สนทนา กับลุงน้อย

เริ่มโดย ลุงน้อย, สิงหาคม 29, 2008, 09:55:31 ก่อนเที่ยง

หัวข้อก่อนหน้า - หัวข้อถัดไป

0 สมาชิก และ 3 ผู้มาเยือน กำลังดูหัวข้อนี้

ลุงน้อย

จากกระทู้ขอบ่น ซึ่งเป็นกระทู้ที่เอา อารมณ์ นำ  

กระทู้นี้ ขอเป็นเหตุผลมาก่อนนะครับ  

การตอบใดๆ ขอเป็นเหตุผลนำ หากมีอารมณ์ สามารถระบายที่ขอบ่นนะครับ  

ขอไปประชุมก่อน  แล้วกลับมาสนทนาต่อครับ
ลุงน้อย แสนดี. 555

ลุงน้อย

มนุษย์ หรือ คนเราๆนี่แหละ  ที่เดินอยู่ตามท้องถนน  ผมคิดนะครับว่า  เขามีอิสระจริงหรือ   มีอิสระที่จะคิด  มีอิสระที่จะทำใช่หรือไม่

สำหรับผมแล้ว คำตอบคือไม่ใช่  คนเราในปัจจุบัน ได้ร่วมกันสร้างกรอบ สร้างกฎเกณฑ์ ขึ้นมา เพื่อให้สามารถใช้ชีวิตอยู่ร่วมกันได้อย่างสงบสุข  ใครปฏิบัติตัวออกนอกกรอบ ถือว่า ทำผิด

ในเมื่อกรอบ กฎเกณฑ์ต่างๆ คนในสังคมนั้นเป็นผู้สร้างขึ้น หากมันตึงหรือหย่อนไป คนนั่นแหละจะเป็นผู้ปรับเปลี่ยนตามความเหมาะสมในช่วงเวลานั้นๆ  

ซึ่งกรอบ หรือ กฎเกณฑ์ต่างๆ นี่เอง จะเป็นตัวกำหนดทางเดินให้คนในสังคมนั้นๆ  ห้ามออกนอกกรอบ  ซึ่งเปรียบเสมือนคนเราทั้งหลายอยู่ในกรง  กรงที่มองไม่เห็น

ถึงเวลาประชุมอีกแล้ว  ไปก่อนนะครับ  

ใครมีความเห็นอย่างไร นำมาแลกเปลี่ยนกันบ้างนะครับ  โดยใช้ เหตุผลนำนะครับ
ลุงน้อย แสนดี. 555

akaradej28

ขออนุญาตแสดงความคิดเห็นครับลุงน้อย ผมคิดว่าทุกคนมีอิสระทางความคิด เพียงแต่อิสระในการกระทำมักจะถูกจำกัดอยู่ภายในกรอบที่สังคมหรือคนเป็นผู้กำหนดโดยส่วนใหญ่จะอยู่บนพื้นฐานของมนุษยธรรม จริยธรรม ศิลธรรม และที่สำคัญคือการยอมรับ แตถ้าเราทำให้เห็นว่าสิ่งที่เราแสดงออกตามความคิดมีผลดีตามการเปลี่ยนแปลงหรือไม่ทำให้เกิดผลเสีย ถึงแม้จะออกนอกกรอบหรือฝืนกฎธรรมชาติไปบ้าง ในที่สุดสังคมก็จะยอมรับและจะกลายเป็นพฤติกรรมปกติที่ทำร่วมกันในสังคม นี่คือสังคมปัจจุบัน

ปล.เป็นความคิดส่วนตัวที่มองสังคมปัจจุบันนะขอรับ ผิดพลาดประการใดเด็กน้อยคนนี้ขอประทานอภัยด้วยขอรับ..  :-?  :-?
รักเธอตลอดไป......

kitty75

กระทู้ขอบ่นเป็นเวอร์ชั่นมาร กระทู้สนทนาเป็นเวอร์ชั่นเทพ แล้วเราจะเข้ามาตอบกระทู้ไหนดีหว่า?? อิ อิ

ด.ช.หาด

มีเวลาอยู่บนโลก 2 หมื่นกว่าวัน ทำอะไรทำไปเถอะครับ ถ้ามันไม่เดือดร้อนคนอื่น ครับพี่น้อง 5 5 5
แล้วชีวิต ท่านล่ะครับผ่านมากี่วันแล้ว มาทำเรื่อง ดี ๆ กันเถอะครับ
หนึ่งในสมาชิก แก๊งค์ "จู้ฮุกกรู"

กิเดโอน

พี่น้อย ขอแจมหน่อยครับ

ในเรื่อง " ลิ้น "

" ลิ้น" เป็นอวัยวะเล็กๆ แต่อวดอ้างเรื่องใหญ่ๆ มนุษย์สามารถฝึกสัตว์เดียรัจฉาน นก สัตว์เลื้อยคลาน และสัตว์ทะเลให้เชื่องได้

   แต่ลิ้นนั้นไม่มีมนุษย์คนใดสามารถทำให้เชื่องได้ ลิ้นเป็นสิ่งที่ชั่ว ที่อยู่ไม่สุขและเต็มไปด้วยพิษร้ายถึงตาย เราชื่นชมมนุษย์ด้วยลิ้น ในทำนองเดียวกัน  เราก็แช่งสาบมนุษย์ด้วยลิ้น สิ่งต่างเหล่านี้ ก็ออกมาจากที่เดียวกัน คือ "ลิ้น"

ชีวิตของคนเราเป็นเหมือนหมอกหรือควัน เป็นเพียงชั่วครู่เดียวก็หายไป ไม่มีใครจะสามารถอวดอ้างถึงพรุงนี้ได้ เพราะพรุ่งนี้ ยังมาไม่ถึง

คำพูดก็ เหมือนกัน เมื่อมันอยู่ในเรา เราก็เป็นเจ้านายมัน แต่เมื่อไหร่ ที่เราพูดออกไป คำพูดนั้นจะเป็นเจ้านายเราทันที่

ดังนั้น ทุกอย่างที่มนุษย์ได้พูดออกไป คนนั้นจะต้องรับผิดชอบในคำพูดนั้น ดังนั้น ตัวต้นเหตุ คือ " ลิ้น "

 :oops:  :oops:
มิตรสหายก็มีความรักอยู่ทุกเวลา และพี่น้องก็เกิดมา เพื่อช่วยกัน ยามทุกข์ยาก    :hammer:  :hammer:

kitty75

อ้างถึงsuwan เป็นผู้เขียน:
พี่น้อย ขอแจมหน่อยครับ

ในเรื่อง " ลิ้น "

" ลิ้น" เป็นอวัยวะเล็กๆ แต่อวดอ้างเรื่องใหญ่ๆ มนุษย์สามารถฝึกสัตว์เดียรัจฉาน นก สัตว์เลื้อยคลาน และสัตว์ทะเลให้เชื่องได้

   แต่ลิ้นนั้นไม่มีมนุษย์คนใดสามารถทำให้เชื่องได้ ลิ้นเป็นสิ่งที่ชั่ว ที่อยู่ไม่สุขและเต็มไปด้วยพิษร้ายถึงตาย เราชื่นชมมนุษย์ด้วยลิ้น ในทำนองเดียวกัน  เราก็แช่งสาบมนุษย์ด้วยลิ้น สิ่งต่างเหล่านี้ ก็ออกมาจากที่เดียวกัน คือ "ลิ้น"

ชีวิตของคนเราเป็นเหมือนหมอกหรือควัน เป็นเพียงชั่วครู่เดียวก็หายไป ไม่มีใครจะสามารถอวดอ้างถึงพรุงนี้ได้ เพราะพรุ่งนี้ ยังมาไม่ถึง

คำพูดก็ เหมือนกัน เมื่อมันอยู่ในเรา เราก็เป็นเจ้านายมัน แต่เมื่อไหร่ ที่เราพูดออกไป คำพูดนั้นจะเป็นเจ้านายเราทันที่

ดังนั้น ทุกอย่างที่มนุษย์ได้พูดออกไป คนนั้นจะต้องรับผิดชอบในคำพูดนั้น ดังนั้น ตัวต้นเหตุ คือ " ลิ้น "

 :oops:  :oops:
อย่างนี้ต้องกำจัดต้นเหตุ คือ ตัดลิ้นมันซะเลยครับ อิ อิ ล้อเล่นนะครับ

ลุงน้อย

อ้างถึงเด็กชายหาด เป็นผู้เขียน:
มีเวลาอยู่บนโลก 2 หมื่นกว่าวัน ทำอะไรทำไปเถอะครับ ถ้ามันไม่เดือดร้อนคนอื่น ครับพี่น้อง 5 5 5
แล้วชีวิต ท่านล่ะครับผ่านมากี่วันแล้ว มาทำเรื่อง ดี ๆ กันเถอะครับ

ตอนเด็กๆ  แม่สอนให้รู้จักเก็บออม  วันละบาทสองบาท

ถ้าทำตามแม่บอก  ชาตนี้ น้องไฮ หมดสิทธิ์  
แต่ผมขอสารภาพว่า ผมทำเกินที่แม่สอนไว้  แม่คงไม่ว่าผมนะครับ
ลุงน้อย แสนดี. 555

ลุงน้อย

อ้างถึงsuwan เป็นผู้เขียน:
พี่น้อย ขอแจมหน่อยครับ

ในเรื่อง " ลิ้น "

" ลิ้น" เป็นอวัยวะเล็กๆ แต่อวดอ้างเรื่องใหญ่ๆ มนุษย์สามารถฝึกสัตว์เดียรัจฉาน นก สัตว์เลื้อยคลาน และสัตว์ทะเลให้เชื่องได้

   แต่ลิ้นนั้นไม่มีมนุษย์คนใดสามารถทำให้เชื่องได้ ลิ้นเป็นสิ่งที่ชั่ว ที่อยู่ไม่สุขและเต็มไปด้วยพิษร้ายถึงตาย เราชื่นชมมนุษย์ด้วยลิ้น ในทำนองเดียวกัน  เราก็แช่งสาบมนุษย์ด้วยลิ้น สิ่งต่างเหล่านี้ ก็ออกมาจากที่เดียวกัน คือ "ลิ้น"

ชีวิตของคนเราเป็นเหมือนหมอกหรือควัน เป็นเพียงชั่วครู่เดียวก็หายไป ไม่มีใครจะสามารถอวดอ้างถึงพรุงนี้ได้ เพราะพรุ่งนี้ ยังมาไม่ถึง

คำพูดก็ เหมือนกัน เมื่อมันอยู่ในเรา เราก็เป็นเจ้านายมัน แต่เมื่อไหร่ ที่เราพูดออกไป คำพูดนั้นจะเป็นเจ้านายเราทันที่

ดังนั้น ทุกอย่างที่มนุษย์ได้พูดออกไป คนนั้นจะต้องรับผิดชอบในคำพูดนั้น ดังนั้น ตัวต้นเหตุ คือ " ลิ้น "

 :oops:  :oops:

ผมเลยเลือกที่จะเขียน เพราะเราสามารถบังคับนิ้วได้ และสามารถใช้อ้างอิงได้ครับ

สิ่งที่จะสั่งลิ้นได้ คือ สมอง ศุนย์รวมแห่งความคิด และสิ่งที่จะบังคับสมองคือ จิตใจของคนเรานั่นเอง ซึ่งหล่อหลอมมาจาก ศิลธรรม จริยธรรม   ประสบการณ์  และอื่นๆอีกมากมาย ที่ทำให้คนเรา อยู่เหนือสิ่งมีชิวิตอื่นๆในโลก
ลุงน้อย แสนดี. 555

ลุงน้อย

อ้างถึงNoru เป็นผู้เขียน:
:-)ถ้าตัดลิ้นแล้ว ปี่จะเหงา นะ คะ อะอะอะ อย่าคิดมาก ลิ้นปี่ไง

ขอโทษนะครับ  ผมไม่สามารถห้ามความคิดผมได้ครับ

ห้ามไฟมิให้มีควัน ยังง่ายกว่าห้ามดวงใจผม หุหุหุหุหุ  :-D
ลุงน้อย แสนดี. 555

ลุงน้อย

กลับมาเรื่อง กรง กรงที่มองไม่เห็น ที่เอาไว้ใช้ขังมนุษย์

สมัยมัธยม  เราคงไม่ผ่านการเรียนหนังสือกันมาบ้าง นัยว่า เราเข้าไปอยู่ในกรอบของสถานศึกษานั้นๆ

ผมเอง  ได้ศึกษาในรั้วสีชมพู-ฟ้า ได้ใช้ชีวิตในรั้วแห่งนี้ 6 ปี กระทบกระทั่งกับกรอบของที่อื่นๆอยู่บ้างเป็นครั้งคราว ทั้งในเรื่องแข่งขันทางความรู้ และ แข่งขันทางด้านกีฬา  โดยเฉพาะด้านกีฬานี่แหละ ที่จะยอมกันไม่ได้  จตุรมิตรครั้งใด มีเฮทุกครั้ง แต่มีจัดอยู่เรื่อยไป เพราะ เป็นการให้ศิษย์เก่า กลับมารวมตัว รวมพลังสามัคคีกัน พวกเชียร์และให้กำลังใจ ตัวแทนของเราในการแข่งขัน  

ทุกอย่าง มีดีมีเสียไปพร้อมๆกัน  ช่วยกันมองสิ่งที่ดี ส่วนเรื่องเสีย ช่วยกันหาทางแก้ไข  มีชีวิตย่อมดีขึ้นแน่นอน

ออกจากรั้วสีชมพู- ฟ้า  ก้าวเข้าสู่รั้วมหาวิทยาลัย ซึ่งในรั้วนี้ มีอยู่ 2 กรอบ คือ มหาวิทยาลัยและคณะ  สำหรับผมแล้ว ถึงแม้สีจะไม่แตกต่างไปจากเดิม คือ มหาวิทยาลัย สีชมพู ส่วนคณะ สีฟ้า  แต่การใช้ชีวิตย่อมแตกต่างกัน  และเราต้องปรับตัวเข้ากับสถานที่ใหม่ เพื่อความอยู่รอดของเรา

จากคู่รักคู่แค้นสมัยมัธยม ถอดหมวกเก่า แต่งตัวใหม่มารวมตัวกันในคณะสีฟ้า  แล้วไปแข่งขันกับคณะสีอื่นๆ ซึ่งก็คือ บรรดาเพื่อนๆเราสมัยมัธยมนั่นเอง
จากระดับคณะ ขึ้นสู่การแข่งขันระดับมหาวิทยาลัย  ต้องถอดหมวกคณะออกก่อน มารวมกันเป็นหนึ่งในนามมหาวิทยาลัย เพื่อแข่งขันกับมหาวิทยาลัยอื่น  ซึ่งเห็นรายชื่อรายนามแล้ว ไม่ใช่คนอื่นไกล กันเองทั้งนั้น รู้ไส้รู้พุงกันหมด  การกระทบกระทั่งกันจะมีความรุนแรงน้อยลง  มิใช่เหตุผลอื่นใดนอกเหนือไปจาก เพื่อนกันทั้งนั้น แต่ในเวลานั้น สวมหมวกคนละใบ

ออกจากรั้วมหาวิทยาลัย เข้าสู่วัยทำงาน ได้พบเพื่อนร่วมงานใหม่ๆ  ได้สร้างทีมงานขึ้นใหม่ ซึ่งหากมองย้อนไปถึงประวัตการศึกษา หนีไม่พ้น คู่รักคู่แค้นทั้งนั้น    จริงหรือไม่ครับท่านทั้งหลาย

เปรียบเสมือนกับ เราได้ขยายกรอบหรือกรงของเราให้กว้างขึ้น จากระดับมัธยม ออกเป็นระดับมหาวิทยาลัย ออกไปสู่ระดับจังหวัด ระดับประเทศ  และสู่ระดับโลก
ลุงน้อย แสนดี. 555

ลุงน้อย

ถึงแม้ว่า เราจะขึ้นสู่ระดับโลก  เรายังอยู่ในกรงระดับโลกอยู่ดี  มีอิสระที่จะทำอะไรตามใจเช่นนั้นหรือ  หากเป็นเช่นนั้น เราจะหาความสงบสุขบนโลกนี้ได้อย่างไร


ขอตัวไปประชุมก่อนอีกแล้วครับ  
กลับมาจะวกเข้าสู่การกระทบกระทั่งระหว่าง คนรักนก กับคนรักษ์นก  นะครับ  หวังว่ายังไม่เบื่อกันนะครับ
ลุงน้อย แสนดี. 555

ลุงน้อย

อ้างถึงkitty75 เป็นผู้เขียน:
กระทู้ขอบ่นเป็นเวอร์ชั่นมาร กระทู้สนทนาเป็นเวอร์ชั่นเทพ แล้วเราจะเข้ามาตอบกระทู้ไหนดีหว่า?? อิ อิ


ตัดสินใจไม่ถูก ร่วมแจมทั้ง 2 กระทู้เลยพ่อคุณ  
คนเรา มันมีทั้ง 2 ด้านอยู่แล้ว จะคิดมากไปทำไม
ลุงน้อย แสนดี. 555

ลุงน้อย

คราวนี้มาดู คนรักนก บ้าง  ผมเองไม่เคยรู้จักบุคคลเหล่านั้นมาก่อน  แต่จากการเสวนา ค้นพบว่า ไม่ใช่คนอื่นคนไกล  คนเคยซื้อนกเลี้ยงนกกันทั้งนั้น  อีกทั้งคนในครอบครัวก็ยังเลี้ยง รู้จักกันทั้งนั้น  แล้วจะมาต่อว่ากันทำไม  เมื่อก่อนมีอุดมการณ์เดียวกัน แต่วันนึง แนวคิดเปลี่ยนไป หันหน้าเข้าหาธรรม  กำหนกกฎเกณฑ์ขึ้นมาใหม่ว่า การเลี้ยงนกแบบโน้นเป็นบาป  ต้องเลี้ยงแบบนี้เป็นบุญ  นกทุกตัวต้องการได้รับอิสระ   ทั้งๆที่ตัวเองยังเลี้ยงนกอยู่ในกรง

ทำไมต้องเลี้ยงในกรง  คำตอบมันชัดเจนอยู่แล้วว่า นกอยู่นอกกรงจะได้รับอันตรายต่างๆนาๆ และจะไม่สามารถดำรงชีวิตอยู่ได้เอง ต้องได้รับการดูแลจากผู้ใจบุญ   เห็นหรือไม่ครับ ว่ามาจากพื้นฐานเดียวกัน  แต่ความเห็นเริ่มแตกต่างกันตรงที่ฝ่ายรักษ์นกนำมาเพาะพันธุ์และมีการซื้อขาย   ส่วนฝ่ายรักนก ไม่ต้องการให้เพาะพันธุ์ และต้องดูแลมันไปจนตายห้ามเปลี่ยนเจ้าของ

ต่างกันเพียงแค่นี้จริงๆ  แล้วเป็นสาเหตุให้เกิดเหตุการณ์ไม่พึงประสงค์ตามมามากมาย  ทำไมเราไม่มาคุยกัน หารือกันว่า ทำอย่างไร ให้นกมันสามารถดำรงเผ่าพันธุ์ของมันได้ต่อไป

หากความเห็นดีๆตรงกัน ช่วยนำไปใช้กัน เผื่อประโยชน์ของสังคม   อย่าไปตีความเป็นอย่างอื่นเลย
ส่วนความเห็นที่ขัดแย้งกัน มาหาข้อสรุป ข้อตกลงกัน   หากสรุปได้จะเกิดแนวทางทำความดีร่วมกัน  หากสรุปไม่ได้ มันไม่ได้หมายถึงต้องมีฝ่ายถูกฝ่ายผิด  มองต่างมุมเท่านั้นเอง

ผมถึงเคยเขียนไว้ว่า  คนรักนกทั้งนั้น  จะมาสร้างกรงเพื่อแบ่งแยกกันทำไม
ลุงน้อย แสนดี. 555

ลุงน้อย

แม่เลี้ยง เป็นบุคคลที่มีความรู้เรื่องประวัติศาสตร์ และงานวรรณกรรม เป็นเลิศ  ลุงน้อยขอนับถือ  8-)
ลุงน้อย แสนดี. 555