มือใหม่หัดเลี้ยง มีข้อสงสัยแบบนี้คือไรบ้าง(นกBG)

เริ่มโดย กานต์, สิงหาคม 05, 2009, 07:40:28 หลังเที่ยง

หัวข้อก่อนหน้า - หัวข้อถัดไป

0 สมาชิก และ 1 ผู้มาเยือน กำลังดูหัวข้อนี้

กานต์

1. ฮัจชิ้ว บ้าง แต่ไม่มีน้ำมูก(เห็นคนโพสบอกว่าในกระเพาะอาจเป็นเชื้อราเลยกลัวไว้ก่อน)
2. เราจะเริ่มให้อาหารน้อยลงเมื่อไรอายุน่าจะราว3เดือนโดยประมาณ
3. ขี้นก สีแบบไหนถึงจะดี พอลงรูปให้ดูได้ไหม?
4. ถ้านกกิน ถั่ว ข้าวโพด เมล็ดทานตะวัน ขี้จะออกสีอะไร
5. ถ้านกขี้แล้วมีน้ำใสๆออกมามากแสดงว่านกกินน้ำมาก และ เรา ป้อนอาหารนกที่ผสมน้ำมากไปหรือไม่?
6. ป้อนอาหารปริมาณขนาดไหน(ถ้าใช้ไซลิ้ง)ถึงขนาดที่ว่าไหลเข้าหลอดลม
  ทั้งหมดนี้ บางข้อตอนแรกรู้ บางข้อก็ไม่รู้ แต่ถ้ามีใครคนไหนพอทราบรบกวนตอบที เพราะบางคนอาจมีนกแต่ไม่รู้จักธรรมชาติของมันว่า แบบนี้ มันดีไหมขี้เหลวยังไงประมาณนี้ ขอบคุณครับ. :-D

...

อ้างถึงกานต์ เป็นผู้เขียน:
1. ฮัจชิ้ว บ้าง แต่ไม่มีน้ำมูก(เห็นคนโพสบอกว่าในกระเพาะอาจเป็นเชื้อราเลยกลัวไว้ก่อน)
2. เราจะเริ่มให้อาหารน้อยลงเมื่อไรอายุน่าจะราว3เดือนโดยประมาณ
3. ขี้นก สีแบบไหนถึงจะดี พอลงรูปให้ดูได้ไหม?
4. ถ้านกกิน ถั่ว ข้าวโพด เมล็ดทานตะวัน ขี้จะออกสีอะไร
5. ถ้านกขี้แล้วมีน้ำใสๆออกมามากแสดงว่านกกินน้ำมาก และ เรา ป้อนอาหารนกที่ผสมน้ำมากไปหรือไม่?
6. ป้อนอาหารปริมาณขนาดไหน(ถ้าใช้ไซลิ้ง)ถึงขนาดที่ว่าไหลเข้าหลอดลม
  ทั้งหมดนี้ บางข้อตอนแรกรู้ บางข้อก็ไม่รู้ แต่ถ้ามีใครคนไหนพอทราบรบกวนตอบที เพราะบางคนอาจมีนกแต่ไม่รู้จักธรรมชาติของมันว่า แบบนี้ มันดีไหมขี้เหลวยังไงประมาณนี้ ขอบคุณครับ. :-D

ตอบได้แค่ข้อ 2 และ 6

ข้อ 2  ลูกนกเริ่มขนเติม  กระเพาะจะเริ่มคืนตัว  จะเริ่มเล็กลง เช่นเคยกิน 100 CC  ก็อาจจะเหลือ 80 แล้วก็ 50 ประมาณนั้น  แล้ว ก็จะเริ่มที่จะกินอาหารสด มากยิ่งขึ้น  แต่อาจจะต้องยังป้อนอาหารเสริม  บ้าง

ข้อ 6

ลองจับปากนกอ้าออก  มองเข้าไปภายในช่องปาก  

หลอดลมของนกจะอยู่บริเวณโคนลิ้น    เป็นช่อง ๆ

ถามว่าป้อนแค่ไหนถึงจะมีโอกาสอาหารไหลเข้าสู่หลอดลมได้ ??  

ขึ้นอยู่กับตัวนก และลักษณะการนอนของลูกนกด้วย  รวมถึงลักษณะอาหารที่ชง  

ที่บอกเช่นนี้ก็เพราะว่า อาหารถ้าชงเหลวเกินไป  รวมถึงป้อนในปริมาณที่อาจจะไม่เยอะ  เมื่อลูกนกนอน  อาจจะมีการกดทับบริเวณกระเพาะอาหาร  กดอาหารในกระเพาะอาหารให้ไหลย้อนเข้าหลอดลมได้   ( แต่ไม่เสมอไป แต่ก็มีโอกาส )

ป้อนข้นเกินไป  อาหารอาจจะย่อยช้า  ทำให้กระเพาะอาหารทำงานลำบาก  

ก็ชงอาหารข้นพอดี ๆ ไม่ป้อนให้เยอะ จนเกินไป  แต่หมั่นป้อนบ่อยและถี่  ในแต่ละมื้อ  เพื่อป้องกันทุกสิ่งทุกอย่างที่อาจจะเกิดขึ้นได้ครับ  

คงบอกได้แค่นี้ครับ  

ปล. ส่วนข้ออื่น ๆ คงต้องรอพี่ ๆ เพื่อน ๆ มาให้คำตอบครับ

กานต์

รบกวนคุณปู่อีกรอบครับ แล้วสังเกตุไง ว่า กระเพาะมันเล็กลง แต่ตอนนี้ ขนเริ่มเต็มแล้วนะ (เจ้าหนูจำไม) ถามตลอดอย่าว่านะ

...

จากการจับ คลำดูครับ  สมมุติเคยกิน เต็มที่ 100 CC กระเพาะจะเป่ง เต็มที่  แต่อาจจะไม่ถึงกับตึงแข็ง หรืออาหารเคยอยู่ในระดับเลยกระเพาะขึ้นมาถึงบริเวณคอ

แต่ถ้าวันไหนป้อนเข้าไป 100 CC  กระเพาะเริ่มเป่งตึงมากกว่าในช่วงแรกที่เคยป้อน    แล้วอาหารมันเอ่อขึ้นมาถึงกึ่งกลางคอ  เช่นกัน  ก็แปลว่ากระเพาะเขาเริ่มแฟบลงครับ  

นึกภาพออกไหมหว่า หุหุ

นกขนเริ่มเต็มแล้ว  ก็ควรเริ่มให้อาหารสดจำพวก ฝรั่ง ข้าวโพดดิบ แอ๊ปเปิ้ล  

โดยสังเกตการกัดแทะอาหารสดครับ  แต่อย่าถึงขั้นหยุดที่จะป้อนอาหารเลยน๊ะครับ  เช่น เคยให้ เช้า กลางวัน เย็น  มื้อละ 100 CC  ก็อาจจะลดปริมาณลงเหลือสัก 80 CC ป้อน เช้า และเย็น แทน  

โดยช่วงนี้ปล่อยให้เขาเริ่มกัดแทะอาหารสดแทน  อาหารที่เขาจะกินเข้าไป ( อาหารสด ) อาจจะได้เพียง 10 %  เท่านั้น  เมื่อลูกนกเริ่มหิว  ก็จะกินอาหารสดเพิ่มมากยิ่งขึ้น  เป็นการลดอาหารป้อน เป็นอาหารสด  เมื่อเขาเริ่มกินอาหารสดได้มากยิ่งขึ้น  อาหารป้อน อาจจะต้องลดปริมาณ CC ลงครับ  ตามลำดับ

อธิบายเอง  งงเอง  หุหุ

macawbab

ขอถามด้วยนะครับ พอดีคล้ายๆกัน จามแต่ไม่มีน้ำมูก แต่จามไม่บ่อย

ของผมอายุ 2เดือนแต่ทำไมมันเริ่มกินน้อยลงแล้วครับ ปกติ ขอกินไม่หยุดเลย อิ่มแล้วก็ไม่หยุด เดี่ยวนี้ กินๆอยู่ดีๆเดินหนีเฉย

กานต์

คล้ายกันด้วย ช่วงนี้ ตอนเช้ากะ กลางวัน ไม่ค่อยโช้คเลย แล้วพอให้อาหารจะเดินหนี แต่ตอนกลางคืน โช้คแรงดี เช้ากะ กลางวันต้องบังคับ เพราะ พวกเมล็ดทานตะวัน กับ ข้าวโพด ได้แต่แทะเล่น ให้ยาวิตามินสีแดงที่เป็นผง เกี่ยวกับหน้าเริ่มแดงรึเปล่าครับ(ให้แค่1/4ของแคปซูลโดยประมาน) แล้วขี้สีไรบ้างครับ คุณ macawbab

...

สันนิฐานจากอาหารที่กินเข้าไป  ถ้ายังกินอาหารลูกป้อน  และมีอาหารสดบ้าง  มูลที่ถ่ายออกมาควรเป็นสีเหมือนอาหารทีป้อน + อาหารสดจะออกสีเขียว ๆ  แล้วก็มีขาว ๆ ( คือยูริค ) แล้วก็น้ำ

ถ้าตราบใดที่มูลไม่มีสีเขียวเข้มจนออกสีดำ  และถ่ายเหลว... จนเกินไป ( ถ้าถ่ายเหลว ต้องดูบริเวณก้นด้วยว่ามีมูลติดบริเวณรอบก้น และเกิดอาการอักเสบ )  ก็อาจจะเกิดจากท้องเสีย

ก็อย่าพึ่งไปวิตกกังวลอะไรมาก ๆ ครับ  รักษาความสะอาดอุปกรณ์การป้อน  สถานที่เลี้ยง  ให้สะอาด เปลี่ยนขี้เลื่อย กระดาษ และอื่น ๆ สม่ำเสมอ  ก็คงไม่ต้องกังวลอะไรครับ  

ส่วนอาการกินน้อย กว่าเย็น  เย็นกินมากกว่าค่ำ ๆ และอื่น ๆ  ก็ขึ้นอยู่กับลักษณะการชงของอาหาร + ปริมาณอาหารที่กิน  ถ้าอาหารขนมาก  ก็อาจจะอิ่มทนนาน ( เหมือนข้าวเหนียวในคนอะปล่าว อิ่ม หนักท้อง ง่วงนอน หุหุ )  

แต่ถ้ากิน และย่อยในระยะเวลาที่สม่ำเสมอ  ไม่เกิน 4 - 6 ชม. ต่อมื้อ  ก็คงไม่น่ามีปัญหาอะไรครับ  

ช่วงนี้อากาศเปลี่ยนแปลงบ่อย ๆ ต้องระวังเรื่องสถานที่วางกรง  วางตะกร้า  อย่าให้ถึงกับลมโกรก หรือชื่นเย็น จนเกินไป  รวมถึงถ้าร้อน ก็อย่าเอาพัดลมเป่า   เพราะอากาศเปลี่ยนนกก็อาจจะป่วยเล็ก ๆ น้อย ๆ แต่ถ้าไม่มีอะไรมากจนเกินไปก็ไม่มีปัญหา

วันไหนบริเวณรูจมูกเป็นวงแดง ๆ สันนิฐานไว้ว่านกเริ่มมีอาการหวัด  ก็ต้องเริ่มรักษา  แต่ทางที่ดี ป้องกันไว้ก่อน เพราะลูกนกเมื่อเป็นอะไรแล้ว .....  รักษาคอนข้างลำบาก  และระยะเวลาในการสูญเสีย  ไม่เอื้อยอ้อยซ้อย  น๊ะครับ  เร็วมาก แบบติดจรวดจริง ๆ

ระวังเรื่องการสำลักของอาหารขณะป้อน  และ  ปริมาณอาหารที่อาจจะมีโอกาสย้อยเข้าสู่หลอดลมได้ขณะนอน

ขอให้มีความสุขกับการเลี้ยงนก ขอรับกระผม

แชร์ขอมูลที่พอทราบ  หวังว่าคงเป็นประโยชน์กับท่านผู้เลี้ยงไม่มากก็น้อยครับ

macawbab

คุณกานนกน่าจะอายุมากกว่าผม ประมาณ10วันหรือป่าวครับ

ของผมขี้ปกติ จามนิดๆ ไม่มีน้ำมูก แต่กินน้อยลง แต่ก่อนไม่มีอิ่มเดี่ยวนี้ประมาณ 50ซีซี เดินหนีครับแต่ก่อน 100นิดๆ

กานต์

ขอบคุณคุณปู่มากครับ ได้ลองเติมน้ำในอาหารลูกป้อนมากขึ้น ก็จะมีน้ำมากขึ้นเวลานกถ่าย แล้วสีเหมือนที่บอกเลยครับ คล้ายอาหารลูกป้อน
ตอบคุณ macawbab นกเราเห็นพี่เขาบอกว่า น่าจะ 3 เดือนแล้วนะเพราะตรงห่วงขาดูไม่เป็นเลขไม่ชัด + ไม่ทราบวันเกิดแน่นอน ต้องให้พี่เชดตอบทีจ้า
แล้วก็ อาหาร ผมป้อน เช้า 80-100 cc   กลางวัน 80ไม่เกิน   เย็น6โมงเย็น เอามันออกมาบิน แค่ถือสายยาง มันก็ตามมาเอง ได้ไป 100-110cc ได้  พอดีนอนดึก บางทีเห็น เที่ยงคืนหมด ผมก็ให้ไปอีกมื้อ ราว 60 cc ของผมใส่วิตามินสีแดงด้วยอ่ะครับ แล้วน้ำมันตับปลา1เม็ด เฉพาะเย็น ขอเบอร์ติดต่อคุณ macawbab ด้วยครับ มีไรได้ ช่วยๆ กัน ของผม 086-0525525 :-D

macawbab

ของผมตอนเริ่มนอน มันชอบละเมอ แบบว่า โอ๊กเอ๊กเสียงดังมากๆ

หลับตาแล้วร้องผิดปกติไหมครับ

กานต์

หลับแล้วไม่มีร้องครับ มีแต่หลับ กับ คันตัวมัน แต่ไม่มีตัวไร นะ ขอ msn ไว้คุยหน่อยจ้า

macawbab

นกเหมือนจะหอบๆนี่เป็นอะไรหรอคับหายใจทางปากด้วยบางครั้ง

กานต์

ผมว่าน่าจะกระพือปีกครับ แล้วมันเหนื่อยเหมือนหมา มันจะหอบๆ ซักพักหายเอง แต่ไม่ใช่ว่าหายใจอ้าปากตลอด จมูกนกของคุณสีออก ชมพูระเรื่อรึเปล่าครับ ผม มันออกสีแบบนั้นตรงวงรอบจมูก กลัวเหมือนที่คุณปู่บอกว่า แดงแล้วมันจะเป็นหวัด  กะว่าให้ ตะไคร้หอม กินเล่น แก้คัดจมูก สมควรไหมไม่รู้ กลัวเป็นหวัดรักษายาก
 ขอเบอร์คุณได้ไหมครับ เผื่อผมมีไรเราจะได้ปรึกษากันได้ thx

macawbab

msn otto_aong@hotmail.com
เบอร์โทร 0830929425

แต่ผมไม่มีอะไรให้ปรึกษานะครับ 555

กะว่าจะพาไปหาหมอละ

กานต์

โรคและการรักษานกเลี้ยงตระกูลนกแก้ว (รหัส 18510075)

   นกในตระกูลนกแก้ว (Psittacines) บางครั้งก็เรียกว่านกปากขอ (Hook Billed Bird) จัดเป็นนกที่ได้รับความนิยมและนำมาเป็นสัตว์เลี้ยงกันอย่างมาก เนื่องจากสีสันหลากหลาย สวยงามฉลาดฝึกง่าย บางชนิดพูดเลี่ยนเสียงได้ดี มีหลายขนาดให้เลือก เลี้ยงง่าย (กินพืชเป็นหลัก) แข็งแรงและอายุยืน สำหรับในบ้านเราแล้วนกตระกูลนกแก้วที่ได้รับความนิยมมากเห็นจะได้แก่นกในกลุ่ม "นกกระตั้ว" (Cockatoo) ซึ่งมีถิ่นกำเนิดจากอินโดนีเซีย และออสเตรเลีย แต่ปัจจุบันนกกระตั้วสามารถขยายพันธุ์ในฟาร์มได้เป็นจำนวนมาก นกที่นำมาขายในตลาดสัตว์เลี้ยงจึงมีส่วนหนึ่งที่เป็นนกเกิดจากฟาร์มซึ่งผ่านการคัดเลือกพันธุ์มาหลายชั่วอายุแล้ว ขณะเดียวกันเนื่องจากความที่มีผู้นิยมสูง ตลาดกว้าง บางรายจึงใช้วิธีลักลอบจับลูกนกจากรังตามธรรมชาติออกมาขายเพื่อลดค่าใช้จ่ายจากการลงทุนเลี้ยงพ่อแม่พันธุ์ และรอการขยายพันธุ์ลูกนกที่ได้มาด้วยวิธีเหล่านี้มักจะมีปัญหาทางสุขภาพเนื่องจากขาดมาตรฐานการเลี้ยงและขยายพันธุ์ที่ถูกวิธี รวมถึงการลักลอบนำมาขายซึ่งปราศจากการควบคุม และกำจัดโรคต่าง ๆ สัตวแพทย์จึงพบปัญหาที่ต้องแก้ไข และค่อนข้างเรื้อรังอยู่เนือง ๆ
   นกตระกูลนกแก้วที่ได้รับความนิยมนำมาเป็นสัตว์เลี้ยงอีก คือ นกแก้วอาฟริกัน เกรย์นกแก้วอะเมซอน นกหงส์หยก นกเลิฟเบิร์ด นกคอกคาทีล นกแก้วอิเลคตัส และนกมาคอร์ ซึ่งมีถิ่นที่มาแตกต่างกันตั้งแต่อเมริกาใต้       อาฟริกา ไปจนถึงออสเตรเลีย

การแยกเพศนก
   เราสามารถแยกเพศนกออกได้โดยวิธีต่าง ๆ ดังนี้
1.   ใช้ความแตกต่างที่ปรากฏภายนอกให้เห็น เช่น สีขน สีปาก รูปร่าง ขนาด ฯลฯ
2.   ขนาดความแตกต่างของช่องเชิงกราน
3.   ตรวจดูอัณฑะ และรังไข่โดยใช้กล้องส่องตรวจภายในช่องท้อง
4.   การตรวจ DNA จากเลือด หรือโคนขน
5.   ดูพฤติกรรมจำเพาะของแต่ละเพศ
ความแตกต่างระหว่างเพศที่ปรากฏภายนอกในนกเลี้ยงตระกูลนกแก้วบางชนิด

ชนิด   เพศผู้   เพศเมีย
นกกระตั้ว   ตาเป็นสีดำ   ตาเป็นสีแดง
นกหงษ์หยก   จมูกสีเขียวหรือฟ้าเข้ม   จมูกสีน้ำตาลอ่อนถึงฟ้าจาง ๆ
นกคอกคาทีล   หน้าและแก้มสีเหลือง   ห้าและแก้มไม่มีสีเหลือง
นกแก้วอิเลคตัส   สีเขียวทั้งตัว   ตัวสีแดงและม่วง

โรคสำคัญที่ควรรู้ของนกตระกูลนกแก้วและการรักษา
   * Chlamydiosis
   Chlamydiosis หรือ Psittacosis หรือ Ornithosis หรือ Parrot Fever หรือไข้นกแก้ว เป็นโรคติดเชื้อของระบบทางเดินหายใจที่พบบ่อยในตระกูลนกแก้ว (Psittacine) และนกพิราบ (Columbinidae) สามารถติดต่อถึงมนุษย์ได้เช่นกัน

   สาเหตุ :
   เกิดจากเชื้อ Chlamydia หรือ Chlamydia psittaci ที่ถูกขับออกมากับน้ำมูก น้ำลาย และอุจจาระของนกป่วย ซึ่งสามารถปลิวเป็นละอองเล็ก ๆ เข้าสู่ระบบทางเดินหายใจของนกตัวอื่นหรือปะปนกับน้ำและอาหารที่กินเข้าไป ทำให้เกิดการแพร่ระบาดและติดเชื้อนี้

   อาการ :
1.   ซึม ไม่กินอาหาร
2.   น้ำหนักลด ผอมอกแหลม ขนยุ่งเหยิงสกปรก
3.   ท้องร่วง ปัสสาวะที่ปนออกมาเป็นสีเขียวมรกต (Biliverdinuria) ซึ่งเป็นจุดเด่นจำเพาะของโรคนี้
4.   ตาอักเสบ
5.   โพรงจมูกอักเสบ
6.   หายใจลำบาก
7.   อาจชัก หรือเป็นอัมพาตตอนท้ายของลำตัว

การตรวจวินิจฉัย :
1.   จากประวัติและอาการที่ปรากฏตลอดจนปัสสาวะที่เป็นสีเขียวก็พอช่วยได้บ้าง
2.   ตรวจทางห้องปฏิบัติการโดยวิธี Direct Complement Fixation (DCF), Latex Agglutnation (LA) หรือแยกเชื้อโดยตรง ฯลฯ
3.   ผ่าซากชันสูตรจะพบวิการที่เห็นด้วยตาเปล่าที่เป็นข้อวินิจฉัยสำคัญ คือ Hepatomegaly, Splenomegaly ผนัง Air Sacs หนาและขุ่น  และ Fibrinous endocarditis

การรักษา :
1.   Chlortetracycline ผสมอาหาร ขนาด 5000 ppm. กินติดต่อกันนาน 30 วัน
2.   Oxytetracycline ฉีดเข้ากล้ามเนื้อ ขนาด 75-100 มก./กก.
3.   Doxycyline ฉีดเข้ากล้ามเนื้อ ขนาด 100 มก./กก. ทุก 7 วัน
4.   ถ้านกไม่กินอาหารให้ใช้การรักษาประคับประคองเสริมไปตลอด


คำแนะนำ :
1.   นกในตระกูลนกแก้วทั้งหลายควรให้การป้องกันโรคนี้โดยใช้ Chlortetracycline ผสมอาหารขนาด 0.5 มก./อาหาร 1 กรัม กินติดต่อกัน 45 วัน
2.   ควรเลือกซื้อนกจากแหล่งที่น่าเชื่อถือ เช่น ฟาร์มนกที่มีคุณภาพ
3.   แยกนกที่มีอาการน่าสงสัยออกมาทำการตรวจและรักษา
4.   โรคนี้สามารถติดต่อจากสัตว์มาถึงคนและเป็นอันตราย ดังนั้นต้องแจ้งให้เจ้าของสัตว์ทราบและป้องกันเสียแต่เริ่มเลี้ยง
5.   โรคนี้สามารถรักษาให้หายขาดได้แต่ใช้เวลาพอสมควร