นกและคน คนและนก

เริ่มโดย ด.ช.หาด, มีนาคม 20, 2009, 07:01:25 หลังเที่ยง

หัวข้อก่อนหน้า - หัวข้อถัดไป

0 สมาชิก และ 2 ผู้มาเยือน กำลังดูหัวข้อนี้

ก่ายก๊าย

ทำไมไม่ให้เห็นหน้าคนป้อนล่ะครับ  :-D  เอิ๊กๆ

"จิ" พัทยา

อัพเดทรูปนกหน่อยอู๋   ว่าหล่อแค่ไหนแล้ว

 ถ้านกแข็งแรงดี ย่อยสบาย ไม่มีปัญหา เดี๋ยวมันก็โต  ยัดมากไป หากย่อยไม่หมด มีปัญหา ใครก็ช่วยไม่ได้ นอกจากเจ้าของนกเน้อ

ด.ช.หาด

เนื่องจาก 5 ใน 10 คนล่าสุดที่ ตอบในกระทู้ผม แนะนำผมว่า นก ผอออออออออม ไปรึเปล่า จึงทำให้ผมอยู่เฉยไม่ได้ หายไปสองวันเอานกไปเข้า ฟิตเนส ฟิตร่างกาย ระบายอารมณ์  จนได้ผลออกมาน่าพึงพอใจ
แต่ใครเอาสายลิงค์กล้องผมไปไหนเนี่ย ขอติดไว้ตอนดึก ๆ แล้วกันนะครับ เฮ้ออออเซ็ง หายไปไหนเนี่ย....

สำหรับหัวข้อที่ผมเกริ่นไว้ สองวันก่อนคือ โรคติดต่อจากคนสู่นก
หลาย ๆ คนอาจสงสัยว่า มีโรคพิลึกกึกกือ แบบนี้อยู่ด้วยหรอ ผมบอกได้เต็มปากเต็มคำเลยครับ ว่ามีครับมีหลายโรคที่อันตรายด้วย หลายคนก็อาจเป็นอยู่โดยไม่รู้ตัวด้วยซ้ำไป ผมจะไม่พิรี้พิไร ว่าเลยก็แล้วกันครับ
โรคแรก โรคขึ้เกียจในคน ครับ โรคนี้ ถ้าให้เปรียบกับโรคคนก็ เอดส์นี่แหละครับเป็นกันแล้วตายแน่นอน นกก็เช่นเดียวกัน ถ้าคนเลี้ยงเริ่มมีความขี้เกียจ ยังไงมันก็ตายแน่นอน โรคนี้หลายคนอาจเป็นกันแล้ว แต่ยังไม่รู้ตัว ผมจะอธิบายอาการให้ครับ
เช่น ขี้เกียจเปลี่ยนขี้เลื่อยที่ใช้รองรัง ให้มันหมักอยู่อย่างงั้นแล้ว ก็นึกในใจว่า วันนี้ขี้เกียจพรุ่งนี้ค่อยเปลี่ยน หรือไม่เป็นไร พรุ่งนี้ค่อยไปซื้อมาเปลี่ยน นั่นแหละครับมันจะพาโรคมาเยือนลูก ๆ ของท่านอย่างง่ายดาย
2. โรคขี้กังวล
ลูกป้อน การขยันจับนกดูว่าตรงนี้เป็นอย่างไร ตรงนั้นเป็นอย่างไร นกร้อนไปมั้ย เย็นไปมั้ย ไปจับเค้าบ่อย ๆ ใช่ว่าเค้าจะชอบนะครับ เพราะฉะนั้นก่อนจะ ทำอะไร เราต้องมั่นใจก่อนครับว่า ปลอดภัยแน่ ๆ ไม่เป็นภัยต่อลูก ๆ เราแน่ ๆ ครับ อย่างผม จะจับนกเฉพาะตอนป้อนเท่านั้นตอนอื่นถ้าไม่สำคัญจริง ๆ หรือมือไม่สะอาด ผมจะไม่ยุ่งกับมันเลย พอโตขึ้นมามันก็เชื่องดีครับ
 
3. โรคอีกหน่อยนะ
โรคนี้จะเป็นเฉพาะผู้ที่ต้องการ ขุนนกอย่างเอาเป็นเอาตาย และเพิ่มปริมาณในการป้อนอย่าง ก้าวกระโดด สมมุติจากนกที่ป้อนอยู่มื้อละ 40 ซี ๆ แล้วคิดว่ามันต้องได้มากกว่านี้ซิน่า แล้วป้อนยัดเอาไปอีกจนนกรับไม่ไหว สำลักอาหาร เข้าหลอดลมตายก็มีให้เห็นกันบ่อยไป หรือ อยากให้นกตัวใหญ่ ๆ เช่นอยากให้ BG ตัวใหญ่ เท่า GW มันก็มีทั้งเป็นไปได้และเป็นไปไม่ได้ ที่เป็นไปถ้าก็คือ ถ้าพ่อแม่ นกตัวใหญ่ใกล้ ๆ GW มันก็มีสิทธิ์ ที่ลูกของมันจะมีขนาดใหญ่ตามพ่อแม่ แต่ถ้า พ่อแม่ มันไซน์ ธรรมดา ๆ มันก็เป้นเรื่องยาก หรือเป็นไปไม่ได้ ที่จะให้มันใหญ่ มาเท่า GW ซึ่งจากที่ผมเคยป้อนและสังเกตุการเจริญเติบโตของนกมา ช่วงระยะเวลาในการ เติบโตของลูกนก ใช่ว่าจะหยุดลงเมื่อนกนั้น กินอาหารเองได้แล้ว นกผมบางตัวหลังจาก ที่เริ่มกินเองแล้วขนาดโตขึ้นก็มีนะครับ

รูปจ้า ตามสัญญา อิอิ
หนึ่งในสมาชิก แก๊งค์ "จู้ฮุกกรู"

samurai

-ขอส่งชื่อเข้าประกวดด้วยคนครับ น้องกวักเงิน

อยากได้รางวัล อิอิ

Tortea'shm

ผมว่าชื่อว่า น้องอังเปาน่าจะรุ่งนะครับ
MSN & E-mail: tea_za13@hotmail.com

มั น ก็อย่า ง นี้ แห ล ะ  " สั ต  ว์โ ลก    ย่อ ม เป็น ไ ปตา ม กรร ม "

เ ฮ้อ อ อ อ. .... .  ป วด ตั บ

สายลม

ถ้าเป็นผมก็คงจะเป็นโรคขี้เห่อครับ  :lol:  :lol:
ขอตั้งชื่อด้วยคน น้องเช็คครับ เช็คช่วยชาติ  
:hammer:  :hammer:

kitty75

ข้าน้อยขอถอนคำพูดที่เรียกว่าบักโกรก บัดนี้ได้โตขึ้นมาแล้ว กลายเป็นบักซิเด๋อ แปลว่าไรหว่า อิอิ เห็นเค้าพูดกัน เลยเอามาล้อ5555

prickpon

555 น่ากลัวจะเป็นโรคเดียวกับคุณสายลม ๑ โรคขึ้เห่อ๑  ติดตามอ่านทุกวันนะค่ะ

ToN_JeW

พี่อู๋ไม่ได้คุยกันตั้งนาน

ได้กาล่ามาเลี้ยงแล้วหรอครับ

กาล่าพี่ ดูน่ารักดีนะครับ

ผมว่าไม่ผอมไปหรอกครับ

ยังไงขอให้มีความสุขกับการเลี้ยงนกนะครับ

ด.ช.หาด

ขอบคุณทุกกำลังใจ ที่มีให้กระทู้นี้ครับ
มาถึงวันนี้ ผมก็รับเจ้านกน้อยนี้มาครบ 10 วันแล้ว สิ่งที่ผม ได้เห็นและรู้สึกเกี่ยวกับการเลี้ยงนกลูกป้อน ความภาคภูมิใจเมื่อได้เห็นการเจริญเติบโต ของเค้าในทุกวันที่ผ่านไป แต่ในความสุขนั้น ก็แฝงไว้ด้วยความทุกข์มากมาย กาล่า จัดได้ว่าเป็นลูกป้อนที่ทำให้ คนป้อน เครียดมากกว่านกอื่นเลยก็ว่าได้ ขนาดอิเล็กตัสที่ว่ายาก ๆ กัน ผมก็เคยป้อนมา ตกเหวไปเลยเมื่อเจอ ลูกป้อนกาล่า เพราะมันทำให้เครียดได้ในทุกมื้อที่ป้อนเลยเชียว เรื่องที่ทำให้เครียดก็คือ อาการโช๊คลม อาการแบบนี้ก็คือ เมื่อนก ได้กิน อาหารไปแล้ว ยังคงมีอาการ โช๊คอาหาร อย่างต่อเนื่องไปอีกสักพัก ประมาณ 10-15 นาที ทำให้ถ้ารองขี้เลื่อยไว้ จะทำให้นกสามารถโช๊คขี้เลื่อยเข้าไปในปากตายได้ครับ วันนี้เลยขอพูดถึงปัญหาที่อาจเกิดขึ้นได้ในการเลี้ยงลูกป้อนครับ
1. เวลา  เพราะการเลี้ยงลูกป้อน นั้นเราจำเป็นต้องให้เวลากับลูกนกมาก ๆ จนทำให้ เวลาเรียน เวลาทำงาน จะเป็นปัญหาได้ครับ เพราะฉะนั้นควรเตรียมความพร้อมเรื่องเวลาที่มีให้มาก ๆ ครับ ตัวอย่างเช่น ชั่วนี้เด็ก ๆ ปิดเทอม เห็นมีหลายคนมีความคิดกันว่า ปิดเทอมยาวตั้ง 2-3 เดือน เลี้ยงลูกป้อนได้สบาย ๆ แน่ ๆ แต่คิดกันบ้างรึเปล่าครับ ว่า ยาว ๆ 2-3 เดือนน่ะ จะไม่ไปเที่ยวไหนกันยาว ๆ กับที่บ้านบ้างเลยหรอครับ ถ้าไม่มีก็ดีไป แต่ถ้ามี ยกตัวอย่างง่าย ๆ ก็สงกรานต์ ไม่อยู่บ้านตั้ง 4-5 วัน จะทำไงกับลูกป้อนครับ หรือคนทำงาน ก็ใช่ว่าจะ เข้างาน 8 โมง แล้วเลิกงาน 5 โมงทุกวันซะเมื่อไร คงต้องมีบางวันที่ กลับดึก หรือไป hang out กับเพื่อนนอกบ้านแน่ ๆ และเรื่องของเวลา ที่มักเป็นปัญหากับผม มาตลอดก็คือ เวลาที่เราให้กับแฟนครับ โดนบ่อยมาก ๆ วันอาทิตย์เนี่ย ขับรถไปต่างจังหวัด พาไปโน้นไปนี่ ลูกป้อนเราทำไงดีล่ะทีนี้ ก็ต้องไปฝากคนโน้นฝากคนนี้ ให้ลำบากเค้าอีก หรือก็ต้องให้มันอดมื้อกลางวันไป แล้วไปชดเชยเอากลางดึก ซึ่งก็ไม่ค่อยดีครับ
2. อาการวิตกจริต ครับ อันนี้จริง ๆนะครับ เวลา มีลูกป้อน คนป้อนทุกคนมักจะวิตกจริต เช่น ทิ้งเค้าไว้ที่บ้าน จะมีแมวมีหนู มาคาบไปมั้ย หรือ ที่ ๆ เค้าอยู่ร้อนไปมั้ย เย็นไปมั้ย ต้องใช้ไฟกก มั้ย จนไม่เป็นอันทำการทำงานอย่างอื่นได้เลยครับ
อันสองอย่างนี้ก็เป็นปัญหาใหญ่ ๆ ที่ผมเจอประจำครับ แก้ไม่หายซักที 5555
หนึ่งในสมาชิก แก๊งค์ "จู้ฮุกกรู"

ด.ช.หาด

วันนี้มีภาพ นกพื้นบ้านมาฝากครับ
พื้นบ้านจริง ๆ นะครับ
ขอตั้งชื่อภาพว่า หมดเนื้อหมดตัว กับ นกตัวหนึ่ง







































หนึ่งในสมาชิก แก๊งค์ "จู้ฮุกกรู"

"จิ" พัทยา

เย้ยยยยยยยย  มีย่าง คนด้วยง่ะ  น่ากลัวจัง

onlyA


สายลม

ได้รับของเรียบร้อยแล้วนะครับ ขอบคุณมากๆครับ  :-D  :-D

prickpon

ว้า เลี้ยงเจ้าตัวสวย ถึงขนาดหมดเนื้อหมดตัวเลยเหลอ งั้นเรารอเลี้ยงแก้วโม่งเหมือนเดิมดีกว่า เนอะ เหอะ เหอะ (คนงบน้อย)