ขอคำชี้แนะ เกี่ยวกับอาการหวัดของ นก

เริ่มโดย nang, กรกฎาคม 15, 2009, 09:41:53 ก่อนเที่ยง

หัวข้อก่อนหน้า - หัวข้อถัดไป

0 สมาชิก และ 2 ผู้มาเยือน กำลังดูหัวข้อนี้

put

นกที่ป่วยตายนั้น โดยที่เรารักษามาหลายวันแล้วก็ไม่ดีขึ้นเลย  บางครั้งก็ต้องทำใจครับเพราะเราได้ปฏิบัติถูกต้องตามวิธีการทุกอย่างก็ไม่สามารถยื้อชีวิตมันได้ สาเหตุส่วนใหญ่ที่รักษาไม่หายสักทีเป็นเพราะว่า  ลูกนกอ่อนแอโดยธรรมชาติ ไม่ใช่อ่อนแอจากการเลี้ยงดู เมื่อเราให้ยาก็จะไม่สามารถไปรักษาอาการป่วยให้ดีขึ้น ที่เป็นเช่นนี้เพราะเราล้วงลูกเร็วเกินไปและบ่อยก็จะทำให้พ่อ-แม่นกไข่เร็วขึ้นไม่มีโอกาสได้หยุดพักบ้าง จะทำให้นกขาดความสมบูรณ์ก็จะถ่ายทอดมาถึงลูกด้วย  จึงเป็นสาเหตุที่ลูกนกตายยกครอก  แก้ไขโดยการให้พ่อ-แม่นกได้หยุดพักบ้างก็จะทำให้ลูกนกในครอกใหม่ไม่มีปัญหาเจ็บป่วย

ส่วนเรื่องยานั้นที่บอกว่าตัวเดียวกันกับbio+b12ไม่ใช่ครับ ตัวยาbioคือ อิริโทรมัยซิน กับวิตามินb12ถ้าจำไม่ผิด ส่วนkialacin เข้าใจว่าจะบอกที่ร้านผิด ชื่อยาคือkialexin เป็นยารักษาทางเดินหายใจและการติดเชื้อที่ปอด ประเภทเดียวกับ cephalexin  โดสในการรักษา 100mg/1ก.ก. ทุก8ชม.

ส่วนเรื่องยาฉีดนั้นผมยังไม่เคยใช้เลย เพราะมันค่อนข้างจะซับซ้อน  หากนกที่ตัวเล็กมาก ปริมาณที่จะใช้แค่0.1-0.2cc.ค่อนข้างจะวุ่นวายในการคำนวณหาปริมาณยาและผมก็ไม่ทราบว่าไซริ้งซ์หนึ่งมีกี่cc. ถ้าหลายcc.เวลาใช้แล้วก็จะเหลือยาเยอะ

มิลลิกรัมจะใช้กับยาที่เป็นผง  cc.จะใช้กับยาที่เป็นน้ำ  ถ้าเอามาเปรียบเทียบกัน 100มิลิกรัมจะเท่ากับ1cc. ฉะนั้นการที่จะใช้เมโทรนิดาโซลฉีดให้นกนั้นค่อนข้างจะลำบากครับ  ยาชนิดนี้มีทั้งแบบเม็ด แค๊ปซูลและยาฉีด ลองหาซื้อร้านอื่นดูครับ

nang

ขอบคุณครับ..คุณ put

คงต้องเอารังออกก่อน เพราะนกเริ่มผสมพันธุ์กันอีกแล้ว การที่เราเอารังออก เช่นเว้นระยะสักเดือน และใส่รังใหม่จะทำให้นกมีลูก
ยากขึ้นหรือเปล่าครับ


ปล.ตอนแรกผมก็ไปโทษข้าวโพด คิดว่าเอาข้าวโพดให้นกป้อนลูก
แล้วเป็นอย่างนี้

put

การเอารังไข่ออกนั้นอย่างน้อยควรเว้นระยะ3-6เดือน ขึ้นอยู่กับอายุของพ่อแม่นกด้วยและปัญหาของลูกนกที่เกิดมาว่ามีปัญหาหรือเปล่า ถ้าครอกนี้มีปัญหาแล้วเราให้พ่อแม่เลี้ยงลูกอีกครอกก็ยังมีปัญหาอีก  อย่างนี้ควรจะจะเว้นระยะถึง6เดือน  ถ้าเป็นบ้าง ไม่เป็นบ้าง3เดือนก็น่าจะใช้ได้  เมื่อเราแขวนรังไข่ให้เหมือนเดิม นกก็จะออกไข่ตามปกติ ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับวัยของพ่อ-แม่นกด้วย  บางคู่หยุดยาวเลยก็มี

nang

ขอบคุณครับคุณ put ผมไม่ทราบอายุที่แน่ชัดของพ่อ-แม่นกครับ
ว่าอายุเท่าไหร่ ตอนซื้อมาก็ลืมถามทุกที ซื้อมาประมาณ 20 วัน
มันก็ไข่ชุดแรกให้เลย ตั้งแต่ซื้อมา ให้ลูก 6-7 ครอกแล้ว

ยังไงขอดื้อดึง ลองให้มันไข่อีกสักครอกนะครับ แบบว่า งก..
ชอบตรงทีมันขายง่าย ราคาก็ดีด้วย จะให้มันเลี้ยงลูกเอง
จนโตเลย จะดูซิว่ามันจะป้อนลูกมันรอดมั๊ย ถ้ารอดจะเหลือกี่ตัว
ยังไงขอรั้นสักรอบนะครับ...

ได้ริงเน็คมาใหม่คู่หนึ่ง เอามาไม่ถึงอาทิตย์ไข่แล้ว ดีจริง ๆ
ไข่รอบแรก 2 ฟอง ผมไปยุ่งวุนวายกับมันมากไปมั่ง มันเลยทิ้งไข่
ผมลองเอามาแกะดู ตรงไข่แดงขึ้นเป็นรูปดวงตาครับ
แต่ก็แค่ 3-4 วัน มันก็ผสมพันธุ์กันอีก เมื่อวานผมแอบไปเปิดดู
มีอยู่ 3 ฟอง ฝักมาได้ประมาณ 10 กว่าวันแล้ว คาดคะเนเอาเพราะ
จำได้ว่า มันเข้าไปหมกตัวอยู่ในรัง หลังเรนโบว์ ไม่นาน.....
เพราะอีกประมาณ 7-8 วัน เรนโบว์ก็จะออกจากไข่แล้ว
ขอบคุณ คุณput อีกครั้งในทุกข้อมูล และทุกความรู้ครับ มีอะไร
ให้รับใช้ บอกได้นะครับ ยินดีรับใช้ครับ....

annie

ลูกนกที่เป็นฝ้าที่ปาก แล้วตายไปหมด ส่วนหนึ่งเป็นเพราะให้ยาไม่ทันกับการลุกลามของโรค   เพราะนกที่ติดเชื้อแบคทีเรียนั้น เชื้อจะกระจายเร็วมาก วันแรกแค่บวมแดง วันถัดไปเริ่มเกิดฝ้า  และถ้าปล่อยเป็นอาทิตย์  มันก็ไม่ได้เป็นแค่ที่บริเวณหลอดลม ยังลามไปข้างในคอและอวัยวะภายในด้วย  

ส่วนการติดเชื้อแบคทีเรียนั้น มาจาก การกินน้ำ อาหารร่วมกับตัวที่ป่วย กรณีที่เป็นลูกนก การติดเชื้อจึงมาจากพ่อแม่นกที่มีเชื้อนี้อยู่แล้ว เชื้อจะถูกถ่ายไปยังลูกนก แต่ทีพ่อแม่นกไม่แสดงอาการให้เห็นเพราะปริมาณของเชื้อยังน้อยอยู่   ส่วนลูกนกนั้นยังไม่มีภูมิคุ้มกัน จึงเป็นได้ทันที  

ทางที่ดี ควรป้อนยาให้กับพ่อแม่นกก่อน โดยให้ยาติดกันเป็นเวลา 10 วัน และพักต่อหลังจากให้ยาอีก 20 วัน  หลังจากนั้นค่อยให้มันเข้าคู่กันใหม่ก็ยังไม่สาย  

ดีกว่าเสียลูกนกและพ่อแม่นกก็อ่อนแอลงเรื่อยๆ

nang

ขอบคุณครับ คุณ annie

- แล้วเราจะรู้ได้อย่างไร พ่อ หรือ แม่ ที่ป่วย หรือทั้งสองตัว เพราะนกแข็งแรงดี

- และจะป้อนด้วยวิธีไหน เพราะเคยลองกับนกพันธุ์อื่น คู่อืนมัน
ไม่ยอมให้ป้อน พยายามบังคับ  เอาผ้าเช็ดตัวหุ้มตัวไว้ และใช้ไม้
ใส่ปากให้มันงับ และค่อย ๆ เหย่สายลงไปมันก็ใช้ลิ้นดันออก ป้อน
ได้ยากมาก ตัดสินใจยัด ๆ ใส่ลงไป บีดยาปี๊ด เข้าไป ผลออกมา
น้ำยา ออกมาทางจมูก คิดว่าคงไม่เป็นไร เอาไปใส่กรงพักฟื้นไว้
อบไฟเอาผ้าคลุม ไปดูอีกทีนอนยืด ตัวแข็งน้ำยาเต็มปากเต็มจมูก
ตายครับ...

- และจะให้ใช้ยาอะไรดี ครับ...

annie

ควรให้ยาทั้ง 2 ตัวเลยค่ะ เพราะอยู่ในกรงเดียวกัน กินอาหารด้วยกัน  แต่ฟังจากที่เล่ามาเหมือนจะป้อนยายาก เคยป้อนยาให้กับนกค็อกตัวนึง  เป็นของเพื่อนคุณพ่อ มาให้เราช่วยรักษา เราก็เข้าใจมาตลอดว่า นกค็อกคงน่ารักทุกตัวเหมือนกับที่บ้าน พอจับปุ๊บ กัดเลือดพุ่งเลย  ป้อนยาก็แสนยาก เอาลิ้นดันตลอด พอเอายาเข้าปากได้ ก็ดันยาออกจมูกอีก  อยากจะแหว่งทิ้งวันละหลายรอบ  แต่ยังไงก็ต้องทำอ่ะนะ

วิธีการอาจไม่สวยหรู ออกแนวทุลักทุเลซะมากกว่าด้วยซ้ำ เหอะๆ ...คืออย่างน้อยต้องมีคนจับคนนึงและคนหยอดยาอีกหนึ่ง  คนจับต้องใส่ถุงมือกันนกกัด (จริงๆมันก็กัดอยู่ดีแหละ เพียงแต่กัดไปก็ไม่ค่อยเจ็บ)  ส่วนคนหยอดยาให้ใช้มืออ้าปากนก  (แบบว่าเคยใช้อย่างอื่นงัดปากนก  ปากเลยถลอกเนื่องจากนกดิ้น) เสร็จแล้วค่อยๆหยอดยาทีละนิดเข้าทางด้านข้างตรงมุมปาก โดยใช้หลอดฉีดยาแบบ 1 cc. หยอดยาหนึ่งครั้งก็ปล่อยปากนกด้วยทีนึงเพื่อให้นกกลืนเอง  อาจเสียยาบ้าง ก็ช่างมัน  ...จริงๆแล้ว นกที่จะป้อนอาจไม่ดื้อเท่าไอ้ตัวนี้ก็ได้   ต้องดัดแปลงเอาเอง ขึ้นอยู่กับลักษณะนิสัยนกด้วย

ส่วนตัวยาที่ให้ ก็ตัวเดียวกับที่คุณ put บอกแหละค่ะ  แต่ amoxicillin ก็หดเหลือแค่เวลาเดียวพร้อมกับ metronidazole ที่ให้เพียงวันละครั้ง โดยขนาดยาของ amoxicillin ก็ให้ดับเบิ้ลไปเลย  ที่ให้เหลือเวลาเดียวเพราะนอกจากให้ยายุ่งยากแล้ว นกที่ไม่คุ้นกับมือคน อาจเกิดความเครียดได้อีก    

หลังจากให้ยาครบ ก็ให้นกพักต่ออีกนะค่ะ  อย่างที่คุณ put บอกล่ะค่ะ  พ่อแม่นกอ่อนแอ ส่งผลถึงลูกนกด้วย
เชื้อนี้มีอยู่ในระบบทางเดินหายใจของนกค่ะ แต่น้อยมากจนไม่เป็นอันตรายกับนก แต่เมื่อไหร่ที่นกนั้นอ่อนแอลง  โรคนี้ก็อาจเกิดกับนกได้ อย่างช่วงหน้าฝนเป็นต้น  นกจะป่วยได้ง่ายมาก

nang

ขอบคุณครับ คุณ annie

ขอบคุณในคำแนะนำครับ.....
ผมใช้วิธี โรยยาในผลไม้ และ ผสมยาในน้ำให้นกกินแทนครับ
เพราะยังเกรง ๆ ในฝีมือตัวเองอยู่   ขอบคุณอีกครั้งครับ.0.