พี่ๆช่วยแนะนำการเลี้ยงลูกป้อนด้วยครับ

เริ่มโดย จอมมาร, มีนาคม 19, 2008, 01:09:21 หลังเที่ยง

หัวข้อก่อนหน้า - หัวข้อถัดไป

0 สมาชิก และ 1 ผู้มาเยือน กำลังดูหัวข้อนี้

...

อ้างถึงMy_love เป็นผู้เขียน:
กระทู้ดีๆมีประโยชน์ อย่างนี้ต้องขุดมันขึ้มมา

หมดมุขที่จะตอบกันแล้วมั้งขอรับกระผม  อิ อิ

 :lol:  :lol:  :lol:  :-o  :-D

bird_j

เป็นเวปที่เปิดเผยและเปิดใจมากที่สุดเลยครับ..อบอุ่นจริงๆครับพี่.น้องๆครับ..! :-D
ต่างคนต่างที่มาแต่สิ่งเดียวปราทถนาคือ.."นก"

pjm

อ้างถึงbird_j เป็นผู้เขียน:
เป็นเวปที่เปิดเผยและเปิดใจมากที่สุดเลยครับ..อบอุ่นจริงๆครับพี่.น้องๆครับ..! :-D

เดียวนี้  สมาชิกใจถึงเลี้ยงกันขนาดขนยังไม่แทงเลย

ตั้งแต่เลี้ยงมายังไม่เคยเลี้ยงนกไซค์นี้เลย

ข้าน้อยขอนับถือ

 :-D  :-D  :-D

ball

อ้างถึงปู่โด้ เป็นผู้เขียน:
อ้างถึงC.tan เป็นผู้เขียน:
อ้างถึงat_love เป็นผู้เขียน:
กรณีใช้หลอดแก้ว + ลูกบีบยาง  

มีความเป็นไปได้ในการหยดอาหารมากน้อยเพียงใดครับ  

มันคืออันเดียวกันกับที่เรียกว่า ดร๊อปเปอร์ ครับ










หากคนใช้ เคยชินอยู่กับการบีบอะไรต่อมิอะไร ที่มันเต็มไม้เต็มมือ  ก็น่าหวาดเสียวอ่ะนะ  ขอรับ


 
:-D  :-D  :-D

อู้ว๊าวววววววววววว  !!!!  ชอบคำนึ้จัง " บีบอะไรต่อมิอะไร ที่มันเต็มไม้เต็มมือ "   อิ อิ

ช๊อบชอบ!!! .............  ครับ  หุหุ

กร๊ากกกก ๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ  ( หายเครียดแล้วครับ  ขอขอบพระคุณสำหรับคำปรึกษาและแอบระบายนิดนิด ) อิ อิ  [/b]
:-D  :-D  :lol:  :lol:  :lol:  :-o  :-o :-o  :-o  :-D

บีบอะไรคับพี่โด้ ช่วยแปลความหมายให้ด้วยคับ
[color=CC3333]LOVE ME LOVE MY BIRDS[/color]

...

อ้างถึงball เป็นผู้เขียน:
อ้างถึงปู่โด้ เป็นผู้เขียน:
อ้างถึงC.tan เป็นผู้เขียน:
อ้างถึงat_love เป็นผู้เขียน:
กรณีใช้หลอดแก้ว + ลูกบีบยาง  

มีความเป็นไปได้ในการหยดอาหารมากน้อยเพียงใดครับ  

มันคืออันเดียวกันกับที่เรียกว่า ดร๊อปเปอร์ ครับ










หากคนใช้ เคยชินอยู่กับการบีบอะไรต่อมิอะไร ที่มันเต็มไม้เต็มมือ  ก็น่าหวาดเสียวอ่ะนะ  ขอรับ


 
:-D  :-D  :-D

อู้ว๊าวววววววววววว  !!!!  ชอบคำนึ้จัง " บีบอะไรต่อมิอะไร ที่มันเต็มไม้เต็มมือ "   อิ อิ

ช๊อบชอบ!!! .............  ครับ  หุหุ

กร๊ากกกก ๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ  ( หายเครียดแล้วครับ  ขอขอบพระคุณสำหรับคำปรึกษาและแอบระบายนิดนิด ) อิ อิ  [/b]
:-D  :-D  :lol:  :lol:  :lol:  :-o  :-o :-o  :-o  :-D

บีบอะไรคับพี่โด้ ช่วยแปลความหมายให้ด้วยคับ

จุ๊ ๆๆๆ จุ๊ ๆๆๆๆ  

เดี๋ยวเมีย เอาเลือดหัวออก  หุหุ  ( ที่บ้านพี่ดุ )  งี้ต้องปรึกษา ใครได้บ้างขอรับกระผม  ( หุหุ )

tonhorn

เป็นกระทู้ที่ดีจังครับ

น่าจะปักหมุด หรือ ปักไปแล้ว นะผมไม่รู้อ่าครับ

แต่เห็นว่าเป็นกระทู้ที่ดีมากเลยครับ

ขอบคุณพี่ๆทุกคนครับ

DornKing

ขอถามเพิ่มเติมนะครับ ท่าน ปู่ หรือ น้าเชฐ (pjm1) หรือคุณ put หรือท่านอื่น ๆ ก็ได้นะครับ ชอบอ่าน ชอบฟัง ชอบรวบรวมไว้เป็นความรู้นะครับ

ผมก็เพิ่งเริ่มเลี้ยง และตอนนี้กำลังบ้าเลยครับ โดยมีพ่อตา ร่วมแก็งด้วย แก็งผม มี 3 คน มีผม มีพ่อตา และก็แม่ยาย เมื่อวานก็เพิ่งซื้อตู้ฟักไข่มา ผมก็ไม่รู้ว่าผมตกหลุมคนขายหรือเปล่า โดยเขาแนะนำว่าควรซื้อตู้ฟักไข่  และตู้เลี้ยงนกอนุบาล คนละใบ เนื่องจากถ้าฟังไข่ ไว้ข้างบน แล้วเลี้ยงลูกนกอนุบาลไว้ข้างล้าง มันจะทำให้ติดเชื้อ ก็คุ้นคิดอยู่นาน มานึกถ้าซึ้อแบบสองชั้นก็ 7-8 พัน ถ้าซื้อแยกแต่ตู้เล็ก ตู้ฟักไข่ 3600 กลับไข่อัตโนมัติ (ใช้ขดลวดทำความร้อน) ตู้เลี้ยงนกอนุบาล 2600 (ใช้ขดลวดทำความร้อน) รวมกันก็ 6200 เออ ถูกกว่า ก็เลยซื้อ 2 ใบ ตู้เล็ก ๆ แบบย่อมเยาครับ

ก็เลยมีประเด็นสอบถามท่านผู้รู้ครับ
1. ที่กล่าวมาเป็นเรื่องจริงหรือเปล่าครับ ถ้าไข่อยู่ข้างบน แล้วเลี้ยงนกอยู่ข้างล่าง มูลของนกที่ถ่ายมาจะมีผลกับไข่ด้านบนนะครับ
2. ที่ผมเลือกซื้อ 2 ใบ คิดถูกหรือคิดผิดครับ (ถ้าถูกก็ดีแล้วครับ แต่ถ้าผิดคนอื่นที่อาจกำลังจะมองหา จะได้ไม่ตกหลุมเหมื่อนผมครับ ^_^)
3. การตั้งอุณหภูมิของการฟักไข่นะครับ เขาแนะนำมาว่าไม่ควรเกิน 100 f แต่ที่ดีควร 99 f ถูกผิดอย่างไรแนะนำด้วยนะครับ
4. การเลี้ยงลูกนกอนุบาล 1-7 วัน 97 f แล้วก็ลดลงสัปดาห์ละ 1 f
ถูกผิดอย่างไรแนะนำด้วยนะครับ
5. อันนี้ผมยังไม่รู้เลยครับ และเป็นเรื่องที่ผมต้องเตรียมรับมือในเร็ววันนี้ครับ คือ เรื่องการป้อนนกที่เพิ่งออกจากไข่ เราจะป้อนอาหารให้เลย หรือต้องปล่อยให้เขาปรับตัว (มื่อแรกที่ป้อน) ปริมาณ (คุณเป็น ซีซี มันจะเยอะไปหรือเปล่าครับ หรือเป็นหยด หรือความรู้สึก หรือ???) ตอนนี้ผมเตรียมดร๊อปเปอร์ไว้แล้วครับ (ที่ผมเคยอ่านผ่านตามานะครับ เป็นไก่นะครับ เขาบอกว่ามันมีไขแดงในกะเพราะ โดยไม่ต้องป้อน 3 วัน (อยู่ได้ไงครับเนี่ย) ฟังแล้วไม่รู้ว่าจริงหรือเปล่า) แล้วนกเป็นเหมือนกันหรือเปล่าครับ คำถามที่ห้านี้ สำคัญกับผมจริง ๆ นะครับ แล้วต้องแกะไขหรือเปล่าถ้าเขาเจาะออกมาแล้ว หรือว่าปล่อยให้เขาออกมาเองถึงจะนานก็ตาม หรือจะอย่างไรครับ???  อย่างไงรบกวนด้วยนะครับ ผมจะได้รวบรวมไว้เป็นตำราครับ

เรื่องของเรื่องทีว่าซื้อตู้ฟักไข่นะครับ ที่บ้านผมก็มือสมัครเล่น ป้อนลูกซันที่อายุน้อยที่สุดก็น่าจะ 5 วัน แต่ต้อนนี้เริ่มท้าทายความสามารถของชาวแก็งกันสุด ๆ เนื่องด้วยเจ้า โรเซล่า ลูกรักของพ่ดตาผม ออกไข่มาทั้งหมด 8 ฟอง 2 ฟองแรก กินไข่ตัวเอง พ่อตาผมก็นั่งรอตั้งหลายวันเพื่อที่จะเก็บไข่ ก็เก็บตั้งแต่ ฟองที่ 3 ถึงฟองที่ 8 จังหวะพอดีซันลูกรักอีกคู่นึงไข่ออกมา 3 ฟอง แล้วก็มาอีก 1 รวมเป็น 4 แล้วเอาไข่ของโรเซล่า ไปให้ฟักอีก 6 รวมเป็น 10 ตายละหว่า มันก็ฟักของมันครบ เลยมานั่งประชุมกันคืนวันเสาร์ว่าเราต้องดำเนินการซื้อตู้ฟักไข่ซะแล้ว ก็เลยจัดการตามที่ได้กล่าวมาข้างต้นนะครับ พอวันอาทิตย์ได้ตู้มาก็เลยเอาไข่ของซันทั้ง 4 ฟอง มาฟัก แล้วไข่โลเซล่าให้ซันฟัก 6 ฟอง เนื่องด้วยหากเกิดความเสียหาย ก็ขอเลือกโรเซล่าไว้ก่อนครับ เพราะสาว่ามันจะให้ลูกยากพอสมควร ชาวแก็งไม่พร้อมที่จะเสี่ยง แต่สำหรับซันแล้ว นี้เป็นตัวที่ 16-19 ถ้าดีที่สุดก็ขอให้ผมเลี้ยงลอดทั้งหมด และผมจะผ่านจุดนั้นได้ ผมคงต้องรบกวนผู้รู้ทุกท่าน มาเติมเต็มความรู้ในส่วนที่ขาดหายไปและไม่ถูกต้องครับ

ขอขอบพระคุณไว้ล่วงหน้าเลยนะครับ

DornKing

...

ผมตอบตามความคิดเห็นส่วนตัว  และประสบการณ์ที่ผ่านมาคล่าว ๆ น๊ะขอรับกระผม  ( แชร์ความคิดกัน )

ต้องขอยินดีด้วยครับ  ที่มีคนคอยสนับสนุน  ยิ่งคนสนับสนุนมีส่วนให้สามารถเลี้ยงได้  ( ข่มภรรยา  หรืออ้างได้ )  จบข่าวครับ

ตอบเป็นข้อ ๆ ตามที่ถามละกันครับ

1. - 4.  การแยกตู้เป็น  ตู้ฟักไข่ และตู้เลี้ยง  ( ควรจะแยกน๊ะครับ  แต่ก็ไม่เสมอไปที่จะต้องใช้ตู้เลี้ยง )

ไงดี  เริ่มไม่ถูกเลย  ผมใช้ตู้ 2 ชั้น  ชั้นบนเป็นแบบกลับไข่อัตโนมัติ  แบบลูกกลิ้ง  ส่วนชั้นล่าง  ไว้สำหรับให้ลูกนกออกจากไข่

อธิบายคือ  เมื่อลูกนกเริ่มเจาะไข่  ก็จะย้ายลงมาไว้ชั้นล่าง  ซึ่งเมื่อลูกนกเจาะไข่แล้ว  ไข่ไม่ควรจะกลิ้งไปกลิ้งมา  โดยวางไว้กับพื้นรองด้วยกระดาษทิชชู่ หรือสำลี  หรือใส่ไว้ในถ้วยพลาสติก

หรือกรณีเจาะไข่ออกลำบาก  ก็ใช้สูตรพี่พุฒ  คือใส่ในกล่องพลาสติก  ใส่ทิชชู่ หรือสำลีชุบน้ำ ปิดฝา  เพื่อเพิ่มความชื้นให้กับลูกนกขณะเจาะ

ส่วนกรณีตู้กลับไข่อัตนโนมัติ  ชั้นเดียว  ถ้าไข่มีจำนวนใบเดียวไม่น่าจะมีปัญหา  คือเอาซอง หรือลูกกลิ้งกลับไข่ออก แล้วให้เขาเกิดได้  แต่ถ้ามีหลาย ๆ ฟอง  ต้องนำมาไว้อีกตู้นึง  ( คือตู้ที่คุณ DornKing ) เอามาเพื่อไว้เลี้ยงลูกนกแหละครับ  แต่ต้องปรับอุณหภูมิให้มีความพอเหมาะเท่ากับตู้ฟัก  คือ 37 องศาเซลเซียส และความชื้น พอเหมาะ

ที่บอกอย่างนี้  ตู้ฟักไข่  อุณหภูมิที่ใช้จะอยู่ที่ 37 องศาเซลเซียส  ( ต้องไปแปลค่า ฟาร์เรนไฮด์ เองครับ )  

พอลูกนกเจาะออกจากไข่แล้ว  จึงค่อย ๆ ลดอุณหภูมิลง  เช่น  37 วันถัดมา เหลือ 36  , วันถัดมา เหลือ 35  แล้วอาจจะเหลือเลี้ยงอยู่ที่ 33 - 34 องศา  ก็แล้ว แต่ครับ

แต่กรณีผม ใช้ 2 ชั้น  ฟักออกหมด 3 ฟอง  ก็เอาชั้นบน ที่กลับไข่ออก  แล้วใช้ตู้นั้นเลี้ยงเลยครับ

กรณีตู้ที่คุณ DornKing ซื้อมา  เป็นตู้แบบตั้งอุณหภูมิ แบบเทอร์โมสตัส  ก็ต้องมีตัววัดความชื้น และ เทอร์โมมิเตอร์  ควบคู่ไว้ด้วยครับ  เพราะการฟักไข่  ต้องคำนึงถึงเรื่องความชื้น  

...

จากที่อ่าน  น่าจะเป็น ไข่ Sun และไข่ โรเซล่า ใช้หรือไม่ครับ  ( กรณีของสองชนิดนี้ )  

อุณหภูมิที่ใช้ฟัก  อยู่ที่ 37 องศาเซลเซียส  ส่วนเรื่องความชื้น  ( อันนี้ผมไม่แน่ใจ  ต้องรอพี่พุฒ และท่านอื่น ๆ )  แต่สำหรับ กระตั้ว และ มาร์คอ  ใช้ที่  50 - 55  เปอร์เซนต์  + และ -  ได้นิดหน่อยครับ

ระยะเวลาฟักน่าจะ  22 วัน

อย่างที่กล่าวไปแล้ว  เมื่อลูกนกเจาะไข่แล้ว  ต้องย้ายลงมาไว้ในที่ ๆ ไม่ได้กลับ ( กรณีของคุณ DornKing ) คงต้องใช้อีกตู้นึง  โดย Set ค่าความชื้น และอุณหภูมิให้เท่ากับตู้ฟัก

เมื่อลูกนกเจาะออกแล้ว ( ปกติจะเจาะออก  เองไม่ต้องช่วยครับ ) แต่บางครั้งอาจจะต้องเพิ่มความชื้นขึ้น  ทั้งนี้ ทั้งนั้น  ก็ต้องอยู่ที่สภาพลูกนก ที่อยู่ภายในไข่ และมุมที่ลูกนกเจาะออกมาครับ

( คงเหมือนกับเด็กออกจากครรภ์ น๊ะครับ  กลับหัว เอาหัวออก เอาแขนออก เอาขาออก )  บางครั้งอาจจะต้องช่วยเจาะเพื่อช่วยเขาครับ  ( อาจจะดูยุ่งยาก  แล้วคงเป็นไปเองครับ )

เมื่อลูกนกออกจากไข่แล้ว  จะสังเกต  เหมือนสุนัข หรือคนครับ  มีสายสะดือ  ก็ต้องตัดออกครับ  ให้ห่างออกจากสะดือสัก 1 เซนติเมตร  แล้วใช้เบตาดีนแต้ม  

เอาลูกนกใส่ด้วยเล็ก ๆ รองด้วยกระดาษทิชชู่  เอาสำลีชุดน้ำอุ่นเช็ดตัวลูกนก  เช็ดเอาคราบน้ำคล่ำ ( ปล่าวหว่า ) ออกครับ  เป็นไปได้เช็ดตอนเช็ดให้ลูกนกอยู่ในตู้ครับ  เพือจะได้รับความอบอุ่น

จากนั้นขนจะฟู ( กรณีในธรรมชาติ พ่อแม่นก จะเลียในส่วนนี้ครับ  ขนจะฟูฟ่องเลย )

ปล่อยไว้ 12 - 24 ชม.  ลูกนกจะถ่ายของเสียออกมา  เป็นสีเขียว ๆ หรือดำ ๆ  

แล้ว ค่อยป้อนครับ  โดยใช้ไซริ้งค์ขนาด 1 CC  ป้อนน้ำเกลือแร่ เด็ก  โดยเริ่มครั้งแรกประมาณ 0.1 - 0.2 CC  ทุก ๆ 2 ชม.  

ป้อนอย่างนี้สัก 1 วัน  

วันที่ 2 ค่อย ๆ เพิ่มปริมาณขึ้น อาจจะเพิ่มทุก ๆ 2 - 3 ครั้งที่ป้อน  เช่น  เช้า ป้อน 0.2  อีก 2 มื้อเป็น 0.4  อีกมื้อเป็น 0.6  

จากนั้นค่อย ๆ ผสมอาหาร + เกลือแร่ ( ใส ๆ )  

ทำอย่างวันที่ 2

แล้ว ค่อยเพิ่มความเข้มข้นของอาหารขึ้น

DornKing

ขอบพระคุณ ปู่ มากเลยนะครับ
ยังมีเรื่องที่ผมยังไม่รู้อีกมากมายเลยครับ

ขอบพระคุณครับๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ

หรือมีอะไรเพิ่มเติมบอกได้เลยนะครับ
ผมรออ่านอยู่ครับ

bios_m

เข้ามาช่วยดันกระทู้ครับ

มื่อใหม่ควรเข้ามาอ่านกันมากๆ
RE-AMEMIYA : ลมป่าภูเขาไฟ

...

พอเอาเขาจริง นึกไม่ออกครับ  

ต้องลองถามน๊ะครับ

ถ้าพอทราบก็จะช่วยแถลงไขครับ

put

1.ไม่จริงหรอกครับ เพราะไข่ที่ยังไม่เกิดเป็นตัวนั้น ต้องการแต่ความชื้นในตู้ฟักเท่านั้น
2.ซื้อแล้วก็ดีทั้งนั้นแหละครับ
3.ถ้าเครื่องที่เป็นองศาfอยู่ที่99f  ถ้าเครื่องที่เป็นองศาcอยู่ที่37องศาc
4.ยังไงก็ได้ไม่มีผลเสียหาย
5.ไก่แรกเกิดจะกินไข่แดงในท้อง2-3วันหลังจากนั้นจึงเริ่มให้น้ำและอาหาร  ส่วนนกนั้นหลังจากเป็นตัวแล้ว12-24ช.ม.ก็เริ่มให้อาหาร  ลูกนกแรกเกิดกินอาหารน้อยมากประมาร4-5หยดก็อื่ม  ปล่อยให้นกเจาะไข่แตกเองครับ ไม่ต้องไปช่วยแกะ มีปัญหาเลยกำหนดแล้วถึงจะช่วย
ป้อน5วันได้แรกเกิดก็ย่อมทำได้ หลักการเหมือนกันหมด

สำหรับไข่ซันจะฟักเป็นตัวหลังจากไข่24วัน โรเซลล่า 22วัน

DornKing

รักทุกคน ที่ตอบ
รักทุกคน ที่อ่าน
รักเจ้าของหัวข้อนี้มากมาย  ที่ทำให้เกิดความรู้ดี ๆ

^_^

DornKing

ตามที่ ปู่ ได้ให้ความรู้ DornKing ไว้นะครับ
รบกวนถามเพิ่มเติมนะครับ  ตามที่ ปู่ได้ตอบเอาไว้

1. เมื่อลูกนกออกจากไข่แล้ว จะสังเกต เหมือนสุนัข หรือคนครับ มีสายสะดือ ก็ต้องตัดออกครับ ให้ห่างออกจากสะดือสัก 1 เซนติเมตร แล้วใช้เบตาดีนแต้ม

2. ปล่อยไว้ 12 - 24 ชม. ลูกนกจะถ่ายของเสียออกมา เป็นสีเขียว ๆ หรือดำ ๆ แล้ว ค่อยป้อนครับ โดยใช้ไซริ้งค์ขนาด 1 CC ป้อนน้ำเกลือแร่เด็ก โดยเริ่มครั้งแรกประมาณ 0.1 - 0.2 CC ทุก ๆ 2 ชม.
ป้อนอย่างนี้สัก 1 วัน

3. วันที่ 2 ค่อย ๆ เพิ่มปริมาณขึ้น อาจจะเพิ่มทุก ๆ 2 - 3 ครั้งที่ป้อน เช่น เช้า ป้อน 0.2 อีก 2 มื้อเป็น 0.4 อีกมื้อเป็น 0.6

4. จากนั้นค่อย ๆ ผสมอาหาร + เกลือแร่ ( ใส ๆ ) ทำอย่างวันที่ 2
แล้ว ค่อยเพิ่มความเข้มข้นของอาหารขึ้น"

สอบถามนะครับเอาเป็นข้อ ๆ นะครับ
ตามข้อ 1 ครับ ถ้าไม่ตัดแล้วปล่อยให้มันหลุดเอง มีผลเสียหรือเปล่าครับ คุณพ่อบอกว่าไม่ต้องตัดหลอกเดียวมันก็หลุด ผมก็บอกว่าน่าจะต้องตัดนะก็ยกตัวอย่าง ถ้ามันอยู่กับแม่นก แม่นกก็จะกัดให้ ก็เป็นประเด็นถกเถียงกันอยู่ (พ่อตาผมเชื่อมั่นตัวเองสูง)

2. ป้อนน้ำเกลือแร่อย่างเดียวเลยหรอครับ ไม่ต้องผสมอาหารเลยหรอครับ

3-4. ผมคงใช้กะเอาละมั่งครับ อันนี้น่าจะเป็นงานฝีมือแล้วครับ (มั่ว อีกแล้วครับผม)

อุปกรณ์ที่ป้อนดูแล้วที่โอเคสุด น่าจะเป็น ไซริ้งค์ขนาด 1 CC เพาะตอนนี้ผมเตรียม ดอป มันเป็นพลาสติก อันละ 10 บาท ดูแล้วไม่ค่อยจะโอเคซักเท่าไหร

และข่าวล่ามาเร็ว พ่อตาผมได้เกาะไข่ออกแล้ว เนื่องจากความใจร้อนหรือเปล่าไม่รู้เมื่อเวลซักประมาณ 15.30 น. เดียวจะรีบกลับไปดูครับ  มีไรเพิ่มเติมแจ้งได้เลยนะครับ

ขอบพระคุณมากกกกกกกกกกกกกกกกก ครับ