"ไปเที่ยวกันเตอะ จะได้หายเครียด"

[ด.ช.หาด]

"ไปเที่ยวกันเตอะจะได้หายเครียด" เป็นคำพูดที่ผมจะได้ยินเป็นประจำจากปากสาวสวยคนสนิท และปีใหม่นี้ก็เป็นอีกครั้งที่ได้ยิน
ทั้ง ๆ ที่ช่วงเทศกาลของทุก ๆ ปีผมก็จะต้องขับรถจาก กทม ไปยังเชียงรายเป็นประจำทุกปี ระยะทาง 750 กิโลเมตร มิได้เป็นอุปสรรคแม้แต่น้อยกับการที่ผมหรือใครหลาย ๆ คน ผู้ต้องการแสวงหาสิ่งแวดล้อมใหม่ ๆ มาเพิ่มเติมให้กับชีวิต แต่ในทุก ๆ ช่วงที่ได้ไปเชียงรายเมื่อไปถึง ผลออกมาก็จะเหมือนเดิมตลอดคือ อยู่บ้านนอน 555 (แล้วจะไปทำไมเนี่ย) แต่ปีนี้ แม่ตัวดีของผม นึกเอยปากชวนว่า ไปนอนบนดอยกันเตอะ อยู่ใกล้ ๆ บ้านขับรถไปไม่นานก็ถึงว่าแล้วก็ตกลงปรงใจ ไปก็ไปฟะ ออกจาก กทม วันที่ 28 ธันวา บ่ายสอง ออกไปได้ ถึงสิงห์บุรี เสียค่าความเร็วไปสี่ร้อย ชักไม่สนุกแล้วสิ ประเดิมไม่สวย แต่ก็ไม่ย้อท้อ ไปต่ออีก หกร้อยกว่ากิโลที่เหลือ ถึงเชียงรายประมาณ สามทุ่ม เนื่องจากขับแบบยิงยาว nonstop ถึงบ้านปุ๊บผลที่ออกมาคือ ZzZzZzZz .........
วันต่อมาเตรียมข้าวของ เตรียมคน (ได้สมาชิกเพิ่มเป็นหลานอีกสองคน) ออกเดินทางงงงงงงงงง สู่  "ดอยกาดผี " ทะเลหมอก360 องศา มันเป็นยังไงหนอ ไปพิสูจน์กันเลยยยยยย
มีรูปมาให้ชมเรียกน้ำย่อยครับ พรุ่งนี้จะมาต่อมหากาพ์ ไม่นาธานนะ อิอิ

[Guest]

โอว.... ปาด ๆ  มานั่งรอปูเสือชมค๊าบ

[ลุงน้อย]

ใช่ดอยผ้าห่มปกเปล่า  น้องอู๋ จ้าวคารมณ์

[onlyA]

ใจร้ายไปไม่ชวน  :cry:  :cry: แต่ได้เด็กน้อยกลับมาเพิ่มป่าว  :lol:  :lol:
ไม่ได้เจอพี่น้อยนานมากๆเลย ไปเที่ยวไหนมาพี่ อิอิอิ

[ลุงน้อย]

ไปเที่ยวตอน ปลายเดือน 11 อะ   เดือน 12 งานเข้าตรึม เลยหายหัวไปหน่อย  

ปีนี้  นกที่บ้านไม่ยอมไข่ ปี่ใหม่นี้เลยเหงามือเลย  ทุกปีต้องเป็นพ่อบุญธรรมแล้วนะเนี่ย   สงสัยโดนป๋าดึงไข่ไปสายสองแหงเลย  เอระวังโดนป๋าสอยไข่ด้วยนะ  5555555

[ด.ช.หาด]

ลุงน้อย เป็นผู้เขียน:
ใช่ดอยผ้าห่มปกเปล่า  น้องอู๋ จ้าวคารมณ์

ไม่ใช่ครับลุงน้อย ดอยผ้าห่ม อยู่อำเภอฝาง จังหวัดเชียงใหม่ครับผม ส่วนดอยกาดผี อยู่เทือกดอยวาวี อำเภอแม่สรวย จังหวัดเชียงรายครับ เป็นหมายเร้นลับเพราะขนาดคนเชียงราย ถ้าเกิดไปถามเค้า บอกได้เลยครับว่าร้อยละ 50 จะตอบว่าไม่รู้จัก แต่ไอ้หนังสือ 12 เดือน 7 ดาว 9 ตะวัน ไปเอามาได้อย่างไรก็ไม่รู้ครับ 555

[ด.ช.หาด]

ต่ออออออออออ......
หลังจากเตรียมของเตรียมคนกันเสร็จสรรพ ก็ออกเดินทางจากบ้านที่อำเภอแม่ลาว ซึ่งห่างจากอำเภอแม่สรวย แค่ ซาวห้ากิโล ก็เลยเผลอออกซะบ่ายสี่โมงครึ่งเลย เพราะคิดว่าใกล้แค่นี้เอง ไม่ต้องรีบร้อน แต่ที่ไหนได้ ปาไปห้าโมงครึ่ง ฟ้าจะมืดแล้วเพิ่งอยู่แค่เขื่อนแม่สรวยเอง ยังห่างจากปลายทางตั้ง 40 กิโลแนะ เพราะลืมคิดไปว่า จากแม่ลาวไปแม่สรวย ซาวห้ากิโล จากแม่สรวยไปดอยวาวีอีกประมาณซาวกิโล และจากดอยวาวีไปดอยกาดผีอีกซาวสามกิโล โอ้....จะแปดสิบโลแน่ะ แถมสองช่วงหลังยังเป็นทางเขาอีกตะหาก เลย เหยียบกันกระฉูดฝุ่นตลบดอย จนหลาน 1 คนทนไม่ไหวท้องใส้ปั่นป่วน เมาหัวไปหนึ่ง จนมาถึงดอยกาดผีเวลา 6.30 น. ฟ้ามืดแล้วอดดูพระอาทิตย์ตกเลย แต่ที่สำคัญจะกางเต้นยังไงล่ะ ข้างบนนี้ไฟฟ้ายังเข้าไม่ถึงเลยมืดตืบบบบบ เลย T-T
แต่ยังดี ดาวสวย อิอิ

[ด.ช.หาด]

ภายใต้ความมืดที่เข้าปกคลุมยอดดอย ณ ขณะที่กำลังมืดแปดด้านว่าจะทำไงยังดี จะหาที่กางเต้นตรงไหน เลยตัดสินใจเลี้ยวรถจากจุดขมวิวไปที่ลานจอดรถ คำตอบของความสงสัยทั้งหมดก็ได้กระจ่างออกมาครับ

[beet]

ไปเชียงราย..มาผ่านหน้าบ้านแระไม่ชวนอ่าค่ะ บ้านอยู่ริมถนน บายพาร์ท มุ่งสู่น่าน-เชียงรายเลยง่ะ ไม่แวะชวนหน่อย..

[Tortea'shm]

ว้าว..สวยจัง   น่าไปๆ  อิอิ

[ด.ช.หาด]

beet เป็นผู้เขียน:
ไปเชียงราย..มาผ่านหน้าบ้านแระไม่ชวนอ่าค่ะ บ้านอยู่ริมถนน บายพาร์ท มุ่งสู่น่าน-เชียงรายเลยง่ะ ไม่แวะชวนหน่อย..

อยากจะแวะรับอยู่เหมือนกันครับ แต่อาจเกิดการตบตีกันในรถได้ครับ ^-^

[ด.ช.หาด]

หลังจากที่วนรถลงมาที่ลานจอดรถด้านล่าง ได้เจอ ผู้ชมนุม ณ เขายายเที่ยง เอ้ยไม่ใช่.... ณ ดอยกาดผี ผู้คนบนนี้มากพอตัวครับ แต่ไม่ถึงกับแออัด จากที่เห็นกันในรูป ผมอธิบายได้ดังนี้ครับ จุดที่เค้าบอกว่าชมทะเลหมอกได้ 360 องศา จะเห็นได้ว่า ดอยที่อยู่ด้านหลังจะมีถนนทางขึ้นเมื่อขึ้นไปแล้วถึงจุดชมวิว มองไปรอบด้าน ได้วิว 360 องศาตามเค้าว่าเต็ม ๆ ครับ มาถึงพาหนะ จะเห็นได้ว่ามาได้หมด ตั้งแต่ เวสป้า ยัง superfour รถ ก็มิร่า(สีขาวในรูป) ยันคัมรี่ แต่มีอยู่คันที่ผมชอบเป็นพิเศษคือ taxi สีฟ้าขาว มาจาก กทม สุดยอดจริง ๆ
ลืมบอกไปเลยครับว่า ดอยกาดผีนั่น ได้ก่อตั้งเป็น วณอุทยาน เพราะฉะนั้นที่นี้จะมีเจ้าหน้าที่ของ วณอุทยานไว้คอยบริการนักท่องเที่ยวในการมากางเต้นท์และมีห้องน้ำไว้รองรับ จำนวน 3 ห้องครับ ส่วนค่าใช้จ่ายในการกางเต้นท์ ไม่เสียครับ (เพราะยังไม่ดังเท่าไร แต่ปีหลัง ๆ ไปไม่แน่) แต่ส่วนใหญ่ก็จะให้กันเป็นค่าบริการแก่เจ้าหน้าที่แล้วแต่จะให้ครับ เพราะเจ้าหน้าที่เค้าบริการดีมาก ๆ ครับตั้งแต่หาทำเลกางเต้นท์  ช่วยกางเต้นท์ให้ และเฝ้ายามครับผมหลังจากกางเต้นท์ เรียบร้อย ก็จัดแจงเอากับข้าวกับปลาที่เตรียมไว้มากินกัน และที่สำคัญ ขาดไม่ได้ในการนอนเต้นท์คือ กองไฟครับ ที้นี้ไม่มีฟืนไว้บริการอย่างก่อไฟต้องเอาฟืนมาเองครับ บรรยากาศคืนนั้น หนาวเย็นใช้ได้แถมมีลมอีกตะหาก เรียกว่า อยู่ห่างกองไฟไม่ได้เลย แค่อากาศหนาวก็แย่อยู่แล้วแต่นี้ลมอย่างกะอยู่ริมทะเล อุณหภูมิวัดตอนกลางคืนได้มา 6 องศา ครับผม ดูได้จากเสื้อผ้าที่ใส่ และลมที่พัดกองไฟ บรื้ออออออ
ปล.สมาชิกในรูปจากซ้ายผมเอง กลางหลานเบส โง่ ก็โง่ เรียนมอ 6 ติด 0 ติด ร แต่ดันได้โควต้าติดอุตสาหกรรมการเกษตร มช. ซะงั้นยินดีกะหลานด้วย ขวาสุด สาวคนสนิทผมเอง อิอิ

[ด.ช.หาด]

บิดนาฬิกาที่ข้อมือมาดู 21.00น. จะให้นอน เลยก็ยังไงอยู่เพราะแกงค์มอเตอร์ไซน์ เค้าบรรเลงกันซะจน กึกก้องไปทั้งทั้งป่า แถมสนุกอีกตะหาก ก็เลยพาให้อยากหาอะไรสนุก ๆ ทำกันต่อ (แน่ะ ๆ ๆ รู้นะ เฮีย ๆ คิดอะไรกันอยู่) ว่าแล้วก็คว้ากล้องถ่ายรูป มาถ่ายกันตอนกลางคืนเล่นกันดีกว่า และแอบเอาไฟเย็นที่เก็บไว้เมื่อตอนลอยกระทงมา จุดเล่น ผลที่ได้จึงบังเกิดเป็นความมันเกินห้ามใจ

[ด.ช.หาด]

เมื่อไฟเย็นหมด ก็มาเปิดหน้ากล้อง นาน ๆ ถ่ายรูปดาวและดวงจันทร์กันดีกว่าครับ สวยดีเหมือนกันเพิ่งเคยลองถ่ายแบบนี้ครับ

[ด.ช.หาด]

สี่ทุ่ม เริ่มหนาวจัด ไม่ไหวแล้ว ขออยู่ใต้ผ้าห่มดีกว่า พรุ่งนี้เช้าค่อยว่ากัน ตั้งนาฬิกาไว้ ตีห้าครึ่งเพราะถามเจ้าหน้าที่เค้าบอกว่า พระอาทิตย์จะขึ้นประมาณ 6 โมงครับ...ZzZzZz...



ติ๊ด ๆ ๆ ๆ ๆ เสียงนาฬิกาปลุก รีบลุกขึ้นมาล้างหน้าล้างตา ด้วยน้ำที่ไว้นอกเต้นท์แต่อย่างกับเอาน้ำจากตู้เย็นมาล้างหน้า อึ้ยยยยยย  เย็นเจี๊ยบเลย
และแล้ว พระอาทิตย์ก็มาตามที่นัดไว้ เย้..................เย้ย