พี่ๆช่วยแนะนำการเลี้ยงลูกป้อนด้วยครับ

เริ่มโดย จอมมาร, มีนาคม 19, 2008, 01:09:21 หลังเที่ยง

หัวข้อก่อนหน้า - หัวข้อถัดไป

0 สมาชิก และ 1 ผู้มาเยือน กำลังดูหัวข้อนี้

artz

จด จด จด ง่า หางอึ่งจะกลายเป็นหางยาวแล้วเรา :-D  :-D
CERBERUS ARE HERE
Electric Sound Product

GoGuy

ดีจังเลย..........  อีกไม่นานผมต้องได้ป้อนกะเขาบ้าง
[img align=left]http://mobile-sg.com/images/chicken-little.gif[/img]






ยิ้มกว้างๆหน่อยสิ....

kitty75

โอ้โห!!!! เทพเมืองเหนือปะทะเทพสุขา3ถล่มเทพสาย2
หนังจีนเรื่องนี้ยาวววววว......

...

อ้างถึงkitty75 เป็นผู้เขียน:
โอ้โห!!!! เทพเมืองเหนือปะทะเทพสุขา3ถล่มเทพสาย2
หนังจีนเรื่องนี้ยาวววววว......

เย้ย!!! ........  ก็ยังมีจอมเทพแห่งอันดามัน  ท่านจอมเทพเมืองชลบุรี แล้ว ก็ยังมหาเทพแห่งมหาชัย  อีกน๊ะ หุหุ .....

ต้องมาช่วยกันถ่ายทอดพลังยุทธ์ พลังปราณ  น๊ะขอรับกระผม

 :-D  :-o  :lol:

จอมมาร

ไม่ว่าจะเทพไหนๆ ก็คงสู้เทพ มหาชัย ไม่ได้หรอกครับพี่เล็ก :-D  :-D  :-D
เป็นคนเบาๆ
เบอร์นี้แหละ  007-64-21-1209221

keng_exotic


มาแอบอ่าน เรายังอ่อนนัก อาศัยอ่านมากๆหน่อย อิอิ

"จิ" พัทยา

ตามมาจด ยิกๆๆๆๆๆๆๆ   เอาตั้งแต่ เริ่มออกมาจากไข่ นะ ละลายอะไำร ยังไง เอาอะไรหยอดใส่ปาก เท่าไหร่ ต้องหยอด ครั้งละเท่าไร  กี่ครั้งต่อวัน เอาอะไรปูรองพื้น
ใช้อุปกรณ์อะไร  แล้ว ๆๆๆๆๆ  .......  ยิบเลยนะ เจ้าคะ ต้องเตรียมตัว  เพราะเดี๋ยว เกรย์ไข่มา ทำไม่เป็น เหอ เหอ เหอ  









    ตื่นเต้นเกินเหตุ  หน้ามันยังไม่ค่อยจะมองกันเลย มันจะไข่ได้ไม๊เนี่ยคะ ท่านนนนเทพพพพพพพพ

ลุงน้อย

ถ้าผมเปิดกระทู้ การต้มไข่บ้าง  จะมีใครตามไปจดไหมหนอ  เฮ้อ....
ลุงน้อย แสนดี. 555

C_tan

อ้างถึงTNT เป็นผู้เขียน:
ถ้าผมเปิดกระทู้ การต้มไข่บ้าง  จะมีใครตามไปจดไหมหนอ  เฮ้อ....

ผมตามครับ  ตอนนี้ขมักเขม้นกินไข่เป็นการใหญ่  :-D

ผมคิดว่าจะไม่เข้ามาตอบกระทู้นี้อีกแล้ว  เพราะดันมีคนมาตั้งให้เป็นเทพเป็นเทวดาโน่นเลย  อยากจะบอกว่า ผมยังไม่ตายนะเฟ้ยยยยย......

แต่มีเหตุให้ต้องกลับเข้ามาจนได้ มีคนไปซื้อลูกเกรย์มาจากที่อื่น แล้วป่วย ตามให้ผมไปรักษา ผมก็ไปดูให้ และเตือนๆๆๆๆ เรื่องสายยาง ว่าระวัง  อย่าให้นกกลืนลงไป สุดท้าย วันนี้เอง เอานกมาหา บอกว่ากลืนสายยางลงไปแล้ว

หลังจากปล้ำเอาออกมาได้แล้ว  ผมบอกเจ้าของนกว่า ยื่นมือมาหน่อย แล้วก็ฟาดซะเต็มเหนี่ยวเลย

เจ้าของนกน้ำตาร่วงผลอยๆ






1. ความยาวของสายยาง ควรยาวเท่ากับระยะจากจะงอยปากนกไปจนถึงกึ่งกลางกระเพาะ แล้วบวกอีก 1 - 1 1/2 นิ้ว

  1 - 1 1/2 นิ้วที่เพิ่มขึ้นมา ก็เพื่อว่า ไม่ให้จะงอยปากนกงับเข้าตรงขั้ว/ข้อต่อ ที่สวมกับไซริ้งค์

2.สายยางใส้ไก่ที่ยาวๆ จะไม่กดแทงกระเพาะจนทะลุ เพราะใส้ไก่ค่อนข้างนิ่ม ไม่เหมือนซิลิโคนที่แข็งกว่า   และที่ทะลุๆกัน ส่วนใหญ่แล้วมาจากอาหารที่ร้อนเกินไป จนเนื้อเยื่อตาย

3.ลูกนกที่ขี้ร้อง ป้อนจนกระเพาะเบ่งแล้วก็ยังร้อง หากสังเกตุดู พวกนี้จะผอมผิดปกติครับ  และมักจะเบียดเสียดแก่งแย่งตัวอื่นกินเสมอ  ซึ่งเป็นลักษณะเฉพาะตัวของพวกที่ผอมๆ  ร้อง แย่ง เพื่อจะได้กินอาหารให้มาก เมื่อไหร่ที่อ้วนเหมือนตัวอื่นๆหรือตามที่ควรจะเป็น อาการขี้ร้องจะหายไปครับ

ดังนั้น หากเจอนกขี้ร้อง ขอให้ระวัง อย่าป้อนมากจนเกินไป อย่าให้ข้นจนเกินไป อย่าหวังให้อ้วนเพียงข้ามวัน เพราะมักจะเดี้ยงเสียก่อน


 

C_tan

อีกเรื่องที่ควรระวังคือ อุปกรณ์ที่ใช้ป้อนอาหารครับ  โดยเฉพาะสำหรับลูกนกที่เพิ่งเกิดจากตู้ฟัก

อุปกรณ์มีให้เลือกดังนี้คือ  

ดร๊อปเปอร์  หรือ ที่หยอด  ตรงปลายบนสุดจะเป็นกระเปาะ สำหรับบีบให้อาหารไหลออกมา เวลาจะใช้ก็บีบไล่ลมออกก่อน เอาไปจุ่มลงในอาหาร แล้วปล่อยมือออก มันก็จะดูดเอาอาหารเข้าไปในหลอด

ข้อดี................  ควบคุมอุณหภูมิได้ดีกว่า  และ  เร็ว
ข้อเสีย .........ทำความสะอาดยาก ควบคุมปริมาณอาหารได้ยาก

ไซริ้งค์ แบบไม่ต้องใช้สายยาง
ข้อดี .........ควบคุมอุณหภูมิของอาหารได้ดีกว่า และ เร็ว
ข้อเสีย.....ควบคุมปริมาณอาหารได้ยาก และ อันตรายหากเลือกใช้ขนาดของไซริ้งค์ที่ไม่เหมาะสม

หลอดกาแฟ
มีรูให้เลือกหลายขนาด รวมทั้ง หลอดเล็กๆอย่างหลอดยาคูลท์
วิธีการใช้ ใช้แทนช้อนนะครับ  ห้ามเอาหลอดจุ่มลงไปในอาหาร แล้วใช้นิ้วอุดปลายข้างหนึ่ง แล้วเอาแหย่เข้าที่ปากนก พร้อมกับปล่อยนิ้วที่อุดปลายหลอด   เพราะนกจะสำลัก ตายยยยยย...................สถานเดียวครับ

ใช้กรรไกร ตัดปลายหลอดในแนวเฉียงๆ  แล้วเอาส่วนปลายนั้นไปตักอาหาร ป้อนลูกนก

การตัดปลายให้เฉียง หากยิ่งเฉียงมากเท่าไร ก็จะตักอาหารได้น้อยมากเท่านั้น  และหรือ หากนอกจากตัดเฉียงแล้ว ยังตัดขอบสองข้างให้สอบเข้าหากันอีก ก็จะตักอาหารได้น้อยลงไปอีก สามารถป้อนได้แม้กระทั่งลูกนกฟิ้นซ์

ข้อดี.....ควบคุมปริมาณอาหารได้ง่ายกว่า ในกรณีที่ลูกนกไม่อ้าปาก ก็สามารถใช้ส่วนปลายหลอดกาแฟนั้น แซะๆเข้าไปทางด้านข้างของจะงอยปากได้  , มีหลอดให้เลือกได้หลายขนาด รวมทั้งจัมโป้ไซด์  ,ราคาถูก ,หาได้ทั่วไป ,ทำความสะอาดง่าย,ใช้วันเดียวทิ้ง  แบบ ตัวละอัน, อันละวัน  หรือแม้แต่ อันละมื้อ ก็ยังไม่นับว่าสิ้นเปลือง แถมยังป้องกันการแพร่เชื้อระหว่างลูกนกได้เป็นอย่างดีด้วย

ข้อเสีย....ช้า และควบคุมอุณหภูมิของอาหารได้ยากกว่า



C_tan

สำหรับเรื่องขนาดของไซริ้งค์ที่เหมาะสม  ผมอยากจะให้ดูภาพนี้ครับ



จากซ้ายมาขวา  คือ ไซริ้งค์ขนาด 10 ,5 และ 1 ซีซี  ตามลำดับ

 

C_tan

 ขนาด 10 ซีซี มีเส้นผ่าศูนย์กลางรูใน เท่ากับ 1.6 ซ.ม.

ขนาด 5 ซีซี  มีเส้นผ่าศูนย์กลางรูในเท่ากับ 1.3 ซ.ม.

ขนาด 1 ซีซี มีเส้นผ่าศูนย์กลางรูในเท่ากับ  0.55 ซ.ม.


ถึงแม้รูที่อาหารจะไหลออกมา จะมีขนาดเท่ากันหมด  แต่การป้อนลูกนก ไม่ใช่ว่า ให้ลูกนกอ้าปากรอ แล้วไซริ้งค์ลอยอยู่ข้างบน จากนั้นค่อยๆบีบ ให้อาหารหยดลงมาที่ละหยดๆนะครับ

ที่ทำได้ ก็คือ ปาดส่วนปลายรูออกให้เฉียง แล้วเอาแหย่เข้าไปในปากนก จากนั้นก็ค่อยๆบีบอาหารเข้าไปนิดนึง  หยุดเพื่อให้ลูกนกกลืน แล้วบีบต่ออีก ทำอย่างนี้ไปเรื่อยๆ


ปัญหามันอยู่ตรงที่บีบนิดนึงนะครับ

C_tan

เมื่อกดก้านไซริ้งค์ลงไป 1 มิล ( 0.1 ซ.ม.) อาหารจะไหลออกมาตามนี้ครับ

ไซริ้งค์ 10.ซีซี   ออกมา 0.2011 ซีซี   ( 8.48 เท่า ของไซริ้งค์ 1 ซีซี)

ไซริ้งค์ 5 ซีซี   ออกมา  0.1327 ซีซี( 5.60 เท่า ของ ไซริ้งค์ 1 ซีซี )

ไซริ้งค์ 1 ซีซี   ออกมา 0.0237 ซีซี


ปัญหาอยู่ตรงที่ว่า เราสามารถกดทีละนี๊ดดดด......ทีละ 1 มิล โดยตลอดรอดฝั่งหรือไม่

เมื่อลูกนกโช๊คๆๆๆ เรายังจะสามารถยั้งมือ ยั้งใจ  กดทีละนี๊ดดดดด....ทีละ 1 มิลๆ ได้โดยตลอดรอดฝั่งหรือไม่


...

กรณีใช้หลอดแก้ว + ลูกบีบยาง  

มีความเป็นไปได้ในการหยดอาหารมากน้อยเพียงใดครับ  

C_tan

อ้างถึงat_love เป็นผู้เขียน:
กรณีใช้หลอดแก้ว + ลูกบีบยาง  

มีความเป็นไปได้ในการหยดอาหารมากน้อยเพียงใดครับ  

มันคืออันเดียวกันกับที่เรียกว่า ดร๊อปเปอร์ ครับ










หากคนใช้ เคยชินอยู่กับการบีบอะไรต่อมิอะไร ที่มันเต็มไม้เต็มมือ  ก็น่าหวาดเสียวอ่ะนะ  ขอรับ


 
:-D  :-D  :-D