เรารักนกแบบผิดๆกันอยู่หรือเปล่า ขอสำนึกกันหน่อย

เริ่มโดย kit_sailom, ตุลาคม 19, 2009, 08:17:25 หลังเที่ยง

หัวข้อก่อนหน้า - หัวข้อถัดไป

0 สมาชิก และ 1 ผู้มาเยือน กำลังดูหัวข้อนี้

"จิ" พัทยา

คิดเหมือนพี่น้อยค่ะ  นานาจิตตัง  พ่อ-แม่นกที่บ้านจิก็ โตมาจากลูกป้อน  และด้วยความที่ป้อนมันมากับมือ ก็เลยรู้ว่า พ่อ-แม่ของมัน คงไม่ได้สอนมันให้เป็นนกที่ดีได้ และไม่เคยสอน กกไข่ ไม่เคยสอนกินอาหาร แต่ทุกวันนี้ พ่อ-แม่นกคู่นี้ ก็ ออกไข่มา  หลายครอกแล้วด้วย กกไข่เอง เอง(ทั้งๆที่ พ่อ-แม่ ของมันไม่ได้สอนมันมาเลย)  พอออกเป็นตัว พ่อ-แม่นกคู่นี้ก็ป้อนลูกเอง ลูกก็สมบูรณ์อ้วนตุ้บ กว่าที่เราล้วงออกมาป้อนเสียอีก   ดังนั้นเลยคิดว่า ธรรมชาติ ของนก เราอย่าไปคิดแทนนกเลยค่ะ คนกับนก คงคิดตรงนี้ต่างกันไป

       ยังจำกรงบินบ้านกลางกรุง ของ เจ้าของกระทู้ได้ อยากถามว่า ตอนนี้ เป็นอย่างไรบ้างแล้วคะ ไม่เห็น เอาข่าวคราวความคืบหน้ามาบอกเล่าเลยคะพี่ จะได้ เป็นวิทยาทาน ต่อน้องๆ ต่อไปว่า ถ้ากรงกว้างๆ นกจะอยู่ดี มีสุข หรือเป็นอย่างไรแล้ว  ต้นไม้ที่อยู่ในกรง ยังอยู่ดีไหม อัพเดทให้ดูพร้อมภาพด้วยสิคะ ยังติดตามอยู่ค่ะ

achurapan

ถ้าเราซื้อมาแล้วเลี้ยงดูเค้าให้มีความสุข สุขภาพจิตดี

ก็คงจะดีมั้งคะ

แต่ถ้าซื้อมาเลี้ยงทิ้งๆขว้างๆก็คงจะแย่หน่อย

วีดีโอโหดร้ายมากๆ

ลูกเจี๊ยบออกจะน่ารักขนาดนั้น
[color=FF33CC]สู้ ๆ ๆ __________ สู้ เพื่อ น้อง นก ~ สู้ โว้ย ย[/color] :-P

kit_sailom

ก็นึกและเคารพในคำวิจารณ์ในแต่ละด้านของคนที่รักนกทั้งหลาย ในมุมมองที่ออกจะเห็นแก่ตัวนิดๆกันทั้งนั้น เนื่องจากคนเราก็มีกิเลสกันมากน้อยต่างกัน ธรรมชาติของนกนั้นแท้จริงก็คือ  ตัวการแพร่พันธ์เมล็ดพืชครับธรรมชาติสร้างสมดุลเอาไว้เหมาะสมหรือจะเป็นพระเจ้าก็ได้ที่สร้างปีกให้แก่เขาแล้ว เขาจะบินเป็นกิโลจากต้นไม้หนึ่งไปสู่ที่ๆหนึง นี่เป็นสาเหติที่ให้เขาบินได้ประโยชน์ในการแพร่เม็ดพืช ส่วนนกกินพืชกินสัตว์หน้าที่จะต่างกันไป แต่วันนี้หน้าที่ทุกอย่างจะผิดเพี้ยนไป แต่ก็คงยอมรับได้ว่าสมดุลธรรมชาติกำลังจะล่มสลายในไม่นานนี้แน่นอนไม่เวอร์หรอกนะพูดจริง แต่ก็ขอให้ผมตายก่อนและกัน  กะทู้ที่ผมตั้งให้คิดนี้ เป็นความเห็นแวบหนึ่งที่ผ่านมาในหัวในขณะที่มองตานกที่กำลังป้อนแล้วคิดไปว่าเรามานั่งทำอะไรที่ผิดหน้าที่อยู่หรือเปล่า?????ก็แค่นั้นเองนะ    ก็ทำให้คิดว่าเจ้านกที่ผมไปเอาไข่มาฝักนี่มันก็เลี้ยงลูกไม่เก่ง ไม่ยอมกก สักที  คิดไปคิดมาก็ย้อนไปอีกว่า สงสัยนกคู่นี้เกิดมาจาก นกที่เอาไข่มาฝัก จึงขาดทักษะในการกกไข่เลี้ยงลูก  จนทำให้ผลที่ออกมาถ่ายทอดเป็นทอดๆจนนกสายนี้จะไม่สามารถช่วยตัวเองและขยายพันธ์ได้อีกต่อไปหากไม่มีมนุษย์ คอยช่วย นี่คิดในแนววิทย์นะ แม้แต่  spix macaw เองก็ต้องยอมรับว่าเขาก็หาทางในการรักษาพันธ์ไว้เช่นกันก็ควักไข่นี่แหละ  ก็เลยคิดว่า ถ้าทำได้ ก็จะไม่ไปยุ่งกับไข่นกอีกหากไม่จำเป็น นกที่เลี้ยงมาเชื่องระดับหนึ่งก็ไม่เอามาจี๋จ๋าจนเสียนก ก็แค่นี้แหละที่อยากนำเสนอ  ส่วนที่ไม่อยากกล่าวถึงกรงนกกลางกรุง ก็เพราะทุกวันนี้คนเรารู้หน้าไม่รู้ใจ เปิดตัวมากก็จะเป็นการเรียกโจรเข้าบ้าน เรารักของเราดีกว่าเงียบๆเลี้ยงนกให้ใกล้เคียงธรรมชาติมากที่สุดหากเราตายไปวันหนึ่งแล้วอยากเอาไปปล่อยเขาใหญ่  เขาก็จะไม่โดนจับเพราะความเชื่องเกินเหตุ หรืออดตายในธรรมชาติ ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อ หากเรารักใครมากเอาเขามากักขังแม้แต่ในกรงทอง  เขาก็เหมือนตายทั้งเป็นฉันใด ทุกวันนี้ผมก็เป็นเช่นนั้น ผูกพันธ์จนไปใหนข้ามคืนก็ไม่ได้  เพราะนกเหล่านี้เชื่องขนาดไม่ได้กินอาหารป้อนก็ร้อง โวยวาย โดยเฉพาะนกใหญ่ ก็คิดดู บ้านในซอยเงียบๆ แล้วนกร้องพร้อมๆกัน จะหนวกหูขนาดใหน๋ !!!!ก็กำลังจะขยายพื้นที่ไปนอกเมืองอยู่เป็น project กรงบินขนาดใหญ่ แต่ก็คำนวนขนาดตามปัจจัยอยู่ หากสำเร็จก็บุญของลูกๆมัน ที่ที่ว่านี้อยู่ มวกเหล็ก ใครอยากจะไปอยู่ก็เชิญ กำลังคุยกับเพื่อนทำนิคมคนรักนก นกใครจะแหกปากดังแค่ใหนก็เชิญ เพราะ คนเลี้ยงนกไม่ว่ากัน แบ่งคนละ 100 วา ขึ้น ไม่เลวนะ...............
ปล.ตอบคุณ จิ. โอ้โห ยังจำกระทู้เก่าของผมได้อีกนะ ตอนนี้กรงดูจะเก่าไปตามอายุแต่นกก็เปลี่ยนไปบ้าง ตามที่เห็นในรูป สมาชิคที่อยู่ก็มีทั้งถาวรและชั่วคราวผลัดเปลี่ยนไป อนาคต ที่นี่ก็คงต้องขยับขยาย ที่ดินมันแพง เอาว่าจะย้ายลูกๆไปอยู่แถวๆเขาอะครับ....