พานกเที่ยวมาราธอน on tour ปีใหม่ ไม่กลัวภัยหนาวจ้า

เริ่มโดย tuktik2255, มกราคม 28, 2009, 12:06:59 หลังเที่ยง

หัวข้อก่อนหน้า - หัวข้อถัดไป

0 สมาชิก และ 1 ผู้มาเยือน กำลังดูหัวข้อนี้

tuktik2255

เริ่มจากตั้งกะตอนซื้อมา พฤศจิกายน ขนยังไม่ขึ้น ก็ รีบบำรุงกันจะแย่ อยากเร่งให้ขนขึ้นไว ๆ เพราะ ปลายปี จะพาไปเที่ยวเชียงใหม่ ด้วย



ดูสารรูปซิ  สิ้นปี ขนจะงอกทันมั้ยว้า


จนก่อนไปเที่ยวสักอาทิตย์นึงก็ เช็คดู ว๊าวว ขนขึ้นเต็มหมดแล้ว ท่าจะทนหนาวได้ ก็วางใจได้ไปอีกนิ๊ด

ถึงวันไปเที่ยว ก็ตื่นเต้นว่า ขากลับจะได้ กลับด้วยกันตัวเป็น ๆ  หรือกลับพร้อมซากเจ้าโยโย่ กะ บูบู้ มั้ยน้อ เพราะหนาววมัก ๆ หะ ๆแต่ก็ ท้าทายค่ะ คืนแรก จากกรุงเทพ ไปเชียงใหม่ ตรงดิ่งไปเที่ยวที่วัดร่องขุ่น ถ่ายรูปสองสามใบ ไม่กล้าเดินเล่นมาก เด๋วนกตื่น ตกใจ ก็เลยเห็นว่า ฟ้าจะมืดแล้ว ก็เลยรีบหาที่กางเต้นท์นอนที่ดอยสุเทพ-ปุย

ที่เห็นในภาพก็ เป็นตอนเช้าแล้วเพราะกว่าจะถึงจุดกางเต้นท์ ก็ต้องรีบ ต่างคนต่างทำงาน กางเต้นท์ของตัวเอง กว่าจะกางเสร็จก็มืดพอดี


อากาศเมื่อคืนที่ผ่านมาอยู่ที่ 8 องศา ก็ ตำพอควร หนาวนิ๊ดหน่อย พอดีได้เต็นท์ดี  ถามแม่ บอกว่า อูยย หนาวมัก ๆ เลยลูก  ส่วนเจ้านกน้อย สองตัวตื่นขึ้นมายังตัวไม่แข็ง ยังดิ้นได้ เปิดผ้ามาก็ร้อง แก๊กๆ  ๆ  ..."โอวว โล่งจาย ยังมะตาย"


ตื่นมาแล้วตอนเช้าก็ จัดการ หุงหาอาหาร อากาศตอนนี้ก็ ราว ๆ 14 องศาแล้ว (ขยันปีนขึ้นไปดูเทอโมมิเตอร์) แต่ก็ยังหนาวมาก ก็เลยเอา น.นก ทั้งสองตัวมายืนหน้าเตา เผือว่า จะอุ่นขึ้น ...แต่ด้วย ฤทธิ์ ไก่ย่าง ดูเหมือนว่า จะกลายเป็น นกรมควัญมากกว่า เหอะ ๆ
เฉาก๊วยขาว ++ เล่าเรื่อง ++++ :-D

tuktik2255

ออกจาก ดอยสุเทพ - ปุย ก็ ว่าจะไปแวะบูชาสิ่งศักดิสิทธิ์ ก็ คนเย้อะมาก ๆ เลยว่าจะแวะมาขากลับ ซึ่งก็น่าจะผ่านเชียงใหม่ (วันไปถึงวันแรก นั้น 2 มค คนจะทยอยกลับกัน 3 มค.)

แวะดูหมู่บ้านม้งดอยปุย แป๊บบนึง ได้ลำไยอบแห้งมากิน ราคาถูก ๆ ถุงนึงครึ่งโล 120 บาท (ถุงใหญ่มาก ซื้อที่อื่น 160 แต่ต่อม้ง ร้อยเดียว)

จากนั้นก็แวะชักภาพ เป็นที่ระลึก ดูซิว่ามากันหมดบ้านเลยค่ะ นี่คือสมาชิกทั้งหมด ที่มาด้วยกันในรถ ข้างหลัง เป็น หมอกสวยมาก ๆ แต่ถ่ายไม่ติดเลยค่ะ ขาวหมดเลย



ลงจากดอยปุย ก็มุ่งหน้า ไปเชียงรายทันที แต่ตาพี่เบียร์ คนขับไม่รูขับไปยังไง หลง ไปโผล่อีกทีก็ บ่อน้ำพุร้อน ที่ใหนสักที่นึง ก็ เอ๊า ๆ เมื่อคืน ไม่ได้อาบน้ำกันถ้วนหน้าจากภาวะอากาศหนาว (อ้างไปงั้นแหละค่ะ) ก็เลยพากันลงน้าแร่ แช่น้ำอุ่นกัน เป็นที่สบายไป

เฉาก๊วยขาว ++ เล่าเรื่อง ++++ :-D

tuktik2255

หลังจากอาบน้ำอุ่น สบายตัวเรียบร้อย สติสตางค์ ก็ เริ่มจะกลับคืนมา ก็เริ่มเดินทางต่อไปยังสถานนีปลายทาง ดอยแม่ สลองที่ จริง ๆ ก็ยังไม่รู้ว่า ดอยนี้ขึ้นชื่อเรื่องอะไรบ้าง แต่ ช่างเหอะ นำหน้าว่าดอย แสดงว่า ต้องสวย  เอ๊า ไปก็ไป.......

ขั้นตอนการเดินทาง ถนนค่อนข้างดี จัดแจงซื้อ วัตถุดิบ ฟืน ถ่านหุงข้าว หมูไก่ สำหรับย่าง เครื่องเคียง มะนาวน้ำปลาให้พร้อมก่อนขึ้นดอยซึ่งก็มีขาย ข้างทางเรียงราย

ช่วงที่จะขึ้นดอยนั่นเอง ระยะทางราว ๆ 30 กม.  เป็นทางที่เริ่ม หฤโหด แล้วซิ ถนนก็ดีอยู่ แหละ แต่ เดี๋ยวก็ ชัน เดี๋ยวก็ ลาดลง ไม่มีทาง "ราบ" เลย ค่ะ เดี๋ยวโค้ง เดียวเลี้ยว โอยย ทำเอามึนหัวมัก ๆ
แล้วก็ ถึงแถว ๆ ยอดดอยตอนทุ่มนึง..... 30 กม. เดินทางกันชั่วโมงกว่า เหอะ ๆ กางเต้นท์ กัน ตอนไม่มีแสงอีกแล้วค่ะ ทรมาณ แต่ก็ พอดีมองเห็นอะไรแดง ๆ เหมือนศาลเจ้า เข้าไปดู ว๊าวว ลานกางเต้นท์ โล่งอก  มีไฟฟ้า ด้วยค่ะ  "ตื่นเต้น"  

คืนนี้ ที่ดอยแม่สลองดูหนาวกว่า ที่ดอยปุยมากก็เลยไม่ได้ถ่ายรูปมาฝากกัน (มือแข็งไปหมดแล้ว) กว่าจะได้ ฤกษ์ก็ สิบโมงเช้า เตรียมเก็บของไปเที่ยวที่อื่นต่อกัน เอ๊ะ  ...  แล้ว น.นก ประเด็นของเราหละ  ....นี่จ้า   มาด้วย  



บรรยากาศดีมาก ๆ ค่ะ ใครไม่เห็น เจ้าโย่ และ บู้ ของติ๊ก ก็ ดูบนต้นบ้วยนะค้ะ (ต้นบ้วยจริง ๆ มีลูกด้วย)

นี่เป็น อาคารแปดเหลี่ยม ที่น้องติ๊กว่า เป็นศาลเจ้า แหละค่ะ เป็น ศูนย์ รวม บรรดาชาหอมชนิดต่าง ๆ ซึ่งพอดีน้องติ๊กไม่ค่อยชอบเท่าใหร่ เลยซื้อ เก็กฮวย มากินแทน กับบรรดาบ้วย ๆ ทั้งหลายค่ะหมดไปหลายร้อยเหมือนกัน



ตลอดเวลา คนขาย ชาวจีนยูนาน ก็ บรรยาสรรพคุณของชาเค้าซึ่งก็หอมจริง ๆ แต่เราไม่ค่อยชอบเท่าใหร่

อันนี้วิว ด้านหลังซึ่งติดภูเขา



ให้ดูต้นท้ออีกที ติ๊กก็ไม่เคยเห็นเหมือนกัน

เฉาก๊วยขาว ++ เล่าเรื่อง ++++ :-D

ก่ายก๊าย

เจ้าโยโย่กะบูบู้ไปอยู่ใกล้ๆ เตาก็คงนึกว่าจะโดนย่างมั้ยน้อ

tuktik2255

ออกจากดอยแม่สลอง ชิมชาอร่อยแล้ว ถ้าจะให้ครบก็ต้องแวะไปชิม ขาหมู - หมั่นโถว ยูนาน ด้วย แต่พอดีสมาชิกที่มาด้วยอิ่ม กับอาหารเช้า ที่เหลือจากเมื่อคืนแล้วอุ่นกินกันอีกทีเรียบร้อยแล้ว

ถัดไปก็เดินทางไปยังเส้นทางเขาลูกเดียวกัน (ซึ่งถ้ารู้ว่าทางมันนรกมากจะเลือกอ้อมไปวิ่งทางหลักซึ่งตรงกว่าถึงไวกว่าเย้อะ)
ซึ่งหนทางก็ไม่ได้ไกลอะไรมากเพราะเห็นว่า gps ตัวเก่ง บอกว่า ไปทางขวา (วิ่งบนภูเขา) จะใกล้กว่ามาก ราว ๆ 30 กม. แต่ถ้าลงไปวิ่งทางราบ จะต้องอ้อม ลงเขาก่อน 20 กม. และ ต่อด้วยทางตรงอีก 30 กม. ทำให้ได้คำตอบทันทีว่า เราจะต้องเดินทางลัดแน่นอน  



ออกเดินทางมาได้ระยะหนึ่งก็ พบกับ รถจอดเรียงราย มองเข้าไปก็เห็นชาวเขา กลุ่มหนึ่งทำกิจกรรมอะไรก็เลยเข้าไปดูหน่อย


โอ้ว มีถังกฐินอยู่ก็เลยแวะไปทำบุญสักนิ๊ดดช่วยชาวบ้านสร้างสิงศักดิสิทธิ์ พาวนาว่าขอให้นกรักหนูมาก ๆ ไม่บินจากไปอีกค่ะ เพี้ยง ๆ


มอง ๆ สอดแทรกเข้าไป อุ้ย !!  ชาวเขา นี่ !!  จะมีหล่อ ๆ มั้ยน้ออ



นี่เค้าเล่น อะไรกัน น่าสนุก



อีกมุมนึงก็ มี ผู้สูงอายุอีกกลุ่มใหญ่ เล่นดนตรีพื้นบ้าน และร้องด้วยฟัง ๆ เหมือน สวดมนยังไงไม่รู้สิ แต่ก็ ได้บรรยากาศดีค่ะ



น้อง ๆ  ชาวเขา นี่โตมาสวยกว่าน้องติ๊กแน่เรย เด็ก ๆ ยังน่ารักออกขนาดนี้ หะ ๆ

เฉาก๊วยขาว ++ เล่าเรื่อง ++++ :-D

tuktik2255

ช่วงนี้ น้อง โย่ กะ บู้ ไม่ได้มีบทบาทอะไรเท่าใหร่ เพราะ คนเย้อะ เดี๋ยวจะเตลิดบินเข้าป่าไปเสียมากกว่าก็เลยให้อยู๋แต่ในตะกร้าค่ะ

หลังจากเมียง ๆ มอง ๆ อยู่นาน ก็อดไม่ได้ เห็นมันง่าย ๆ ไม่น่าจะยากแฮะ


อุ๊ปส์


น้องติ๊กก็เลย.........    ไปเล่นด้วย



อุ้ยหย๋ออ ใครว่าไม่ยากหว่า....อิๆ  โดนหนีบไปรอบนึงแระ



เอาอีก เอ๊า  สู้ ๆ



อุ๊ปส์ เข้าท่าแฮ้ะ


นี่ของเล่นของเด็ก ๆ ชาวเขา สนใจอยู่นาน อะไรค้ะเนี้ย



คอร์ปเตอร์ไม่ไฝ่จะหนู....  จับตรงนี้นะจ้ะ  


เอ้า จับแน่น ๆ แล้วก็ ดึ๊งงงงงง      


ฮะ  ฮา  น่าสนุก แต่ก็ไม่ได้อุดหนุนเค้าเลยซักอัน ไม่รู้ว่าซื้อมาแล้วเด็กแถวบ้านมันจะเล่นกันหรือเปล่าค่ะ สงสารเค้าน้อ อันละ 10 บาทเอง

ถ่ายรูป กะหนู๋ มะ สิ บ่าด


แดดออกแล้ว ท้องฟ้าสวยมากค่ะ  แสบตาน้องติ๊กก็เลยไม่หันหน้าให้แดดค่ะ
เฉาก๊วยขาว ++ เล่าเรื่อง ++++ :-D

tuktik2255

จากหมู่บ้านชาวเขา เผ่าอีก้อแล้ว ก็ อุดหนุน เครื่องเงินจากหมู่บ้านเล็กน้อย แล้วก็ออกเดินทางต่อ ...   แต่
จนแล้วจนรอด ทางไปทำไมมันได้ ทรหดขนาดนี้ ถามนักท่องเที่ยวที่ถึงดอยตุงแล้ว เค้าบอกว่า โอ๊ยย ทางนั้นไม่มีใครเค้าวื่งกันหรอก มีแต่ชาวบ้าน  เค้าเรียก "ผาช้างวูบ"  พี่เอ้ย ทางมันชันเกือบจะ 45 องศา แถมยัง เลี้อยเป็นงู  คือพี่เอ้ยย มันเป็นโค้งตัว S แบบ รัสมีแคบ และต่อเนื่องกัน เป็นร้อย ๆ เมตร (ดูความสูงจาก gps) จาก 1200เมตร ร่วงมาเหลือ 7-800 เมตรในระยะเวลาไม่ถึง นาที ไอ้ตอนขึ้นก็พอทน กำลังเครื่อง d4d มันก็ลากด้วยเกียร์สองง่าย ๆ อยู่ แต่พอ ตอนลงนี่ละซิ เซียน ๆ ยังเหว๋อ ขนาด ล่อ เอ็นจิ้นเบรคที่เกียร์สองซึ่งว่าชิดแล้ว รอบเครื่องยังยันไปถึง 3500 รอบ เบรคนี่ เกือบจะ fade กันทีเดียวคะ (จะได้ลงเหวกันแร๊ววว)  ((ที่ว่ามานี่ฟังจากคนขับอีกที่ค่ะ)) ส่วนน้องติ๊ก นอนตายอยู่ เบาะหน้า แร๊วว ม่ายหวาย เมา

ในที่สุด....ก็มาถึงดอยปุย จากทางด้านหลัง....หุ ๆ รถราเริ่มเย้อะมากขึ้น  ก็ แวะพาแม่ ๆ  น้อง ๆ ชมสวนดอกไม้ในอุทยานนี้ เสียค่าเข้าชมกันท่านละ 150 บาท แพงจัง แต่ บรรดาแม่ ๆ ดูเหมือนจะไม่ถูกใจเอาซะเลย ก็เลยใชเวลาอยู่ในสวนเพียงแป๊บเดียว

เปิดตะกร้าให้น้องโยโย่ กะบูบู้ ชมดอกไม้ สักหน่อย ค่ะ


ชักภาพ นิ๊ดนึง หนู ๆ ออกมาชมดอกไม้กันนะจ๊ะ แต่ห้ามบินน้า เด็ก ๆ


สวยจังเรย

ดอกอะไรไม่รู้เหลืองเต็มไปหมด


สวนน้ำพุก็วางหินได้งดงามจริง ๆ นางแบบเป็นหลานติ๊กเองคะ


เอ๊า หนึ่ง  ..  สอง...  สาม  ชักภาพหมู่จ้า ไปตั้งหลายที่มีภาพหมู่แบบนี้ ไม่ถึง ห้าใบ
เฉาก๊วยขาว ++ เล่าเรื่อง ++++ :-D

bios_m

RE-AMEMIYA : ลมป่าภูเขาไฟ

tuktik2255

จากที่ดอยตุงนี้ ได้อุดหนุนสินค้าเพียงอย่างเดียวคือ ถั่ว แม็กคาเดเมีย ราคาแพงมาก ๆ ไม่เคยกิน แต่ ลองดูค่ะ 80 บาท มีกี่เม็ด คิดราคาราว ๆ เม็ดละ 5 บาท อูวววว  หลังจากกินแล้ว.....  เม็ดมะม่วงหิมพานบ้านเราน่าจะคุ้มค่ากว่า

ออกจาก ดอยตุงก็ มุ่งตรงสู่แม่สอดข้ามไป แดนพม่า ตรงจุดนี้ น.นก ของติ๊ก ไม่ได้ ไปด้วยเพราะต้องเสียเวลาทำ บอเดอร์ pass พอดี บัตรประจำตัวนกไม่ได้เอามาด้วย จะใช้ห่วงคล้องขาแทนก็ไม่ได้ก็เลยอดไปนะจะ โย่จ๋า   ความจริงกลัวติดโรคจากฝั่งโน้นมามากกว่า งานนี้ โย่ กะ บู้ เฝ้ารถค่ะ  แต่เสียดาย งานนี้กล้องไม่กล้าพกไป เงินสดเอาไปแค่ คนละพันเดียว กลัวจะโดนฉกค่ะ บ้านป่าเมืองเถือน หรือเปล่าก็ไม่รู้ แต่อยากจะไปค่า  เสียค่า ธรรมเนียมบ้านเรา 30 บาท และค่าเหยียบประเทศมันอีก 20 บาทค่ะ

เดินดู ๆ ไป มือถือโนเกีย รุ่นท๊อป ๆ นี่ทำเหมือนทีเดียวแต่เปิดมาไม่ใช่ รวมถึง pocket PC รุ่นใหญ่ๆ อย่าง samsung Omnia นี่ บ้านเรา สองหมื่นกว่า ที่โน่น แปดพัน หะ ๆ  i phone 3G ก็มีนะ  เครื่องละไม่ถึงหมื่น โอววว แต่เอามาเปิดดู  บ๊ะ  นี่มันอะไรฟระเนี้ย os ไม่ใช่ apple แฮ้ะ  ดูแล้วขำ ๆ ลดราคากระหน่ำ เลยไม่เอาดีก่า มีปัญหา เดือดร้อนอีก

ก็เลยผ่าน ๆ เข้าไปซื้อของถูก ๆ ประเภท หิ้วตะกร้าคล้องคอมาขาย

คนขาย: นาฬิกาปลุก  20 เอามั้ย
เรา         ไม่เอา
คนขาย   งั้น 10 บาท
เรา         ไม่เอา
คนขาย    เอ๊า ๆ ห้าบาท
เรา          โอยยไม่เอาหรอกค่า ไม่รู้จะเอาไปทำไร
คนขาย    อะ อะ  ให้ฟรี    

อิ ๆ  มาฟอร์มเดียวกันหมด เรย พอดีคุณแม่ อดใจไม่ใหว ลูกตึ้อ เลยเอามา 20 ได้เกือบหมดตะกร้ามันเลยค่ะ  ถุงเท้า ไฟฉาย ไฟแช้ก นาฬิกาปลุก ทำนองนั้น

เดินกลับมาที่รถ ยังไม่ถึงดี เจ้าโยโย่ ได้ยินเสียงเดินมาแต่ไกลก็เปล่งเสียงเรียก  แกว๊ก ๆ ซะแล้ว แสดงว่า พวกนี้มันรู้ว่าเรากำลังเดินมา ก็เลยให้กินเก๋าลักที่ซื้อมาจากฝั่งพม่าสบายไป


นี่ๆ  ยังมีอีกเรื่องเกือบเสียฟอร์ม แน่ะ เกือบโดนหลอกขายปูทะเล โลละ 50 บาท ตัวเบ่อเริ่มแน่ะ ซื้อ หนองมนมีไม่ต่ำกว่าโลละ 300 แน่ ๆ เลยหยิบมา 8 ตัว เป็น ๆ คิดคร่าวๆ  ไม่น่าเกิน 4 โล ก็ แค่ สองร้อย พอมันเอาไปชั่ง โอ๊ววว 7 โล แม่เจ้า พอแม่เริ่มโวยวาย มันก็มากระซิบบอกว่า กิโลพม่า มัน 7 ขีด กิโลไทย 10 ขีด  บ๊ะ  เอาเปรียบกันชัด ๆ กิโลกรัมนี่มันเป้น หลักชั่ง สากลไปแล้วไม่ใช่เร๊อ เหมือนกับ ปอนด์  ซีซี เมตร กิโลเมตร  แสดงว่า บ้านมัน หนึ่งกิโลเมตร มี 700 เมตรเหมือนกันหรือไง  หว๋า แต่ก็ ไม่เป็นไร คิดเงินแล้วยังแค่ 350 บาท  ถูกกว่าเห็น ๆ ก็เลย เอามา   แต่พอมันกำลังใส่ถุง พอดีแม่เหลือบไปเห็นว่า มันกำลังเอาปูที่ตายแบบ....  ข้อจะหลุดแล้วกำลังใส่ให้ แต่ ก็ไม่ได้เอะใจอะไรนึกว่าของคนอื่น แต่พอมันใส่ถุงให้เราก็เลยโวยวาย เฮ้ย ไอ้ที่เลือกไว้เป็น ๆ ไปอยู่ใหนหมด พอเห็นท่าไม่ดี มันรีบ วิ่งกลับแดนมันเลย ตามไปทำไรมันไม่ได้ หะ ๆ เลยอดกินปูเลย

ตลอดทางยังไม่เจอร้านขาย สตรอเบอร์รี่เลยสักร้าน ส่วนคุณแม่ ก็อยากจะเห็น สวนสตรอเบอรี่สักครั้งหน้าตาเป็นยังไงถามชาวบ้านเค้าบอกว่า ต้องไปอ่างขางโน่นนน !!    อุ้ยหย๋อ  สถานที่เที่ยวใหม่ บังเกิดขึ้นแล้วจิ แต่ตอนนี้เราอยู่เชียงรายนะ  ยังไม่ได้ ไป ภูชี้ฟ้าเลยค่ะ.....

คืนนี้ก็ เลยพักแถว ๆ สามเหลี่ยมทองคำไม่ต้องกางเต้นท์ พอดีได้บ้านพักหลังใหญ่ ราคา คืนละ 700 มีน้ำอุ่น ว๊าววว สบายไป
เฉาก๊วยขาว ++ เล่าเรื่อง ++++ :-D

tuktik2255

มาโพสเข้าเรื่องต่อดีก่า

หลับสบาย คืนนี้ไม่ได้ กางเต้นท์ และตอนเช้าก็ไม่ต้องตื่นมาเก็บ ไม่เหนือย แต่ ก็ด้วยความนอนสบายจัด กว่าจะพร้อมเดินทางต่อปาไป 10โมงเช้าเหมือนทุกวันออกจาก เกสเฮ้าส์แล้วก็ มาใหว้พระใหญ่ บนเรือทีเกยฝั่ง เอ.. หรือต้องบอกว่า ฝั่งที่ทำเป็นเรือน้าหะ ๆ



มองด้านตรงก็ สวยไม่ใช่เล่นค่ะ แต่เวลานี้ถ่ายรูปไม่ได้แล้ว แดดแยงตาเอามาก ๆ แต่เห็นแดดแรง ๆ อย่างนี้ อากาศยังเย็น เฉียบอยู่เรยค่ะ


ไปแวะนั่งถ่ายรูปรายทางเล็กน้อยก่อนไปรับประทานอาหาร


แล้วก็รับประทานอาหารเช้ากันด้วยเวลา 11 โมงกว่า ๆ จะเที่ยงอยู่แร๊วว

เห็นร้าน ดู ลูกทุ่ง ๆ แบบนี้ ราคานี่ อินเตอร์เลยค่ะ รสชาต อาหารก็ไม่ถึงกับ ทุเรศซะทีเดียว แต่ส่วนใหญ่ ไม่อร่อยค่ะ สงสัยนั่งไม่ถูกร้าน
เฉาก๊วยขาว ++ เล่าเรื่อง ++++ :-D

SeaTao

นกสวยดีครับ

อากาศหนาวขนาดนั้น

เป็นผมนอนอยู่บ้านกะนกแน่นอน

อิอิ

samurai


tuktik2255

ยังไม่จบน้า งานเข้าเย้อะมาก ๆ เดี๋ยวมา ต่อ ยังเหลืออีก สองที่จะมาพรีเซ็นต์ให้ชมกัน จ้า


อ้างถึงsamurai เป็นผู้เขียน:
น่าสนุกจัง พี่ติ๊กไม่อาบน้ำแน่ๆเลย หนาวขนาดนั้น อิอิ

แหม๋ ๆๆ ...ทำเป็นรู้ดี... อิอิ     :-D  :-D

เกลียดจริงเชียวคนรู้ทัน เฮ้ออออ
เฉาก๊วยขาว ++ เล่าเรื่อง ++++ :-D

onlyA


ด.ช.หาด

ไปอยู่เชียงรายช่วงเดียวกะ อู๋เลย แถมไปเที่ยวที่เดียวกันอีกตะหาก 555
หนึ่งในสมาชิก แก๊งค์ "จู้ฮุกกรู"