเขียว
8.น้ำหล่อได้ไม่มีปัญหาครับ
ปล.นกที่ป่วยเป็นหวัดควรจะเปิดไฟกกใว้ทั้งวันทั้งคืน  โดยใช้โคมไฟที่อ่านหนังสือเปลี่ยนหลอดไฟเป็น25W เปิดห่างตัวนก1ฟุต

natch_ou

ขอบคุณ คุณ put มากมายเลยค่ะ

สำหรับข้อมูล และคำแนะนำ

หลงรักคุณ put เลยนะเนี่ย 5555 :-D

ขอบคุณมากๆ ค่ะ
ーーーーーーーーーーーーーーーーーーーーーーーーーーーー
ーーーーーーーーーーーーーーーーーーーーーーーーーーーー
RIP. "ALBINO".. "AECHO".. "GAMO".. "DUAL".. & "DUO"
ลูกจะอยู่ในความทรงจำแห่งรักของพ่อและแม่ตลอดไป
------<<@
ーーーーーーーーーーーーーーーーーーーーーーーーーーーー
ーーーーーーーーーーーーーーーーーーーーーーーーーーーー

annie

ขอบคุณเช่นกันค่ะ คุณ put ที่ตอบคำถาม และ คุณ natch_ou ทีถามเยอะดี ช่วยให้เรียนรู้ไปด้วย

คือที่บ้านจะให้อาหารนกพิราบทั่วไปด้วยน่ะค่ะ ที่เค้าอยู่ตามธรรมชาติ  ปัญหาก็เลยเกิดเมื่อเราให้อาหารแล้ว แต่มีบางตัวที่ป่วย ก็มายืนหง่อยต่อที่บ้าน ไม่ยอมบินกลับรัง

ครั้นจะปล่อยเฉย ก็สงสาร  เลยจับมาป้อนยาซะ

แต่น่าแปลก ที่บางตัวหน้าตาสวย ไม่มีตุ่ม ลำคอไม่มีก้อน ท้องก็ไม่เสีย มีเพียงอาการขนพอง หายใจลำบาก เหมือนมีน้ำมูกตันอยู่ จามบางครั้ง และหอบจนตัวสั่น รักษาไม่เคยรอดเลย

ให้ doxycycline ก็ยังไม่ดีขึ้น ก็ไม่รู้จะให้ยาตัวไหนอีกแล้ว

ขอคำแนะนำด้วยค่ะ

put

นกในธรรมชาติถ้ายอมให้คนจับโดยง่ายดายและมีอาการป่วยร่วมด้วยนั้น แสดงว่าเข้าขั้นโคม่าแล้วครับ กินยาไปก็ไม่ช่วยให้ดีขึ้นครับ  จะต่างจากนกเลี้ยงโดยสิ้นเชิง เพราะเจ้าของสังเกตดูทุกวัน  เห็นเริ่มมีอาการก็ให้ยา ไม่กี่วันก็หายเป็นปกติ  คงต้องให้เป็นไปตามธรรมชาติ เราก็ทำดีที่สุดแล้ว

การป้อนยาด้อคซี่นั้นต้องให้ตามโดสของยา 25mg/น.น.นก1ก.ก.ผสมน้ำ10cc.
ฉะนั้นเมื่อเห็นนกพิราบป่วยก็ต้องชั่งน.น.นกตัวนั้นว่าหนักเท่าไหร่สมมุติถ้าหนัก250กรัม ก็สูบน้ำยา2.5cc.แล้วป้อนวันละ2ครั้งเช้า-เย็น  ต้องเป็ดไฟกกนกใว้ด้วยทั้งวันทั้งคืน  ไม่แน่นกบางตัวที่พึ่งป่วยอาจรอดก็ได้ครับ ลองทำดูใหม่ครับ

ปล.นกที่ป่วยนั้นส่วนใหญ่จะเริ่มกินอาหารไม่ลง ฉะนั้น จำเป็นต้องใช้ไซริ้งซ์ที่มีไส้ไก่ ตัดไส้ไก่ยาว3นิ้ว  เมื่อสูบน้ำยาเสร็จแล้วค่อยไปสูบอาหารป้อนลูกนกอีก5cc. แล้วง้างจงอยปากนกให้เผยอพอสอดไส้ไก่ได้ แหย่ไส้ไก่ให้ลึก3นิ้วแล้วfeedยาพร้อมอาหาร  จะทำให้นกมีอาหารไปสร้างพลังงาน จะทำใหนกหายป่วยได้เร็วขึ้น

annie

ขอถามอีกนิดน่ะค่ะ ถ้าเราให้ยาเกินขนาดไปเนี้ย
จะมีผลกับนกอย่างไรบ้างค่ะ

โดยปกติจะให้ยานกแค่เวลาเดียว คือตอนเช้ามืด แต่ปริมาณยาจะเป็นดับเบิ้ลไปเลย  อย่างนี้จะเป็นอันตรายกับนกหรือเปล่าค่ะ

put

ถ้าให้ยาเกินขนาด นกจะอาเจียนทิ้งออกมา ให้ยาดับเบิ้ลได้ครับ แต่ตวรมีอาหารเพื่อไปเสริมสร้างพลังงาน ผมแก้ไขกระทู้นิดหน่อย ช่วยย้อนไปอ่านกระทู้ก่อนหน้านี้ด้วย

sparrow

ปกติแล้วการให้ยาปฏิชีวนะสามารถให้เพิ่มขนาดในการให้  แล้วก็ลดจำนวนครั้งในการให้ได้ครับ (การให้ยาถือเป็นศิลปะอย่างหนึ่ง......สำหรับหมอถึงได้เรียกใบอนุญาตว่าเป็นใบประกอบโรคศิลป์ไงครับ)  แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นต้องมีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับยานิดนึงครับ  โดยส่วนตัวแล้ว  ถ้าเป็นไปได้  ผมจะเลือกให้ยาน้อยครั้งที่สุดสำหรับนกครับ  เพราะนกจะมีความเครียดจากการจับบังครับครับ  อีกอย่างการจับนกถ้าไม่ระมัดระวังนกจะบอบช้ำมากครับ  และอาจทำให้แย่ลง (เฉามือ)

สำหรับยา Doxycyclin นั้น  ตัวยาค่อนข้างปลอดภัยครับให้ในขนาดสูงๆ  หรือให้เกินขนาดได้ครับ  หากเจ้าของไม่สะดวกจะให้หลายครั้ง  ยาตัวนี้ปกติจะขับทางอุจจาระครับ  จึงไม่ค่อยมีปัญหาต่อตับ  และไต

ปกติแล้วหากนกป่วยหลายๆวัน  ก็ควรจะบังคับให้กินอาหารบ้าง (ป้อน)  แต่ไม่ต้องเยอะครับ  เพราะปกติแล้วนกเป็นสัตว์ที่มีเมตาบอลิซึ่มของร่างกายสูงครับ  สังเกตุได้จากเมื่อเราจับตัวนกจะรู้สึกว่าร้อนเพราะอุณหภูมินกจะสูงกว่าอุณหภูมของสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม  หากนกอดอาหารหลายวันร่างกายจะโทรมเร็วมาก  สังเกตุจากกระดูกหน้าอกจะแหลมอย่างรวดเร็ว  

แหล่งพลังงานสำรองของร่างกาย  ซึ่งได้แก่เนื้อเยื่อไขมันของนกก็มีไม่มาก  นอกจากนี้ตับซึ่งถือเป็นแหล่งพลังงานสำรองก็สะสมไกลโคเจนได้น้อย  ทำให้นกไม่สามารถอดอาหารได้นานครับ  ฉะนั้น  หากนกป่วยแล้วไม่กินอาหารเป็นเวลานานๆก็ควรหาอาหารให้กินบ้างครับ

สำหรับนกพิราบ  โรคที่พบได้บ่อยๆคือฝีดาษ  และโรคที่เกิดจากโปรโตซัวในทางเดินอาหารครับ  โรคแรกไม่มียารักษา  แต่อย่างหลังนี่  ปกติแล้วผมจะให้ metronidazole ครับ  ใช้ดีกับโรคนี้
laboratory of Animal Reproductive Biotechnology
รับบริจาคนกที่สิ้นชีวิตแล้วเพื่อการศึกษา......เป็นวิทยาทานนะคร้าบบบบบบบบ

annie

โรคที่เกิดจากโปรโตซัวในทางเดินอาหารเนี้ย คือจะทำให้ท้องเสียอย่างรุนแรงหรือเปล่าค่ะ  แล้วอาการหรือลักษณะที่สังเกตเห็นได้ชัดๆมีอะไรบ้างค่ะ

ส่วนโรคฝีดาษ ถ้าบวมในลำคอ  คือจะกินข้าวเองไม่ได้ เคยใช้ไซริงค์แบบไส้ไก่ฉีดอาหารเข้าไป  เลือดไหลติดหลอดออกมาเลย  คงไปโดนแผลในช่องปากนก   ไม่นานก็ตาย  เลยเปลี่ยนเป็นใช้หลอดฉีดแบบ 1 ซีซี ฉีดแทน แต่นกก็ดิ้นเหลือเกิน  แต่ก็ยังตายเช่นกัน

บางครั้งก็เริ่มท้อ  แบบอะไรกันฟ่ะ ตายกันจัง  แต่ที่เสียใจสุดๆมีอยู่ตัวนึง ชื่อน้องเอียง  อยู่ด้วยกันมา 6 เดือนแล้ว เริ่มรักษาตั้งแต่ โอกาสรอดเป็นศูนย์  จนอาการดีขึ้นเรื่อยๆ กระทั่งผลัดขนจากสีน้ำตาลแห้ง เป็นสีเทามันขวับ เตรียมจะปล่อยอยู่แล้ว

แต่ก่อนปล่อยหนึ่งวัน ได้ยินเสียงหายใจเหมือนมีน้ำมูกและเสมหะขังอยู่ในรูจมูก  ก็ให้ยาเรื่อยๆ วันถัดไปเริ่มหอบ และหอบจนตัวสั่น แค่ 3 วันนับจากวันที่เริ่มแสดงอาการ น้องเอียงก็จากไป

เลยต้องฝังเค้าแบบหมดอาลัยตายอยาก

นับถึงตอนนี้ก็ ปล่อยไปแล้ว 3 ตัว, ตายไปแล้ว 35 ตัว, ยังอยู่ในการรักษา 4 ตัว, และพักฟื้นก่อนปล่อย 6 ตัว

natch_ou

คุณ annie ใจบุญมากๆ เลยค่ะ

ขอเป็นกำลังใจให้อย่าท้อนะคะ

ถึงนกเหล่านั้นจะต้องตายไป พวกเค้าก็ตายโดยที่ได้รับการรักษาอย่างที่คุณทำเต็มที่แล้วล่ะค่ะ

สู้ๆ นะคะ
ーーーーーーーーーーーーーーーーーーーーーーーーーーーー
ーーーーーーーーーーーーーーーーーーーーーーーーーーーー
RIP. "ALBINO".. "AECHO".. "GAMO".. "DUAL".. & "DUO"
ลูกจะอยู่ในความทรงจำแห่งรักของพ่อและแม่ตลอดไป
------<<@
ーーーーーーーーーーーーーーーーーーーーーーーーーーーー
ーーーーーーーーーーーーーーーーーーーーーーーーーーーー

sparrow

สำหรับโรคโปรโตซัวที่ว่านะครับ  จะพบในทางเดินอาหารส่วนต้น แถวๆกระเพาะพักครับ  ทำให้เกิดโรค Canker เป็นโรคที่เจอได้บ่อยมากในนกพิราบ อาการมีหลายอย่างครับ  เป็นตั้งแต่ซึมขนพอง  ไม่กินอาหาร (อาการของนกป่วยทั่วไป)  ไปจนถึงท้องเสีย  มีคราบเหลืองในปากและลำคอ

สำหรับฝีดาษ  ในนกมีสามแบบ  คือแบบเฉียบพลัน  ตายอย่างรวดเร็วไม่ทันแสดงอาการ  แบบแห้ง จะเห็นเป็นสะเก็ดภายนอก  และแบบเปียก  ซึ่งมักจะเป็นในลำคอ  ถ้าสามารถดูแลให้น้ำอาหารได้  ไม่นานก็จะรอดครับ  แต่ก็ลำบากเหมือนกันถ้าเป็นแบบที่อยู่ในลำคอ
laboratory of Animal Reproductive Biotechnology
รับบริจาคนกที่สิ้นชีวิตแล้วเพื่อการศึกษา......เป็นวิทยาทานนะคร้าบบบบบบบบ